📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ตัวประกอบแรงค์ EX – ตอนที่ 160

บทที่ 160
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ซงแดซอกกลับถึงบ้านหลังจากไปเล่นสนุกเต็มคราบที่บ้านหัวหน้าห้อง

เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สมัยประถม ที่เขาได้เล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกันที่ไม่ใช่มินกือริน

หลังจากเริ่มไปโรงเรียน ซงแดซอกค่อยๆ กลมกลืนไปกับกลุ่มเด็กเพี้ยนห้อง 1/0 โดยไม่ได้ตั้งใจ

อย่างไรก็ดี ช่วงที่ผ่านมาเป็นเทศกาลสอบปลายภาค ดังนั้นแม้จะได้นั่งใกล้กัน กินอาหารร่วมกัน แต่ก็ไม่มีโอกาสเล่นสนุกกันมากนัก

‘ทำไมเราถึงทำตัวแบบนั้น… น่าอับอายจริงๆ’

เขาเล่นสนุกจนสาแก่ใจ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกผิด

ไม่สิ ต้องบอกว่า ‘รู้สึกผิดเพราะเล่นสนุกเกินไป’

‘ในตอนที่เจ้าสมองหินต่อสู้บนเวที… กือรินไม่ได้อยู่ด้วยแท้ๆ แต่ทำไมถึงได้ตื่นเต้นนัก…’

ท่ามกลางกลิ่นอายความสนุกที่ยังหลงเหลือจากการทำกิจกรรมกับกลุ่มเพื่อน ภาพที่ตัวเองเล่นเป็นเด็กฉายซ้ำในหัวอีกครั้ง

ย้อนกลับไปก่อนที่เม็งเฮียวทงจะเริ่มชกกับบังยุนซบ ซงแดซอกมิได้สนใจว่าใครจะแพ้หรือชนะ และอันที่จริงก็ไม่อยากไปดูเท่าไร

แต่พอรู้ตัวอีกที เขาลุกขึ้นมาตะโกนเชียร์เพื่อนบนเวที

ซงแดซอกยังจำได้ดี ว่าแขนขาของตนสั่นระริกขณะกำหมัดตะโกนสุดเสียง

‘และตอนเล่นบอร์ดเกม…’

ในบ้านที่ไม่คุ้นเคย เขาโต้รุ่งยันเช้าโดยไม่ได้หลับเต็มอิ่ม เนื่องจากไม่ได้พกหมอนใบประจำไปด้วย

ซงแดซอกแสร้งทำเป็นหลับ เพราะไม่อยากถูกเพื่อนดูแคลนว่าเป็นเด็กติดหมอน

แต่สุดท้ายก็ยังถูกจับได้ แล้วโดนลากตัวไปเล่นบอร์ดเกม

แม้จะคุ้นเคยกับกฎของเกมดี อีกทั้งมินกือรินยังคอยช่วยปกป้องซงแดซอกอย่างเต็มที่ แต่เขาก็ยังมิอาจหลีกเลี่ยงการได้ที่โหล่

จนกระทั่งผ่านไปสักพัก เมื่อเขาลบล้างอาถรรพ์บ๊วยตลอดกาลได้ด้วยการคว้าอันดับหนึ่ง ซงแดซอกเผลอตะโกนด้วยความสะใจ

‘มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ… เราไม่ควรสนิทกับใคร’

มหาบุรุษแขนเหล็ก ซงมันซอก

ไม่มีลูกหลานคนใดของเขาปลุกพลังวิเศษขึ้นมาได้

ยกเว้นซงแดซอก

ไม่เพียงเท่านั้น ซงแดซอกยังเกิดมาพร้อมกับพลังวิเศษอันแข็งแกร่ง อีกทั้งรูปร่างหน้าตาก็ละม้ายคล้ายซงมันซอกสมัยเด็ก คนรอบข้างจึงยิ่งคาดหวัง

เพื่อไม่ทำให้ใครต้องผิดหวัง เขาต้องยิ้มทั้งที่ไม่มีความสุข และฝืนกลืนความรู้สึกที่แท้จริงลงคอ

อย่างไรก็ดี เมื่อมีคนชื่นชอบซงแดซอกมากขึ้น มินกือรินก็เริ่มถูกกลั่นแกล้งด้วยความอิจฉา

‘แต่เด็กกลุ่มนี้ต่างออกไป… พวกเขาไม่สนเรื่องที่เราเป็นหลานชายของมหาบุรุษแขนเหล็ก… ไม่มีการแบ่งแยก…’

แบบนี้ก็สามารถคบหาเพื่อนได้ไม่ใช่หรือ…

ได้ทำในสิ่งที่อยากทำก็น่าจะมีความสุขดีนะ

…กือรินก็คงอยากเห็นเราสนิทกับเพื่อนร่วมชั้น และเราก็อยากทำมัน

ความคิดของเขาปั่นป่วนมาเนิ่นนานเพราะความเห็นแก่ตัวและความรู้สึกผิดต่อมินกือริน—เพื่อนสมัยเด็ก

มองเข้าไปในกระจก ซงแดซอกเห็นผมเผ้าอันยุ่งเหยิงห้อยลงมาปิดดวงตา

ในพักหลัง เขาเลื่อนการตัดสินใจเรื่องหนึ่งมาจนถึงปัจจุบัน

‘…ต้องถ่ายรูปใหม่สินะ’

ตำแหน่งเด็กฝึกงานของสมาคมเพลเยอร์ที่รองหัวหน้าห้องจอมพิรุธ*แนะนำมา

(*ไม่แน่ใจว่าเคยบอกไปหรือยัง คำว่า ‘พิรุธ’ ที่เด็กๆ เรียกกัน ทาง raw ใช้ว่า ‘อึยชิม 의심’ ซึ่งมันคล้ายกับชื่อ ‘อึยชิน 의신’ ก็เลยกลายเป็นฉายาที่เกิดจากการแกล้งเรียกผิดให้ดูตลก)

ตอนแรกเขาลังเลว่าควรสมัครไปดีไหม จนผ่านไปสักพักก็ตัดสินใจสมัคร

แต่เอกสารการสมัครงานถูกตีกลับเพราะรูปถ่ายใบหน้าไม่ชัด ไม่ผ่านระเบียบขั้นตอนความปลอดภัย

…ถึงตอนถ่ายรูปจะเสยผมขึ้นมาได้ แต่มันคงเป็นปัญหาแน่ถ้าตัวจริงยังถูกผมปิดหน้าอยู่

ซงแดซอกไตร่ตรองอยู่นาน

‘…ต้องตัดสินะ’

* * *

‘…ลองขอให้ตัดดูดีไหม’

ในหอพัก

ฉันกำลังนึกทบทวนบทสนทนากับวังจีโฮ

—ตอนนี้เผ่าเสือกำลังไล่ตามภาพวาด ‘อีมูกีสู่สวรรค์’ อยู่

หลังจากประเด็นของคิมยูรีจบลง วังจีโฮเปิดเรื่องใหม่

—พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติเคยเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นหลายครั้ง หนึ่งในนั้นเกี่ยวพันกับศิษย์เก่าของฮงคยุงบ๊กที่มือขวาของมันถูกตัดเพราะ ‘อุบัติเหตุ’

เกริ่นมาแบบนี้ ฉันนึกออกอยู่สองเหตุการณ์

อันแรก การปรับปรุงพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ

กล่าวกันว่าพิพิธภัณฑ์ที่ทำเงินเป็นกอบเป็นกำจากการแสดงภาพวาดของจิตรกรฮงคยุงบ๊กและมินกือริน ถูกเสนอให้ดำเนินการปรับปรุงภายในใหม่ โดยอ้างว่าทำไปเพื่อเพิ่มความเป็นมิตรกับประชาชน

—ระหว่างการปรับปรุง เห็นว่าผู้อำนวยการไม่ได้เลือกบริษัทที่เข้าประมูลงานด้านต่างๆ อย่างโปร่งใส ประเด็นนี้กำลังถูกตรวจสอบโดยส.ส. ที่กำลังตามขุดคุ้ยอยู่… ในฐานะเผ่าแท้ผู้จ่ายภาษีให้รัฐบาลเกาหลี ถือว่าเขาทำหน้าที่ตัวแทนประชาชนได้ดีทีเดียว

น่าจะหมายถึงซองกุกอุน

หมอนี่กล้าใช้งานตัวละครของฉัน?

แต่ฉันที่มักใช้งานวังจีโฮอยู่บ่อยๆ ก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าใครเหมือนกัน

—อย่างไรก็ดี การร้องขอข้อมูลของหมอนั่นทำให้ภาระงานครูโรงเรียนเราเพิ่มขึ้นมาก เรียกได้ว่ามีผู้บริสุทธิ์ต้องรับเคราะห์ไม่น้อย รวมถึงเจ้าเด็กมีปัญหาของเผ่าเสือด้วย

ได้ยินแบบนั้น หากพิจารณาจากภาระงานของครูในโรงเรียนแสงเงิน ฉันค่อนข้างเห็นด้วยกับวังจีโฮ

นึกถึงใบหน้าของเพื่อนร่วมชั้นที่อยากถาม ‘เทคนิค’ จากรุ่นพี่ห้อง 2/0 เพราะไม่มีโอกาสได้เล่นกับครูฮัมกึนยองมากนัก ดูเหมือนในกรณีนี้ซองกุกอุนจะทำไม่ถูก

…ไม่สิ เขาแค่ทำในสิ่งที่ควรทำ จะไปโทษว่าเป็นความผิดก็ไม่ได้

สุดท้ายตัวละครของฉันก็ไม่ผิด

—ปัญหาเรื่องที่สอง พนักงานของพิพิธภัณฑ์มีสุขภาพจิตแย่ลงอย่างผิดวิสัย

—พนักงานทุกคนที่ร้องเรียนปัญหาด้านสุขภาพจิตของตน ล้วนเป็นผู้ดูแลงานศิลป์ในช่วงปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ทั้งสิ้น

—ดูเหมือนว่าไอ้ขยะนั่นจะถูกจ้างให้เข้าไปครอบงำสุขภาพจิตของพนักงาน ด้วยการแทรกซึมเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ในฐานะพนักงานทำความสะอาด แล้วแอบปลูกฝังสกิลควบคุมจิตใจระดับกลางเอาไว้

ทันทีที่ได้ฟัง หน้าอกของฉันพลันร้อนผ่าว

ไอ้ขยะที่ปล่อยข่าวลือว่ามินกือรินใช้ความรุนแรงกับพนักงาน แล้วอ้างว่าอดีตพนักงานพิพิธภัณฑ์เคยร้องเรียนปัญหาด้านสุขภาพจิต ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการใช้ความรุนแรงของเธอ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ไอ้เวรนี่อาศัยเมล็ดพันธุ์ที่เคยหว่านไว้เพื่อขโมยภาพวาด ย้อนกลับมาทำร้ายมินกือรินอีกครั้ง

คิดถึงตรงนี้ ฉันเริ่มลังเล

‘…ให้หมอนั่นช่วยตัดมืออีกข้างทิ้งไปดีไหม’

ถ้าขอร้องไปล่ะก็ วังจีโฮทำแน่

—ฮงคยุงบ๊กที่เข้าใจสถานการณ์ ตัดสินใจตรวจสอบงานศิลป์ทั้งหมดในพิพิธภัณฑ์ด้วยตัวเอง จนสามารถยืนยันได้ว่ามีผลงานไม่ต่ำกว่าสามสิบชิ้นถูกสับเปลี่ยน ยกเว้นส่วนน้อยที่วาดโดยมินกือรินกับฮงคยุงบ๊กในภายหลัง… ข่าวจะถูกประกาศไปทั่วประเทศในวันนี้

เมื่อลองตรวจสอบเว็บไซต์รวมข่าว หน้าแรกสุดมีบทความแปะภาพใบหน้าฮงคยุงบ๊กและรายชื่องานศิลป์ที่ถูกขโมยไป

—อดีตพนักงานพิพิธภัณฑ์ได้รับอาการทางจิตรุนแรงกว่าที่คิด ต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะสอบปากคำรู้เรื่อง

คำพูดวังจีโฮจบลงตรงนี้

ได้ยินเรื่องราวทั้งหมด ฉันรู้สึกสับสน

‘รายชื่องานศิลป์ที่ถูกขโมยไปมีมากกว่าที่คิด… หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับ ‘เหตุการณ์นั้น’ ?’

ในเกมจะมีตัวละครที่ควบคุมได้ปรากฏตัวขึ้นในปีหน้า ส่งผลให้โลกที่ปั่นป่วนอยู่แล้วยิ่งอลหม่านกว่าเดิมโน!วลกูดoทคอม

บุคคลดังกล่าวปรากฏตัวแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แล้วก็หายไป

ฉันคือสวะติดเกมที่เอ็นดูตัวละครทั้งหมด

แต่ตัวละครนั้นกลับทำให้รู้สึกขนลุก ไม่สิ รู้สึกมวนท้องและนิ้วมือหงิกเกร็ง

‘มีเบาะแสน้อยเกินไป ยังด่วนสรุปไม่ได้!’

อาจเพราะอยากหลีกหนีจากความจริง ฉันเปิดแอปฯ ข้อความที่ปิดแจ้งเตือนเอาไว้ทั้งวัน

ข้อความค้างอ่านมีมากกว่าที่คิด

โดยเฉพาะในห้องแชตหนึ่ง ตัวเลขแจ้งจำนวนค้างอ่านมีมากกว่าห้องอื่นอย่างเทียบไม่ติด

[กึมชานซอล] เฮ้

[วังชานซอล] ไอ้จอมพิรุธ อ่านข้อความสักที!

[กึมชานซอล] เฮ้!!!

[วังชานซอล] หลับไปแล้วหรือไง

[กึมชานซอล] นี่มันใช่เวลานอนหรือไง

เมื่อวานแทบไม่ได้นอน ตอนนี้ฉันจึงง่วงมาก

คู่หูนรกโวยวายอะไรกันตั้งแต่เช้า?

[กึมชานซอล] นายเป็นคนเรียกไอ้จืดน่ารำคาญนั่นมาใช่ไหม! นักเรียนคนแรกของเขาน่ะ! เรารู้ทุกอย่างแล้ว!

[วังชานซอล] ตอนที่ครูจูเก่อถามเขาว่ารู้ได้ยังไง หมอนั่นเปิดรูปถ่ายให้ดู ถ้าคำนวณจากตำแหน่งและองศาที่ถ่าย มันคือที่นั่งของรุ่นน้องจอมพิรุธยังไงล่ะ!

…แค่ก็เห็นรูปถ่ายก็รู้ได้ทันที?

พวกเด็กบ้าห้อง 2/0 ไม่ธรรมดาจริงๆ

ว่าแต่ ฮงกยูบินทำอะไรลงไป?

[กึมชานซอล] ไอ้นักเรียนคนแรกนั่น! หลังจากกินข้าวพลางคุยเกี่ยวกับสมาคม เขาก็ฉวยโอกาสพาตัวครูจูเก่อกลับไป! เรายังไม่ทันจะได้กินของหวานกันเลย!

[วังชานซอล] ฉันแอบเตรียมของหวานมาตลอดทั้งคืนเลยนะ!

ดูเหมือนฮงกยูบินจะรีบมาที่โรงเรียนหลังจากเห็นรูปถ่ายนั่น

…แถมขโมยตัวครูไปจากพวกเด็กห้องศูนย์อีก

นอกจากนี้ยังมีข้อความถูกส่งมาจากฮงกยูบิน

[ฮงกยูบิน] ขอบคุณที่บอกนะอึยชิน เป็นเพราะเธอ ฉันถึงได้มีช่วงเวลาดีๆ กับครู!

[ฮงกยูบิน] ในเมื่อครูแต่งตัวดีแบบนี้ ก็ควรได้นั่งดื่มชาในที่ดีๆ ด้วย

[ฮงกยูบิน] หลังจากนี้คงต้องรบกวนอีกบ่อยๆ แล้วล่ะ ^^!

ชัดเจนแล้วว่าฮงกยูบินใช้ข้ออ้าง ‘เรื่องงาน’ เพื่อลากจูเก่อแจกอลไปไหนมาไหน

‘สร้างกำแพงเหล็กมาได้ตั้งนาน ฮงกยูบินชวนอีท่าไหนถึงได้ยอมตามไป?’

ฉันสลัดคำถามไร้สาระ แล้วเริ่มอ่านใจความสำคัญของคู่หูกึมชานวังชาน

[กึมชานซอล] นายคงอยู่อยู่แล้วสินะ! ให้ตายสิ… ทุกครั้งที่อ้าปาก หมอนั่นจะเอาแต่พูดชื่อครูจูเก่อ!

เป็นความจริงที่ฮงกยูบินจะพูดถึงครูจูเก่อแจกอลแทบทุกครั้งที่อ้าปาก

แต่ฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะตามมาขโมยตัวถึงโรงเรียน

[วังชานซอล] น่าหงุดหงิดชะมัด! มาตัดเสื้อตัวใหม่ให้ครูจูเก่อกันเถอะ

[กึมชานซอล] อุอุ! เอาสิ! ใช้หัวหน้าดีไซเนอร์ออกแบบไปเลย!

[วังชานซอล] ไม่มีปัญหา เขาเองก็เปรยๆ อยู่ว่า อยากเจอคนใส่ตัวเป็นๆ เพื่อวัดร่างกายกับมองหาแรงบันดาลใจ

[กึมชานซอล] ถ้าหัวหน้าดีไซเนอร์ของนือรูลงมือเองก็ไม่มีอะไรต้องกังวล …ส่วนข้ออ้างเอาเป็นว่า ‘ก็เมื่อวานครูหนีกลับไปก่อน’ ก็แล้วกัน คึคึคึ!

[วังชานซอล] เจอการัมบีบน้ำตาแน่! อุอุ!

ดูเหมือนชุดกรรมการที่จูเก่อแจกอลสวมเมื่อวาน จะไม่ใช่สูทสำเร็จรูปของนือรู แต่เป็นรุ่นสั่งตัดพิเศษ

ทั้งสองหลงลืมการมีอยู่ของฉัน โดยเริ่มคุยกันเองเพื่อหารือรูปแบบชุดปาร์ตี้และชุดว่ายน้ำที่ครูจูเก่อแจกอลจะได้สวม

‘…ไม่ได้ส่งข้อความมาเพื่อตำหนิเราหรือไง’

ฉันปิดกลุ่มแชตไปโดยไม่ได้ตอบ เพราะดูแล้วคงไม่มีปัญหา

[ย็อมจุนยอล] สวัสดีครับอาจารย์

[ย็อมจุนยอล] วันนี้เขตอึนกวางมีโอกาสฝนตก 60% ได้ยินว่าฤดูฝนจะมาเร็วกว่าปกติเล็กน้อย อย่าลืมพกร่มเผื่อไว้ด้วยนะครับ!

หลังจากแลกเปลี่ยนรหัสกับย็อมจุนยอล ฉันได้รับคำทักทายทุกวัน

ส่วนใหญ่จะเป็นการรายงานสภาพอากาศ หรือไม่ก็สรุปสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเอง ก่อนจะปิดท้ายด้วยคำทักทาย

เมื่อฉันถามว่าไม่เหนื่อยบ้างหรือ คำตอบของย็อมจุนยอลก็คือ:

—ท่านพ่อคอยเน้นย้ำอย่างเคร่งครัดว่า ตามมารยาทแล้ว ศิษย์ควรไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบและทักทายอาจารย์ทุกวันครับ! แต่อาจารย์คนที่สองของผมไม่ได้เคร่งเรื่องนี้สักเท่าไร เขารักการท่องเที่ยวและมักไม่อยู่บ้าน

ถึงจะบอกว่าเป็นอิทธิพลจากคำสอนของพ่อ แต่ฉันเชื่อไม่ลง

พ่อที่ตามใจลูกอย่างย็อมบังยอลเนี่ยนะจะเข้มงวดขนาดนั้น?

‘ย็อมจุนยอลแค่อยากทักมาหาเราทุกเช้ามากกว่า’

…ต้องใช่แน่

ฉันเตรียมตอบย็อมจุนยอลกลับไปว่า ไม่ต้องทักมาทุกวันก็ได้ ไม่อยากรบกวนเวลาอันมีค่าสำหรับการฝึกช่วงเช้า

แต่หลังจากไตร่ตรองดูสักพัก ประโยคดังกล่าวฟังดูเหมือน ‘นายกำลังรบกวนเวลาอันมีค่าของฉัน มันเสียมารยาทนะ’ สุดท้ายจึงไม่ได้ส่งไป

ลงเอยด้วย ฉันปล่อยให้ย็อมจุนยอลทำตามใจชอบ โดยการตอบกลับไปสั้นๆ :

[ฉัน] ขอบใจนะ เธอก็พกร่มด้วยล่ะ

[ย็อมจุนยอล] ครับ! ขอบคุณครับ!

[ย็อมจุนยอล] (สติกเกอร์)

สติกเกอร์ที่ยอมจุนยอลส่งมา คือภาพตัวการ์ตูนมังกรแดงที่เป็นแสงประทานของเขา

ฉันอ่านข้อความถัดไปด้วยหัวใจอบอุ่น

[คิมยูรี] อึยชิน พรุ่งนี้เป็นวันประชุมตัวแทนนักเรียนไตรมาสที่สองนะ!

[คิมยูรี] ฉันเตรียมเอกสารเสร็จหมดแล้ว! อย่าลืมอ่านก่อนสักรอบล่ะ! ^▽^!

เธอทำเหมือนเมื่อคืนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ฉันเองก็ไม่แน่ใจ ว่าคิมยูรีตีความคำว่า ‘ถึงจะอาละวาดก็ไม่เป็นไร’ เอาไว้แบบไหน

แต่ช่างเถอะ ไม่สำคัญว่าตอนนี้คิมยูรีจะคิดอะไรอยู่

‘ถ้าเป็นไปได้ คราวหน้าเราอยากช่วยเธอทำเอกสารประชุม’

[ฉัน] ตกลง เดี๋ยวจะอ่านไปก่อน

[ฉัน] ประชุมคราวหน้าให้ฉันช่วยทำเอกสารด้วยนะ

ไม่ว่าตอนนี้เธอจะคิดอะไรอยู่ แต่ฉันมั่นใจว่าคิมยูรีจะได้เข้าร่วมการประชุมตัวแทนนักเรียนในไตรมาสที่สามด้วยกันแน่นอน

* * *

วันจันทร์, หลังเลิกเรียน

ผลสอบปลายภาคถูกประกาศออกมาแล้ว จบไปหนึ่งภาคเรียนอันวุ่นวาย

ที่ 1 และ 2 ของชั้นปีสามคือโดวอนอู และอูกีฮวัน

ที่ 1 และ 2 ของชั้นปีสองคือชอนดงฮา และย็อมจุนยอล

ที่ 1 ร่วมของชั้นปีหนึ่งคือจูซูย็อก และอันดาอิน

‘ย็อมจุนยอลบอกว่าเล็งที่หนึ่งไว้ น่าเสียดายแฮะ’

ลูกศิษย์ของฉันตั้งใจเรียนอย่างหนักโดยหวังที่หนึ่ง

แต่ก็ช่วยไม่ได้ ถ้าวัดกันแค่สมอง ในชั้นปีสองคงไม่มีใครเกินอัจฉริยะชอนดงฮาที่เป็นตัวละครของฉัน

ขณะคิดแบบนั้น ฉันกับคิมยูรีกำลังมุ่งหน้าไปยังหอประชุมสภานักเรียน

ปิ๊งป่อง!

ได้รับข้อความจากมุนแซรอน

[มุนแซรอน] โย่ว! โชอึยชิน!

[มุนแซรอน] อยู่กับยูรีใช่ไหม?

[ฉัน] ทำไมหรือ

[มุนแซรอน] อย่าเข้าประตูหน้า! อ้อมมาเข้าทางประตูหลัง!

ถึงจะไม่เข้าใจ แต่ฉันก็ยอมทำตามนั้น

“เปลี่ยนไปเข้าประตูหลัง? ฉันนำทางเอง!”

หลังจากคิมยูรีช่วยนำทางจนได้เข้าห้องประชุม A ผ่านประตูหลัง

ไม่นานฉันก็เข้าใจเจตนาของมุนแซรอน

“ฉันประทับใจที่ทั้งตัวเอกและตัวประกอบ ต่างก็มีเหตุผลของการกระทำชัดเจน”

“ใช่… ทุกบรรทัดละลายเข้าไปในหัวฉันเลย…”

จูซูย็อกกับอันดาอินกำลังทำตัวเหมือน ‘ชมรมวิจารณ์วรรณกรรม’ บนทางเดินใกล้กับประตูหน้า

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ตัวประกอบแรงค์ EX

ตัวประกอบแรงค์ EX

EX Rank, Ex Rank Supporting Role’s Replay in a Prestigious School, EX Rank Side Character's School Replay, 명급리, 명문고 EX급 조연의 리플레이
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
หลังจากเคลียร์บทสุดท้ายของเกมกากแห่งชาติสำเร็จ เขากลายเป็นตัวประกอบไร้นามในเกมที่ตัวเองเคยเล่น ตัวประกอบแรงค์ EX ที่เหนือธรรมดาและยากจะหยั่งถึง ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset