📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี เซียนหมากข้ามมิติ – ตอนที่ 46

บทที่ 46 - ตัวที่สอง
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

อำเภอหนิงอัน จุดที่อยู่ใกล้เขาโคเทพที่สุดนอกจากเมืองสุ่ยเซียนก็เป็นหมู่บ้านตรงเชิงเขาพวกนั้นแล้ว

ครั้งนี้จี้หยวนพาอิ๋นชิงกับจิ้งจอกเดินบนทางเล็กเป็นการเฉพาะ มุ่งหน้าสู่เขาโคเทพจากทางหมู่บ้าน

หลังทานอาหารกลางวันอย่างเรียบง่ายพร้อมจี้หยวน อิ๋นชิงที่กลับบ้านเปลี่ยนชุดลูกศิษย์กระโดดโลดเต้นตามจี้หยวนออกจากเมือง

ก่อนออกจากเมืองจิ้งจอกแดงซ่อนอยู่ในอ้อมแขนจี้หยวนตลอด หลังออกจากเมืองจึงถูกปล่อยออกมาเดินตามข้างกาย

จากอำเภอหนิงอันถึงเชิงเขาโคเทพซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด ห่างกันเป็นทางตรงราวสิบกว่าลี้ ฝีเท้าจี้หยวนตอนนี้ ต่อให้ไม่ใช้พลังทั้งหมดก็ไม่ถึงหนึ่งเค่อ แต่มีจิ้งจอกกับอิ๋นชิงมาด้วย ถือว่าเที่ยวเล่นแล้วกัน

เด็กน้อยสมัยนี้โดยเฉพาะทายาทบัณฑิตอย่างอิ๋นชิง ไม่มีโอกาสออกจากบ้านไปไกลตอนยังเด็กเท่าไหร่ ต่อให้อยู่อำเภอหนิงอันเหมือนกัน สำหรับอิ๋นชิงแล้วทิวทัศน์หมู่บ้านชนบทน่าหลงใหลเป็นพิเศษ

เมื่อเด็กเล่นสนุกขึ้นมาพลังกายคล้ายหลุมลึกไร้สิ้นสุด ต่อให้เหนื่อยพักผ่อนหน่อยก็มีชีวิตชีวาทันที นับประสาอะไรกับอิ๋นชิงซึ่งเดิมก็มีคุณสมบัติทางกายไม่ธรรมดาอยู่บ้าง

เดี๋ยวส่งเสียงหัวเราะชอบใจกังหันน้ำ เดี๋ยวกระโดดลงทุ่งนาจับกบนาหนอนแมลงมาหยอกล้อจิ้งจอก เดี๋ยวอยากโดดลงแม่น้ำไปล้างตัวเหมือนเด็กชนบท ทั้งยังส่งเสียงตะโกนตรงทุ่งนากับป่าไม้กว้างใหญ่เป็นพักๆ

จี้หยวนยังเตรียมขนมเปี๊ยะกรอบมาอย่างไม่มีปิดบัง อยากให้เสี่ยวอิ๋นชิงซึ่งการอบรมทางบ้านเข้มงวดเพลิดเพลินกับอะไรที่เรียกว่าการเที่ยวนอกเมืองโดยไร้วิตกกังวล

มีของกินมีเครื่องดื่มทั้งพาสุนัขมา หืม พาจิ้งจอกมาด้วย!

เล่นสนุกพลางก้าวเดิน หลังจากผ่านไปราวหนึ่งชั่วยามครึ่ง สองคนหนึ่งจิ้งจอกมาถึงตรงเชิงเขาโคเทพ เดินตามทางภูเขาซึ่งคนเก็บของป่าย่างเหยียบ ใช้เวลาอีกราวครึ่งชั่วยามขึ้นเนินเขาลูกเล็กซึ่งไม่นับว่าสูง

เมื่อถึงบนเขาจี้หยวนไม่ให้อิ๋นชิงวิ่งเล่นแล้ว ถ้าถูกแมลงพิษงูพิษอะไรกัดคงพูดกับอิ๋นจ้าวเซียนลำบาก

สายลมกลางป่าดูหนาวเย็นกว่าเชิงเขา แม้ว่าเนินเขาไม่สูง แต่ต้นไม้สูงเด่นหินพิสดารแออัดเรียงราย

จี้หยวนมองจิ้งจอกแดงที่ตื่นเต้นไม่หยุดนานแล้ว ชี้ไปทางป่าเขาลำเนาไพรซึ่งอยู่ลึกห่างไกล

“เจ้าไปเถอะ แต่หวังว่าเจ้าจะไม่ใช่แค่คนผ่านทางในชีวิตของข้าจี้หยวน มีวาสนาค่อยพบกันใหม่!”

“ข้าด้วยๆ! จิ้งจอกน้อยเจ้าก็อย่าลืมข้า! อย่าลืมข้าเด็ดขาด!”

อิ๋นชิงข่มกลั้นมาตลอด เมื่อกล่าวประโยคนี้ออกมาจึงน้ำตาคลอเบ้า

“อืม ใช่ ยังมีเสี่ยวอิ๋นชิงด้วย”

จี้หยวนยิ้มเล็กน้อย ในใจรู้สึกสับสน ท่าทางอิ๋นชิงทำให้เขานึกถึงเต่าสามตัวกระต่ายสองตัวกับนกแก้วหนึ่งตัวซึ่งตอนเด็กถูกตนเลี้ยงกระทั่งตายไปเมื่อชาติก่อน

จิ้งจอกแดงร้อง ‘หงิงๆ’ เดินจากข้างกายจี้หยวนไป กระโดดสองสามครั้งมาถึงบนก้อนหินก้อนหนึ่ง จากนั้นค่อยหันหลังมามองหนึ่งใหญ่หนึ่งเล็กตรงหน้า แววตาเจือความอาวรณ์คล้ายคน

จี้หยวนกับอิ๋นชิงยืนสบตากับจิ้งจอกอยู่ตรงนั้นครู่หนึ่งแต่ไม่เห็นว่าจิ้งจอกจะจากไป

“ท่านจี้ จิ้งจอกน้อยไม่อยากไป!”

“บางทีคงอยากเห็นพวกเราจากไปกระมัง”

จี้หยวนพูดจบแล้วไม่อธิบายอะไรมากอีก จูงอิ๋นชิงซึ่งเดินไม่กี่ก้าวแล้วหันกลับไปลงเขา

แต่เมื่อเดินไปประมาณสิบกว่าก้าว จี้หยวนหันกลับมามอง จิ้งจอกแดงตัวนั้นยังนั่งบนหินพิสดารจ้องมองพวกเขาอยู่ดังคาด

“ในเมื่อรู้จักกันครั้งหนึ่ง ข้าคนแซ่จี้มอบของขวัญให้เจ้าสักชิ้นแล้วกัน…”

เขามองเมฆงามบนท้องฟ้าเล็กน้อย จี้หยวนกล่าวกับจิ้งจอกแดงตัวนั้น

“ในเมื่อก้าวสู่หนทางฝึกปราณก็ไม่ใช่สัตว์ป่าไม่รู้ประสาอีก ไม่ว่าอะไรล้วนขาดได้ แต่กลับขาดชื่อไม่ได้ ถ้าไม่รังเกียจ ภายหน้าเจ้าชื่อหูอวิ๋นเถอะ!”

เมื่อได้ยินคำพูดของจี้หยวน จิ้งจอกแดงดวงตาวาววาบ ไม่สนใจคำกำชับซึ่งจี้หยวนเคยบอกกล่าวทันที ประสานกรงเล็บก้มกราบจี้หยวนต่อหน้าอิ๋นชิงไม่หยุด!

“อ๊ะ! ท่านจี้ จิ้งจอกน้อยกราบคนเป็นจริงด้วย! โอ้ๆๆๆ!”

อิ๋นชิงที่เดิมยังสงสัยเรื่องประหลาดในคำพูดท่านจี้ก่อนหน้านี้ เห็นจิ้งจอกแดงกราบคนแล้วตกใจจนร้องเสียงดังขึ้นมาทันที

“หึๆ กลับบ้านเถอะ!”

จี้หยวนตบหลังของเสี่ยวอิ๋นชิง พาเด็กซึ่งตื่นเต้นจนเจือจางความเศร้าอาดูรลงเขา

จี้หยวนก็ดีใจมาก ดีใจกว่ารอยยิ้มที่เผยออกมามากนัก แม้ยังสับสนมึนงงอยู่บ้าง แต่เมื่อครู่แขนภายในเสื้อรู้สึกเหมือนไฟดูดอีกครั้ง มายาหมากตัวหนึ่งวาบผ่านปลายนิ้ว

บางทีอาจเป็นเพราะเหนื่อยมากแล้ว เส้นทางขากลับเสี่ยวอิ๋นชิงหลับบนหลังจี้หยวน

สิ่งนี้ส่งผลให้ตอนกลับไปความเร็วว่องไวกว่าตอนมาไม่รู้กี่เท่า จี้หยวนใช้ปราณวิญญาณโคจรท่าร่าง ไม่ทันไรก็กลับมาสู่อำเภอหนิงอัน

ยามส่งอิ๋นชิงกลับบ้านยังไม่ถึงเวลาอาหารของตระกูลอิ๋น ครึ่งวันก็กลับจริงดังว่า

แต่หลังจากจี้หยวนกลับบ้านเขากลับออกไปทันที ทั้งเปลี่ยนชุดเขียวที่ใส่ประจำเป็นชุดผ้าหยาบรัดแขน ใช้ผ้าคาดรวบผมยาวสยายของตนไว้ด้านหลัง

หลังจากเตรียมตัวเสร็จอย่างรวดเร็ว จี้หยวนใช้วิชาตัวเบากระโดด อาศัยแรงดีดจากกิ่งพุทรากระโดดออกจากเรือนสันติ จากนั้นค่อยดีดตัวบนหลังคาบ่อยครั้ง ออกจากเมืองไปในทันที

จี้หยวนรู้แค่วิชาบังตาเรียบง่ายสองอย่าง อย่างแรกชื่อว่าล่องหนหวนคืน อย่างสองชื่อว่าหนึ่งใบบังตา ค่อนข้างคลุมเครือทั่วไปแต่ก็อยู่ในขอบเขตที่นำมาใช้ได้

วิชาบังตาเป็นแค่วิธีบดบังหรือเคลื่อนสายตาคนอื่นจนทำให้เขาเห็นความจริงไม่ชัด พูดตามตรงคือไม่อาจพึ่งพามากเกินไป อย่างน้อยจี้หยวนไม่คิดว่าตนล่องหนแล้วอำพรางตัวจริง ต่อให้อยู่ตรงหน้าคนทั่วไป หนึ่งใบบังตาอาจเข้าท่ากว่าหน่อย

ที่เรียกว่าหนึ่งใบเป็นแค่แนวคิด หมายถึงสิ่งเล็กจ้อย วิชาหนึ่งใบบังตาเกิดจากการบดบังของสิ่งเล็กๆ กระทั่งตั้งแต่ต้นจนจบเห็นภาพรวมหรือความจริงไม่ชัด

จี้หยวนใช้ผมปรกหน้าของตนมาบดบัง ทำให้คนที่เคยเห็นหน้าตาเขามองไม่ชัดหรือเห็นเป็นคนอื่น เพราะการนำผมปรกหน้ามาเป็น ‘ใบไม้’ คือสิ่งที่มีอยู่จริง ดังนั้นแม้ว่าวิชานี้จะเล็กจ้อยแต่กลับพึ่งพาได้มาก

ยามนี้จี้หยวนออกมาอย่างรีบเร่ง เพราะระหว่างทางกลับเห็นรถม้าคันหนึ่งขับอยู่บนทางหลวงแต่ไกล สองคนซึ่งขี่ม้าตามข้างรถคือชายสวมชุดรัดรูปตรงทางเข้าที่ว่าการอำเภอตอนเที่ยง เสียงพูดคุยนั้นจี้หยวนไม่มีทางจำผิด ดังนั้นภายในรถเป็นใครไม่ต้องบอกก็รู้

แน่นอนว่าจี้หยวนไม่ใจแคบถึงขั้นว่าคนอื่นคุยเรื่องเขาลับหลังแล้วมาแก้แค้น ใช่ว่าพูดว่าร้ายเขาด้วย สิ่งสำคัญคือตอนเที่ยงได้ยินบทสนทนาของนายอำเภอกับชายร่างท้วมคนนั้น มองพวกเขาตามจิตใต้สำนึก การมองนี้ทำให้จี้หยวนเห็นว่าคอเสื้อของชายร่างท้วมนั่นมีแสงวิญญาณซ่อนเร้น

นั่นไม่ได้มีสาเหตุจากเจ้าอ้วนคนนี้เองแน่ น่าจะเป็นเพราะบนตัวพกของไม่ธรรมดาอะไรไว้

ช่วงนี้จี้หยวนโหยหาเรื่องการฝึกปราณมาก แค่สติทำให้เขาไม่เอ่ยถามหาการแสวงเซียนไปทั่วเท่านั้น ตอนนี้มีโอกาสเขาไม่มีทางปล่อยไป แย่เพียงใดก็ต้องยืนยันด้วยตัวเองว่าคืออะไร สืบความเป็นมาให้แน่ชัด

แต่ตอนเที่ยงได้ยินว่าสามนายบ่าวจะไปวันที่สองชัดๆ ตอนนี้กลับเคลื่อนรถม้าอยู่บนทางหลวงแล้ว

สายลมโดยรอบพัดผ่านหน้าไม่หยุด ในเมืองยังออมแรง หลังออกจากเมืองจี้หยวนสำแดงท่าร่างเต็มที่ ไล่ตามทางในภาพจำเมื่อครู่เต็มกำลัง ผ่านไปประมาณสองเค่อ สุดท้ายในสายตามองเห็นรถม้าซึ่งเกือบออกจากอาณาเขตอำเภอหนิงอันแล้ว

ยามนี้ท้องฟ้ามืดลงช้าๆ จี้หยวนคอยตามอยู่ด้านหลังห่างออกไปโดยไร้สุ้มเสียง กลัดกลุ้มอยู่บ้างว่าจะบรรลุเป้าหมายของตนอย่างไร

‘ตามไปพูดอย่างเป็นมิตรโดยตรงหรือคิดหาวิธีอื่น หรือกำราบพวกเขาแล้วค้นของออกมาก่อนค่อยถาม การกระทำเหี้ยมโหดไปหน่อยหรือไม่’

จี้หยวนแยกเขี้ยวยิงฟันเหมือนคนบ้ารอบหนึ่ง ทำหน้าเหี้ยมโหดเล็กน้อย เขาคิดเองว่าตนมีพรสวรรค์ด้านการแสดงอยู่บ้าง

แต่ไม่รอให้จี้หยวนคิดมากอีก สถานการณ์เกิดตัวแปรใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง ในป่าด้านซ้ายหน้าทางหลวง เงาร่างสวมชุดผ้าหยาบสีเข้มมากมายพุ่งออกมาทันที สะบัดอาวุธจู่โจมไปทางรถม้า

“แย่แล้ว! มีผู้แข็งแกร่ง!”

ผู้คุ้มกันสองคนตบหลังม้าห้อตะบึง ประมือกับผู้บุกโจมตี

ชายสวมชุดรัดรูปสีเหลืองคนนั้นเผชิญหน้ากับผู้บุกโจมตี ยามกระโจนออกจากหลังม้า เท้าข้างหนึ่งยังเหยียบบนตัวม้าอาศัยแรงส่ง กำหมัดแน่นซัดใส่โจรคนหนึ่งในนั้นเต็มแรง

“ตายซะ!”

ตึง…

หมัดอานุภาพยิ่งใหญ่ทรงพลังถึงกับถูกสันดาบอีกฝ่ายต้านทาน ทั้งยังตวัดดาบทิ้งห่างกำปั้นชั่วพริบตา คมดาบตวัดเฉียงฟาดฟันคู่ต่อสู้ เงาดาบคล้ายแบ่งจากหนึ่งเป็นสาม

ฟุ่บๆ ฉัวะ…

สามดาบแหวกพลังหมัดของผู้คุ้มกัน ดาบหนึ่งในนั้นยังทำให้ไหล่เขาเลือดกระฉูด

“ขนห่านสามหน! เจ้าคือเซี่ยงเฟิง สิบสามโจรแดนเยี่ยน!”

ผู้คุ้มกันชุดเหลืองกระโดดถอยหลังพลางหลบโจรอีกสองคนซึ่งโจมตีมาพร้อมกัน ตกตะลึงตวาดลั่น

ตรงจุดที่แสงส่องถึง ตอนนี้พวกพ้องสู้หนึ่งต่อสี่อย่างล่อแหลมอันตราย บนตัวบาดเจ็บหลายจุดแล้ว

เสียงกระทบดังสนั่น ผู้คุ้มกันอีกคนย่ำเท้าลงบนรถม้าซึ่งยังขับเคลื่อนอยู่ดังตึง

“หยุดรถซะ!”

โจรคนหนึ่งในนั้นคำราม

“ไอ๊หยา…”

ผู้คุมรถม้ารีบดึงบังเหียน คุกเข่าตัวสั่นอยู่ตรงนั้นไม่กล้าขยับ คนภายในรถม้าตกใจจนไม่กล้าส่งเสียง

เซี่ยงเฟิงไม่มองผู้คุ้มกันสองคนซึ่งเหมือนเจอศัตรูผู้แข็งแกร่ง ถือดาบยิ้มมองรถม้า

“เว่ยอู๋เว่ย เล่าลือว่าตระกูลเว่ยมีหยกฟ้าตกทอดชิ้นหนึ่ง สามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายไม่ให้กล้ำกรายได้ เจ้าน่าจะพกติดตัวกระมัง”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
เซียนหมากข้ามมิติ

เซียนหมากข้ามมิติ

ChronoGo, Lan Ke Qi Yuan, Lạn Kha Kỳ Duyên, Special Destiny Of Rotten Ke, The Board of Lanke, Kismet of the Lanke Piece, Lanke Chess Edge, The Board Of Lanke, 烂柯棋缘, 난가기연
Score 9.1
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ต้นฉบับ: 1021 Chapters (จบแล้ว)
จี้หยวน พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งไปร่วมกิจกรรมค่ายพักกลางแจ้ง ระหว่างเดินชมต้นไม้ไปเรื่อยๆ เขาพบกระดานหมากบนตอไม้กลางป่า พอจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปกลับปลดล็อกหน้าจอไม่ได้ คิดว่าแบตหมดแล้วจึงรีบกลับไปหาแบตสำรองที่ค่าย แต่พอกลับไปถึงที่ตั้งค่าย กลับไม่มีคนในบริษัทอยู่สักคน แม้แต่เต็นท์ก็หายไปหมด.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset