เมิ่งชั่งเตรียมตัวกลับออกไปหลังจับมือกับอีกฝ่าย
สำหรับเขาแล้ว ถึงจะได้เงินมาแค่สองล้านหยวนจากเป้าหมายเดิมห้าล้านหยวน แต่ก็บรรลุเป้าหมาย ‘ได้รับออร่าของบอสเผย’ แถมยังมีโอกาสที่บอสเผยจะลงทุนต่อในอนาคต เพราะงั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงเรื่องจำนวนเงินในตอนนี้
อีกอย่างเมิ่งชั่งเองก็ยังไม่ได้พบบอสเผย
เขาคิดว่าบอสเผยน่าจะยุ่งมาก และตัวเขาเองก็ไม่มีชื่อเสียงอะไร เพราะงั้นก็สมเหตุสมผลที่จะไม่ได้พบ
พอทำแบรนด์สาวหน้านิ่งเสร็จ เขาก็จะเอาตัวเลขและรายงานทุกอย่างไปคุย ซึ่งก็น่าจะโน้มน้าวใจได้มากและบอสเผยต้องหาเวลามาพบเขาแน่
ขอแค่ได้เจอกัน เมิ่งชั่งเชื่อว่าเขาจะโน้มน้าวให้บอสเผยลงทุนเพิ่มด้วยฝีปากระดับเทพของตัวเองได้แน่นอน
ดังนั้นเป้าในวันนี้ของเขาจึงถือว่าสำเร็จแล้ว และสามารถกลับไปเตรียมตัวได้
แต่ระหว่างที่กำลังจะกลับออกไป เฮ่อเต๋อเซิ่งก็พูดขึ้น “เดี๋ยวครับ ผมลืมบอกไปเรื่องหนึ่ง”
เมิ่งชั่งหยุดอยู่กับที่ “อ้อ บอกมาเลยครับบอสเฮ่อ”
เฮ่อเต๋อเซิ่งพูดต่อ “ตามข้อกำหนดของบอสเผย บริษัทที่เราลงทุนด้วยต้องยอมรับเงื่อนไขของเรา
“ข้อแรก ต้องซื่อสัตย์และปฏิบัติตามกฎหมาย
“ข้อสอง ต้องเอาเงินทุนทั้งหมดที่เราให้ไปใช้จ่ายเป็นค่าดำเนินงานของบริษัทและค่าดำเนินงานทั่วไป ห้ามใช้เป็นเงินเดือนเจ้าของบริษัท ห้ามใช้เงินของเรากับค่าใช้จ่ายส่วนตัว แน่นอนว่าเราจะไม่เข้าไปยุ่งกับเงินทุนที่ได้จากแหล่งอื่น
“จากสองข้อที่บอกไป เราจะแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีประจำบริษัทของคุณ ก็เลยต้องอธิบายไว้ก่อนล่วงหน้า”
เฮ่อเต๋อเซิ่งยิ้มและพูดอย่างใจดี
กฎเหล่านี้บอสเผยตั้งขึ้นตอนวาง ‘โมเดลคนโง่ที่มีเงินล้นมือ’ เฮ่อเต๋อเซิ่งแค่ทำตามขั้นตอนการเจรจาธุรกิจตามปกติ
นี่คือเหตุการณ์ที่พบเห็นได้ทั่วไปในแวดวงการลงทุน เพราะยังไงนักลงทุนก็ไม่ได้โง่ พวกเขาไม่มีทางรับได้แน่นอนถ้าเจ้าของบริษัทเอาเงินไปใช้จ่ายเล่นส่วนตัว
บอสเผยเองก็เหมือนกัน
เอาเงินไปผลาญได้ แต่ต้องผลาญไปกับการทำงาน
ไม่งั้นพวกคนที่ขอทุนไปก็จะมีชีวิตที่สุขสำราญ ส่วนบอสเผยขาดทุนย่อยยับ จิตใจพังทลายกันหมด
ดังนั้นบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งจึงมีข้อกำหนดที่เข้มงวดมากเรื่องการเงิน
ส่งคนเข้ามาทำหน้าที่ผู้ตรวจสอบบัญชีหมายความว่ากระแสเงินของบริษัทไม่มีทางหลุดรอดสายตาเถิงต๋า พอมีอะไรไม่ชอบมาพากล เฮ่อเต๋อเซิ่งก็จะรายงานให้บอสเผยรู้ทันที
สำหรับผู้ประกอบการส่วนใหญ่ที่ยึดหลักกฎหมาย เงื่อนไขนี้ไม่ถือเป็นข้อจำกัด ถือว่าได้ผู้ตรวจสอบบัญชีมืออาชีพมาช่วยงานโดยไม่ต้องจ่ายเงินเลยสักแดงด้วยซ้ำ
แต่สำหรับผู้ประกอบการที่มีเจตนาแอบแฝงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลย
เมิ่งชั่งลังเล
เขารู้ว่านักลงทุนแต่ละคนมีวิธีจัดการเงินลงทุนที่แตกต่างกัน บางคนแต่งตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีประจำทีมหลักของบริษัท บางคนกำหนดให้จัดประชุมบอร์ดบริหารทุกเดือน บางคนให้บริษัทที่รับเงินทุนวางระบบกำกับดูแลและรายงานผล แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่สนใจอะไรเลยหลังให้เงินทุนไปแล้ว มีแค่จัดประชุมบอร์ดบริหารทุกปีหรือทุกครึ่งปี ไม่ก็หาผู้ช่วยเรื่องการลงทุนมารับผิดชอบ…
มีวิธีการมากมาย กุญแจสำคัญคือกฎเกณฑ์ของบริษัทลงทุนนี้เป็นยังไง
ตอนแรก เมิ่งชั่งคิดว่าบริษัทลงทุนของบอสเผยไม่เข้มงวดเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนว่าจะเข้มงวดที่สุดในเรื่องของการเงิน
ข้อกำหนดนี้ทำให้แผนสะดุดเล็กน้อย
เพราะยังไงเดิมทีการหอบเงินชิ่งก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกของเขา
เขาจะหนีตอนที่อยากหนีไม่ได้อีก ต้องผ่านกระบวนการซับซ้อนมากมาย จะง่ายกว่าถ้าเขาเป็นคนดูแลแผนกการเงินเอง แต่ถ้าทำอะไรระหว่างที่มีคนของเถิงต๋าอยู่ในแผนก เขาก็จะได้รับเชิญให้ไปดื่มชาในคุกได้
แต่หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียดู เขาก็รู้สึกว่ายังไงก็ต้องรับเงินลงทุน
อันดับแรกเลยคือ ข้อกำหนดของบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งไม่ได้เคร่งครัดเกินไป นักลงทุนหลายๆ คนก็มีข้อกำหนดที่คล้ายๆ กัน อีกอย่างบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งเองก็เข้มงวดแค่กับเรื่องการจัดการด้านการเงิน แต่ไม่ได้แทรกแซงกลยุทธ์การบริหารงานด้านอื่นๆ ของบริษัท ในภาพรวมถือว่าเป็นเงื่อนไขการลงทุนที่ไม่เข้มงวดมากและใจกว้างทีเดียว
ถ้าเมิ่งชั่งปฏิเสธก็อาจจะโดนสงสัย พอเรื่องนี้กระจายออกไป ก็จะยิ่งยากสำหรับเขาในการขอเงินทุนจากนักลงทุนคนอื่นๆ
สอง ถึงจะต้องตัดใจจากตัวเลือกเชิดเงินหนี เมิ่งชั่งก็ยังมีวิธีอื่นๆ ในการทำกำไรให้ตัวเองอยู่
ตัวอย่างเช่น ขยายบริษัทและหาบริษัทยักษ์ใหญ่มารับช่วงต่อ ซึ่งก็เป็นวิธีที่อยู่ในกฎระเบียบและสามารถโบ้ยความผิดให้บริษัทยักษ์ที่เข้ามารับช่วงต่อได้
ถึงการรับเงินทุนมาแล้วเชิดหนีจะทำเงินได้มากกว่า แต่ก็หมายความว่าเขาจะกลับมาเหยียบแผ่นดินจีนไม่ได้อีกตลอดชีวิต มีชื่อฉาวโฉ่ติดตัว ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งเมิ่งชั่งก็ไม่ได้อยากเลือกทางนี้ เว้นแต่ว่าจะไม่มีทางอื่น
แน่นอนว่าการหาบริษัทใหญ่มารับช่วงต่อกิจการและผู้ก่อตั้งถอนตัวออกไปก็นับเป็นปัญหาใหญ่
เพราะบริษัทใหญ่หลายบริษัทเข้ารับช่วงต่อเพราะสนใจทักษะความเป็นผู้ประกอบการของผู้ก่อตั้งบริษัท พวกเขาจะบังคับให้ผู้ก่อตั้งเก็บหุ้นส่วนทั้งหมดไว้ไม่ให้ปล่อยขาย ผู้ก่อตั้งบริษัทจะต้องบริหารบริษัทต่อไปและทำงานเพื่อตัวเอง
แต่บนโลกนี้ไม่มีความแน่นอน หลังจากรับช่วงต่อบริษัท บริษัทใหญ่บางแห่งก็อยากให้พนักงานตัวเองขึ้นรับตำแหน่งแทน เพราะมั่นใจในทักษะการบริหารของพนักงานมากกว่า
ถ้าเมิ่งชั่งหาบริษัทแบบนั้นเจอ เขาก็จะถอนตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย
ดังนั้นหลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียอย่างรวดเร็วแล้ว เมิ่งชั่งก็รู้สึกว่าต้องรับการลงทุนนี้
ถึงความเสี่ยงจะสูง แต่กำไรก็สูงเหมือนกัน
ที่สำคัญที่สุดคือ เมิ่งชั่งเตรียมการเรื่องนี้มานานแล้วเพื่อโอกาสนี้ และเขาจะไม่ยอมทิ้งมันไปตอนนี้
เหตุผลส่วนใหญ่ที่คนแบบเมิ่งชั่งเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนก็มาจากนิสัยชอบเสี่ยงดวงของเขา
ถ้าชนะเดิมพัน ความมั่งคั่งสุทธิอาจพุ่งไปถึงร้อยล้านหยวนได้ง่ายๆ แต่ถ้าแพ้เดิมพัน เขาก็เป็นหนี้หลักร้อยล้านได้ง่ายๆ เหมือนกัน
ดังนั้นก็ถือเป็นเรื่องยากที่เมิ่งชั่งจะปล่อยโอกาสเดิมพันครั้งใหญ่นี้ให้หลุดมือไป
เมิ่งชั่งลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะฝืนยิ้ม “ได้เลยครับ ต้องทำแบบนั้นอยู่แล้ว”
เฮ่อเต๋อเซิ่งพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “โอเคครับ หวังว่าเราจะร่วมงานกันได้อย่างราบรื่น!”
…
ขณะเดียวกัน เผยเชียนกำลังจิบกาแฟและหาวอยู่ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เขายังคิดหาทางผลาญเงินที่ได้จากการขายโควตา GPL อยู่
ตอนนั้นเองมือถือของเขาก็ดังขึ้น
จางหยวนโทรมา
“บอสเผยครับ บอสจากสามสโมสรแวะมาหาเรา พวกเขาอยากพบบอสครับ”
เผยเชียนผงะไป “บอสสโมสรที่ขายทีม GOG น่ะเหรอ”
จางหยวน “ใช่ครับ ตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ที่สโมสร DGE ไม่ทราบว่าบอสสะดวกมาพบพวกเขาไหมครับ”
เผยเชียนเงียบไป
เขามีเวลาแน่นอน แถมมีเยอะมากด้วย
ประเด็นคือพวกบอสจากสามสโมสรมาทำไม
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง เผยเชียนก็ถามขึ้น “พวกเขาพยายามละเมิดสัญญาเหรอ”
จางหยวน “พวกเขาไม่กล้าละเมิดสัญญาครับ น่าจะมาเพื่อยอมรับความพ่ายแพ้”
ตามหลักแล้ว สามสโมสรนี้งัดเงินสามล้านมาจ่ายค่าละเมิดสัญญาและตัดสินใจไม่ขายทีม GOG ได้
แต่ปัญหาคือถึงจะไม่ขายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้โควตา GPL!
ตั้งแต่ต้นจนจบ เผยเชียนยังไม่ได้ให้โควตา GPL กับพวกเขาเป็นการแน่นอน เพียงแค่สัญญาปากเปล่าว่า ‘มี’ โควตาให้ แถมพวกเขายังต้องยอมรับเงื่อนไขต่างๆ ของแผนกอีสปอร์ตของเถิงต๋าก่อน ซึ่งรวมถึงสัญญามาตรฐานด้วยโน!วลกูดoทคอม
เหตุผลเดียวที่พวกเขาได้รับอนุญาตให้ขายโควตา GPL ก็เพราะเคยร่วมงานกันมาก่อน ก็เลยต้องไว้หน้ากันบ้าง
ถ้าสโมสรพวกนี้ถอนตัว เผยเชียนก็เมินพวกเขาแล้วเอาโควตา GPL ไปให้คนอื่นแทนได้
แน่นอนว่านั่นคือกรณีเลวร้ายที่สุด
ถ้าทำแบบนั้น สามสโมสรก็จะไม่ได้กำไรเลย ชื่อเสียงเผยเชียนก็จะเสียหายเล็กน้อยด้วย
เพราะงั้นบอสทั้งสามสโมสรเลยมาหาเขา ส่วนหนึ่งก็เพื่อยอมรับข้อผิดพลาดของตัวเอง อีกส่วนก็เพื่อหาทางออกที่เหมาะสม
หลังจากคิดดูอยู่พักหนึ่ง เผยเชียนก็ตัดสินใจว่าต้องคลี่คลายเรื่องนี้
สรุปแล้วเขาต้องไปหาบอสทั้งสามสโมสรก่อน
“โอเค เดี๋ยวผมไป บอกให้พวกเขาคอยก่อน”
…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา สโมสร DGE
เจ้าของสโมสร SUG และอีกสองสโมสรนั่งจิบชาอย่างไม่เป็นสุขอยู่ในห้องประชุม
ทุกวินาทีที่ต้องคอยบอสเผยนั้นแสนทรมาน
ในที่สุดพวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังจากด้านนอก จากนั้นบอสเผยก็ผลักประตูเข้ามาในห้อง
เจ้าของทั้งสามสโมสรรีบลุกจากเก้าอี้
“บอสเผย!”
เผยเชียนพยักหน้าให้น้อยๆ จากนั้นก็จับมือกับแต่ละคนโดยมีจางหยวนแนะนำชื่อ
เจ้าของสโมสร SUG ชื่อติงกั้น เป็นทายาทรุ่นที่สองของตระกูลร่ำรวย ถึงจะดูด้อยกว่าเซวียเจ๋อปินเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากเหยาปัวจากจินติ่งคอร์เปอเรชัน
เผยเชียนได้ยินชื่อหมอนี่มาพักใหญ่แล้ว
เพราะสโมสรอีสปอร์ต SUG มีชื่อเสียงในจีนประมาณหนึ่ง ถึงจะไม่ใช่สโมสรเก่าแก่เหมือนสโมสร H4 แต่ก็เป็นสโมสรที่รวยที่สุดในบรรดาสโมสรอีสปอร์ตในช่วงแรกๆ
ก่อนหน้านี้ สโมสร SUG เตรียมเงินไว้ทั้งหมดยี่สิบห้าล้านหยวนเพื่อซื้อนักกีฬาจากสโมสร DGE ถึงจะไม่ได้ใช้เงินเยอะมาก แต่ก็เพียงพอที่จะพิสูจน์ให้เห็นถึงความมั่งคั่ง
ในฐานะหนึ่งในทายาทรุ่นที่สองของตระกูลร่ำรวยที่เข้าวงการอีสปอร์ตตั้งแต่ช่วงแรกๆ ติงกั้นพาเงินทุน ความสนใจ และกระแสนิยมมาสู่วงการอีสปอร์ต แต่ก็พาการบริหารจัดการแย่ๆ มาสู่สโมสรด้วย
ทุกคนนั่งลง
ติงกั้นกระแอมกระไอแล้วพูดขึ้น “บอสเผยครับ เราสามคนมาที่นี่วันนี้เพื่อขอโทษและไขข้อเข้าใจผิดครับ
“การหลอกลวงของผู้จัดการหลี่ไม่ได้ทำให้เถิงต๋าสูญเสียเพียงฝ่ายเดียว แต่ยังทำให้สโมสรของพวกเขาเสียหายครั้งใหญ่ ถ้ามองจากมุมนี้ พวกเราต่างก็เป็นเหยื่อ
“ผมจะลงโทษเขาอย่างหนักหลังกลับไปและอยากอธิบายให้คุณฟังครับ!
“ผมหวังว่าบอสเผยจะมีเมตตา อย่าให้ความเข้าใจผิดเล็กน้อยมากระทบกับความสัมพันธ์ที่เราร่วมกันสร้างขึ้นมา เพราะยังไงสโมสรของเราก็พยายามเต็มที่กับงานแข่งขันชิงแชมป์โลก แม้จะไม่ได้สร้างผลงานมากเท่าไหร่”
เจ้าของอีกสองสโมสรพูดเสริมด้วยความจริงใจ
เผยเชียนพยักหน้า ไม่พูดอะไร
ทั้งสามสุภาพและจริงใจมาก แต่บอสเผยก็ไม่ได้โง่ขนาดที่จะเชื่อทั้งหมด
ผู้จัดการสโมสรจะตัดสินใจเรื่องใหญ่อย่างการขายทีม GOG ได้เหรอ ยังไงก็ต้องถามย้ำกับเจ้านายก่อนอยู่แล้ว
การที่บอสทั้งสามสโมสรไม่ห้ามหมายความว่าจริงๆ แล้วก็สนับสนุนการตัดสินใจของผู้จัดการหลี่
ยิ่งตำแหน่งสูงก็ยิ่งไม่ค่อยลงมายุ่งกับงานสกปรกแบบนี้ แต่จะปล่อยให้ลูกน้องจัดการให้ ทำแบบนี้ ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็โอเค แต่ถ้ามีปัญหาก็สามารถเขี่ยทิ้งได้ทันที
ดังนั้นในใจของทั้งสามต้องต่อต้านสัญญาแน่นอน พวกเขาไม่อยากยอมรับการกำกับดูแลและข้อกำหนดของเถิงต๋าตั้งแต่แรก
พวกเขาถึงกับคิดว่าถ้าทุกสโมสรร่วมมือกัน พวกเขาก็จะคุมลีก GPL และบังคับให้เถิงต๋ายอมถอยได้
แต่พอสถานการณ์มาถึงขั้นนี้ พวกเขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้
ถ้ารอบนี้ไม่มีใครสนใจโควตา GPL และขายออกไปได้ราคาน้อย เจ้าของสโมสรพวกนี้คงไม่มีท่าทีแบบนี้หรอก
ดังนั้นเผยเชียนจึงไม่ได้โกรธหรือไม่เข้าใจ
“แล้วพวกคุณตั้งใจจะทำตามสัญญาไหมครับ”
เผยเชียนเข้าประเด็นทันที ไม่สนใจว่าทั้งสามจะพยายามตีซี้ขนาดไหน
