📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ยอดวิถีแห่งปีศาจ – ตอนที่ 255

บทที่ 255 - ฉากหลังอันดำมืด (1)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เรื่องแต่งงานล่มแล้ว

หลังจากลู่เซิ่งกลับมาถึงสำนักมารกำเนิด วันต่อมาก็ได้รับการแจ้งขอโทษจากซั่งหยางจิ่วหลี่

จดหมายส่งมาผ่านนกสื่อสารสีดำ เป็นรายละเอียดและท่าทีเกี่ยวกับซั่งหยางรั่ว ซั่งหยางรั่วได้ยกเลิกเรื่องที่กำหนดไว้ในตอนแรกเพียงฝ่ายเดียว นางไม่ได้บอกว่าจะเปลี่ยนวันนัดเจอ เป็นแค่การปฏิเสธโดยสิ้นเชิงตามมารยาทก็เท่านั้น

กับเรื่องนี้ ซั่งหยางจิ่วหลี่ยังได้เขียนจดหมายยาวฉบับหนึ่งส่งให้ลู่เซิ่งโดยเฉพาะ เพื่ออธิบายสาเหตุบวกกับมอบของชดเชยให้

สำนักมารกำเนิดเดินไปตามครรลองที่ถูกต้องทีละก้าวๆ คนที่เข้าสำนักค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้น ทุกๆ วัน พวกเขาจะตะโกนพร้อมกับฝึกฝนวิชาลับ เกิดสภาวะยิ่งใหญ่ แต่ส่วนใหญ่เป็นมือใหม่ บางคนถึงขั้นไม่ใช่ระดับพันธนาการด้วยซ้ำ

ฉึบ

ลู่เซิ่งมัดปากถุงย่ามข้างเอว แล้วเดินออกจากถ้ำ ช่วงนี้ลิ่วซานจื่อกักตัวไม่ออกมา ไม่ทราบว่ากำลังทำอะไร นอกจากจะเจอเหอเซียงจื่อทุกเช้าแล้ว เวลาที่เหลือก็อยู่ในห้องของตัวเองมาโดยตลอด

ตอนที่ลู่เซิ่งเดินผ่านก็อดสำรวจไม่ได้ จากนั้นก็เร่งฝีเท้าลงบันไดหิน มุ่งหน้าไปยังสถานที่ฝึกฝนของตัวเอง

ศิษย์ทุกคนที่เดินผ่าน พากันทักทายเขาด้วยใบหน้านอบน้อม ลู่เซิ่งก็คำนับกลับเช่นกัน

ไม่นานก็ข้ามสะพานอันตรายมาถึงหน้าหอเก็บหนังสือ มีศิษย์จำนวนไม่น้อยตั้งใจอ่านหนังสืออยู่ด้านใน

ลู่เซิ่งเคลื่อนไหวอย่างแผ่วเบา ก่อนจะเร่งความเร็ววิ่งไปยังส่วนลึกของสำนักมารกำเนิด

ผ่านไปไม่นาน ลู่เซิ่งก็กลับมาถึงทะเลสาบเล็กๆ ที่มีธารหมอกพิษ แล้วย้ายหินก้อนยักษ์ที่เขาตั้งใจนำมาขวางประตูออก ก่อนจะเดินช้าๆ เข้าไป เห็นทะเลสาบเล็กๆ ที่กลับมาเป็นปกติแล้ว

คราก่อนหลังจากพบสัตว์ประหลาดหลายแขนที่เป็นรูปปั้นดินเหนียวนั้น เขาก็รู้สึกว่าที่นี่จะต้องมีความลับยิ่งใหญ่บางอย่างซุกซ่อนอยู่แน่

บวกกับที่นี่เร้นลับยิ่งกว่าในถ้ำ เขาจึงถือโอกาสขุดรูบนผนังถ้ำด้านข้างทะเลสาบ แล้วเข้าไปฝึกฝนด้านใน

ลู่เซิ่งเดินเลียบผนังถ้ำไปทางซ้าย จากนั้นก็เจอปากถ้ำที่เขาสลักสัญลักษณ์เอาไว้อย่างรวดเร็ว แล้วมุดเข้าไป

ในถ้ำว่างเปล่า ผนังด้านในเรียบลื่น เขาใช้น้ำในแม่น้ำชะล้าง แล้วใช้ปราณภายในจุดไฟเผาจนสะอาดเอี่ยมอ่อง

‘ร่างมารสดับสงัดเป็นสภาพสูงสุดของวิชาลับ หลังจากบรรลุมารหยินสิงร่าง ครั้งนี้ทดลองได้พอดีว่าถ้าใช้สภาพนี้แตะร่องรอยของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ดู จะทนได้นานกว่าเดิมไหม’

ลู่เซิ่งนั่งขัดสมาธิ หยิบกล่องหยกก่อนหน้าออกมา ก่อนจะค่อยๆ เปิดมัน

ผงสีขาวในกล่องหยกเหลือแค่นิดหน่อย รังสีระดับปฐมอ่อนแอกว่าตอนแรกไม่รู้กี่เท่า

ตูม!

ลู่เซิ่งไม่พูดพร่ำทำเพลง เปลี่ยนร่างเป็นสภาพหยางโชติช่วง แล้วหดร่างกายลงอย่างรวดเร็วเพื่อเปลี่ยนเป็นสภาพที่สาม ร่างของผู้ทำลายล้างที่หยินหยางรวมเป็นหนึ่ง เปลวไฟสีแดงลุกไหม้รอบตัวเขา มีเสียงพึมพำที่ชั่วร้ายคอยปั่นป่วนจิตใจ ราวกับมีคนกระซิบกระซาบอยู่ข้างหู

‘มาเลย…ทดลองดูอีกรอบ…’

ลู่เซิ่งยื่นมือออกมา ลวดลายที่เล็กละเอียดและซับซ้อนหลายสายโผล่ขึ้นบนกรงเล็บที่คมกริบ

กรงเล็บสีดำแกมเขียวแตะเข้ากับผงสีขาวในกล่องหยก

ฟู่ว!

เปลวไฟสีดำขนาดใหญ่สายหนึ่งรวมตัวกันอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นก็กลายเป็นของเหลียวสีดำข้นเหนียวหยดลงบนผงสีขาวทีละหยดๆ

ฉ่า!

ลู่เซิ่งโคจรปราณมารกำเนิดไปแล้วอย่างน้อยห้าส่วนเพื่อเผาไหม้เป็นอัคคีพิษอุณหภูมิสูง จากนั้นก็หยดมันลงไปบนผงสีขาวในสภาพคล้ายของเหลว

ทว่าในพริบตาที่อัคคีพิษแตะกับผงสีขาว ควันสีขาวสายหนึ่งก็ระเบิดออกในทันที

ลู่เซิ่งมองเห็นผ่านควันว่า อัคคีพิษถูกควันขาวทำลายด้วยความเร็วสูงเหมือนกับหยดน้ำที่ถูกไฟเผาจนแห้งเหือด อัคคีพิษยังไม่ทันแตะผงสีขาวก็สลายไปอย่างรวดเร็ว

‘นี่คือรังสีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือมานานแล้วเหรอ ยังมีอานุภาพแข็งแกร่งปานนี้เชียว! นี่มัน…นี่มันพลังอะไรกันแน่!?’ ลู่เซิ่งตกตะลึงพึงเพริด

“ระดับปฐม ระดับปฐม…ระดับกำเนิดธรรมดากับระดับปฐม…” เขาพึมพำพร้อมกับเร่งการโคจรต่อไป อัคคีพิษยังคงหยดลงไป แต่ก็ไม่มีผล ผงสีขาวยังคงอยู่ เหมือนไม่มีการสูญสลายไป อาจมีการสลายไปบ้างแต่คงน้อยมากจนแทบมองไม่เห็นครู่ต่อมาจนกระทั่งอัคคีพิษทั้งร่างลู่เซิ่งถูกส่งถ่ายออกไปจนถึงขีดจำกัด ผงสีขาวก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม ควรมีเท่าไหร่ก็ยังคงมีเท่านั้น

ควันขาวเข้มข้นแทบจะแผ่ปกคลุมถ้ำเกือบทั้งถ้ำ ยื่นมือออกไปไม่เห็นห้านิ้ว

กระนั้นลู่เซิ่งก็ไม่มีความคิดออกไปสูดอากาศ เขาเพียงนั่งข้างหีบหยกอยู่เงียบๆ มองดูผงสีขาวเป็นจุดๆ ซึ่งเหลืออยู่ พลางคิดใคร่ครวญ

‘ระดับปฐม…ระดับปฐม บางทีเราควรลองปราณภายใน ปราณภายในหลังจากควบแน่น’ เขาพลันนึกขึ้นได้

ลู่เซิ่งคิดได้ก็ลงมือทันที ยื่นนิ่วชี้ออกไปอีกรอบ เร่งเร้าการไหลเวียนของปราณภายในด้วยความเร็วสูง ค่อยๆ บีบปราณเหลวหนึ่งหยดของวิชาเก้าพิฆาตแดงฉานในร่างออกจากนิ้วมือผ่านเส้นลมปราณ

ซู่

ปราณเหลวที่ถูกทำให้กลายเป็นสสาร มีขนาดแค่เล็บมือเหมือนกับยาลูกกลอนสีแดงซึ่งทำขึ้น โดยการทำให้ควันสีแดงนับไม่ถ้วนเข้มข้นขึ้น ค่อยๆ ซึมออกมาจากนิ้วของลู่เซิ่ง

ปราณเหลวนี้เพิ่งโผล่มา ทั้งถ้ำก็ร้อนขึ้นทันทีเหมือนกับอยู่บนเตาหลอม อุณหภูมิสูงถึงขั้นผนังถ้ำที่ถูกลู่เซิ่งเผามาก่อนหน้า เกิดร่องรอยการหลอมละลายอีกครั้ง

‘ความจริงอาวุธศักดิ์สิทธิ์คือองค์ประกอบของเศษอาวุธเทพที่มีขนาดใหญ่กว่า เพียงแค่สามารถใช้ได้ตามใจ หลังผ่านการปรับปรุงพลังก็เท่านั้น ดังนั้นคุณสมบัติของพลังก็ควรไม่มีข้อแตกต่างกับอาวุธเทพศัสตรามาร ขอแค่เราป้องกันอาวุธศักดิ์สิทธิ์ได้ล่ะก็…’

ลู่เซิ่งทำให้ปราณเหลวเข้าใกล้ผงสีขาวอย่างแผ่วเบา ครั้งนี้ในที่สุดก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ แล้ว

ผงสีขาวลดลงอย่างรวดเร็วด้วยความเร็วที่ตาเนื้อมองเห็นได้ แต่เห็นได้ชัดว่าปราณเหลวลดลงเร็วกว่าผงสีขาว

‘ได้การล่ะ!’ ลู่เซิ่งยินดี

เขาเตรียมจะบีบปราณเหลวหยดใหม่ออกมาอีก แต่ภาพอันแปลกประหลาดก็ปรากฏขึ้น

วิชาเก้าพิฆาตแดงฉานที่ถูกใช้ปราณเหลวไปหนึ่งหยด ฟื้นฟูกลับมาโดยสมบูรณ์ในทรวงอกที่เขาเอาไว้เก็บปราณเหลว

‘ปราณขวดสมบัติชดเชยให้เหรอ’ ลู่เซิ่งไปตรวจสอบปราณเหลวของปราณหยินหยางกระเรียนหยกขวดสมบัติ ทว่ามันไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อยนิด ยังคงอยู่ในสภาพสิบหยดอย่างสมบูรณ์

ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าปราณมารของตัวเองลดลงไปหนึ่งส่วน

‘หรือว่า…’ เขาลืมตาโพลง ‘ร่างมารสดับสงัดของสำนักมารกำเนิดนี้ใช้ฟื้นฟูปราณภายในได้’

เขาไม่ยอมเชื่อง่ายๆ จึงทดลองดูอีกครั้ง nᴏᴠᴇʟɢu.cᴏm

ปราณเหลวของวิชาเก้าพิฆาตแดงฉานหนึ่งหยดถูกเขาบีบออกมา แล้วหยดลงบนผงสีขาวอีกครั้ง

ซู่…

ผงสีขาวหายไปไวกว่าเดิม ไม่นานก็เหลือแค่นิดหน่อย

และลู่เซิ่งก็พบว่าตำแหน่งที่ตนเพิ่งบีบปราณเหลวออกมา มีปราณเหลวหยดใหม่ผนึกตัวจากความว่างเปล่าขึ้นมาอีกหนึ่งหยด

ปราณมารกำเนิดหายไปหนึ่งส่วน ทว่าสำหรับร่างมารสดับสงัด การสิ้นเปลืองเล็กๆ น้อยๆ นี้แทบจะชดเชยกลับมาได้ในเวลาเพียงพริบตา

‘สุดยอดจริงๆ!’ ลู่เซิ่งตะลึงลาน หลังจากพลังฝึกปรือพันปีของเขาระเบิดและเผาไหม้ด้วยพลังทั้งหมด อานุภาพอันแน่นอนจะทวีขึ้น กระนั้นการชดเชยปราณภายในต่อจากนั้นก็เป็นงานช้างเช่นกัน อย่างน้อยต้องใช้เวลาหลายวันถึงจะฟื้นฟูได้โดยสมบูรณ์

ทว่าตอนนี้มีปราณมารกำเนิดชดเชยให้ คำนวณตามความจุสำรองของร่างมารสดับสงัดโดยเทียบกับจำนวนปราณมารกำเนิดที่เพิ่งหายไป ลู่เซิ่งคำนวณได้อย่างแม่นยำมากว่า อย่างน้อยเขาต้องระเบิดพลังยี่สิบครั้ง จึงจะใช้ปราณมารกำเนิดจนหมดในพริบตา นี่ยังเป็นในสถานการณ์ที่ร่างมารสดับสงัดไม่ฟื้นฟูโดยอัตโนมัติอีกด้วย

อีกทั้งในความเป็นจริง ความสามารถฟื้นฟูของร่างมารร่างนี้ก็เกินขีดจำกัดไปมาก รอหลังจากระเบิดพลังไปยี่สิบครั้ง ร่างมารจะฟื้นฟูพลังกลับมามากกว่าครึ่ง

แทบหมุนเวียนได้โดยไร้ขีดจำกัด ขอแค่มีปราณมารที่มารหยินกักเก็บไว้มากพอก็พอ

ในความเป็นจริง ปราณมารกำเนิดที่ร่างมารสดับสงัดกักเก็บไว้ อาศัยมารหยินเป็นการกักเก็บภายนอก และมารหยินทั้งเก้าของลู่เซิ่ง ก็มีความจุเหนือกว่าคนอื่นๆ ชนิดไม่ปรากฏในอดีตและในอนาคตที่จะตามมา ย่อมบรรลุระดับที่แปลกประหลาดแบบนี้ได้

‘ดูเหมือนร่างมารสดับสงัดนี้จะไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เราจินตนาการไว้ มีประโยชน์เยอะแยะทีเดียว’ ลู่เซิ่งไม่ได้ทดลองอีก ผงสีขาวของอาวุธศักดิ์สิทธิ์เหลืออยู่ไม่มากแล้ว เขาได้ผลลัพธ์การคำนวณเทียบโดยพื้นฐานแล้ว

เขาได้แบ่งผงสีเทาขาวออกเป็นสิบส่วน แยกเป็นสิบหน่วยจากหน่วยที่เขากำหนดขึ้นเอง

พลังปฐมที่ผงสีขาวหน่วยหนึ่งมีอยู่สามารถทำลายปราณหยินได้ยี่สิบห้าหน่วย และนี่ก็เป็นพลังรังสีของอาวุธศักดิ์สิทธิ์หลังจากอ่อนแอลงแล้วหลายวัน

‘ไม่ใช่ของระดับเดียวกันจริงๆ’ ลู่เซิ่งยอมแพ้แล้ว

นี่หมายความว่าอย่างน้อยเขาต้องควบแน่นปราณเหลวของตนเอง จนแข็งแกร่งเป็นยี่สิบห้าเท่าของตอนนี้ ถึงจะบรรลุระดับของพลังที่อาวุธศักดิ์สิทธิ์ทิ้งไว้จนอ่อนแอลง

การทำให้ปราณเหลวแข็งแกร่งขึ้น ก็จำเป็นต้องมีกายเนื้อที่แข็งแกร่งกว่าเดิมเช่นกัน และกายเนื้อของเขาในตอนนี้ก็แข็งแกร่งจนถึงขีดจำกัดที่จะจินตนาการออกอีกแล้ว

‘เราต้องใช้กายเนื้อที่แข็งแกร่งกว่าเดิม อย่างน้อยยี่สิบห้าเท่าสำหรับเศษพลังปฐมที่อ่อนแอลง อย่างนั้นเศษพลังปฐมล่ะ พลังปฐมที่แท้จริงล่ะ’ ลู่เซิ่งเกิดความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรกในใจ

หากต้องการจะบรรลุถึงระดับนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะต้องใช้พลังอาวรณ์ขนาดไหน

‘มีแค่พลังปฐมถึงจะต้านทานพลังปฐมด้วยกันได้ อย่างนั้นเราก็ต้องหาพลังปฐมที่เหมาะกับเราที่สุด บางทีต้องศึกษาพลังปฐมให้กระจ่างว่าเป็นอะไรกันแน่’ ลู่เซิ่งถอนใจเฮือกหนึ่ง ‘รวมถึงว่าความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดของพลังปฐมกับพลังทั่วไปอยู่ตรงไหนด้วย’

ควันขาวแผ่กระจายในถ้ำ ลู่เซิ่งนั่งใคร่ครวญไตร่ตรองอยู่บนพื้นชั่วขณะ

‘พลังของมารที่จะต้านทานพลังปฐมได้ ควรเป็นระดับเดียวกับพวกมัน บางทีคงเป็นพลังปฐมอีกประเภทหนึ่ง อย่างนั้นทำไมวิชาลับมารกำเนิดที่เลียนแบบพลังของมารจึงตกต่ำถึงขั้นพลังกำเนิดทั่วไปกัน’

เขานึกถึงตัวตนที่ถูกดาบผนึกเอาไว้ ซึ่งได้เจอในตำหนักวิชาลับขึ้นมา

‘มันอาจจะรู้คำตอบก็ได้’

พอคิดถึงตอนนี้ เขาก็ลุกขึ้นอย่างอดรนทนไม่ไหว แล้วออกจากถ้ำ กลับคืนสภาพหยินโชติช่วงพร้อมกับวิ่งไปยังทิศทางของตำหนักวิชาลับ

ลู่เซิ่งไม่หยุดเลยระหว่างทาง ไม่นานก็ไปถึงด้านหน้าตำหนักวิชาลับ

มีศิษย์ที่เข้ามาใหม่สองคนเฝ้าอยู่ด้านนอกตำหนักวิชาลับ เมื่อเห็นลู่เซิ่งก็รีบทักทาย ลู่เซิ่งยิ้มพร้อมกับให้กำลังใจ

“ลำบากแล้วศิษย์น้องทั้งสอง”

“นี่เป็นสิ่งที่พวกเราควรกระทำ ศิษย์พี่กล่าวหนักไปแล้ว” คนหนึ่งยิ้มตอบ

ลู่เซิ่งพยักหน้า แล้วสาวเท้าเดินเข้าประตูตำหนักวิชาลับ ด้านในยังคงมีหนามแหลมซึ่งงอกขึ้นมาบนดิน โซ่ที่อยู่ด้านบนสะอาดเอี่ยม คล้ายได้รับการทำความสะอาดมาแล้วรอบหนึ่ง

เขาเดินไปถึงหน้าประตูตำหนัก แล้วผลักเบาๆ ประตูใหญ่ค่อยๆ เปิดเป็นร่องแยก จากนั้นเขาก็รีบพุ่งตัวเข้าไป

ลู่เซิ่งเดินทะลุเขตทุกเขตในตำหนักวิชาลับอย่างคุ้นทาง ไม่นานก็กลับมาถึงห้องเล็กๆ ที่แปลกประหลาดก่อนหน้านี้

ดาบยาวที่อยู่ในห้องยังคงปักอยู่บนหินก้อนใหญ่ตรงกลาง ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน

ลู่เซิ่งสาวเท้าเดินขื้นก้อนหิน ยื่นมือไปจับดาบ จากนั้นก็ค่อยๆ ดึงมันออก

ซู่…

ขณะดาบขยับขึ้นด้านบน การสั่นสะเทือนเล็กๆ ก็เริ่มแผ่จากด้านล่างหินก้อนใหญ่ไปยังทั่วห้อง

“ข้า…หลับลึกแล้ว…อ้าว เจ้าอีกแล้ว!” เสียงที่ทุ้มต่ำและชั่วร้ายนั้นพลันโมโห แสดงให้เห็นว่าจดจำลู่เซิ่งได้

“เจ้ามาหยอกล้อข้าอีกแล้วเรอะ?!”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Way of the Devil, Cực Đạo Thiên Ma, Extreme Dao Heavenly Demon, WoD, 极道天魔
Score 9.3
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1213 Chapters (จบแล้ว)
ลู่เซิ่งพนักงานรัฐวิสาหกิจ พบว่าตัวเองมาอยู่ในโลกที่ไม่คุ้นเคย กลายเป็นคุณชายร่ำรวยมีเงินทอง แต่ละวันมีกับข้าวสามมื้อ มีสาวใช้อุ่นเตียง เดิมทีเขาคิดจะใช้ชีวิตสบายๆ แบบนี้ไปจนตาย จนกระทั่งว่าที่น้องเขยของเขาตายอย่างลึกลับหลังจากตรวจสอบคดีประหลาด ทั้งยังถูกฆ่าล้างตระกูล!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset