วันพุธที่ 3 สิงหาคม
เฟยหวงสตูดิโอ
หวงซื่อปั๋วกลับสู่ออฟฟิศหลังจากไม่ได้มาเป็นเวลานาน เขารู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้ามาอีกโลกหนึ่ง
เฟยหวงสตูดิโอฟื้นคืนชีพอีกครั้ง!
หลังจากที่พวกเขาได้รับคำสั่งช็อกบำบัดจากบอสเผย ทุกคนก็สับสนอยู่พักใหญ่ แต่ไม่นานก็พบความหมายที่แท้จริงเบื้องหลัง ‘การช็อกบำบัด’ ของบอสเผย
ซึ่งก็คือการบำบัดสภาพจิตใจที่เสียสมดุลของทุกคน!
ดังนั้นผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อจึงมอบภารกิจให้ทุกคนไปสมัครเรียนคอร์สระดับสูงด้านการกำกับของชั้นปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยฮั่นตง ซึ่งต้องเรียนทุกเสาร์อาทิตย์เป็นเวลาสองปี
ขณะเดียวกัน ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อก็จัดให้มีกิจกรรมการเรียนรู้เสริม เช่น การวิเคราะห์และศึกษาหนังทุกวัน อ่านหนังสือเกี่ยวกับภาพยนตร์และโทรทัศน์ทุกสัปดาห์ เขียนสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ แลกเปลี่ยนประเด็นการเรียนรู้รวมถึงสะท้อนความคิด และอื่นๆ
หลังผ่านช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ ทุกคนก็เข้าใจจุดประสงค์เบื้องหลังการช็อกบำบัดมากขึ้น!
ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้เลยว่าสภาพจิตใจของตัวเองอยู่ในสภาวะไม่สมดุล
เพราะยังไงทุกคนเพิ่งจะไต่เต้าไปถึงยอดสุดและผลิตหนังยอดเยี่ยมอย่างวันพรุ่งนี้ที่สดใสออกมา แถมคนอื่นๆ ก็ชมเชยพวกเขากันยกใหญ่ เพราะงั้นถึงจะมีคนมาบอกว่าพวกเขามั่นใจในตัวเองกันเกินไปก็คงไม่มีใครยอมรับ
แต่ก็เหมือนคำพูดที่ว่า ความสามารถต้องเท่ากับจุดยืนในสังคม มิเช่นนั้นจะเกิดหายนะตามมา
ถ้าพวกเขาติดอยู่ในวังวนความคิดที่ว่า ‘ประสบความสำเร็จได้อย่างราบรื่นและง่ายดาย’ ประกอบกับแรงบันดาลใจที่ค่อยๆ หดหายและพื้นฐานที่ไม่ขยับไปไหน หนังเรื่องต่อไปต้องทำให้จุดยืนของพวกเขาพังครืนลงมาแน่นอน!
ยิ่งเชิดหน้าสูงเท่าไหร่ เป้าหมายที่ตั้งไว้ก็ยิ่งต้องสูงขึ้นตาม แต่ถ้าฝึกฝนและพัฒนาตนได้ไม่มากพอ ก็มีแต่จะล้มเหลวอย่างน่าอนาถ
แต่หลังผ่านการช็อกบำบัด ความคิดของทุกคนก็เปลี่ยนไป
อย่างแรกเลยคือ พวกเขาไม่ถือตัวและอยู่กับความเป็นจริงมากขึ้น
พอได้เรียนรู้จากมืออาชีพ พวกเขาก็พบว่าพื้นฐานของตัวเองนั้นต่ำเตี้ยมาตลอด ขนาดเรื่องพื้นฐานยังเข้าใจไม่ละเอียดดี แค่บังเอิญโชคช่วยทำหนังดังได้เรื่องหนึ่ง ฝีมือแท้จริงยังห่างชั้นจากคนทำหนังชั้นแนวหน้าอยู่มาก
นอกจากนั้นพวกเขายังได้แรงบันดาลใจใหม่ด้วย
ระหว่างช่วงรวบรวมและตกตะกอน ทุกคนได้ไอเดียมากมาย แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ได้ทุกไอเดีย
ผู้ผลิตผลงานสร้างสรรค์มักเคยเจอสถานการณ์ที่คิดว่าผลงานของตัวเองดีและจะฉลองให้กับตัวเอง ยิ่งคิด ก็ยิ่งรู้สึกพึงพอใจขึ้นเรื่อยๆ
แต่หลังจากปล่อยไอเดียนั้นทิ้งไว้สักพักแล้วกลับมารื้อดูใหม่ก็พบว่าไม่ใช่ไอเดียที่ดีเลย ที่คิดว่าดีก็เพราะหลอกตัวเอง
ส่วนใหญ่แล้วมีอยู่สองทางในการหลุดออกจากสถานการณ์นี้
คือต้องโดนรุ่นพี่ในวงการเรียกสติ หรือปล่อยไอเดียทิ้งไว้นานพอที่จะกลับมาดูแล้ววิเคราะห์ได้อย่างมีสติและปราศจากอคติ
ดังนั้นหลังจากปล่อยไว้พักหนึ่ง ทุกคนก็จะได้ไอเดียที่ผ่านการทดสอบของเวลามาแล้ว แรงบันดาลใจก็จะฟื้นคืนมาใหม่
ทำให้พวกเขามีแรงกระตุ้นและกระตือรือร้นยิ่งกว่าเดิม!
ตอนนี้พวกเขาอดในรอที่จะระดมความคิดและวางแนวทางหนังเรื่องใหม่แทบไม่ไหว
ดูจากสีหน้าของทีมงานแต่ละคนที่เพิ่งกลับมาจากการช็อกบำบัดแล้ว หวงซื่อปั๋วก็อดรู้สึกตื้นตันใจขึ้นมาไม่ได้ บอสเผยทำให้ทุกคนกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้จริงๆ!
จะว่าไปก็ใกล้ถึงเวลารายงานสถานการณ์ปัจจุบันกับบอสเผยแล้ว
ถึงบอสเผยต้องจำได้แน่นอนว่าเฟยหวงสตูดิโอจะกลับมาทำงานหลังการช็อกบำบัดเมื่อไหร่ แต่หวงซื่อปั๋วก็คิดว่าควรแจ้งให้บอสรู้สักหน่อยก็ดี ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจความจำของบอส แต่เขาอยากแสดงให้บอสเผยเห็นว่าทุกคนมีไฟในการทำงานและพร้อมจะรับภารกิจใหม่ขนาดไหน
คิดได้แบบนั้น หวงซื่อปั๋วจึงโทรหาบอสเผย
…
เผยเชียนกำลังจิบกาแฟพลางจัดการกับแผนผังความสัมพันธ์อยู่ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
มีเส้นโยงไปหาโมหยูเดลิเวอรี่เพิ่มขึ้น ทำให้เผยเชียนกังวลใจมาก
ตอนนั้นเอง มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่น
พอเห็นว่าหวงซื่อปั๋วเป็นคนโทรมา เผยเชียนก็สะดุ้งโหยงเพราะนึกบางเรื่องขึ้นมาได้
ซวยแล้ว!
เฟยหวงสตูดิโอกลับมาจากการช็อกบำบัดแล้ว!
เขาส่งเฟยหวงสตูดิโอไปช็อกบำบัดในรอบบัญชีก่อนตอนที่ยังไม่รู้ว่ารอบบัญชีถัดไปจะมีระยะเวลาเท่าไหร่ เพราะงั้นเขาเลยคิดจำนวนเดือนขึ้นมามั่วๆ
แต่รอบบัญชีนี้ดันนานกว่ารอบบัญชีที่แล้ว เฟยหวงสตูดิโอเลยกลับจากการช็อกบำบัดก่อนที่จะปิดรอบบัญชี!
จะทำยังไงดี
ถึงจุดนี้เผยเชียนกังวลว่าเฟยหวงสตูดิโอจะสร้างปัญหาให้ด้วยความมั่นใจที่ฟื้นฟูกลับขึ้นมาใหม่ ตอนนี้เหลืออีกไม่ถึงสองเดือนจะถึงวันปิดบัญชี ถ้าเฟยหวงสตูดิโอเริ่มโปรเจ็กต์ใหญ่แล้วทำไม่เสร็จก่อนสิ้นสุดรอบบัญชีนี้ วันปิดบัญชีก็จะถูกเลื่อนออกไป!
เพราะครั้งนี้บริษัท OTTO ใช้โควตาโปรเจ็กต์ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ไปแล้วในการตั้งห้องวิจัยอัลกอริทึมมือถือ
“ใจเย็น
“ฉันหยุดพวกเขาได้ด้วยพลังการพูดโน้มน้าวของตัวเอง”
เผยเชียนรีบสงบใจลง เพราะยังไง การพูดหลอกล่อพนักงานก็ง่ายกว่าการพยายามขาดทุน เป็นเรื่องที่เขาทำจนชินไปแล้ว
เขากดรับสาย “ว่าไง”
เสียงตื่นเต้นของหวงซื่อปั๋วดังขึ้นจากปลายสาย “บอสเผยครับ เฟยหวงสตูดิโอกลับมาทำงานอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ!
“การช็อกบำบัดของบอสได้ผลดีมากเลยครับ พวกเราทุกคนอัดแน่นไปด้วยแรงบันดาลใจและไฟในการทำงาน ตอนนี้กำลังจะเริ่มระดมความคิดกันเพื่อตัดสินใจว่าจะทำหนังเรื่องต่อไปออกมาแบบไหนดี!
“บอสพอจะมีเวลาว่างมาช่วยแนะนำแนวทางพวกผมมั้ยครับ”
เผยเชียนผงะไป
นี่ลับมีดกันซึ่งๆ หน้าเลยเรอะ!
ไอ้พวกนี้คิดจะถ่ายหนังกันจริงๆ ด้วย
ไม่มีทางซะล่ะ เหลืออีกแค่สองเดือนจะถึงวันปิดบัญชีแล้ว บทก็ยังไม่มี หนังไม่มีทางออกฉายก่อนวันปิดบัญชีได้แน่ ถ้าเริ่มโปรเจ็กต์ตอนนี้จริงๆ ความพยายามทั้งหมดของเขาในรอบบัญชีนี้ก็จะสูญเปล่า!
เพราะทุกครั้งที่กำหนดวันปิดบัญชีแล้ว เผยเชียนก็จะพยายามขาดทุนให้ได้ตามวันที่กำหนด พอใกล้ถึงวัน เขาจะผลาญเงินให้ได้มากที่สุดเพื่อทำให้ตัวเองขาดทุน
ถ้าวันปิดรอบบัญชีเปลี่ยน แล้วจู่ๆ เขาได้เงินก้อนโตมาจากไหนไม่รู้ ก็คงเป็นเรื่องยากมากที่จะขาดทุน
นอกจากนั้น การที่รอบบัญชีล่าช้าออกไปก็หมายความว่าจะเข้ารอบบัญชีถัดไปช้าไปอีก และเงินทุนระบบจะไม่มีการทบให้จนกว่าจะเข้ารอบบัญชีใหม่
เพราะงั้นเผยเชียนจึงไม่อยากให้การปิดบัญชีล่าช้าออกไป เพราะถ้าปล่อยให้เป็นแบบนั้นก็มีโอกาสทำกำไรได้มากกว่า
เขารีบคิดวิธีรับมือทันที
“ห้ามถ่ายหนัง”
หวงซื่อปั๋วผงะไป “เอ่อ… งั้นเป็นออนไลน์ซีรีส์แทนมั้ยครับ”
เผยเชียน “ซีรีส์ก็ไม่ได้ ห้ามทำโปรเจ็กต์อะไรที่ใช้เวลานานเกินไป ให้ทำโปรเจ็กต์เล็กๆ ที่มั่นใจว่าจะเสร็จก่อนวันที่ 20 กันยา”
หวงซื่อปั๋วงงเล็กน้อย “เอ๋ บอสเผยอยากให้ทำโปรเจ็กต์เล็กเหรอครับ มีจุดประสงค์ลึกซึ้งอะไรมั้ยครับเนี่ย พวกผมมีไอเดียอัดแน่นเต็มหัวเลย มันจะเสียของอยู่หน่อยๆ นะครับถ้าให้ทำโปรเจ็กต์เล็ก…”
เผยเชียนอึ้งไป ไอ้พวกนี้มันบ้าพลังเกินไปแล้ว!
เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากพูดหลอกล่อให้หนักขึ้น
เผยเชียนกดเสียงต่ำ “รู้มั้ยว่าทำไมถึงเรียกว่าการช็อกบำบัด พวกคุณเพิ่งฟื้นสภาพ ยังไม่ควรทำอะไรหักโหมเกินไป
“คุณอาจจะคิดว่าตัวเองพลังล้น แต่จริงๆ แล้วยังอ่อนแออยู่ ต้องค่อยๆ ฟื้นฟูและดูแลตัวเองให้ดี เข้าใจมั้ย
“ทำโปรเจ็กต์เล็กๆ ฝึกทักษะและวอร์มมือไปก่อน พอกลับมาพร้อมทำงานเต็มที่เมื่อไหร่ค่อยทำโปรเจ็กต์ใหญ่”
หวงซื่อปั๋วถึงบางอ้อ “อย่างนี้นี่เอง! เข้าใจแล้วครับบอสเผย
“งั้นพวกผมจะทำโปรเจ็กต์เล็กๆ ไปก่อน!
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับบอสเผย!”
หลังวางสายไป เผยเชียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกโนเวลกูดอทคอม
เรียบร้อย
เขาสั่งให้เฟยหวงสตูดิโอทำโปรเจ็กต์เล็กๆ ที่ใช้เวลาไม่ถึงเดือน ซึ่งก็ไม่น่าจะมีพลังทำลายล้างสูง อย่างมากก็เป็นหนังสั้นลงเว็บอ้ายลี่เต่า ทำเงินได้สักแสนสองแสน ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
เงินจำนวนแค่นี้จัดการได้ง่ายๆ
ตอนนี้เขามีต้นผลาญเงินอยู่ในมือแล้ว IOI เซิร์ฟเวอร์จีนจะช่วยเขาผลาญเงิน เงินแค่ไม่กี่แสนถือเป็นเรื่องเล็กน้อย
พอจัดการเรื่องเฟยหวงสตูดิโอได้ เผยเชียนก็รู้สึกสบายใจขึ้นจึงกลับไปทำงานต่อ
สิบนาทีต่อมาก็มีคนวิ่งหน้าตั้งเข้ามาในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
เฮ่อเต๋อเซิ่งถือเอกสารในมือ พอเข้ามาในร้านก็หันมองรอบๆ เพื่อหาบอสเผยและในที่สุดก็เจอคนที่ตามหา
“บอสเผยครับ!”
เฮ่อเต๋อเซิ่งวิ่งมานั่งตรงข้ามบอสเผย
เผยเชียนกดออกจากแผนผังความสัมพันธ์แล้วยื่นโน้ตบุ๊กให้พนักงานร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูเอาไปเก็บ
“ถ้าเรื่องเร่งด่วนทำไมไม่โทรมาหาล่ะ” เผยเชียนโบกมือให้พนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่มให้เฮ่อเต๋อเซิ่ง
เฮ่อเต๋อเซิ่งเช็ดเหงื่อออกจากหน้าผาก “ถ้าคุยทางโทรศัพท์ ผมกลัวว่าจะอธิบายได้ไม่ชัดเจนครับ
“เป็นเรื่องเกี่ยวกับดายักคอร์เปอเรชันน่ะครับ!”
เผยเชียนไม่สะทกสะท้านใดๆ “อ๋อ ได้บอกพวกเขาไปตามที่ผมบอกโดยไม่เปลี่ยนแปลงคำพูดรึเปล่า”
เฮ่อเต๋อเซิ่งพยักหน้า “เรียบร้อยครับ”
เผยเชียน “แล้วอีกฝ่ายมีท่าทียังไง”
เฮ่อเต๋อเซิ่ง “เหมือนจะโกรธจัดเลยครับ”
เผยเชียนยิ้ม ก็เข้าใจได้
บริษัทยักษ์ใหญ่โดนตอกหน้ากลับไปว่า ‘F**K OFF’ จากเถิงต๋าที่ไม่ได้เป็นบริษัทซึ่งมีชื่อเสียงระดับโลกขนาดนั้น ก็ไม่แปลกที่จะเดือดจัด
แต่จะทำอะไรได้
พวกเขาไม่มีทางทำอะไรฉันได้อยู่แล้ว
เหมือนคำพูดที่ว่า หากไม่โลภ ใจย่อมแกร่ง
อย่างแรกสุดเลยคือ เถิงต๋าอยู่ไกลข้ามน้ำข้ามทะเล ไม่มีกิจการไหนที่เกี่ยวข้องกับดายักคอร์เปอเรชันเลยไม่ว่าจะทางไหน
สอง เถิงต๋าไม่ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์และไม่รับการลงทุนจากต่างชาติ
และสาม บอสเผยไม่ได้สนใจเรื่องรายได้ของบริษัท เว้นแต่จะเป็นหลักหมื่นล้านหยวน
ที่ดีที่สุดคือ ถึงดายักคอร์เปอเรชันจะทำให้เถิงต๋าขาดทุน เผยเชียนก็จะส่งซองแดงกลับไปขอบคุณ
ไร้เทียมทานขนาดนี้ มีอะไรให้ต้องกลัวอีก
เผยเชียนจิบกาแฟอย่างสงบใจ “พวกเขาโกรธจัด แล้วไงต่อ”
เฮ่อเต๋อเซิ่งยกนิ้วโป้งขึ้น “พวกเขาติดกับครับ!”
เผยเชียนจิบกาแฟค้างอยู่อย่างนั้น เครื่องหมายคำถามค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนหัว
?
ที่ว่าติดกับคืออะไร
แล้วมาจากไหน
มีกับดักอะไรด้วยเหรอ
เผยเชียนสัมผัสได้ว่ามีอะไรแปลกๆ จากสีหน้าของเฮ่อเต๋อเซิ่ง
ตอนแรกที่เห็นเฮ่อเต๋อเซิ่งวิ่งมา เขาก็คิดว่ามีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้นอีกฝ่ายถึงได้กระวนกระวายขนาดนั้น
แต่พอสังเกตดูดีๆ ก็ดูเหมือนว่าเฮ่อเต๋อเซิ่งจะ…ตื่นเต้นอยู่
เฮ่อเต๋อเซิ่งยื่นเอกสารในมือให้บอสเผยพลางอธิบายอย่างตื่นเต้น “กลยุทธ์ของบอสสุดยอดมากเลยครับ!
“เหมือนขงเบ้งกับจิวยี่[1]เลย!
“ดายักคอร์เปอเรชันอยากซื้อหุ้นกับสิทธิ์ให้บริการ IOI เซิร์ฟเวอร์จีนในราคาห้าสิบล้านเหรียญสหรัฐ แต่พอได้รับข้อความจากบอส พวกเขาก็หัวร้อนกัน!
“การปฏิเสธเด็ดขาดของเราทำให้พวกเขาไม่สามารถซื้อหุ้นได้ด้วยวิธีปกติ
“เพราะงั้นดายักคอร์เปอเรชันเลยตัดสินใจใช้วิธีบังคับขายหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยเพื่อบีบให้เราปล่อยหุ้น Finger Games ทั้งหมดที่ถืออยู่!
“ดายักคอร์เปอเรชันพร้อมทุ่มสุดตัวเพื่อถือหุ้นทั้งหมดของ Finger Games เริ่มจากซื้อหุ้นเกือบ 80% ของ Finger Games โดยเสนอราคาให้สูงๆ เพื่อที่จะให้ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่โหวตบังคับขายหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อย!
“แต่ก็หมายความว่าดายักคอร์เปอเรชันต้องซื้อหุ้นต่อโดยเพิ่มเงินให้ 50-60% จากราคาเดิม เป็นจำนวนที่ไม่มีทางทำได้ผ่านการเจรจาต่อรอง!
“ดายักคอร์เปอเรชันทุนหนามาก เห็นได้ชัดว่ากลยุทธ์ของบอสเผยยุให้พวกเขายอมทำทุกทางเพื่อแย่งหุ้น 20% และสิทธิ์ให้บริการไปจากเราครับ!”
มือที่เผยเชียนถือกาแฟอยู่แข็งทื่อ หัวสมองของเขาขาวโพลน
เชี่ยไรเนี่ย
บังคับขายหุ้น?
มันคืออะไร
พวกเขาแย่งหุ้นที่ฉันไม่ยอมขายได้ด้วยเหรอ
เขาเงียบไปพักหนึ่งก่อนจะถามออกไป “แล้วสุดท้ายเขาเสนอราคามาเท่าไหร่”
เฮ่อเต๋อเซิ่งตอบอย่างตื่นเต้น “พวกเขาเสนอมาเจ็ดสิบสองล้านเหรียญสหรัฐครับ!
“ได้กำไรมาเจ็ดสิบล้านเหรียญสหรัฐจากราคาที่บอสหม่าใช้ซื้อหุ้นไป! เราได้เงินมาห้าร้อยล้านหยวนครับ!”
…………..
[1] ขงเบ้งเป็นนักยุทธศาสตร์ทางทหารของจ๊กก๊ก ส่วนจิวยี่เป็นแม่ทัพของง่อก๊กในยุคสามก๊กของจีนโบราณ ทั้งสองต่างถือเป็นคู่ปรับคนสำคัญของกัน จิวยี่มักวางแผนจัดการขงเบ้ง แต่ขงเบ้งก็ทำลายแผนการของอีกฝ่ายได้ทุกครั้ง