📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี บันทึกตำนานราชันอหังการ – ตอนที่ 435

บทที่ 435 - จังหวะวิถีแห่งสายลม
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ร่างของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงนั้นสูงตระหง่านราวกับต้นสน ซึ่งเมื่อก้าวออกมาจากตำหนัก ตัวเขาผู้นั้นก็ยิ่งดูใหญ่ยิ่งราวกับสามารถกลืนภูเขาและแม่น้ำได้

ห่างออกมา เฒ่าบอดดูเหมือนจะสังเกตเห็นบางอย่าง จึงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและกล่าวว่า “คุณชาย มีบางอย่างแปลก ๆ เกี่ยวกับชายหนุ่มคนนี้”

ซูอี้พูดเบา ๆ “เจ้ารู้สึกว่าอายุของเขาไม่ถูกต้อง? หรือฐานการฝึกฝนไม่ถูกต้องรึ?”

เฒ่าบอดชราพยักหน้า “เป็นเช่นนั้นขอรับ”

“เป็นเรื่องปกติ การผนึกพลังชีวิตและการบ่มเพาะด้วยทักษะลับเพียงพอแล้วที่จะปล่อยให้รอดชีวิตเป็นเวลาเนิ่นนานไม่รู้จบ จนกว่าผนึกจะถูกคลาย จึงจะตื่นจากความเงียบงันได้”

ซูอี้พูดอย่างไม่แยแส “ทว่าทักษะลับเช่นนี้มักถูกใช้โดยผู้ฝึกตนในขอบเขตจักรพรรดิ และการใช้วิชาดังกล่าวไม่เพียงแต่ผลาญวัตถุศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากเท่านั้น แต่ผู้ร่ายเองก็ต้องจ่ายด้วยราคาส่วนหนึ่งด้วย”

“สหายเต๋าช่างมีสายตากว้างไกล!”

ไกลออกไปบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงถูฝ่ามือของเขาขณะเอ่ยชม “ก่อนหน้านี้ข้ายังสงสัยว่าเจ้าเหมือนข้า ต่างเป็นตัวตนที่รอดชีวิตจากพลังของการจองจำแห่งยุคมืดเมื่อสามหมื่นปีก่อน และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ”

เฒ่าบอดอดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะกล่าวอย่างดูถูก “เจ้าหนูน้อย สายตาของเจ้าแย่ยิ่งกว่าเฒ่าบอดเช่นข้าอีก เจ้าน่าจะถูกเรียกว่าคนตาบอดแทนนะ”

ช่างเป็นเรื่องตลกเสียนี่กระไร หากซูอี้เป็นผู้รอดชีวิตจากความเงียบสงัดหลายปีไม่รู้จบ ด้วยพลังของโคมไฟผี เขาย่อมสามารถสัมผัสได้ทันที!

“ไม่ใช่หรือ?”

บุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงเลิกคิ้วราวกับประหลาดใจ

ชายหนุ่มส่ายหัวทันทีและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ตอนนี้ไม่สำคัญอีกแล้ว”

“สำหรับคนที่กำลังจะตาย สิ่งเหล่านี้ไม่สำคัญจริง ๆ”

ซูอี้เอ่ยพลางสาวเท้าไปข้างหน้า

ดวงตาของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงเปล่งประกายแสงสีม่วงขณะจ้องมองไปยังซูอี้ที่กำลังใกล้เข้ามา “เจ้าต้องการลงมือรึ? ก็ดี ข้าเองก็อยากเห็นว่าเจ้าแข็งแกร่งแค่ไหนกัน!”

ขณะที่พูด แขนเสื้อของเขาโป่งพองขึ้นมา ก่อนจะพลันเงื้อมือขึ้นฟาดตบไปยังอากาศ

ในอากาศ เงาร่างฝ่ามือสีม่วงที่มีพลังของจังหวะวิถีพลุ่งพล่านได้ก่อตัวขึ้นและเข้าปกคลุมท้องฟ้าพุ่งไปทางซูอี้

ตูม!

แสงวิถีสั่นสะท้านและอากาศก็ปั่นป่วน

มันเป็นเพียงฝ่ามือหนึ่ง แต่คล้ายสวรรค์ถล่มใส่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งพลังเช่นนั้นสามารถคุกคามกระทั่งชีวิตของผู้คนในขอบเขตรวบรวมดาราได้

ซึ่งต้องรู้ก่อนว่าฐานการฝึกฝนของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงอยู่ที่ขอบเขตเปิดทวารเท่านั้น!

“สมเป็นบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิง!”

เลี่ยนเหลิ่งเยว่และผู้ฝึกฝนจากพรรคมารหยินคนอื่น ๆ มองดูจากไกล ๆ ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ

ตูม!

เมื่อรอยฝ่ามือสีม่วงฟาดลงมา ซูอี้ไม่แม้กระทั่งเหลือบมอง ด้วยการตวัดฝ่ามือหนึ่งหน ดุจมีดตัดลงบนเต้าหู้ รอยฝ่ามือสีม่วงพลันแยกออกเป็นสองส่วนและระเบิดกลางอากาศ

“นี่…”

เลี่ยนเหลิ่งเยว่ และคนอื่น ๆ หรี่ตาลง

เฒ่าบอดถอนหายใจพลางชมเชย “ช่างเป็นฝ่ามือมีดที่ยอดเยี่ยมอะไรอย่างนี้! ดูเหมือนเรียบง่าย หากแต่มีพลังไร้เทียมทาน ช่างน่าทึ่ง น่าทึ่งยิ่งนัก!”

นี่ไม่ใช่คำประจบ ก่อนนี้แม้ชายชราตาบอดจะเดาว่าซูอี้กับ ‘คนทวงหนี้’ มีความเกี่ยวข้องกัน แต่เขาก็ยังไม่เคยเห็นซูอี้ลงมือสักครา

ยิ่งกว่านั้นซูอี้ยังอยู่เพียงขอบเขตไร้เบญจธัญเท่านั้น ทำให้ยากที่เฒ่าบอดจะปฏิบัติต่อซูอี้ในฐานะยอดฝีมือ

แต่ตอนนี้ เมื่อ ‘เห็น’ การโจมตีของซูอี้ ในที่สุดเฒ่าบอดก็ตระหนักได้ว่า เมื่อเทียบกับผู้ฝึกฝนวิถีต้นกำเนิดในโลกนี้ ธาตุวิถีและพลังของซูอี้สามารถอธิบายได้เพียงว่าสัตว์ประหลาดเฒ่า!

“น่าสนใจ”

นัยน์ตาของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงเป็นประกาย ร่างของเขาลอยอยู่ในอากาศ ก่อนจะลงมืออีกครั้งโดยไม่ลังเล

ตูม!

เขาพลิกฝ่ามือฟาดออกไปข้างหน้า ปราณสีม่วงพลันปรากฏขึ้นในอากาศ แสงสว่างไหลวน ท่ามเสียงคำรามกึกก้อง ภาพมายาของภูเขาและแม่น้ำกวาดไปทั่วท้องฟ้า เข้ากดข่มซูอี้อย่างไร้ความปรานี

ราวกับเทพเซียนที่เคลื่อนย้ายภูเขาและแม่น้ำแล้วโยนพวกมันเข้ามาในโลก!

ต้องบอกว่าบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงผู้นี้แข็งแกร่งมากจริง ๆ เหนือยิ่งกว่าผู้ฝึกตนในขอบเขตเดียวกัน และยังทำให้ผู้คนในขอบเขตรวบรวมดาราต้องก้มศีรษะลงอีกด้วย!

แต่ในสายตาของซูอี้ ธาตุวิถีของคนผู้นี้มากสุดก็แค่คล้ายคลึงกับ ‘กู่ชางหนิง’ เท่านั้น!

เห็นเช่นนั้นแล้วซูอี้ก็ไม่แม้แต่จะมอง เขาตวัดฝ่ามืออีกครั้ง

ฉัวะ!

ภาพมายาของภูเขาสูงตระหง่านและแม่น้ำที่ไหลลงมาจากท้องฟ้าเป็นเสมือนฟองสบู่ที่ถูกฉีกออกเป็นชิ้น ๆ

ท่ามกลางแสงที่กระจัดกระจาย ทันใดนั้นร่างของซูอี้ก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงจากในอากาศ และตบออกไปด้วยฝ่ามือที่แผ่วเบา

นี่ดูเหมือนจะเป็นฝ่ามือที่แผ่วเบา หากความจริง กระทั่งผู้ฝึกตนขอบเขตรวบรวมดาราก็ต้องถูกตบจนกลายเป็นก้อนโคลน

ฟึบ!

โดยไม่คาดคิด ร่างของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงหายไปในอากาศราวกับว่าได้ระเหยไปจากโลก ทำให้ฝ่ามือของซูอี้พลาดเป้าไป

“คนเล่า?”

ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นตกใจและมองไปรอบ ๆ ทว่าแม้จะมีจิตสัมผัส พวกเขาก็ไม่สามารถจับรัศมีของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงได้เลย

“ช่างเป็นทักษะการหลบหนีและซ่อนเร้นที่แข็งแกร่งจริง ๆ!”

สีหน้าของเฒ่าบอดเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะในขณะนี้ แม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู้สึกถึงร่องรอยของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงเช่นกัน!

ไม่ต้องสงสัยว่าฉากที่แปลกประหลาดนี้น่าขนลุกเพียงใด

ฉัวะ!

ทันใดนั้น พลันมีสายลมกระโชกแรงดังขึ้นในอากาศข้างกายซูอี้

ที่รวดเร็วกว่าเสียงลมก็คือปลายหอกสีม่วงโปร่งใสซึ่งเกือบแทงเข้าที่หลังของซูอี้

หากเปลี่ยนผู้ฝึกฝนคนอื่น เมื่อเผชิญกับการโจมตีนี้เกรงว่าคงไม่ทันจะไหวตัว ยากจะต้านรับ

แต่คล้ายซูอี้จะมีตางอกเงยอยู่ข้างหลัง ร่างของเขาขยับเท้าไปข้างหนึ่ง และนิ้วชี้ขวาก็พลันชี้ไปยังความว่างเปล่าเบื้องหน้า

เปรี้ยง!!

ราวกับถูกฟ้าผ่า ปลายหอกสีม่วงส่งเสียงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เกิดประกายไฟบินว่อนไปทุกที่

ไม่ไกลนักในอากาศ ร่างของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงเดินโซเซออกมา โดยบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาปรากฏความเคร่งขรึมขึ้น

ทุกคนตกใจเมื่อเห็นเช่นนี้

เห็นกันอยู่ว่าทักษะการซ่อนตัวของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงแปลกประหลาดและทรงพลังเพียงใด ผู้ใดจะคิดว่ามันจะถูกสกัดลงเช่นนี้?

“หลอกล่อให้ศัตรูลงมือก่อนโต้กลับ วิเศษมาก!”

เฒ่าบอดปรบมือเข้าหากันพร้อมร้องชมเชย

สีหน้าบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงดูไม่ดีนัก หอกยาวของเขาเปล่งประกายด้วยปราณสีม่วง และความคมของมันทะลวงได้แม้แต่ท้องฟ้า เห็นได้ชัดว่าเป็นสุดยอดศาสตรา!

แต่เมื่อเผชิญหน้ากับซูอี้ เขากลับดังเจอกับศัตรูตัวฉกาจ!!

“ข้ายังคิดว่าเจ้ามีทักษะที่ยอดเยี่ยมเพียงใด ที่แท้ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเรียนรู้ทักษะซ่อนตัวที่เกี่ยวข้องกับจังหวะวิถีของสายลม”

มันมีร่องรอยของการดูถูกปรากฏบนริมฝีปากของซูอี้ ก่อนเขาจะฟาดฝ่ามือออกไป

ฟึ่บ!

ร่างของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงหายไปอีกครั้ง

ซูอี้เลิกคิ้วเล็กน้อย จังหวะวิถีของสายลมนั้นพิเศษมาก เพราะสายลมนั้นมองไม่เห็น เมื่อใช้เป็นทักษะซ่อนตัว มันจะเป็นดังสายลมที่ล่องลอยอย่างอิสระท่ามกลางฟ้าดิน ตราบใดมีอากาศไหลเวียน สายลมก็จะปรากฏได้ทุกที่ ดังนั้นจิตสัมผัสของผู้ฝึกตนทั่วไปจึงไม่อาจรับรู้ถึงร่างของอีกฝ่ายได้เลย

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับซูอี้ ในมือของเขามีหลายวิธีที่จะบีบให้อีกฝ่ายแสดงตัวออกมา

ทว่า เขาไม่ได้ทำ

หากทำเช่นนั้น มีโอกาสอย่างยิ่งที่อีกฝ่ายจะสังเกตเห็นความผิดปกติและฉวยโอกาสหลบหนีไป

หากคนที่ควบคุมจังวิถีแห่งลมต้องการหลบหนี การจะรั้งตัวไว้ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

ชี่! ชี่! ชี่!

ทันใดนั้น ก็มีเสียงลมดังมาจากทุกทิศทางที่ซูอี้ยืน

“ตายซะ!” เสียงโห่ร้องดังก้อง

แทบจะในเวลาเดียวกัน ภายใต้การจ้องมองอย่างตกใจของทุกคน หอกสีม่วงนับร้อยพลันปรากฏขึ้นราวกับพายุฝน และเสมือนฝูงอุกกาบาตสีม่วงที่เข้าปกคลุมท้องฟ้า ปล่อยพลังสังหารอันน่าสะพรึงโถมเข้าใส่อากาศจุดที่ซูอี้ยืนอยู่โนlวลกูดอทคoม

ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือไพ่ตายของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิง!

แต่ในเวลานี้ ซูอี้ยิ้มและพูดว่า

“ข้าจับเจ้าได้แล้ว”

ตูม!

ร่างสูงของเขาพลันร่อนลง ก่อนหอกสีม่วงมากมายจะระเบิดขึ้นในท้องฟ้า และร่วงหล่นสลายไปราวกับสายฝนโปรย!

แทบจะในเวลาเดียวกัน ซูอี้ได้พุ่งขึ้นไปในอากาศ ซึ่งฝ่ามือที่เสมือนดาบของเขาพลันฟันออกไป

ปราณดาบสีใสวาดไปทั่วท้องฟ้า กลายเป็นปราณดาบขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วนราวกับปลาน้อยแหวกว่ายเข้ากลืนกินความว่างเปล่า

ข้ามีดาบเล่มหนึ่งก้าวย่างไปทั่วสิบทิศ จากสุดเหนือฟ้าครามยันแดนน้ำพุเหลือง!

เพลงดาบสุดปรีดี… ทัศนาสิบทิศ!

ในความว่างเปล่าปรากฏรอยดาบแทงพรุนดังรังแตน แน่นขนัดราวกับไม่มีที่สิ้นสุด

ตูม ๆ!

เสียงระเบิดดังสนั่นดังขึ้น ซึ่งในความว่างเปล่า เงาของปืนนั้นหนักหน่วง ต่อต้านปราณดาบที่มาจากฟากฟ้าอย่างต่อเนื่อง

และร่างของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงก็ถูกบีบต้อนให้ออกมาเช่นกัน

ยามนี้ราวกับว่าเขากำลังเผชิญหน้ากับพายุรุนแรงจากทั่วสารทิศ ปราณดาบพุ่งเข้าฟันยังหัวจรดเท้า แสงเย็นอันดุร้ายทิ่มแทงผู้คนจนถึงจุดที่ไม่อาจลืมตา

ทว่าบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงไม่ใช่ผู้ฝึกตนทั่วไป ในการเผชิญกับการสังหารเช่นนี้ หอกสีม่วงกวัดแกว่งจนแม้แต่น้ำก็ไม่อาจซึมเข้า และไม่ได้รับบาดเจ็บใด ๆ

แต่ก่อนที่เขาจะจัดการกับการโจมตีนี้ ซูอี้ก็ได้ฟันขึ้นไปในอากาศ ฝ่ามือของชายหนุ่มเสมือนดาบฟันตรงเข้าหาตัวเนี่ยเฟิง

เพลงดาบสุดปรีดี… ตัดสมุทรผ่าขุนเขา!

ปราณดาบอันน่าสะพรึงกลัวดุจทะลวงสวรรค์ได้ปกคลุมโลกไว้คล้ายดังจะกวาดล้างจักรวาลให้สิ้น ซึ่งมันทรงพลังจนทำให้ผู้คนที่มองดูจากไกล ๆ ทั้งหวาดกลัวและสิ้นหวัง

“ไม่ดีแล้ว!”

สีหน้าบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่เมื่อคิดจะหลบก็สายเกินไป ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงพยายามต้านรับ

แกร๊ง!!!

ปราณดาบปะทะกับหอกสีม่วงทำให้เกิดการระเบิดที่ทำให้โลกสั่นสะเทือน ก่อนเป็นหอกสีม่วงที่กระเด็นไป

ด้วยการระเบิดนี้ ส่งผลให้ร่างของบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงกระแทกเข้ากับพื้น ซึ่งพื้นดินจุดนั้นทรุดตัวลงจนเป็นรูขนาดใหญ่แตก

ฟุบ!

เขากระอักเลือดออกมา ซึ่งไม่รู้ว่ากล้ามเนื้อและกระดูกของเขาแตกหักฉีกขาดไปเท่าไร ทั่วร่างของเขาอาบไปด้วยโลหิต

ผู้ชมต่างเงียบงัน

ด้วยดาบเล่มเดียว บุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงก็ถูกบดขยี้ลง!!

ฉากนั้นทำให้เลี่ยนเหลิ่งเยว่และผู้ฝึกฝนพรรคมารหยินคนอื่น ๆ ต่างหนังศีรษะชาวาบเสมือนตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง

“วิชาดาบเช่นนี้… รุนแรงเกินไปแล้ว…”

เฒ่าบอดอดอ้าปากค้างไม่ได้

นึกย้อนถึงตัวเองยามที่อยู่ขอบเขตไร้เบญจธัญ เขาเองก็ดูถูกพวกในภูมิมืดมิดที่อยู่ในขอบเขตเดียวกันส่วนใหญ่เช่นกัน เนื่องจากตัวเขาถูกมองว่าเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งการฝึกฝนเชื้อสายผีโคมไฟที่ยากจะพานพบในรอบพันปี

แต่เมื่อเทียบกับซูอี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าเขาด้อยกว่ามาก!

ในเวลานี้ ซูอี้ไม่ยั้งมือ จากนั้นเขาก็ลงมือสังหารบุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงอีกครั้ง

รูปร่างสูงสง่าของเขาเหยียดตรงราวกับเทพเซียนที่ถูกเนรเทศ ดูอหังการไร้เทียมทาน

ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ บุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงพลันบดฟันอย่างแรง ก่อนอ้าปากและพ่นออกมาทันที

พรวด!

แสงสีเงินปรากฏขึ้น

เมื่อมองใกล้ ๆ มันคือลูกปัดวิญญาณเม็ดหนึ่งซึ่งผิวถูกปกคลุมไปด้วยลวดลายเต๋าที่บิดเบี้ยวและแปลกประหลาด ทันทีที่มันถูกโยนออกไป รัศมีการทำลายล้างอันน่าสะพรึงก็แผ่ขยายออกไป

ม่านตาของซูอี้หดลงเล็กน้อย ร่างที่พุ่งออกไปก็หยุดลง ก่อนจะถอยหนีไปให้ไกล

ตูม!

ระยะร้อยจั้งระหว่างฟ้าดินพลันมีเสียงคำรามดังขึ้น ก่อนที่เปลวไฟสีเงินศักดิ์สิทธิ์อันน่าสะพรึงกลัวจะพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำให้เกิดกระแสพลังปั่นป่วน และเมฆบนท้องฟ้าก็ถูกบดขยี้และกระจัดกระจายออก

เมื่อฝุ่นควันฟุ้งกระจายไปจนหมด ตัวตำหนักอันงดงามนี้และบริเวณด้านหน้าของตำหนักก็พลันกลายเป็นเศษซากที่ไหม้เกรียม!

พลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวนี้ทำให้เลี่ยนเหลิ่งเยว่และคนอื่น ๆ ที่กำลังดูการต่อสู้จากระยะไกลต้องตกใจ ก่อนพวกเขาจะพากันถูกซัดกระเด็นออกไป

ไม่ใช่ว่าไม่อยากหลบ แต่พวกเขาไม่มีเวลาให้หลบเลย!

ในลาน ร่างของซูอี้ยังคงไม่ได้รับบาดเจ็บ มีเพียงคิ้วของเขาที่ย่นเข้าหากัน

บุตรสวรรค์เนี่ยเฟิงได้ใช้โอกาสนี้หลบหนีไปแล้ว!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
บันทึกตำนานราชันอหังการ

บันทึกตำนานราชันอหังการ

First Immortal of The Sword, Fis, Jiandao di yi xian, Supreme sword god (donghua), 剑道第一仙
Score 8.8
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: ,
เสียงคำรามกราดเกรี้ยวดังเลือนลั่นฟ้า การจากไปของผู้ยิ่งใหญ่นำมาซึ่งความโกลาหนทั่วเก้ามหาแดนดิน เหล่าคนละโมบต่างคิดหมายแย่งชิงสิ่งวิเศษที่ผู้เป็นยอดปรมาจารย์เคยปกครองยุคสมัยครอบครอง ทว่านั่นหาใช่จุดจบ แต่มันคือจุดเริ่มต้น! แท้จริงแล้วภายในโลงสัมฤทธิ์ มันว่างเปล่า! ไร้ศพ ไร้คน และไร้ซึ่งดาบเก้าคุมขัง!!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset