“หนีไปกันก่อนเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับพวกคุณ ไว้เราค่อยมาพูดคุยกันทีหลัง” กล่าวจบกู่ฉิงซานก็ก้าวออกจากบาร์
และความรุนแรงของค็อกเทลที่แอนนาพึ่งได้ดื่มไปที่ดูเหมือนว่าจะกำลังออกฤทธิ์ ทำให้ภาพของกู่ฉิงซานเปล่งประกายเจิดจ้าอย่างพร่ามัว
“เขาดูหล่อจัง” เธอบ่นงึมงำด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยสีสัน
วอนฟอร์ดกล่าว “ฝ่าบาท มีหลายคนกำลังมาที่นี่ พวกเรารีบหนีไปกันก่อนเถอะ”
“จะจากไปโดยทิ้งโอกาสดีๆ แบบนี้น่ะเหรอ” แอนนากล่าว “เริ่มทำการประเมินทันที”
วอนฟอร์ดยิ้มอย่างขมขื่น “ช่วงเวลานี้กำลังจะเกิดการต่อสู้ขึ้น รีบไปก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิมเถิด ในกรณีที่คุณถูกพบตัว มันจะมีผลกระทบร้ายแรงกับทางการทูต”
สีหน้าของแอนนาเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เธอมองไปยังอีกฝ่ายแล้วกล่าวอย่างจริงจัง “งานของเราคือการตรวจสอบว่าสิ่งสำคัญที่เทพธิดากงเจิ้งกำลังทำคืออะไร และกู่ฉิงซานก็คือกุญแจที่จะใช้ไขความลับนั้น”
เธอเอ่ยอีกประโยคสั้นๆ “พระบิดากำลังรอคำตอบจากเราอยู่”
“พ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าของวอนฟอร์ดดูฮึกเหิมขึ้น ก่อนจะยกเครื่องจักรขนาดเล็กที่อยู่ด้านหลังของบาร์ วางลงบนพื้นและเปิดระบบทำงานอย่างรวดเร็ว
“ตรวจพบระดับความผันผวนโมเลกุลชีวิตของกู่ฉิงซาน ดาวน์โหลดลักษณะทางชีวภาพ ทำการล็อกเป้าหมาย เริ่มกระบวนการสังเกตการณ์ คำสั่ง : สองเจ็ดศูนย์อุปกรณ์สังเกตการณ์และดาวเทียมเตรียมประจำตำแหน่ง”
“ประจำที่เรียบร้อย” เสียงที่แตกต่างออกไปมากมายดังขึ้นจากเครื่องมือสื่อสาร
“ดาวเทียมสอดแนมบนท้องฟ้าพร้อมเข้าประจำการแล้ว” เสียงอิเล็กทรอนิกส์ดังขึ้น
“ดีมากสหาย ภารกิจนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทำงานได้ตามปกติ”
“รับคำสั่ง ท่านหัวหน้า”
“ถ้าอย่างงั้นก็เริ่มกันเลย” วอนฟอร์ดกดลงบนปุ่มยืนยัน
“การประเมินรวบรวมข้อมูลของผู้มีพรสวรรค์ระดับมืออาชีพได้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ และระบบจะเริ่มทำการเก็บข้อมูล”
“ณ วันที่ 27 เมษายน 3091 เวลา 21.97 นาที พลเมืองของรัฐบาลกลาง กู่ฉิงซาน เพศชาย อายุสิบแปดปี เริ่มต้นการประเมินศักยภาพส่วนบุคคล”
ขณะนี้ปรากฏม่านจอแสงขึ้นเบื้องหน้าทั้งสอง เป็นฉากมุมสูงที่กู่ฉิงซานกำลังเดินออกจากบาร์
ดูเหมือนว่าคนที่อยู่บริเวณโดยรอบจะถูกอพยพออกไปแล้ว นั่นหมายถึงจะไม่มีใครสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนถนนที่ว่างเปล่าแห่งนี้ได้
เสียงไซเรนดังขึ้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ และในท้องฟ้าก็ปรากฏรถลาดตระเวนสี่คันบินตรงมาอย่างรวดเร็ว
ทว่าแม้รถเหินเวหาทั้งสี่จะยังมาไม่ถึง แต่เสียงป่าวประกาศกลับดังกึกก้องไปทั่วทั้งบริเวณ
“ขอย้ำ ตอนนี้คุณถูกต้องสงสัยเกี่ยวกับคดีฆาตกรรม โปรดยืนอยู่กับที่ห้ามเคลื่อนไหว มิฉะนั้นเราจำเป็นต้องดำเนินการมาตรการขั้นถัดไป”
กู่ฉิงซานยืนอยู่นิ่งๆ ขณะเดียวกันก็จ้องมองรถเหินเวหาอย่างใจเย็น
ทันใดนั้น หนึ่งในรถเหินเวหาก็กะพริบแสงสีแดงวาบ ดึงดูดความสนใจจากกู่ฉิงซาน
“มาถึงก็เปิดใช้งานเลเซอร์ล็อกเป้าเลยสินะ” กู่ฉิงซานมองมันอย่างสงบ
แน่นอนว่าในวินาทีต่อมาหลังจากที่มันถูกเปิดใช้งาน ปืนปฏิกรอาร์คขนาดเล็กก็โผล่ออกมาจากใต้ท้องรถเหินเวหา
ตามมาด้วยแสงสีฟ้าที่ตัดลงมาจากท้องนภา เกิดประกายไฟ ปืนปฏิกรอาร์คยิงลงถล่มถนนจนเกิดเป็นหลุมลึก
ฝุ่นควันลอยว่อนไปทั่ว
บนท้องฟ้า รถเหินเวหาได้ถูกส่งคำถามเข้ามา “แจ้งเตือนหมายเลขหนึ่งเจ็ดสองศูนย์สามสาม ทำไมจึงเริ่มยิงอย่างกะทันหัน ฉันจำเป็นต้องการคำอธิบาย”
“เพราะฉันได้รับอนุญาตเรียบร้อยแล้ว หากต้องการตรวจสอบเชิญร้องขอเรื่องนี้กับหัวหน้าได้”รถเหินเวหาที่ยิงออกไปดูจะไม่คิดใส่ใจกับการกระทำของตน
รถเหินเวหาที่ส่งคำถามมาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยว่า “เริ่มตรวจสอบสถานการณ์การต่อสู้ และยืนยันสภาพร่างกายของอีกฝ่าย”
รถเหินเวหาทั้งสี่ค่อยลอยใกล้เข้ามาอย่างช้าๆ
ฝุ่นควันค่อยจางหายไปตามสายลม และทำให้สามารถมองเห็นสถานการณ์เบื้องล่างได้อย่างชัดเจน
บนพื้นดินกลับไร้ซึ่งวี่แววของศพ
ส่วนผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมบัดนี้กลับยืนอยู่บนยอดโคมไฟข้างถนน และกำลังสาดสายตาเย็นชามายังรถทั้งสี่
“บัดซบ เขายังมีชีวิตอยู่ เตรียมร่วมกันเปิดฉากยิง!”
ทว่าพวกเขาก็ไม่ได้รับโอกาสนั้น
กู่ฉิงซานยกธนูกองทัพขึ้น ก่อนจะกระตุ้นพลังวิญญาณ และยิงศรสี่ดอกในมือออกไป
ทุกคนในรถเหินเวหารู้สึกแค่เพียงว่ามีประกายแสงที่สว่างวาบราวดอกไม้กำลังเบ่งบานอยู่เบื้องหน้าพวกเขาโนlวลกูดอทคoม
ตูม!
รถตำรวจลาดตระเวนขนาดเล็กทั้งสี่คันพลันลุกไหม้ ก่อนที่ควันไฟจะบดบังสายตาและจำเป็นต้องร่อนรถลงจอดในจุดที่ห่างออกไป
อุปกรณ์แกนพลังงานของพวกเขาถูกยิงด้วยศรเพียงดอกเดียว หากพวกเขาไม่ทำการลงจอดฉุกเฉิน รถเหินเวหาอาจเกิดระเบิดได้
แอนนาผิวปากและกล่าว “เขามืออาชีพมาก”
ส่วนวอนฟอร์ดที่อยู่ตรงข้ามกับเธอ กำลังใช้สมองควอนตัมรับข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ถูกส่งมาในพริบตาอย่างบ้าคลั่ง และระบบการประเมินก็เร่งคำนวณอย่างเต็มกำลัง
กู่ฉิงซานยังคงยืนอยู่บนโคมไฟข้างถนนและจ้องมองสถานการณ์อย่างสงบ
ปัจจุบันเขามีพื้นฐานวรยุทธอยู่ที่ปราณปรับแต่งขั้นห้า เพียงใส่พลังวิญญาณอันแข็งแกร่งแทรกซึมลงในลูกศร ก็จะเกิดพลังทำลายล้างอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
ความแข็งแกร่งของเขาสูงกว่าเดิมถึงสองเท่า หากเมื่อเทียบกับในตอนที่เขาสังหารสงหู่
“ฮ่า ฮ่า กู่ฉิงซาน แกเป็นพลเมืองของรัฐบาลกลาง แต่ไม่เพียงปฏิเสธการจับกุมตัวในที่สาธารณะ แต่ยังพยายามที่จะทำร้ายตำรวจอีกด้วย!”
ในจุดที่ห่างออกไป จู่ๆ ก็ปรากฏเสียงตะโกนแห่งชัยชนะขึ้น
กู่ฉิงซานหันหน้าไปมอง และเห็นว่าเนี่ยหยุนกำลังยืนอยู่บนระเบียงตึกๆ หนึ่ง ที่มีรถเหินเวหาอันวิจิตรงดงามของเขาจอดอยู่ข้างๆ
เบื้องหลังเนี่ยหยุน ปรากฏชายชุดดำที่ดูแข็งแกร่งหลายสิบคนยืนอยู่
เนี่ยหยุนกอดอกและทำท่าทีกล่าวด้วยความเสียใจ “แม้ว่าเราจะเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน แต่ฉันก็เป็นถึงคนของตระกูลชั้นสูงในมณฑลฉางหนิง…ดังนั้นในฐานะพลเมืองที่ดี ฉันจึงมีหน้าที่ช่วยตำรวจจับตัวฆาตกร!”
กู่ฉิงซานจ้องมองอีกฝ่ายและเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ทำไมนายถึงชอบสร้างความลำบากให้แก่ฉันนัก”
เนี่ยหยุนกล่าวออกมาอย่างเกลียดชัง “แกทำให้ฉันต้องเสียเงินยี่สิบล้านล้านในคาสิโน แถมยังฆ่าหนึ่งในลูกน้องที่อุทิศตัวเพื่อตระกูลเนี่ย ถ้าไม่ให้สร้างความลำบากกับแก จะให้ฉันเดินไปจูบแกแทนรึไง?”
เขาหันหลังกลับและกล่าว “ไปฆ่ามัน ใครทำให้หัวของมันหลุดจากบ่าได้ ฉันให้รางวัลสิบล้าน!”
กลุ่มชายชุดดำที่ดูแข็งแกร่งได้ยินดังนั้น ทั้งหมดก็สาดสายตาไปที่กู่ฉิงซานอย่างฉับพลัน
หัวของเด็กหนุ่มตรงหน้ามีมูลค่าถึงสิบล้าน!
หนึ่งในชายชุดดำที่เกาะอยู่บนกำแพงพลันกระโจนลงมาจากตึก ลอยมุ่งตรงไปยังทิศทางของกู่ฉิงซานอย่างรวดเร็ว
เนี่ยหยุนหยิบไวน์แดงแก้วหนึ่งขึ้นมาอย่างสง่างาม ก่อนจะกล่าวเย้ยหยัน “คนๆ นั้นคือหวูเต๋าระดับปรมาจารย์นักสู้ที่ได้รับการผสานยีนส์กว่า สามสิบชนิด! จงนอนตายกลายเป็นกองซากศพเสีย และตายไปก็จงจำเอาไว้ด้วยว่านี่แหละคือพลังของชนชั้นสูง!”
กู่ฉิงซานกวาดสายตามองผู้ฝึกยุทธตรงหน้า ก่อนจะยกธนูกองทัพขึ้นมาอย่างเงียบๆ
มือของเขาวาบไหวราวกับเงา ตามมาด้วยเสียงทื่อๆ ทุ่มลึกดังขึ้นอย่างต่อเนื่องบนคันธนู
ปัง!
สีหน้าของชายชุดดำที่กระโจนตรงเข้ามาพลันเปลี่ยนไป ร่างของเขาเอียงหลบไปด้านข้าง
ภาพติดตาสีเทาพุ่งผ่านตำแหน่งเดิมของเขา ลอยไกลออกไป
“ช่างไร้เดียงสา”
มุมปากของชายชุดดำผุดรอยยิ้มที่ดูโหดร้าย ทว่าก่อนที่เขาจะทันได้เอ่ยออกมาอีกคำหนึ่ง เขากลับพบว่ามีศรอีกดอกพุ่งทะลุหน้าอกของเขาไป
ปรากฏหลุมที่ว่างเปล่าขึ้นบนหน้าอก ชายชุดดำก้มลงมองหลุมที่ใหญ่จนสามารถมองทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหลังเขาได้
ชายชุดดำร่วงลงกับพื้นและไม่อาจเอ่ยเสียงใดๆ ออกมาได้อีก
บนท้องฟ้า ปรากฏลูกศรมากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ และความเร็วของมันก็เร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ใบหน้าของกู่ฉิงซานยังคงเย็นชา สองมือของเขาขยับวูบไหวไม่หยุด ราวกับว่าทั้งร่างของเขาเป็นเครื่องจักรที่มีชีวิตอยู่เพียงแค่ยิงลูกศร!
ห่าลูกศรสาดเทลงมาราวสายฝน และเหล่าผู้ฝึกยุทธต่างก็กำลังพยายามหลบหลีก หลบดอกแล้วดอกเล่า จนพละกำลังถูกใช้ออกไปราวสายน้ำเชี่ยว
ไม่นาน พวกเขาก็เริ่มอ่อนล้าและพบว่าตนไม่อาจหลบเลี่ยงจากมันได้อีกต่อไป
ประกายเงาสีเทาบัดนี้เปรียบดั่งเทพเจ้าแห่งความตายที่กำลังจะคร่ากุมชีวิตพวกเขา
ปรมาจารย์นักสู้คนหนึ่งเห็นท่าไม่ดีจึงเอื้อมมีไปหยิบกล่องที่อยู่เบื้องหลัง และกดลงบนปุ่มด้านบน
พริบตาพลันปรากฏชุดเกราะรบโครงกระดูกยื่นออกมาจากกล่อง และค่อยๆ ปกคลุมลงบนตัวของเขา
ชุดเกราะโครงกระดูกมีความสามารถในการป้องกันที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้ผู้สวมใส่ได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น มันยังมาพร้อมกับระบบอาวุธซึ่งมีมาตรฐานเดียวกับที่ทางกองทัพที่สั่งผลิตไว้ให้พวกทหารใช้อีกด้วย
เขาคือผู้ฝึกยุทธระดับปรมาจารย์นักสู้ที่เกิดจากการดัดแปลงยีนส์ เป็นดั่งเช่นผลไม้ที่สุกงอม แม้ว่าจะเป็นผู้ที่ได้รับการดัดแปลงยีนส์จนก้าวมาได้ถึงขอบเขตปรมาจารย์นักสู้ แต่พลังของเขาก็ยังเทียบไม่ได้กับปรมาจารย์นักสู้ที่แท้จริง ดังนั้นเขาจึงไม่รังเกียจที่จะใช้อาวุธในสนามรบ
ส่วนหวูเต๋าปรมาจารย์นักสู้ที่แท้จริงคนอื่นๆ มักเลือกที่จะต่อสู้ด้วยมือเปล่า พวกเขาจึงไม่คิดใช้เจ้าสิ่งนี้
กู่ฉิงซานหันเหความสนใจไปยังอีกฝ่ายทันที เขายกธนูยาวขึ้นและเริ่มเปิดใช้งานยิงต่อเนื่อง
ติ๊งห ฉัวะ!
เสียงสะท้อนที่ฟังดูคมชัดผสมผสานกับประกายไฟแปลบปลาบระหว่างเหล็กปะทะเหล็ก สุดท้ายปรมาจารย์นักสู้ที่ดัดแปลงยีนส์ก็กระอักเลือดออกมา จนเกิดหมอกโลหิตจางๆ บนอากาศ จากนั้นก็ล้มลงกับพื้นและไม่ขยับเขยื้อนอีกเลย
บนชุดเกราะโครงกระดูก ปรากฏรอยแตกร้าวที่จุดกึ่งกลางเป็นหลุมลึก
ระดับพลังป้องกันนี้ มันมากกว่าแผ่นเหล็กบนรถเหินเวหาลาดตระเวนของตำรวจแค่เล็กน้อยเท่านั้น ทว่าเมื่อต้องเผชิญหน้ากับลูกศรที่ผสานพลังวิญญาณของกู่ฉิงซาน แค่นี้มันยังไม่เพียงพอ…