📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ยอดวิถีแห่งปีศาจ – ตอนที่ 528

บทที่ 528 - สอดมือ (2)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ถึงลู่หนิงจะยังเด็ก แต่ก็เข้าใจเรื่องราวไม่น้อย เขาแตกต่างจากคนอื่นๆ ลู่หลันอยู่กับเขามานาน เด็กน้อยจึงสัมผัสได้ว่าลู่หลันเป็นคนที่มีนิสัยแข็งกร้าวถึงขีดสุด ความอ่อนแอเป็นแค่เปลือกนอกเท่านั้น

ส่วนลู่เซิ่งผู้เป็นบิดาก็เป็นคนที่มีนิสัยแข็งกร้าววางอำนาจเช่นกัน แม้เขาจะไม่ค่อยเข้าใจว่าหากคนแข็งกร้าวสองคนมาเจอกันอาจจะกลายเป็นศัตรูกัน แต่โดยสัญชาตญาณเขาก็ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

ดังนั้นเขาจึงขอให้ลู่หลันอย่าไปเจอกับลู่เซิ่งอีก

บางทีลู่หลันอาจนึกไม่ถึงว่า การปลอมแปลงตัวตนที่นึกเอาเองมาโดยตลอดว่าสมบูรณ์แบบจะปรากฏช่องโหว่ต่อหน้าลู่หนิงอย่างไม่รู้ตัว

ทุกคนนั่งรถม้ากลับคฤหาสน์ลู่ แต่ขณะอยู่กลางทาง ลู่หลันในตัวรถพลันตัวสั่นเล็กน้อย คล้ายสัมผัสบางอย่างได้

เร็วขนาดนี้เชียว…!?

ใบหน้านางปรากฏความจนใจและความเหนื่อยล้า

“หนิงหนิง จำคำของข้าก่อนหน้านี้ได้ไหม” อยู่ๆ นางก็เอ่ยถาม

ลู่หนิงไม่เข้าใจ

“ถ้าหากเจ้ามีโอกาส จะลองตามหาข้าดูก็ได้ แต่จงจำไว้ว่า ห้ามบอกวิชาหายใจที่ข้าถ่ายทอดให้เจ้ากับใครเด็ดขาด” ลู่หลันกำชับอีกรอบ ครั้งนี้ใช้การส่งกระแสเสียงทางจิต

ลู่หนิงพยักหน้าอย่างว่าง่าย

ลู่หลันที่นั่งอยู่ในตัวรถยกศีรษะของลู่หนิงขึ้นจากอ้อมอกเบาๆ

“โชคชะตาของพวกเราเป็นสิ่งที่ฟ้ากำหนด อนาคตจะเป็นอย่างไร ไม่มีใครบอกได้ แต่ขอแค่เจ้าพยายาม พี่หลันหลันจะอยู่ข้างเจ้า คอยมองดูเจ้าตลอดไป และจะรอเจ้าอยู่ที่ปลายทางความสำเร็จ…”

ลู่หนิงมองลู่หลันที่อยู่ด้านหน้าตาปริบๆ อย่างคล้ายเข้าใจคล้ายไม่เข้าใจ

“คุณหนู ควรไปได้แล้ว” เสียงบุรุษเริ่มสะท้อนในห้วงสมองของลู่หลัน

ลู่หลันชะงักเล็กน้อย พลันโน้มตัวไปด้านหน้าแล้วจุมพิตหน้าผากของลู่หนิงเบาๆ

“พี่หลันหลัน ท่านจะไปแล้วหรือ” ลู่หนิงพลันเข้าใจสิ่งใด “เพราะมีคนเลวเล่นงานท่านใช่หรือไม่ วางใจเถอะ หนิงหนิงจะปกป้องท่านเอง!” เขายกกำปั้นเล็กขึ้นพลางกล่าวเสียงกังวาน

“ได้สิ…” ดวงตาของลู่หลันฉายแววอ่อนโยน “เช่นนั้นข้าจะรอเสี่ยวหนิงหนิงมาปกป้องหลังจากโตแล้วนะ”

“เอาล่ะ…ลาก่อน…”

นางยื่นมือออกมาหยิกแก้มลู่หนิงเป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นร่างก็ค่อยๆ จางลง แล้วหายไปจากตัวรถโดยสิ้นเชิง

ลู่หนิงอึ้งไปสักพัก ก่อนจะร้องไห้ แล้วลุกขึ้นพุ่งออกจากตัวรถ

“พี่หลันหลัน! พี่หลันหลันท่านอยู่ที่ไหน!?”

เขาร่ำไห้

พวกมู่เจวี๋ยชิ่งที่นั่งอยู่ในรถอีกคันเห็นดังนั้นก็งุนงง ไม่เข้าใจโดยสิ้นเชิงว่าเกิดอะไรขึ้น

วังมาร สำนักมารกำเนิด

ฟ้าว…

ปราณมารที่ร้อนเร่าและหนักอึ้งพลิกม้วนอยู่ในตำหนักข้างเป็นระยะ

ลู่เซิ่งนั่งอยู่บนบัลลังก์ของวัง พร้อมกับมองคนรายงานข่าวด้านล่างด้วยสีหน้าเย็นชา

“หมายความว่า ลู่หลันเพิ่งจะออกไปจากที่นี่ไม่นาน อยู่ๆ ก็หายตัวไประหว่างทางขากลับ เหมือนกับตอนที่นางปรากฏตัวหรือ”

ศิษย์ที่อยู่ด้านล่างซึ่งทำหน้าที่รายงานก้มหน้าไม่กล้าระบายลมหายใจ

“ขอ…ขอรับ…”

“หว่านเอ๋อร์ เจ้ารู้ไหมว่านี่หมายถึงอะไร” ลู่เซิ่งมองร่างของตวนมู่หว่านที่อยู่ด้านข้าง

ตวนมู่หว่านผุดสีหน้าย่ำแย่ นางย่อมทราบว่านี่หมายถึงอะไร

“คนของพวกเราไม่สามารถตามรอยลู่หลันได้ นอกจากค้นพบความผิดปกติของคลื่นสารกายเล็กๆ ในตัวรถแล้ว ที่เหลือล้วนไม่เจออะไร หากดูจากความเห็นของเหล่ามือดีที่ตามรอยหลังจากคาดเดาร่องรอยแล้ว น่าจะมีคนอีกกลุ่มมาถึงอย่างกะทันหัน แล้วกดดันให้ลู่หลันจำเป็นต้องหายตัวไป”

“ลู่หลันไม่มีทางหายตัวไปอยางไร้สาเหตุ จะต้องมีเหตุผลแน่” ลู่เซิ่งกล่าวอย่างเย็นชา “สืบต่อไป เรื่องนี้ข้าต้องการคำอธิบายที่สมบูรณ์ ตอนนั้นลู่หนิงลูกชายข้าก็อยู่ในตัวรถด้วย อย่างนั้นการที่ลู่หลันหายตัวไปจากรถอย่างไร้สุ้มไร้เสียงได้ ก็หมายความว่านางมีโอกาสมากที่สุดที่จะหายตัวไปพร้อมกับลู่หนิงได้เช่นกัน ข้ายอมรับการคุกคามและอันตรายแบบนี้ไม่ได้”

“ขอรับ!” พวกระดับสูงแผนกรายงานข้อมูลด้านล่างพากันโค้งเอวขานตอบ

“แยกย้าย” ลู่เซิ่งโบกมือ

พวกระดับสูงค่อยเหมือนปลดภาระหนักอึ้งออกได้ รีบพากันล่าถอยไป

รอคนจากไปและประตูตำหนักปิดลง ลู่เซิ่งก็มองตวนมู่หว่าน

“วังมารต้องถูกคนแทรกซึมแล้วแน่ ที่นี่มีค่ายกลใหญ่ล้อมรอบ การเข้าออกและการแลกเปลี่ยนอากาศล้วนมีเวลาที่แน่นอน นอกจากจะใช้ทักษะที่เหนือกว่าพวกเรามากเกินไป ไม่อย่างนั้นไม่อาจส่งข่าวผ่านค่ายกลออกไปได้” ตวนมู่หว่านกล่าวด้วยสีหน้าไม่สู้ดี “แต่ความเป็นไปได้นี้มีต่ำมาก ค่ายกลใหญ่เป็นทักษะการวิจัยล่าสุดของสำนักพันอาทิตย์ หนำซ้ำเพิ่งสร้างขึ้นมาได้ไม่นาน ทักษะค่ายกลชนิดนี้ยังไม่ได้แพร่หลายนัก การจะเจาะตั้งแต่ด้านนอกถึงด้านในแทบเป็นไปไม่ได้ ดังนั้นหากหากยืนยันได้ว่าลู่หลันไม่ได้จากไปเอง ก็ต้องเป็นเพราะด้านในวังมารมีคนเปิดเผยข้อมูล หรือก็หมายความว่ามีไส้ศึก!”

“ตรวจสอบเสีย” มือของลู่เซิ่งซึ่งจับที่วางแขนกำแน่นเล็กน้อย “สำนักมารกำเนิดขยายเร็วเกินไป สมาชิกจึงผสมปนเป จะมีไส้ศึกบ้างก็ไม่แปลก ข้าขอไปหาลู่หนิงก่อน”

“เจ้าค่ะ” ตวนมู่หว่านพยักหน้าอย่างจริงจัง

ลู่เซิ่งลุกขึ้นเดินออกจากตำหนักใหญ่ ศิษย์ที่อยู่สองด้านของประตูพากันโค้งตัว

เขาทอดตามองไป ด้านนอกตำหนักมีศิษย์หัวกะทิหลายสิบคนกระจายกำลังกันอยู่ ทั้งยังเห็นอักขระสีแดงกระพริบบนกำแพงระหว่างหอตำหนักพลับพลาศาลาได้ลางๆ

‘ไม่ได้เคลื่อนไหวมานาน นึกว่าข้าจะยอมจำศีล ปล่อยให้คนข่มเหงจริงๆ หรือ อยากจะเห็นเหมือนกันว่าพวกเจ้าเอาชีวิตคนมาทิ้งได้เท่าไหร่’ ลู่เซิ่งเค้นเสียงคำหนึ่ง จากนั้นก็มีเมฆขาวระเหยขึ้นใต้เท้า ก่อนจะทยานขึ้นฟ้าแล้วบินไปยังเขตจันทราสารท

คฤหาสน์ลู่

บรรยากาศในคฤหาสน์หนักอึ้ง หลังจากข้ารับใช้และหญิงรับใช้แทบทั้งหมดได้ทราบข่าวการกลับมาของนายท่านใหญ่ ต่างก็ไม่กล้าระบายลมหายใจออกแรง

นายท่านใหญ่ก็คือลู่เซิ่ง ตอนนี้คือประมุขตระกูลลู่ และเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตจันทราสารทหรือในแคว้นทั้งแคว้น

นั่นคือผู้ยิ่งใหญ่ที่สามารถพูดคุยกับระดับสูงของสามสำนักอย่างสนุกสนาน ทุกคำพูดและทุกการกระทำล้วนส่งผลต่อความเป็นความตายของคนนับไม่ถ้วน

ไม่อนุญาตให้ใครพลั้งเผลอ

ในห้องหนังสือ ณ เวลานี้

“ท่านพ่อ ท่านช่วยพี่หลันหลัน ช่วยพี่หลันหลันด้วย! นางเป็นคนดี ขอร้องล่ะขอรับ!”

ในคฤหาสน์ลู่ ลู่หนิงกอดขากางเกงของลู่เซิ่งพร้อมกับร้องคร่ำครวญเสียดัง

ลู่เซิ่งมองพวกมู่เจวี๋ยชิ่งในคฤหาสน์ และเฉินอวิ๋นซีที่รีบรุดมา รวมถึงพวกมารดาอวี้ที่ทันแค่สวมใส่เสื้อตัวบางเท่านั้น ก่อนจะค่อยกระจ่างในใจโuเวฺลกูดoทคอม

การหายตัวไปของลู่หลัน นอกจากจะสร้างความตกใจให้แก่คนในคฤหาสน์ลู่เล็กน้อยแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไรอีก

“ถึงแม้ว่าจะอยู่กับเด็กน้อยหลันหลันไม่นาน แต่ข้ามองออกว่านางมีจิตใจดี แบ่งแยกบุญคุณความแค้นชัดเจน ถ้าหากเจ้าเซิ่งทำได้โดยไม่ส่งผลต่อสถานการณ์รอบๆ ตัว ก็ช่วยนางสักครั้งหนึ่งเถอะ”

มารดาอวี้ช่วยลู่หนิงกล่าว

“นางเป็นคนที่มีชะตาอาภัพคนหนึ่ง” นางกล่าวอย่างเสียดายเล็กน้อย

“ความเห็นของสตรี!” ลู่เฉวียนอันกลับแค่นเสียง “เจ้าเซิ่งมีการตัดสินใจของตัวเอง พวกเจ้าจะออกความเห็นไปทำไม สตรีนางนั้นจู่ๆ ก็หายตัวไปอย่างกะทันหัน จะต้องมีเลศนัยอยู่เบื้องหลังแน่ คงไม่ตื้นเขินเหมือนอย่างที่เห็นภายนอกหรอก”

ลู่เฉวียนอันยืนอยู่ข้างลู่เซิ่งยามอยู่ในตระกูลเสมอ พอเขาออกปาก คนที่เหลือก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก

กลับเป็นลู่อันผิงท่านลุงใหญ่ที่ลูบหนวดเคราพลางส่ายหน้าน้อยๆ คนแก่มากประสบการณ์อย่างเขา แค่ดูท่าทางของลู่เซิ่งก็รู้แล้วว่าหลานผู้นี้กำหนดแผนการไว้แล้ว ความเห็นของคนนอกยากจะเปลี่ยนแปลง ดังนั้นจึงไม่พูดอะไร

“สตรีนางนั้นมีความเป็นมาไม่ชัดเจน เบื้องลึกเบื้องหลังไม่ตื้นเขิน ไม่ได้รวบรัดอย่างที่เห็นหรอก” ลู่เซิ่งกล่าวอย่างราบเรียบ

พอกล่าวคำพูดนี้ออกไป เขาก็เห็นสีหน้าของลู่หนิงผู้เป็นลูกชายหม่นหมองในพริบตา

ลู่หนิงเฉลียวฉลาดแต่เด็ก ย่อมเข้าใจเจตนาในคำพูดนี้ออก

“แต่ในเมื่อหนิงเอ๋อร์ออกปากขอให้ข้าช่วยด้วยตัวเอง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเห็นแก่หน้าเหมือนกัน” ลู่เซิ่งเปลี่ยนไปพูดอีกอย่าง พลันทำให้ลู่หนิงยิ้มหน้าบาน

“เจ้าเซิ่ง…คงไม่ทำลายแผนการใหญ่ของเจ้ากระมัง” ลู่เฉวียนอันถามอย่างกระสับกระส่ายเล็กน้อย

“ไม่เป็นไรขอรับ คนที่ทำลายแผนการของข้าได้ในโลกใบนี้ มีอยู่ไม่เยอะแล้ว” ลู่เซิ่งตอบด้วยรอยยิ้ม

ครั้นกล่าวคำพูดนี้ออกไป ทุกคนล้วนอึ้งไปเล็กน้อย ความนัยส่วนหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในวาจานี้ของประมุขตระกูลทำให้คนอดนึกเชื่อมโยงไปยังเรื่องอื่นๆ ไม่ได้

ลู่เซิ่งลูบตราประทับสีแดงอ่อนบนหน้าผากของลู่หนิงเบาๆ ขณะที่พูด ตราประทับนั้นคล้ายเป็นรอยจุมพิต และคล้ายกับรอยแยก

ถ้าหากเป็นอริยะเจ้าทั่วไป คงสัมผัสความน่าอัศจรรย์ในร่องรอยนี้ไม่ได้จริงๆ แต่เขานั้นแตกต่าง จิตวิญญาณของเขาไปถึงระดับเทวปัญญาแล้ว ทั้งยังเป็นระดับสูงสุดในหมู่เทวปัญญาด้วย

ด้วยความปราดเปรียวของเขา เหตุใดจะสัมผัสปัญหาไม่ได้ แถมยังมีกลิ่นอายพิสดารเล็กๆ ที่แผ่กระจายในร่างของลู่หนิงด้วย

กลิ่นอายนี้แตกต่างจากวิชาใดๆ ที่เขาเคยเห็นมาโดยสิ้นเชิง

“ทลายปฐพี!”

ดาบฟันฟืนขนาดยักษ์สีเหลืองอ่อนหลายสายทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ สุดท้ายกลายเป็นหนึ่งในพริบตาเดียว แล้วฟันใส่ป่าและภูเขาที่เชื่อมต่อกันเป็นลูกคลื่น

ตูม!

เกิดเสียงดังสนั่น ป่าและภูเขาถูกฟันเป็นรอยดาบที่น่าสะพรึงกลัวยาวหลายร้อยหมี่ ลึกสิบกว่าหมี่ทั้งอย่างนั้น

รอยดาบห่างจากรองเท้ายาวของลู่หลันเพียงแค่สิบกว่าหลีหมี่เท่านั้น

ขาดอีกก้าวเดียว ขอแค่นางก้าวไปด้านหน้าอีกก้าวเดียว ก็จะถูกฟันกลายเป็นเนื้อสับนับไม่ถ้วนเหมือนกับรอยดาบบนหุบเหวนี้ในพริบตา

ลู่หลันหน้าเขียวคล้ำ ด้านหลังมีชายชราเคราขาวมัดผ้าโพกหัวสีดำคนหนึ่งไล่ตาม สองฝ่ายจับจ้องมองเขม็งไปยังเงาคนสูงใหญ่สายหนึ่งที่เดินออกมาจากด้านหน้าไม่ไกลออกไป

“ไม่เจอกันนาน ฝ่าบาทหวงเฝยสบายดีหรือไม่ ฮ่าๆๆๆ!” เงาร่างกำยำสายหนึ่งค่อยๆ เดินออกมาจากละอองทราย คนผู้นี้สวมเกราะสีเหลืองอ่อน เผยร่างกายออกมาด้านนอกครึ่งหนึ่ง ทำให้เห็นเค้าโครงกล้ามเนื้อที่บิดเบี้ยวน่ากลัว มือขวาถือดาบฟันฟืนขนาดยักษ์ที่มีอักขระสีเหลืองกะพริบอยู่เล่มหนึ่ง

เขาเป็นคนฟันดาบเมื่อครู่ออกมา

“เต๋อหลิน…เจ้าเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร?!” ชายชราด้านหลังลู่หลันผุดสีหน้าเหยเก “ร่องรอยของหวงเฟยเป็นสิ่งที่ถูกรักษาเป็นความลับ ทำไมเจ้าถึงได้…”

“เจ้าแก่แล้ว ติงอู่เซิง” ชายกำยำเต๋อหลินหัวเราะลั่น “ใต้หล้านี้ไม่มีร่องรอยของใครที่รักษาเป็นความลับได้หรอก”

เสียงเพิ่งขาดลง ด้านหลังลู่หลันก็มีเงาคนสูงชะลูดสองสายเดินออกมาอีก คนหนึ่งสวมหน้ากากสีขาวตัดดำเหมือนกับที่ใช้ในการแสดงงิ้วปักกิ่ง

อีกคนมีศีรษะเป็นเสือร่างเป็นมนุษย์ สวมเกราะงามสีดำ เป็นมหาปีศาจเผ่าปีศาจ

“ลู่เฟิงโฉว…หู่จิ้น…!” ตางามของลู่หลันฉายแววดุร้าย “สามารถขอให้ผู้สักการะทั้งสามมุ่งหน้ามาได้ ต้องชื่นชมตระกูลไอจริงๆ”

โลกใบนี้มีอริยะเจ้าอยู่แค่ไม่กี่คน ลู่หลันย่อมจดจำอริยะเจ้าที่อยู่ในราชวงศ์ได้หมด

สามารถเข้าร่วมกับราชวงศ์ กลายเป็นผู้สักการะได้ พลังและไพ่ตายย่อมเหนือกว่าคนอื่นๆ เท่าหนึ่ง ทั้งยังถือเป็นยอดฝีมือในหมู่อริยะเจ้าเช่นกัน

ผู้ที่แข็งแกร่งเช่นนี้กลับได้รับการเกลี้ยกล่อมให้มาปิดล้อมนางพร้อมกันถึงสามคน เห็นได้ว่าคนผู้นั้นต้องการฆ่านางให้นางตายแน่นอน

“หากพระองค์ไม่ตาย ใต้เท้าก็ยากสงบใจ ต้องขอประทานอภัยด้วย” หู่จิ้นมนุษย์เสือกล่าวเสียงขรึม

ดวงตาของลู่หลันฉายแววสิ้นหวัง อาวุธเทพเคลื่อนย้ายในพริบตายังอยู่ในช่วงฟื้นฟู จึงใช้ไม่ได้ ส่วนความสามารถรักษาชีวิตที่เหลือ ภายใต้การรุมโจมตีของอริยะเจ้าสักการะสามคน ก็ได้แต่เป็นตั๊กแตนขวางรถเท่านั้น

ตัวนางอาศัยวิชาลับและสมบัติลับ อย่างมากสุดก็ฝืนฟื้นฟูพลังได้ส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังไร้ประโยชน์อยู่ดี

“พวกเจ้าอย่าลืมว่าที่นี่เป็นอาณาเขตของสำนักพันอาทิตย์!”

“คนของสำนักพันอาทิตย์ยอมประนีประนอมแล้ว คนรู้หน้าที่คือยอดคน ฝ่าบาท ท่านควรจะ…” เต๋อหลินกล่าวพลางส่ายหน้า

สวบ!

ทันใดนั้นเต๋อหลินสีหน้าเปลี่ยนแปลง ยกมือกุมอก เหงื่อกาฬไหลหลั่งออกมาจากหน้าผาก เกือบจะทรงตัวไม่อยู่

ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น หู่จิ้นกับลู่เฟิงโฉวก็กุมอก สีหน้ากลายเป็นซีดขาวในเวลาแทบพร้อมกันเช่นกัน

“ผู้ใด!?” เต๋อหลินมองไปยังส่วนลึกของทะเลป่าที่อยู่ไกลออกไปอย่างฉับพลัน

ความหวาดกลัวเมื่อครู่…ส่งมาจากด้านนั้น

ไกลออกไป ทั้งสามมองไปยังทิศทางนั้น แต่ว่าตรงนั้นนอกจากสีเขียวเข้มแล้ว ก็มองไม่เห็นอะไรอีก

“คนในราชวงศ์จากอินตูคิดทำอะไร ก่อนที่ใต้เท้าจะสอดมือ ต้องพิจารณาผลลัพธ์ให้ดี”

“ในเมื่อข้าตัดสินใจคิดลงมือ ย่อมไม่เหลือผลลัพธ์อะไรไว้”

เสียงบุรุษที่เย็นชาเสียงหนึ่งดังมาช้าๆ

พวกลู่หลันได้ยินดังนั้น ม่านตาพลันหดตัว

“เสียงนี้มัน…”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Way of the Devil, Cực Đạo Thiên Ma, Extreme Dao Heavenly Demon, WoD, 极道天魔
Score 9.3
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1213 Chapters (จบแล้ว)
ลู่เซิ่งพนักงานรัฐวิสาหกิจ พบว่าตัวเองมาอยู่ในโลกที่ไม่คุ้นเคย กลายเป็นคุณชายร่ำรวยมีเงินทอง แต่ละวันมีกับข้าวสามมื้อ มีสาวใช้อุ่นเตียง เดิมทีเขาคิดจะใช้ชีวิตสบายๆ แบบนี้ไปจนตาย จนกระทั่งว่าที่น้องเขยของเขาตายอย่างลึกลับหลังจากตรวจสอบคดีประหลาด ทั้งยังถูกฆ่าล้างตระกูล!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset