📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ยอดวิถีแห่งปีศาจ – ตอนที่ 507

บทที่ 507 - ชิงวิญญาณ (1)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ในต้าอิน แม้ว่าใบไม้ทองคำ ดาวหยก เทวปัญญาจะเป็นแค่ระดับสามระดับง่ายๆ แต่กลับเป็นตัวแทนระดับสามระดับที่เข้าใกล้เจ้าแห่งอาวุธมากที่สุดของมนุษย์

อริยะเจ้ามีอานุภาพแข็งแกร่ง จิตวิญญาณบิดเบือนธรรมชาติและหลอกลวงพลังกำเนิดได้ ถ้าหากให้เทียบจริงๆ ระดับใบไม้ทองคำก็เหมือนกับคนที่ใช้ปืนกลมือยิงกราดไปทั่ว ส่วนระดับดาวหยกเป็นยอดฝีมือด้านปืนที่มีความเข้าใจต่อปืนกลมือถึงขีดสุด ทั้งยังเคยได้รับการฝึกฝนที่เฉพาะเจาะจงมาก่อน

ส่วนระดับเทวปัญญาอันเป็นระดับสุดท้าย แม้จะใช้ปืนกลมือเหมือนกัน แต่กระสุนที่ยิงออกมากลับกลายเป็นระเบิดที่ขับเคลื่อนด้วยจรวดโดยอัตโนมัติ…ความแตกต่างไม่อาจเอามาเทียบเคียงกันได้

‘เจ้าเด็กนี่เพิ่งเลื่อนระดับได้ไม่นาน กลับไต่เต้ามาถึงขั้นนี้แล้ว ชาติก่อนมันเป็นสัตว์ประหลาดอะไรกันแน่!?’ ซูหนิงเฟยใช้สมองตรึกตรองอย่างรวดเร็ว แต่กลับนึกไม่ออกว่าอริยะเจ้าคนไหนมีลักษณะการต่อสู้เหมือนอย่างลู่เซิ่ง

คิดไปคิดมา นางก็ยกมือเสกกล่องใบเล็กที่สลักลวดลายงูเขียวและใบไผ่ออกมา “นี่คือของชดเชย ของวิเศษไร้สาระอะไรของเจ้านั่นสร้างขึ้นจากวัตถุดิบธรรมดาๆ เท่านั้น เอามาปะทะกับอาวุธเทพตรงๆ ไม่ถูกทำลายสิถึงแปลก ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ!”

ลู่เซิ่งยิ้มๆ แล้วรับกล่องมาโดยไม่พูดอะไร พลันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเบาบางของอาวุธเทพที่แผ่กระจายออกมาอย่างเลือนรางจากด้านใน สมกับเป็นซูหนิงเฟยอริยะเจ้าที่แข็งแกร่งที่สุดจริงๆ พอลงมือก็เป็นอาวุธเทพระดับใบไม้ทองคำทันที

จากนั้นเขาก็เก็บของ ก่อนจะกวาดตามองประมุขถ้ำมังกรทองที่อกสั่นขวัญแขวนอยู่ด้านข้าง แล้วทะยานร่างขึ้นจากไปยังที่ไกล ในเมื่อซูหนิงเฟยมาด้วยตัวเองแล้ว อย่างนั้นเขาอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์อีก กลับไปใช้เวลาที่ยังเหลืออยู่รีบศึกษาการยกระดับพลังดีกว่า

มหาภัยพิบัติกำลังจะมาถึง หากเขาไม่อยากจะกลายเป็นเถ้าธุลี และไม่อยากล่องลอยไปตามกระแสในต้าอิน พิภพมาร และโลกแห่งความเจ็บปวด จะต้องครอบครองพลังที่ตั้งตนเป็นอิสระได้

ถ้าไม่สำเร็จเป็นเจ้าแห่งอาวุธ สุดท้ายก็ได้แต่เป็นหมากตัวหนึ่ง

เป้าหมายของเขาต่อจากนี้ คือการสั่งสมจิตวิญญาณ และรอการเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติเพื่อทะลวงสู่ระดับเจ้าแห่งอาวุธ

ลู่เซิ่งค้นหาบริเวณใกล้ๆ อีกสักพัก ก่อนจะกำจัดโจรภูเขาส่วนหนึ่งที่ถูกชักนำมา ไม่นานเขาก็พบสถานที่ผิดปกติแห่งหนึ่ง

นอกจากประมุขถ้ำมังกรทองแล้ว ที่แห่งนี้ยังได้จัดวางค่ายกลและอักขระค่ายกลไว้หลายชั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เบื้องหลังคล้ายมีคนรู้จักเขาดีถึงขีดสุด ค่ายกลทั้งหมดจึงมีเป้าหมายเดียว นั่นคือการส่งตัว

ส่งตัวเขาไปยังสถานที่อื่นๆ ไม่ใช่ประเภทป้องกันโจมตี

นอกจากนี้ค่ายกลส่วนหนึ่งในนี้ยังเหมือนกับตั้งไว้เพื่อโอบล้อมโดยใช้ตำแหน่งที่เขาสกัดประมุขถ้ำมังกรทองเมื่อก่อนหน้าเป็นศูนย์กลางด้วย

เพียงแต่เหมือนกับค่ายกลเหล่านี้ตั้งขึ้นอย่างรีบเร่ง คล้ายกับยังไม่ทันได้เปิดใช้ ก็ละทิ้งไปอย่างกะทันหัน

‘น่าสนใจ…ถ้าหากซูหนิงเฟยมาไม่ทัน หลังจากเรากำจัดพวกประมุขถ้ำมังกรทองทิ้งแล้ว ค่ายกลเหล่านี้จะทำงานและโอบล้อมเราไว้ทันที น่าเสียดายเรามาเร็วเกินไป แถมซูหนิงเฟยยังโผล่มาอย่างกะทันหันอีก ทำให้พวกเขาประเมินพลังการต่อสู้ตามความเป็นจริงของทางเราผิดไป เลยตัดสินใจละทิ้งทุกอย่างทันที‘

หลังลู่เซิ่งตรวจสอบค่ายกลเสร็จ พลันรู้สึกได้ว่าผู้สั่งการที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างนี้วางแผนว่าหากโจมตีไม่สำเร็จก็จะหลบหนีพันลี้ทันที

‘ตัดสินใจเด็ดขาดมาก ค่ายพยุหะ ธงค่ายกล และทรัพยากรมากมายแบบนี้ คิดจะทิ้งก็ทิ้งทันที ฝีมือเหี้ยมโหด ขายพวกประมุขถ้ำมังกรทองทิ้ง แถมยังใช้ทั้งสองเป็นเหยื่อล่อ เพื่อทำให้แผนการที่มีมากกว่านี้สำเร็จ’

เขานึกฉงนเล็กน้อย ครั้งนี้เบื้องหลังมีคนคิดเล่นงานตนอยู่

น่าเสียดาย เขาวนอ้อมรอบหนึ่ง แต่ก็ไม่เจอว่ารอบๆ มีร่องรอยอะไร

แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายรู้จักตัวเขาเป็นอย่างดี ทำให้รอบๆ นี้ไม่ทิ้งเบาะแสอะไรเอาไว้แม้แต่น้อย

ลู่เซิ่งจึงทำลายค่ายกลด้วยความจนปัญญา แล้วหมุนตัวกลับสำนักมารกำเนิด ไม่ว่าใครกำลังเล็งเล่นงานเขาอยู่ รอมีโอกาส จะต้องโดดออกมาเองแน่นอน

เรื่องของซูหนิงเฟยจัดการเรียบร้อยแล้ว ในตอนที่ลู่เซิ่งกลับมาก็ได้ยินว่าซูย่วนย่วนได้รับการช่วยเหลือแล้ว ครั้งนี้เขาเพียงเสแสร้งแกล้งทำเท่านั้น ความจริงที่เจ้าแห่งอาวุธประกายขั้วโลกส่งแผ่นหินให้ เป็นเพราะต้องการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซูหนิงเฟยเท่านั้น

ทว่าตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่

ซูหนิงเฟยพาซูย่วนย่วนไปกักตนฝึกฝน ต้าอินไม่เกิดความวุ่นวายอะไรอยู่ชั่วขณะ ลู่เซิ่งได้ไปโลกแห่งความเจ็บปวดอีกรอบ เฮยจินหาเมืองเล็กๆ ที่กันดารแห่งหนึ่งใกล้ๆ ได้แล้ว เป็นเมืองที่มีชื่อว่าเมืองแห่งแสง

ในเมืองมีผู้ใช้ชีวิตชั่วร้ายสามคน มีผู้ใช้วิญญาณคันฉ่องหนึ่งคน ที่เหลือล้วนเป็นพวกความประหลาดลี้ลับและผีป่าวิญญาณไร้ญาติ

โลกแห่งความเจ็บปวดมักมีความประหลาดลี้ลับที่อธิบายไม่ได้ดำรงอยู่ พวกมันคล้ายกับพวกที่อยู่ในโลกมนุษย์ตรงที่เป็นอมตะ ถ้าหากโดนทำลาย ผ่านไประยะหนึ่งก็จะเกิดออกมาใหม่

แต่ว่าระดับชั้นความเจ็บปวดที่พวกมันอยู่นั้นแตกต่างกัน หากความเจ็บปวดไม่ถึงระดับหนึ่ง ก็จะสัมผัสการดำรงอยู่ของพวกมันไม่ได้

ลู่เซิ่งสัมผัสและค้นพบได้ในตอนที่ชดเชยพิธีเซ่นสรวงหลายครั้งที่ขาดไป

หลังจากช่วยเฮยจินวางแผนการอย่างละเอียดและพัฒนาต่อแล้ว ลู่เซิ่งก็ช่วยนางลาดตระเวนรอบๆ และฆ่าสัตว์ประหลาดรวมถึงความประหลาดลี้ลับที่เพ่นพ่านอยู่ใกล้ๆ จนหมด จากนั้นจึงค่อยศึกษาแผ่นหินกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกับเริ่มเตรียมการจุติครั้งที่สามโuเวฺลกูดoทคอม

เวลาสิบสองปีไม่ยาวไม่สั้น ถ้าหากเลือกได้ดี อาจจะเลือกไปยังโลกด้านนอกที่มีเวลาแตกต่างกันมากได้ ไม่แน่จะใช้ความแตกต่างทางเวลาทำความเข้าใจแผ่นหินกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ได้

ดังนั้นครั้งนี้ลู่เซิ่งที่มีประสบการณ์แล้วจึงเริ่มปรับปรุงค่ายกลจุติ และทิ้งลวดลายค่ายกลบางส่วน เพื่อดำเนินการปรับปรุงอีกรอบ

ตอนนี้การฮุบกลืนอาวุธเทพเพียงอย่างเดียวไม่มีแรงดึงดูดต่อเขาอีกแล้ว การฮุบกลืนตัวตนในโลกใบอื่นผ่านการจุติจึงเป็นวิธีการฝึกฝนที่ยกระดับได้เร็วที่สุด

หลังจากที่ศึกษาคัมภีร์ฟ้าน้ำแข็งสี่ฤดูจนทะลุปรุโปร่งอีกครั้ง ลู่เซิ่งก็ดำเนินการแก้ไขครั้งใหญ่ และจำกัดความเร็วในการไหลของเวลาไว้ที่ระหว่างหนึ่งต่อสิบและหนึ่งต่อห้าสิบสำเร็จ

ส่วนจะไปโลกใบไหน นั่นก็บอกไม่ได้แล้ว

แต่ลู่เซิ่งสัมผัสได้อย่างเลือนรางว่า โลกใดที่เวลาไหลเร็ว วัฏจักรของพลังงานก็จะไหลเร็วตามไปด้วยเช่นกัน สองสิ่งนี้เกี่ยวข้องกันแบบแปรผันตรง แต่ในขณะเดียวกัน ระดับการจำกัดพลังงานในโลกแบบนี้ก็ไม่สูงมากเช่นกัน

ดังนั้นหากพิจารณาหลายๆ ปัจจัยแล้ว การเลือกโลกที่เหมาะสมที่สุดจึงไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายขนาดนั้น

หลังจากวิจัยเป็นเวลาหลายเดือน ในที่สุดค่ายกลจุติแบบใหม่ก็เสร็จสมบูรณ์

และลู่เซิ่งก็เริ่มการจุติครั้งที่สาม

ครืน…

จุดแสงสีฟ้าเล็กๆ กับเกล็ดสีแดงเข้มกระจัดกระจายไปทั่วตำหนักวิจัย เหมือนกับแผ่นกระดาษที่ถูกฉีกจนกระจายเวียนว่อน

ลู่เซิ่งยืนอยู่กลางค่ายกลตรงกลางตำหนักใหญ่ มือถือกล่องใบเล็กหลายใบที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว กล่องพวกนี้เป็นวัตถุชนิดพิเศษที่ครั้งนี้จะนำไปด้วยกัน

เพื่อป้องกันไม่ให้เจอโลกที่มีกฎแตกต่างมากเกินไป เขาจึงได้เตรียมทรายทองและศิลาวิเศษระดับพื้นฐานที่เรียบง่ายที่สุดซึ่งผู้คนพากันใช้มาเพิ่มเติม ในตอนที่เจอโลกพิเศษ มันจะมีประโยชน์ ไม่ว่าจะเลวร้ายแค่ไหน มันก็ไม่ได้เริ่มต้นจากความว่างเปล่า

“ตะวันออก 12.33 ตะวันตก 13.16 เหนือ 20.00 ใต้ 9.47”

“หลังปรับแต่งเพื่อจำกัดอาณาเขตแล้ว ให้ใส่พลังเทวลักษณ์เข้าไป”

ลู่เซิ่งยื่นหลังมือออกมา เทวลักษณ์บนหลังมือส่องแสงสีฟ้า เทวลักษณ์นี้ไม่ได้อ่อนแอลงเลยเมื่ออยู่ในต้าอิน ยังคงมีพลังทำลายล้างที่ค่อนข้างแข็งแกร่งเหมือนเดิม จะเห็นได้ว่าระดับพลังงานของมันอยู่สูงสุดขีด

ลู่เซิ่งค้นพบโดยไม่ได้ตั้งใจในการทดลองครั้งหนึ่งว่า หากใส่เทวลักษณ์เข้าไปในค่ายกลจุติเสมือนว่าเป็นวัตถุดิบพิเศษ จะสร้างความเสถียรให้แก่ประสิทธิผลและโครงสร้างของค่ายกลได้

ดังนั้นเทวลักษณ์วารีลี้ลับจึงกลายเป็นห่วงโซ่สำคัญในการกระตุ้นค่ายกลจุติของเขาไปโดยปริยาย และเป็นเพราะมีมัน เขาจึงหดอาณาเขตของโลกที่จะจุติจนอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้อย่างใหญ่หลวง

พร้อมกับที่ลู่เซิ่งอ่านภาษาอักขระสำหรับปรับแต่งข้อมูลผ่านวิธีการสั่นสะเทือนโดยใช้เสียง ค่ายกลที่อยู่ใต้ดินของตำหนักวิจัยก็ค่อยๆ เริ่มส่องแสงสีแดง รังสีแสงเต้นระริกเหมือนกับเปลวไฟที่ลุกไหม้ คล้ายจะเห็นเงามายาของสัตว์ประหลาดตัวเล็กๆ บางส่วนกำลังแยกเขี้ยวกางเล็บได้อย่างเลือนรางจากด้านใน

“หาที่ตาย!” ลู่เซิ่งส่งจิตวิญญาณออกไป ลวดลายงูมีปีกสีแดงเข้มสว่างขึ้นกลางหว่างคิ้ว

ตูม!

เกิดเสียงทึบหนัก เงาสัตว์ประหลาดทั้งหมดในตำหนักวิจัยหายไป พวกมันหลอมละลายเข้ากับรังสีแสงพร้อมกับร้องโอดโอย

‘ดันเจอหนอนมิติเวลาเข้าซะแล้ว…ตามบันทึกของคัมภีร์ฟ้าน้ำแข็งสี่ฤดู มีแค่ตอนที่มิติเวลาแตกต่างกันถึงระดับหนึ่งเท่านั้น ถึงอาจจะเกิดปรากฏการณ์แบบนี้’

ลู่เซิ่งมองลวดลายค่ายกลที่กำลังส่องแสงอยู่ใต้ฝ่าเท้า

‘ตามบันทึก ในมิติเวลามีสิ่งมีชีวิตที่มีสังคมแม่เป็นใหญ่อย่างเช่นพวกหนอนอาศัยอยู่ พวกมันดำรงชีวิตด้วยการกินเวลาและอายุขัยของสิ่งมีชีวิตที่ข้ามมิติและย้อนอดีตเป็นอาหาร หนอนมิติเวลาเป็นหนึ่งในนั้น นึกไม่ถึงว่าเราจะเจอเข้า…’

ลู่เซิ่งเคลื่อนไหวจิตวิญญาณ พลังจิตไร้รูปร่างหมายจะควานหาซากของหนอนมิติเวลาบางส่วน แต่ซากทั้งหมดถูกพลังงานของค่ายกลที่ไหลเชี่ยวชำระล้างจนหายไปหมดแล้ว

“น่าเสียดาย…มีแต่ต้องรอครั้งหน้าค่อยว่ากัน” ขณะที่เขาบ่นเสียดาย ค่ายกลจุติพลันระเบิดแสงสีแดง เกล็ดน้ำแข็งสีแดงและสีฟ้าเปล่งแสงสีทองตามไปด้วย

ชิ้ง!

มิติเหนือค่ายกลแตกออกเป็นช่องสีเทาอย่างฉับพลัน ร่างของลู่เซิ่งถูกแสงสีขาวห่อหุ้มไว้ ก่อนจะพุ่งเข้าไป แล้วหายไปในพริบตา

ช่องสีเทาเปิดออกชั่วอึดใจเดียว รอลู่เซิ่งเข้าไปแล้ว มันก็หุบปิดลงอย่างกะทันหัน ใช้เวลาทั้งหมดไม่เกินครึ่งวินาที

ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเรียบร้อยภายใต้การจัดการและการคำนวณอย่างแม่นยำของค่ายกลจุติ แม้จะเปิดใช้เพียงชั่วครู่ แต่มันก็หดขนาดและควบคุมพื้นที่ให้อยู่ในขอบเขตเล็กๆ แรงกดดันที่ลู่เซิ่งได้รับ และภาระที่ค่ายกลได้รับ ล้วนลดลงอยู่ในระดับที่น่าดูชม ทั้งยังเพิ่มความปลอดภัยและความเสถียรได้ถึงจุดสูงสุด

อาทิตย์อัสดงสีเหลืองมัวซัวสาดส่องด้านในเมืองที่เก่าแก่และเงียบสงัด

บนถนน ด้านในคอกม้า ด้านในโรงเหล้า ด้านในโรงแรม ไม่มีใครสักคนเดียว ฝุ่นกับหมอกลอยอยู่กลางอากาศ

“โรแซง ยังจำที่นี่ได้ไหม” เสียงแปลกหูดังมาจากใกล้ๆ

โรแซงมองทุกสิ่งตรงหน้าอย่างสับสน ก่อนจะตอบอย่างไม่รู้ตัว

“ทีนี่คือ…เมืองลมอินทรี…บ้านเกิดของข้า…”

“ใช่แล้ว…เป็นบ้านเกิดของข้าเช่นกัน” เสียงนั้นดังมาจากด้านขวา โรแซงพลันหันไปมอง

เขาเห็นบุรุษร่างกำยำสูงใหญ่คนหนึ่ง เป็นบุรุษที่ไว้เคราข้างแก้มท่าทางกร้านโลก อีกฝ่ายกำลังมองไปด้านหน้าอย่างสงบนิ่ง แต่ไม่ว่าใครก็เห็นความอัดอั้นที่สะกดไว้ในความสงบนิ่งนั้นได้

บุรุษผู้นั้นตัดผมสั้นเกรียน ทำให้ดูเหมือนผ่านประสบการณ์มาโชกโชน สวมเสื้อแขนสั้นสีดำ แบะอกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็น กล้ามเนื้อสีทองแดงสะท้อนแสงมันวาวใต้อาทิตย์อัสดงสีเหลืองมัวซัว

“โรแซง เจ้าต้องจำทุกสิ่งนี้ไว้ให้ดี” บุรุษเอ่ยเสียงขรึม เห็นได้ชัดถึงความจงเกลียดจงชัง

“จงจำที่แห่งนี้ไว้…จงจำสถานที่ที่เคยเป็นของพวกเรา แต่กลับทำลายพวกเราแห่งนี้เอาไว้”

“ข้าจำไว้แล้ว” โรแซงไม่ได้รู้สึกว่าริมฝีปากตัวเองขยับแท้ๆ แต่เสียงกลับพูดออกมาเอง

“ไปเถอะ ไปทำให้ทุกอย่างจบกัน” บุรุษผู้นั้นสาวเท้าผละจากด้านข้างเขาไปด้านหน้า มุ่งหน้าไปหาเมืองร้างแห่งนั้น

ฮือ!

ทันใดนั้นเกิดเสียงแหลมคมดังขึ้นกลางท้องฟ้า

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Way of the Devil, Cực Đạo Thiên Ma, Extreme Dao Heavenly Demon, WoD, 极道天魔
Score 9.3
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1213 Chapters (จบแล้ว)
ลู่เซิ่งพนักงานรัฐวิสาหกิจ พบว่าตัวเองมาอยู่ในโลกที่ไม่คุ้นเคย กลายเป็นคุณชายร่ำรวยมีเงินทอง แต่ละวันมีกับข้าวสามมื้อ มีสาวใช้อุ่นเตียง เดิมทีเขาคิดจะใช้ชีวิตสบายๆ แบบนี้ไปจนตาย จนกระทั่งว่าที่น้องเขยของเขาตายอย่างลึกลับหลังจากตรวจสอบคดีประหลาด ทั้งยังถูกฆ่าล้างตระกูล!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset