📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ยอดวิถีแห่งปีศาจ – ตอนที่ 433

บทที่ 433 - แก้ไข (1)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

พิธีรับศิษย์ไม่ได้เป็นไปอย่างยิ่งใหญ่ ตระกูลมู่กับลู่เซิ่งไม่คิดจะประกาศความสัมพันธ์กับอีกฝ่ายอย่างเปิดเผย ลู่เซิ่งกับมู่ชิงเย่จึงตัดสินใจร่วมกันว่า เพียงเชิญคนใกล้ชิดมาพบหน้าทำความรู้จักกันก็พอแล้ว

ในวังมารของสำนักจัดวางโต๊ะสุราหลายตัว หลังงานเลี้ยงสุราผ่านพ้น มู่เจวี๋ยชิ่งก็กลายเป็นศิษย์เอกใต้สังกัดลู่เซิ่งอย่างเป็นทางการ

หลังจากการกราบอาจารย์จบลง ลู่เซิ่งก็เรียกพบมู่เจวี๋ยชิ่งทันที แล้วเริ่มถ่ายทอดวิถีแปดมารสูงสุดที่ตนสร้างขึ้นให้นางในฐานะวิชาการสืบทอดของสำนักมารกำเนิดอย่างเป็นทางการ

ขณะเดียวกันมู่เจวี๋ยชิ่งก็นับว่าเข้าร่วมสำนักมารกำเนิดอย่างเป็นทางการแล้วเช่นกัน

คนของตระกูลขุนนางเข้าร่วมกับสำนักไม่ได้มีอะไรขัดแย้ง สามารถรวมการเข้าร่วมค่ายพรรคเข้าไปได้ มู่เจวี๋ยชิ่งจึงนับว่ามีสองสถานะในเวลาเดียวกัน

วิถีแปดมารสูงสุดที่ลู่เซิ่งสร้างขึ้นได้รวมแก่นสารมากมายของระบบสามระบบได้แก่ มรรคายุทธ์ ปราณจริงแท้ และวิชามารเข้าด้วยกัน นอกจากจะมีเวลาการฝึกฝนยาวนานสุดขีดแล้ว ก็เรียกได้ว่าเป็นเคล็ดวิชาสูงสุดที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างแท้จริง

หลังจากวิชามารวิชานี้ผ่านการหลอมรวมกับระบบของปราณจริงแท้ ก็มีการปรับปรุงให้ดีขึ้น แม้ในด้านเวลาจะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนไป แต่อานุภาพก็เพิ่มขึ้นอย่างใหญ่หลวง

ในสถานการณ์ที่มีปราณมารมอบให้อย่างเหลือเฟือ หากศิษย์ทั่วไปจะไปให้ถึงระดับที่หนึ่ง จำเป็นต้องใช้เวลาหนึ่งปีกว่าๆ ระดับสองสองปีกว่าๆ ระดับสามสามปีกว่า…

หากคำนวณแบบนี้ไปเรื่อยๆ ในสภาพที่ราบรื่นสมบูรณ์แบบและไม่มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเจออะไรก็สามารถผ่านไปได้ ระดับชั้นทั้งหมดเจ็ดสิบสองระดับ จำเป็นต้องใช้เวลาสองพันหกร้อยยี่สิบแปดปีถึงจะกลายเป็นระดับผู้ถืออาวุธขั้นสูงสุดโดยไม่พึ่งพาอาวุธเทพได้

ทว่าเนื่องจากขาดกระบวนการหลักที่ไฟหยินยกระดับเป็นอัคคีอนธการ ดังนั้นหากคิดจะทำลายอุปสรรคทั้งหมดและก้าวเป็นอริยะเจ้า จะมีความยากมหาศาล

แต่นี่กลับเป็นเส้นทางการฝึกฝนซึ่งเป็นไปตามลำดับขั้นตอนและปลอดภัยที่สุด ถือเป็นเส้นทางอันสมบูรณ์แบบโดยสิ้นเชิงสำหรับร่างวิญญาณไม้ซึ่งมีอายุขัยยาวนานถึงขีดสุด

หลังจากลู่เซิ่งอธิบายความลับนี้ให้มู่เจวี๋ยชิ่งฟังอย่างละเอียด ตอนแรกนางตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินถึงอานุภาพ แต่พอได้ยินถึงจำนวนปีที่ต้องใช้ ก็พลันตาเหลือกขาว ฝึกฝนวิชาหนึ่งเป็นเวลาสองพันกว่าปี สุดท้ายหากสำเร็จจะไปถึงแค่จุดสูงสุดของผู้ถืออาวุธ หรือก็คือเหนือกว่าปฐพีกำเนิด ต่อให้นางที่มีร่างวิญญาณไม้จะอายุยืน ก็ไม่ควรใช้เวลาสิ้นเปลืองขนาดนี้

ทว่าร่างวิญญาณไม้ก็ไม่เสียชื่อจริงๆ สามารถลดเวลาในการฝึกฝนได้อย่างมหาศาล บางทีหลังจากลดระยะเวลาให้สั้นแล้ว อาจจะทำให้วิถีแปดมารสูงสุดกลายเป็นวิชาประจำสำนักมารกำเนิดก็ได้

เวลาลู่เซิ่งไม่มีอะไรทำ ก็จะมุ่งหน้าไปทำภารกิจที่โลกแห่งความเจ็บปวดเป็นบางครั้ง ทว่าเวลาส่วนใหญ่จะอยู่กับครอบครัว รอให้เฉินอวิ๋นซีคลอดลูก

การขยับขยายของสำนักมารกำเนิดเริ่มมั่นคง พริบตาเดียวก็ผ่านไปอีกหลายเดือน ท้องของเฉินอวิ๋นซีโตขึ้นเรื่อยๆ แต่สาขาหลักของสำนักพันอาทิตย์กลับส่งคำสั่งมาในเวลานี้

วังมารของสำนักมารกำเนิด

ลู่เซิ่งนั่งบนตำแหน่งประธาน ผู้เฒ่าสือที่เพิ่งกลับมาจากการทำภารกิจนั่งอยู่ด้านข้าง ยอดฝีมือคนอื่นที่เพิ่งเข้าร่วมแยกกันนั่งอยู่สองฟากข้าง ในนี้มีผู้ถืออาวุธสามคน

ด้านล่างตำหนักมีทูตจากสาขาหลักของสำนักพันอาทิตย์ที่สวมเสื้อคลุมสีขาวขอบน้ำเงินยืนอยู่

“ประมุขคฤหาสน์ลู่ นี่คือคำสั่งที่สาขาหลักส่งลงมา ตอนนี้ท่านมีสองทางเลือก อย่างแรกคือไปพบเจ้าแห่งอาวุธพันอาทิตย์ที่สาขาหลัก ทางเลือกที่สอง…คำขออยู่ในจดหมายฉบับนี้แล้ว” ทูตใช้สองมือประคองจดหมายในมือ ท่าทีนอบน้อม แต่เนื้อหาในวาจาไม่น่าฟังนัก

“ส่งขึ้นมา” ลู่เซิ่งกล่าวอย่างราบเรียบ

ด้านข้างมีศิษย์สำนักมารกำเนิดเข้าไปรับจดหมายมาตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีการวางค่ายกลผงพิษหรือไม่ จากนั้นก็ส่งต่อกันมาเรื่อยๆ สุดท้ายผู้เฒ่าสือก็รับไว้ แล้วยื่นส่งใส่มือลู่เซิ่ง

ฉีกจดหมายออกเบาๆ ลู่เซิ่งอ่านเนื้อหาอย่างรวดเร็ว สีหน้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย ทว่ากลับถอนใจเงียบๆ

ในที่สุดสำนักพันอาทิตย์ก็ทนไม่ไหวแล้ว

เขาเอนเอียงมาทางสำนักมารกำเนิด สนับสนุนสำนักมารกำเนิด รวมถึงยึดครองทรัพยากรและผลประโยชน์ของจังหวัดไร้เหมันต์อย่างชัดเจนขนาดนี้ ในที่สุดก็ทำให้ความไม่พอใจของสามสำนักสั่งสมจนถึงขีดสุด

การส่งจดหมายของสาขาหลักคือการเปลี่ยนแปลงหลังจากความรู้สึกของสามสำนักสั่งสมจนถึงระดับหนึ่ง

‘นี่เป็นการบีบให้ออกจากตำแหน่งแล้ว…’ ลู่เซิ่งใคร่ครวญ แต่สำนักมารกำเนิดพัฒนามาถึงขั้นนี้ เขาเองก็พอใจแล้ว ในเวลาอันสั้นยังไม่มีวิธีพัฒนา ถึงเวลาพักผ่อนเสียที

เขาพับจดหมาย ก่อนจะมองทูตด้านล่าง

“ข้าได้รับจดหมายแล้ว ท่านไปพักผ่อนก่อนเถอะ”

ทูตขอตัวออกไปอย่างนอบน้อม

บรรยากาศในตำหนักหนักอึ้งเล็กน้อย ต่อให้สำนักมารกำเนิดจะพัฒนาเร็วอย่างไร แต่ก็อ่อนแอกว่าขุมกำลังดั้งเดิมอย่างสามสำนักไม่ต่ำกว่าหนึ่งเท่า ยอดฝีมือทุกคนที่อยู่รอบๆ ต่างไม่ยอมพลิกหน้ากับสามสำนัก

ลู่เซิ่งมองเห็นด้วยตา และจำไว้ในใจ

“วันนี้พอแค่นี้ก่อน ทุกท่านทำภารกิจก่อนหน้าต่อเถอะ ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง” ลู่เซิ่งกล่าว

“ปัจจุบันภัยพิบัติมารเพิ่งหยุดลงก็เกิดเรื่องแบบนี้ ดูเหมือนสาขาหลักเบื้องบน…” อวี้ไป๋ฉีวิญญาณโอสถซึ่งเป็นปีศาจผู้เข้าร่วมในภายหลังลูบเคราใต้คางพลางกล่าวเสียงทุ้ม

“เตือนกันชัดเจนขนาดไหน เป็นใครก็ดูออก กอปรกับช่วงนี้สำนักพันอาทิตย์ส่งคนมาถี่ขึ้น…” อีกคนหนึ่งแค่นเสียง

“ข้าจะจัดการเอง” ลู่เซิ่งกล่าวอย่างราบเรียบ “วันนี้แยกย้ายได้” เขาลุกขึ้นแล้วเดินตรงดิ่งไปยังตำหนักหลังโดยไม่มองใคร

ที่ตำหนักหลังมีบริวารมารออยู่เป็นจำนวนมากแล้ว พอเห็นเขาออกมา ก็มีคนตรงเข้ามากล่าวด้วยความเคารพทันที

“เจ้าสำนัก ศิลาเขตถ่ายทอดความลับกำลังเปล่งแสง”

“ศิลาเขตถ่ายทอดความลับ…” ลู่เซิ่งหางตาเย็นชา แค่นเสียงหัวเราะคำหนึ่ง “ทราบแล้ว เตรียมห้องลับไว้”

“รับคำสั่ง”

บริวารหลายคนจากไป

ลู่เซิ่งไปหาเฉินอวิ๋นซีที่คฤหาสน์ลู่ก่อน หลังฟังเสียงท้องของนางสักพักและกำชับเรื่องที่ต้องระวังบางส่วน ก็กลับมายังวังมาร แล้วเข้าไปกักตัวในห้องลับโน!วลกูดoทคอม

หลังจากสงบจิตใจอยางรวดเร็ว เขาก็ก้าวเข้าไปในเขตถ่ายทอดความลับที่ไม่ได้เข้าไปมานาน

นี่เป็นถ้ำที่ซูหนิงเฟยอยู่ ซูหนิงเฟยสวมกระโปรงดำลากพื้น ตรงทรวงอกเผยผิวพรรณที่ขาวและนวลเนียนเหมือนเครื่องกระเบื้อง ปล่อยผมลงเหมือนน้ำตกสีดำ มือถือเครื่องดนตรีประเภทผีผาและดีดบรรเลงอยู่ในถ้ำเบาๆ

ร่างกายของลู่เซิ่งค่อยๆ ปรากฏขึ้นตรงมุมหนึ่งของถ้ำ จากมายาสู่ความจริง

หลังร่างเขารวมตัว ก็ไม่ได้รบกวนซูหนิงเฟย หากแต่ยืนฟังบทเพลงไพเราะที่นางดีดบรรเลงอยู่ตรงมุมนั้นอย่างเงียบๆ

เสียงดนตรีดังกังวาน บางครั้งก็อ่อนโยน บางครั้งก็เกรี้ยวกราด บางครั้งก็เร่งเร็ว บางครั้งก็ผ่อนช้า เหมือนกับเปลี่ยนไปตามอารมณ์ของซูหนิงเฟย

มองออกว่าซูหนิงเฟยในตอนนี้มีความรู้สึกซับซ้อนถึงขีดสุด ถึงขั้นยังมีความขัดแย้งและจิตสังหารอยู่ด้านใน

ผ่านไปครึ่งชั่วยามกว่าๆ เสียงดนตรีจึงค่อยๆ หยุดลง

“เจ้ามาแล้วหรือ” สตรีนางนี้หมุนตัวมา หลังดวงตาที่เลือนรางพอเห็นลู่เซิ่ง ก็กระจ่างใสเหมือนเดิมอย่างรวดเร็ว กลายเป็นล้ำลึกไม่อาจหยั่งคาดเหมือนเมื่อก่อนหน้า

“อาจารย์อยากให้ข้ามาไม่ใช่หรือขอรับ” ลู่เซิ่งก้มน้ำกล่าวอย่างนอบน้อม

ซูหนิงเฟยถือเป็นตัวตนอันน่ากลัวที่เข้าใกล้ระดับเจ้าแห่งอาวุธ ทั่วทั้งต้าอินมีแค่ไม่กี่คนที่เอาชนะนางได้ และตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้เลื่อนสู่ระดับเทวปัญญา หากจะปะทะฉีกหน้ากันจริงๆ กลับไร้โอกาสชนะ

“เจ้ายังรู้ว่าข้าเป็นอาจารย์เจ้าอยู่หรือ” ซูหนิงเฟยพูดเสียงเย็นชา

“เหตุใดอาจารย์พูดเช่นนี้ ศิษย์ทำผิดตรงไหนหรือ” ลู่เซิ่งถามอย่างสงสัย

“ในเมื่อรู้ว่าข้าเป็นอาจารย์เจ้า แล้วทุกสิ่งที่เจ้าทำในตอนนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากข้าหรือไม่” ซูหนิงเฟยเอ่ยเสียงเย็นเยียบ

“ทุกสิ่งที่ข้าทำหรือ อาจารย์หมายถึง…” ลู่เซิ่งไม่เข้าใจความหมาย

“ขยายอาณาเขต แย่งชิงทรัพยากรอย่างเหิมเกริม ถึงขั้นสะกดส่วนหนึ่งของสำนัก เจ้ายังมีผลประโยชน์ของสำนักพันอาทิตย์ในสายตาหรือไม่” ซูหนิงเฟยถาม

“ศิษย์เพียงแค่อยากให้ครอบครัวมีชีวิตการเป็นอยู่ดีกว่าเดิมเท่านั้น เหตุใดอาจารย์ต้องทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ด้วย” ลู่เซิ่งยิ้มๆ มองออกว่าอีกฝ่ายใช้ข้ออ้างเท่านั้น ดูเหมือนครั้งนี้ถ้าออกไป เรื่องที่ซูหนิงเฟยต้องการให้ทำจะต้องประสบปัญญาหาแน่ ทั้งยังไม่เป็นใจถึงขีดสุด นอกจากนี้ยังมีความเป็นไปได้ที่คนในสำนักระดับจังหวัดจะแจ้งสาขาหลัก สาขาหลักก็เลยถามไถ่ซูหนิงเฟยด้วย

“เจ้ามีเหตุผลเยอะแยะจริงๆ…” ซูหนิงเฟยวางเครื่องดนตรีลงแล้วยืดตัวขึ้น กระโปรงสีดำบนร่างพลันกลายเป็นกิ่งไม้ ใบไม้เล็กละเอียดนับไม่ถ้วนกระจายเข้าไปใต้กระโปรงนาง ไม่นานกระโปรงยาวก็กลายเป็นกระโปรงสั้น เผยให้เห็นขาอ่อนมากกว่าครึ่งตั้งแต่เหนือเข่าขึ้นไป มองดูยั่วยวน

“อาจารย์มีเรื่องอึดอัดใจตรงไหนหรือ ถ้าหากศิษย์ช่วยได้ ย่อมไม่ปฏิเสธแน่นอน” ลู่เซิ่งมองออกว่า การที่ซูหนิงเฟยคาดโทษในทันที จะต้องเป็นเพราะสาขาหลักกดดันนางแน่

หากคิดจะให้สตรีนางนี้ช่วยเขายันเรื่องนี้ไว้ จะต้องแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กัน

เขาไม่กลัวว่าอีกฝ่ายจะลงมือกับเขา อย่างไรตอนนี้เขาก็รับตำแหน่งของสำนักระดับจังหวัดในจังหวัดไร้เหมันต์อยู่ ทั้งยังถือเป็นอริยะเจ้าประจำสำนัก ซึ่งเป็นสมาชิกสำคัญของสำนักพันอาทิตย์ด้วย อีกฝ่ายไม่อาจลงมือฆ่าเขาได้เพราะกฎสำนัก

ซูหนิงเฟยพอเห็นลู่เซิ่งหัวเร็วขนาดนี้ น้ำเสียงก็อ่อนลง ที่แล้วมานางแสดงท่าทีจะมีก็ได้ไม่มีก็ได้ต่อลูกศิษย์ผู้นี้มาโดยตลอด การที่ส่งยอดฝีมือระดับอริยะเจ้าคนหนึ่งไปจัดการปัญหาเวลามีเรื่องรำคาญใจได้ ก็นับว่าในมือมีไพ่ใบหนึ่งเพิ่มมาให้ใช้เช่นกัน

ทั้งสองไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรอยู่แล้ว นางย่อมไม่ยอมตัดขุมกำลังที่ตัวเองใช้ได้ทิ้งโดยไม่มีเหตุผล

ดังนั้นพอเห็นลู่เซิ่งยอมเร็วขนาดนี้ นางก็ทำตัวอ่อนโยนขึ้นเช่นกัน

“เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว ปัจจุบันมีเรื่องน่ากังวลเพิ่มขึ้น สภาพการณ์ภายนอกรุนแรงถึงขีดสุดแล้ว ในที่ลับยิ่งสับสนวุ่นวาย…”

“อาจารย์โปรดบอกให้ชัดด้วย” ลู่เซิ่งไม่อยากฟังนางร่ายยาว

ซูหนิงเฟยค้อนใส่เขา “ก่อนหน้านี้ข้าสะเพร่าเองที่ไม่ได้ชี้แนะเส้นทางต่อจากอริยะเจ้าให้แก่เจ้า แต่ตอนนี้เจ้าเจอทิศทางเองแล้ว อาจารย์จึงวางใจ อริยะเจ้าแต่ละคนมีทิศทางเป็นของตัวเอง เมื่อมาถึงขั้นนี้ การอยู่ในต้าอินเพียงอย่างเดียวไม่ได้มีประโยชน์มากมายนัก เจ้ารู้ไหมว่าเหตุใดก่อนหน้านี้จึงมีข่าวการต่อสู้ของเจ้าแห่งอาวุธส่งมา แต่เจ้าที่อยู่ในดินแดนของต้าอิน กลับไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวใดๆ เลย”

“ไม่ทราบขอรับ…” ลู่เซิ่งก็ประหลาดใจเช่นกัน

ตามเหตุผล ถ้าหากพลังของอริยะเจ้าระดับเทวปัญญาคือสิบ เช่นนั้นอย่างน้อยเจ้าแห่งอาวุธก็อาจเป็นหนึ่งร้อย สองฝ่ายแตกต่างกันอย่างมหาศาล

นี่เป็นสิ่งที่เขาอนุมานจากบันทึกเรื่องเล่าในคัมภีร์ การสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้กันเองของพลังที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้จะกินพื้นที่พันลี้หมื่นลี้ล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น

ทว่าเขาที่อยู่ในจังหวัดไร้เหมันต์กลับไม่รู้สึกถึงอะไรทั้งสิ้น

“นี่เกี่ยวข้องกับความลับยิ่งใหญ่ที่เจ้าอาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อน” ซูหนิงเฟยยิ้ม สีหน้าอ่อนโยนลง

“ความจริงเขตถ่ายทอดความลับของพวกเรา และโลกด้านนอกใบอื่นๆ ล้วนเป็นก้อนทรงกลมก้อนเล็กๆ จำนวนมากที่โคจรรอบโลกหลัก และโลกหลักก็คือทรงกลมขนาดมหึมาก้อนหนึ่ง ซึ่งลอยและหมุนวนอยู่ในสภาพแวดล้อมมืดสนิทที่เรียกว่ามิติดาว”

“มิติดาว?!” ลู่เซิ่งแสร้งเป็นงุนงงตกใจ สิ่งที่เขาเดาไว้ในใจไม่ผิดจริงๆ ด้วย เหล่ายอดฝีมือในระดับสูงสุดบนโลกใบนี้มีความสามารถในการทำความรู้จักถึงนิยามของดวงดาว

และต่อจากนั้น ซูหนิงเฟยก็ยัดความรู้ชุดหนึ่งให้แก่เขา ซึ่งบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า ต้าอิน ต้าซ่ง ราชวงศ์และประเทศอื่นๆ รวมถึงพิภพมาร ความจริงอยู่บนดาวดวงหนึ่ง

ถึงขั้นที่โลกแห่งความเจ็บปวดก็เป็นเหมือนกัน

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Way of the Devil, Cực Đạo Thiên Ma, Extreme Dao Heavenly Demon, WoD, 极道天魔
Score 9.3
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1213 Chapters (จบแล้ว)
ลู่เซิ่งพนักงานรัฐวิสาหกิจ พบว่าตัวเองมาอยู่ในโลกที่ไม่คุ้นเคย กลายเป็นคุณชายร่ำรวยมีเงินทอง แต่ละวันมีกับข้าวสามมื้อ มีสาวใช้อุ่นเตียง เดิมทีเขาคิดจะใช้ชีวิตสบายๆ แบบนี้ไปจนตาย จนกระทั่งว่าที่น้องเขยของเขาตายอย่างลึกลับหลังจากตรวจสอบคดีประหลาด ทั้งยังถูกฆ่าล้างตระกูล!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset