📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ยอดวิถีแห่งปีศาจ – ตอนที่ 379

บทที่ 379 - งานเลี้ยงใหญ่ (3)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ด้านนอกนครจังหวัดไร้เหมันต์ ในทุ่งน้ำเต้าแห่งหนึ่ง

ต้นน้ำเต้าแห้งเหี่ยวตั้งอยู่เป็นแผ่นผืนดินและโยกไหวตามสายลม ต้นน้ำเต้าเหล่านี้สูงเท่าหนึ่งคนครึ่ง รวมตัวกันเหมือนกับเป็นพุ่มหญ้าสีเหลืองผืนใหญ่ ทั้งยังส่งเสียงแซ่กๆ เบาๆ ขณะชนใส่กัน

แสงอันเย็นเยียบสีเหลืองมัวซัวของอาทิตย์อัสดงสาดเข้ามาในพุ่มน้ำเต้า แล้วลากเป็นเงาดำแคบๆ กลุ่มหนึ่ง

สตรีงดงามที่ร่างสูงชะลูดและสวมเกราะอ่อนสีดำสนิททั่วทั้งตัวนั่งอยู่ในเงาดำ ท่อนล่างของนางใช้เกราะกระโปรงทรงกระบี่ปิดเอาไว้ ตั้งแต่สองขาไปถึงส่วนสะโพกสวมผ้าบางสีดำที่เหมือนกับถุงน่อง ซึ่งปรากฏวับแวมใต้เกราะกระโปรง

ส่วนที่สะดุดตาที่สุดคือสองขาของนาง สามารถมองเห็นเท้าที่ไม่เหมือนมนุษย์ หากเป็นหนามโค้งคมกริบสีดำเหมือนกับสวมเกราะขามาตั้งแต่เกิด มองเห็นผ่านร่องแยกของเกราะกระโปรงเป็นบางครั้ง

“เสินหลิงใช่หรือไม่” ตอนนี้มีบุรุษวัยหนุ่มเดินออกมาจากในพุ่มน้ำเต้า เขามีบุคลิกสง่างาม ใบหน้าเหลี่ยมที่ขาวบริสุทธิ์ฉายแววระมัดระวัง

“ข้าเอง” สตรีเงยหน้าจากในเงามืด เผยใบหน้างดงามที่ทำให้คนรู้สึกเอ็นดู เป็นซั่งหยางเฟยที่หายตัวไปจากต้าซ่งนั่นเอง

“เป็นอย่างไร เตรียมตัวเรียบร้อยหรือยัง ครั้งนี้ข้ามาถึงที่นี่ไม่ง่าย เพื่อป้องกันไม่ให้พระบิดาเกิดความสงสัย จึงรับภารกิจที่ไม่เกี่ยวข้องอีกหลายภารกิจ” บุรุษหนุ่มเอ่ยเสียงเบาๆ

ซั่งหยางเฟยลุกขึ้น ยังคงทำให้ร่างกายของตนถูกบดบังอยู่ในเงามืดของแสงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

“องค์ชายกังวลเกินไปแล้ว ทุกอย่างเตรียมเรียบร้อยแล้ว ขอแค่ท่านทำตามสัญญาของท่าน ทำตามข้อตกลงของพวกเรา พวกเราก็จะช่วยทำทุกอย่างที่ท่านต้องการ”

บุรุษหนุ่มเงียบขรึมลง “…พี่เจ็ดกับพี่สิบสี่จะสร้างปัญหาให้แก่เจ้า”

“เป็นเรื่องที่ข้าสมควรรับผิดชอบ ขอแค่ท่านทำตามสัญญาระหว่างพวกเรา แต่ถ้าหากทำได้ ข้าน้อยมีคำขอเล็กๆ ไม่ทราบองค์ชาย…” ซั่งหยางเฟยเอ่ยยิ้มๆ

“ในเมื่อเป็นคำขอส่วนตัวของเสินหลิงเจ้า จงบอกมาเถอะ ถ้าข้าทำได้ จะพยายามเต็มที่” บุรุษหนุ่มพยักหน้า

ซั่งหยางเฟยหัวเราะเบาๆ “คืออย่างนี้ ในงานเลี้ยงใหญ่ที่ท่านจัดในวันนี้ มีคนผู้หนึ่งเคยเป็นคนรู้จักของเสินหลิง ถ้าหากมีโอกาส เสินหลิงอยากจะพบกับเขาเพื่อพูดคุยตามลำพัง”

“นี่ไม่มีปัญหา” บุรุษหนุ่มพยักหน้า แม้เขาจะรู้ว่าการพูดคุยที่ว่านี้ จะต้องไม่รวบรัดแน่ แต่ว่าสำหรับเขาที่ต้องการดึงเสินหลิงมาเป็นพวกอย่างเร่งด่วน เรื่องแค่นี้ไม่สำคัญ สถานที่ไกลความเจริญอย่างจังหวัดไร้เหมันต์ หากต้องการจับคนสองสามคน โดยไม่สนใจผลกระทบจริงๆ สำหรับเขาแล้วง่ายเหมือนปลอกกล้วย

“เช่นนั้นเสินหลิงขอขอบพระทัยองค์ชายมาก” ซั่งหยางเฟ่ยยังคงโค้งเอวคำนับบุรุษหนุ่มอย่างเคารพโดยที่สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง

“ไม่เป็นไร เรื่องเล็กๆ เท่านั้น เมื่อถึงเวลาข้าจะเรียกคนรู้จักของเจ้าออกมาตามลำพัง เจ้าบอกชื่อของเขามาสิ”

“ลู่เซิ่ง” ดวงตาของซั่งหยางเฟยสาดจิตสังหาร “เขาชื่อลู่เซิ่ง”

นางนำร่างแยกของฝ่าบาทมาด้วย นอกจากภารกิจใหญ่แล้ว เป้าหมายหลักคือการจับตัวคนที่ทำลายหุบเหวมาร หรือก็คือจับตัวลู่เซิ่งที่หายตัวไป นางออกตรวจสอบมาเป็นเวลานาน ในที่สุดก็ยืนยันตำแหน่งและพิกัดของลู่เซิ่งได้ผ่านการทดลองมากมาย

นางไม่รู้ว่าพลังของอีกฝ่ายเป็นอย่างไร แต่ในเมื่อทำลายหุบเหวมารได้ จะต้องไม่ย่ำแย่แน่

ถึงเวลานั้นจะต้องตามหาสถานที่เงียบสงัดลับตาคน แล้วรีบปล่อยร่างแยกของฝ่าบาทออกมาให้เร็วที่สุดเพื่อจับอีกฝ่ายไปจากที่นี่

ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีพลังและเบื้องหลังเป็นอย่างไร ซั่งหย่างเฟยก็ไม่คิดว่าเขาจะหนีออกจากเงื้อมมือตนเองได้ ต่อให้เป็นจ้าวแห่งมารทั่วไป หากคิดจะหนีจากการจับกุมของร่างแยกฝ่าบาท นั่นก็เป็นความละเมอเพ้อฝันเช่นกัน

ลู่เซิ่งออกมาจากวัดตราทมิฬ จากนั้นก็ยืนยันตำแหน่งของเขาน้ำเต้าได้ทันที ก่อนจะตรงดิ่งไปยังตำแหน่งจัดงานเลี้ยงใหญ่ของโอรสฉยงหวน

สถานที่ที่โอรสฉยงหวนเลือกคือเรือนด้านในของสำนักพันอาทิตย์ หน่วยหลักของสำนักพันอาทิตย์เป็นสถานที่ที่คึกคักที่สุดในสามสำนัก ขณะเดียวกันเป็นเพราะว่าคนที่ได้รับการเชื้อเชิญมาในงานเลี้ยงครั้งนี้เป็นหลัก คือคนจากสามสำนัก ดังนั้นจึงไม่ได้เลือกสวนดอกไม้ในจวนของขุนนางชั้นสูง

ทว่าขณะมุ่งหน้าไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยงหรือก็คือเรือนด้านใน ลู่เซิ่งกลับได้รับข่าวจากเชียนตู้ ซูหนิงเฟยในเขตถ่ายทอดความลับ โดยต้องการให้เขาไปพบกันที่เขตถ่ายทอดความลับทันที

ถึงแม้จะไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร แต่ตอนนี้ลู่เซิ่งก็ทราบว่ายังไม่ใช่เวลามีเรื่องกับซูหนิงเฟย เรื่องของแผ่นหิน เขากับซูหนิงเฟยต่างรู้ดีแก่ใจว่าเป็นปัญหาของใคร แม้ลู่เซิ่งจะเลื่อนระดับก็ตาม แต่ความผิดยังคงเป็นความผิด

ที่ลู่เซิ่งไม่คิดพลิกหน้ากับซูหนิงเฟย เป็นเพราะติดขัดที่เหตุผลบางประการ ส่วนที่ซูหนิงเฟยยินดีรักษาความสัมพันธ์ของทั้งสองเอาไว้ ก็มีความคิดของตัวเองเช่นกัน ทั้งสองจึงไม่มีใครพูดออกมา

ครืน…

ประตูหินค่อยๆ เปิดออก ลู่เซิ่งเดินเข้าไปในห้องลับห้องหนึ่งที่อยู่ในถ้ำ ก่อนจะเงยหน้ามองดูรอบๆ ห้อง

ซูหนิงเฟยเอนอยู่บนเก้าอี้ยาวอย่างเกียจคร้าน ดาบยาวสีขาวที่มีรูปร่างประหลาดมากเล่มหนึ่งวางอยู่ด้านข้าง

“ภัยพิบัติมารอุบัติแล้ว เจ้าจะไปล่ามารหรือไม่” ซูหนิงเฟยไม่หันหน้ามา เพียงถามขึ้นหลังจากได้ยินลู่เซิ่งเข้ามา

“อาจารย์มีคำแนะนำใดหรือ” ลู่เซิ่งประสานมือถาม

“ไม่มีหรอก มีเรื่องเล็กๆ ที่อยากถามเท่านั้น เจ้ากับสำนักไตรอริยะพันธมิตรทมิฬมีการติดต่อกันหรือไม่” ซูหนิงเฟยพลันถามคำถามประหลาด

“ไม่มีขอรับ” ลู่เซิ่งปฏิเสธอย่างแน่วแน่ “ศิษย์ไม่เคยพบสำนักไตรอริยะพันธมิตรทมิฬอะไรนั่นมาก่อน”

“แน่ใจหรือ” ซูหนิงเฟยจ้องมองลู่เซิ่งอย่างเคลือบแคลง

“แน่ใจขอรับ” ลู่เซิ่งสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ตอนที่เขาเข้ามาในเขตถ่ายทอดความลับ ได้วางกระบี่ธารธาราไว้ในห้องโดยไม่ทันระวัง จึงไม่ได้เอามาด้วย

“เช่นนั้นเจ้าระวังตัวด้วย งานเลี้ยงคืนนี้มีพันธมิตรทมิฬสอดมือมาแล้ว” ซูหนิงเฟยเตือนลู่เซิ่งโดยไม่ทราบว่ามีเป้าหมายอะไร

“พันธมิตรทมิฬหรือ” ลู่เซิ่งหยีตาใคร่ครวญ จุดร่วมเพียงหนึ่งเดียวที่พอจะเป็นไปได้ของเขากับพันธมิตรทมิฬทางต้าอิน จะมีก็แค่คดีประตูแห่งความเจ็บปวดเท่านั้น

“นอกจากนี้คนที่ข้าต้องการตามหาก็อยู่ในงานเลี้ยงคืนนี้เช่นกัน เจ้าช่วยข้าจับนางมา แล้วข้าจะให้รางวัลที่เหมาะสมกับเจ้า” ซูหนิงเฟยกล่าวอย่างราบเรียบ คำพูดนี้ดูเหมือนสงบนิ่ง แต่ลู่เซิ่งได้ยินความโกรธอันเลือนรางในน้ำเสียงของนาง

เขาไม่รู้ว่าคนที่เขาต้องตามหามีความเกี่ยงข้องใดกับซูหนิงเฟย แต่นี่ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อข้อตกลงลับระหว่างพวกเขาสองคนโuเวลกูดoทคoม

“เข้าใจแล้วขอรับ” ลู่เซิ่งย่อมไม่เชื่อวาจาผีสางของซูหนิงเฟย เรื่องแผ่นหินก่อนหน้านี้ทำให้เขาเกิดความไม่พอใจขึ้นแล้ว

ซูหนิงเฟยได้ยินความไม่จริงจังของลู่เซิ่งเช่นกัน

“นี่เป็นรางวัลที่เตรียมไว้ให้เจ้าก่อน” นางตบดาบยาวอันงดงามที่วางอยู่ด้านข้าง “กระบี่ที่เจ้าซื้อมาอ่อนแอเกินไป ดาบนี้เป็นสมบัติลับที่ข้าขุดออกมาจากโบราณสถานยุคโบราณในส่วนลึกของเทือกเขาธารน้ำแข็ง เป็นอาวุธเทพระดับใบไม้ทองคำ”

ลู่เซิ่งพลันยิ้มแฉ่ง

“อาจารย์เกรงใจจริงๆ คำสั่งที่ท่านมอบให้ ศิษย์ย่อมไม่กล้าไม่ทำตาม ไม่จำเป็นต้องเตรียมของขวัญที่ล้ำค่าแบบนี้ให้ศิษย์เลย”

“พอแล้วๆ ก่อนหน้านี้เจ้าหลอกข้า จากนั้นข้าค่อยรู้สึกตัวว่าที่แท้เด็กน้อยเจ้ากำลังหลอกข้าอยู่ เรื่องของแผ่นหิน บวกกับถ้าครั้งนี้เจ้าพาคนกลับมาสำเร็จ อาวุธเทพชิ้นนี้จะเป็นของเจ้า หนี้ระหว่างพวกเราเป็นอันหมดกัน เป็นอย่างไร” ซูหนิงเฟยกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

ลู่เซิ่งมองดาบยาวเล่มนั้น ด้ามดาบสลักตัวอักษรตัวใหญ่ไว้สิบตัว คมดาบฉลุลวดลายประหลาดส่วนหนึ่ง ดูเหมือนกับลวดลายควันเมฆ ตัวดาบแยกเขี้ยวเหมือนกับสัตว์ร้ายบางชนิด ทั้งยังโค้งงออย่างสมบูรณ์แบบ

“จิตของดาบเล่มนี้อยู่ในการหลับใหลมาโดยตลอด แต่อานุภาพที่แสดงออกมาได้ ไม่มีทางต่ำกว่าระดับใบไม้ทองคำ จะว่าไปถ้าหากปลุกจิตของอาวุธเทพของมันให้ตื่นในความเป็นจริงได้ จะไม่ใช่แค่ระดับใบไม้ทองคำ เพียงแต่คนจำนวนมาก นึกหาวิธีเท่าที่จะนึกได้แล้ว แต่ก็ยังไม่อาจปลุกจิตของอาวุธเทพให้ตื่นได้ ดังนั้นจึงได้แต่ใช้มันเหมือนอาวุธเทพใบไม้ทองคำธรรมดาๆ” ซูหนิงเฟยอธิบาย “จริงสิ ชื่อจริงของมันคือแสงจรัส”

“แสงจรัส…” ลู่เซิ่งเลียริมฝีปาก สำหรับเขาที่ตอนนี้ยากจน ได้แต่ซื้ออาวุธเทพระดับรอง อาวุธเทพของจริงที่อย่างน้อยก็อยู่ในระดับใบไม้ทองคำเป็นของล่อตาล่อใจอย่างไม่ต้องสงสัย

ถ้าหากเขาอยากจะเอาอาวุธเทพสักเล่มมาให้ได้ นอกจากลงมือแย่งชิงแล้ว ก็ไม่มีวิธีการอื่นอีก แต่ผู้เข้มแข็งระดับผู้ถืออาวุธของต้าอินในตอนนี้ คนไหนบ้างที่ไม่ได้พึ่งพาสามสำนักหรือสามตระกูลขุนนางใหญ่

หากว่าผลีผลามวู่วาม ราชสำนักต้าอินตรากฎไว้เข้มงวดกว่าต้าซ่งอีก ทั้งยังไม่ใช่ผู้อ่อนแอ ผู้ที่มีพลังต่อสู้ระดับผู้ถืออาวุธทุกคน ได้รับการลงทะเบียนโดยราชสำนัก เป็นคนที่มีชื่อบนทำเนียบ ถ้าหากแย่งอาวุธเทพ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นแค่คิดก็ทราบได้

นอกจากนี้หลังจากแย่งมาแล้ว ยังต้องลบร่องรอยพันธะอาวุธเทพเมื่อก่อนหน้าด้วย เรื่องเหล่านี้เขาไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร

ปัจจุบันในเมื่อซูหนิงเฟยเอาอาวุธเทพใบไม้ทองคำของแท้มาให้เพื่อขอโทษ เขาก็ได้แต่ฝืนรับไว้ ภายหลังตอนลงมือค่อยฟันนางให้น้อยลงสักสองสามดาบก็แล้วกัน…

“ในเมื่ออาจารย์พูดแบบนี้ ศิษย์ก็ไม่มีเหตุผลให้ปฏิเสธอีก ท่านไม่ต้องห่วง คืนนี้ ไม่ว่าจะเจออุปสรรคอะไร ข้าจะต้องพาคนกลับมาหาท่านให้จงได้” ลู่เซิ่งกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง

เขารู้ดีว่า การที่สามารถทำให้ซูหนิงเฟยขอให้ยอดฝีมือที่พลังที่แท้จริงคือจ้าวแห่งมารอย่างเขา จับกุมคนได้ จะต้องเจออุปสรรคไม่น้อยแน่

“เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว เอาล่ะ นอกจากนี้ก็ไม่มีเรื่องอื่นแล้ว เจ้าไปเถอะ” นางยกมือขึ้นทำท่าโยน ดาบยาวเล่มนั้นพลันบินหมุนออกมาฟันใส่ใบหน้าลู่เซิ่ง

หมับ!

ลู่เซิ่งยื่นมือจับด้ามดาบดุจสายฟ้าแลบ จุดที่มือสัมผัสมีกลิ่นอายอบอุ่นอ่อนโยนส่งมา กลิ่นอายนี้ยิ่งใหญ่หนักแน่นถึงขีดสุด ทั้งยังแข็งแกร่งและบริสุทธิ์กว่ากระบี่ธารธารามากมายมหาศาล

ถ้าหากบอกว่ารังสีกลิ่นอายของกระบี่ธารธาราเล็กละเอียดเหมือนกับเส้นผม อย่างนั้นรังสีของดาบแสงจรัสเล่มนี้ก็ต่อเนื่องทอดยอดเหมือนกับน้ำพุ ปริมาณรังสีที่ส่งเข้ามาในร่างลู่เซิ่งในเวลาแค่หนึ่งลมหายใจ ก็เป็นสิบเท่าในเวลาอันยาวนานของกระบี่ธารธารา

“ดาบดี…” ลู่เซิ่งสูดหายใจลึก รู้สึกว่าร่างกายกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงพิเศษบางอย่างเพราะรังสีของอาวุธเทพชิ้นนี้

“ไปเถอะ อย่าลืมคำสัญญาเล่า” ซูหนิงเฟยกล่าวอย่างราบเรียบ

“อาจารย์ไม่ต้องห่วง” ลู่เซิ่งยิ้ม ร่างกายค่อยๆ โปร่งแสง จนกระทั่งหายไปจากที่เดิมในที่สุด

ด้านในห้องลับเหลือแค่ซูหนิงเฟยคนเดียว นางหลับตาเอนอยู่บนเก้าอี้ยาวอย่างสงบ

“กล้ารับแม้กระทั่งดาบจิ่วซู่แสงจรัส…ไม่รู้จักเป็นตายจริงๆ…” มุมปากนางปรากฏความเยาะเย้ย

“เป็นเพราะเจ้าเด็กบ้านนอกนี่ไม่มีความรู้ เจ้าเตือนเขาแล้วแท้ๆ ว่าชื่อของดาบคือแสงจรัส เขากลับไม่สะทกสะท้าน นั่นหมายความว่าเขาไม่เคยได้ยินชื่อของดาบปีศาจเล่มนี้มาก่อนจริงๆ” ชายชราผมขาวที่ผมยาวไปถึงหลังเท้าเมื่อก่อนหน้าปรากฏจากผนังห้องลับ

“แม้แต่ข้ายังไม่กล้าแตะต้องนาน เด็กนี่ตายแน่” ซูหนิงเฟยเอ่ยด้วยรอยยิ้มเย็นชา

“ใครให้เขาเกิดจิตสังหารกับเจ้าจริงๆ เล่า” ชายชราส่ายหน้า “แต่เจ้าก็ตัดใจได้ลง ดาบจิ่วซู่แสงจรัสอยู่ในมือเจ้ามามากกว่าพันปี กลับทิ้งไปแบบนี้เสียได้”

“ดาบปีศาจเล่มนี้มีอานุภาพยิ่งใหญ่ แต่พลังที่ไม่อาจควบคุมได้ไม่มีความหมายสำหรับข้า ขนาดศึกษามาหลายปี ต้าอินก็หาทางจัดการมันไม่ได้เช่นกัน ได้แต่จัดให้มันเป็นอาวุธชั่วร้ายอันดับสาม” ซูหนิงเฟยกล่าวอย่างเย็นชา “เทียบกันแล้ว ทิ้งให้เขาไปทดสอบดีกว่า บังเอิญมีตัวเลือกที่เหมาะสมพอดี ข้ากำลังอยากดูเหมือนกันว่าหากดาบเล่มนี้แสดงความสามารถทั้งหมดได้ จะไปได้ถึงขั้นไหน เจ้าไม่ต้องห่วงหรอก หากเกิดเรื่องวุ่นวาย อาวุธชั่วร้ายคลั่งขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นโลกมนุษย์หรือพิภพมาร ล้วนไม่มีใครยอมให้เขาอยู่แล้ว”

ชายชราถอนใจยาวและไม่ได้พูดอะไรอีก

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ยอดวิถีแห่งปีศาจ

ยอดวิถีแห่งปีศาจ

Way of the Devil, Cực Đạo Thiên Ma, Extreme Dao Heavenly Demon, WoD, 极道天魔
Score 9.3
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1213 Chapters (จบแล้ว)
ลู่เซิ่งพนักงานรัฐวิสาหกิจ พบว่าตัวเองมาอยู่ในโลกที่ไม่คุ้นเคย กลายเป็นคุณชายร่ำรวยมีเงินทอง แต่ละวันมีกับข้าวสามมื้อ มีสาวใช้อุ่นเตียง เดิมทีเขาคิดจะใช้ชีวิตสบายๆ แบบนี้ไปจนตาย จนกระทั่งว่าที่น้องเขยของเขาตายอย่างลึกลับหลังจากตรวจสอบคดีประหลาด ทั้งยังถูกฆ่าล้างตระกูล!.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset