📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง – ตอนที่ 76

บทที่ 76 - พบหน้ายามเย็น
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

หอเฮ่าชี่ ห้องน้ำชา

สวี่ชีอันมาที่นี่อีกครั้งเพื่อพบกับขันทีใหญ่ที่มีจอนผมสีขาวยวงผู้หล่อเหลาทรงสง่า เขายังคงสวมชุดหรูหราสีครามเช่นเดิม ในดวงตามีความโชกโชนยากจะบรรยาย

นอกจากนี้ยังมีผู้ชายร่างสูงใหญ่ตระหง่านหน้าตาเย็นชาคนหนึ่งด้วย

เขานั่งเหยียดหลังตรงอยู่ข้างโต๊ะวางน้ำชาอย่างเรียบร้อยจริงจัง ใบหน้าไร้อารมณ์

เว่ยเยวียนนั่งอยู่หน้าโต๊ะ ลิ้มรสชาหอมกรุ่นอย่างละเมียดละไม จากนั้นจึงกล่าว “กระจกจดจำเจ้าเป็นเจ้าของแล้วจึงให้เจ้าเก็บรักษาชั่วคราว ผู้ที่ติดต่อกับเจ้าคนแรกสุดเป็นคนของนิกายปฐพีจริงๆ และคิดจะสังหารเจ้า ฆ้องทองคำหยางได้โจมตีจนเขาล่าถอยไปแล้ว เจ้าจะไม่เป็นอันตรายชั่วคราว ต่อไปก็จะมีหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลคอยเฝ้าดูอย่างลับๆ อยู่แถวละแวกบ้านของเจ้าสักพักใหญ่ด้วย”

สวี่ชีอันขมวดคิ้ว เขาไม่แปลกใจกับการกระทำของเว่ยเยวียน เมื่อวานตอนที่บอกให้เขาตอบกลับหมายเลขเก้า ก็ได้เปิดเผยความคิด ‘ดำกินดำ’[1] ของขันทีใหญ่ผู้นี้ออกมาแล้ว

จุดที่เขาไม่พอใจก็คือ ลูกพี่ ท่านกลับไม่จัดการเรื่องนี้ให้เหมาะสม ยังปล่อยคนให้หนีไปได้แล้วทิ้งภัยร้ายใหญ่หลวงเช่นนี้เอาไว้เสียอย่างนั้น

“เทพเจ้าหยินของนิกายปฐพีไร้รูปไร้รอย ยากจะสังหารได้” เว่ยเยวียนอธิบายหนึ่งประโยคแล้วก้มหน้าดื่มชา

นี่ก็คือจุดแข็งและจุดอ่อนของระบบ

หยางเยี่ยนสะบัดมือ กระจกก็บินตัดอากาศไปอยู่ตรงหน้าสวี่ชีอันแล้วหยุดนิ่งไม่ขยับ

สวี่ชีอันรับกระจกมาแล้วเก็บเข้าไปในอกเสื้อ ค้อมกายคำนับ ก่อนจะออกไปจากหอเฮ่าชี่

หยางเยี่ยนผู้นั่งตัวตรงประดุจต้นสนเอ่ยเสียงต่ำ “ท่านพ่อบุญธรรม ข้าจับเทพเจ้าหยินไว้ไม่ได้”

เว่ยเยวียนยิ้มอ่อนโยน “เหตุใดต้องจับไว้เล่า”

หยางเยี่ยนไม่เข้าใจ ขมวดคิ้วแน่นเป็นปม

เว่ยเยวียนแย้มยิ้มดังเมฆล่องลมโชย “เจ้าทำไม่ได้ ย่อมมีคนทำได้อยู่แล้ว”

สวี่ชีอันออกจากที่ทำการของหน่วยลาดตระเวนยามวิกาล เขาซื้อถั่วคั่วมาสองถุง แล้วกระโดดโลดเต้นไปเอาใจเจ้านายเหนือหัว

หลี่อวี้ชุนกำลังอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะโดยไม่เงยหน้า

“พี่ชุน ข้าซื้อถั่วคั่วมาให้ท่าน” สวี่ชีอันตะโกนออกมาอย่างคล่องปาก

พี่ชุนหรือ หลี่อวี้ชุนเงยหน้าขึ้นแล้วมองเขาด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“หัวหน้า” สวี่ชีอันเอ่ยเสริม

“อืม วางไว้ที่โต๊ะเถิด” หลี่อวี้ชุนพูดจบก็ฝังหัวลงไปในเอกสารต่อ

สวี่ชีอันชะโงกหัวไปมองแล้วจึงเอ่ย “หัวหน้า ท่านกำลังอ่านคดีเหมืองดินประสิวอยู่หรือขอรับ”

“จูกว่างเสี้ยวรักษาอาการบาดเจ็บ ซ่งถิงเฟิงลาพัก แล้วเหตุใดเจ้าไม่อยู่ที่บ้านเล่า” หลี่อวี้ชุนเอ่ยถามหนึ่งประโยค จากนั้นก็พยักหน้า “ตอนนี้ข้าเป็นผู้รับผิดชอบคดีนี้”

“จริงๆ ข้าก็ไม่ได้เป็นอะไรขอรับ เพียงมาทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมของหน่วยงาน” สวี่ชีอันลองเอ่ยถาม “เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์ปีศาจหรือขอรับ ถ้าหากเป็นความลับจะทำเป็นว่าข้าไม่เคยถามก็ได้ขอรับ”

หลี่อวี้ชุนหยิบถั่วคั่วสองสามเม็ดโยนเข้าปาก พูดพลางกินพลาง “ไม่อาจเอ่ยรายละเอียดคดีกับเจ้าได้ ข้าจะเลือกพูดกับเจ้าเพียงบางส่วน…เบื้องต้นสงสัยว่าจะเป็นเศษเดนของอาณาจักรหมื่นปีศาจที่แอบซ่อนอยู่ใกล้ๆ เมืองหลวง”

“อาณาจักรหมื่นปีศาจหรือขอรับ” สวี่ชีอันนึกถึงประวัติศาสตร์ ‘การกวาดล้างปีศาจหกสิบปี’ ขึ้นมา

“ถึงแม้อาณาจักรหมื่นปีศาจจะกลายเป็นเพียงประวัติศาสตร์ แต่หลายปีมานี้ เศษเดนของอาณาจักรหมื่นปีศาจต้องการจะรื้อฟื้นอาณาจักรทุกวิถีทางและกอบกู้ดินแดนกลับคืนมาอยู่ตลอด” หลี่อวี้ชุนกล่าว

“ศาสนาพุทธปกครองดินแดนทางตะวันตก มีพลังแข็งแกร่ง อาณาจักรหมื่นปีศาจในยุครุ่งเรืองก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ คิดจะฟื้นฟูอาณาจักรก็ต้องมีวิธีการอื่น”

สวี่ชีอันตกใจ “ดังนั้นจึงคิดจะใช้ดินปืนจากต้าฟ่งของพวกเราหรือ เพราะอย่างนั้นเจ้าปีศาจตัวนั้นถึงได้ขับไล่คนเผาถ่านที่อยู่ใกล้เคียงไป”

กระจ่างแจ้งทันใด

หลี่อวี้ชุนกำลังยุ่งอยู่จึงเอ่ยถาม “ยังมีเรื่องอื่นอีกหรือไม่”

สวี่ชีอันกล่าวอย่างมีไหวพริบ “ไม่มีแล้วขอรับ ท่านกำลังยุ่ง ข้าจะไปฝึกลมหายใจที่ห้องข้างๆ มีสิ่งใดสั่งการก็เรียกใช้ข้าได้ขอรับ”

หลี่อวี้ชุนพยักหน้า

หลังจากสวี่ชีอันจากไป พี่ชุนก็อ่านเอกสารพลางกินถั่วคั่วไปพลาง แต่เขาบังเอิญปัดถั่วคั่วจนตกลงพื้นเสียงดังขลุกขลักอยู่ครู่หนึ่ง ถั่วกระจายไปทั่วพื้น

หลี่อวี้ชุนจดจ้องถั่วบนพื้นนิ่งงันแล้วหลับตาลงด้วยความเจ็บปวด

ที่ห้องข้าง สวี่ชีอันนั่งตัวตรงจ้องมองกระจกหยก ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังปราณเจียนจะคลั่งแผ่มาจากห้องข้างๆ แค่ครู่เดียวก็สงบลงทันที

เขาไม่ได้สนใจ พิจารณาถึงจุดประสงค์ที่ขันทีใหญ่ให้เขาเป็นผู้ถือครองกระจกต่อ

ถึงจะบอกว่าหนังสือปฐพีได้หยดเลือดจำเจ้าของแล้ว แต่ในเมื่อนักบวชเฒ่าสามารถมอบกระจกให้เขาได้ ก็หมายความว่าการหยดเลือดจำเจ้าของไม่ใช่จะเปลี่ยนแปลงไม่ได้

ข้าเป็นฆ้องทองแดงคนหนึ่ง ไม่มีเหตุผลเลยที่จะมอบสมบัติชิ้นสำคัญนี้ให้ข้าเป็นผู้รักษาดูแล

ช่างเถอะ ยังไม่ต้องสนใจ ในเมื่อบอกว่าจะมีกองกำลังลับมาเฝ้าดูบ้านข้า เช่นนั้นก็ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของอาสะใภ้กับพวกน้องหญิงชั่วคราว

ยอดฝีมือของนิกายปฐพีถูกจัดการจนล่าถอยไปแล้ว คาดว่าภายในช่วงเวลาสั้นๆ คงไม่อาจมาที่เมืองหลวงได้อีก

สวี่ชีอันฝึกลมหายใจจนกระทั่งปราณแผ่ซ่าน และเขาก็ใช้ชีวิตผ่านไปหนึ่งวันอย่างสุขกายสบายใจเช่นนี้เอง

คืนนี้ไปหาฝูเซียงเถอะ ไปหาฝูเซียงเถอะ ไปหาฝูเซียงกันเถอะ…

ไม่ได้ๆ ตอนนี้ควรจะเก็บเงินเอาไว้ซื้อบ้านแล้วให้พวกอารองย้ายมาอาศัยในเมืองชั้นใน แบบนี้จะปลอดภัยยิ่งกว่า…

จะต้องไม่เสียเงินทองเพียงเพราะความสุขชั่วคราว แม้ว่าคณิกาฝูเซียงจะมีรักลึกซึ้งกับข้าและยืนกรานว่าไม่ต้องการเงิน แต่ข้ายังต้องตกรางวัลให้สาวใช้กับนางรำอยู่ดี

เงินไม่กี่ตำลึงก็คือเงิน

สวี่ชีอันหันหัวม้าแล้วออกจากเมืองชั้นในด้วยความมุ่งมั่นยิ่งใหญ่

เมื่อกลับถึงบ้านก็ถึงเวลาจุดโคมกันแล้ว ท้องฟ้าเป็นสีคราม

เมื่อกินข้าวเสร็จ เขาก็ข้ามกำแพงกลับไปยังลานของตน ในยุคที่ไม่มีโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ ทั้งยังขาดชีวิตกลางคืนเช่นนี้ นอกจากไปที่หอนางโลมแล้ว ก็มีแต่การเขียนบันทึกประจำวันยามค่ำคืนเป็นการฆ่าเวลา

ฝูเซียงช่างเป็นสตรีที่ทำให้คนหยุดยั้งไม่ได้จริงๆnᴏᴠᴇʟɢu.ᴄoᴍ

สวี่ชีอันเข้าไปในห้อง หยิบหินเหล็กไฟออกมาแล้วจุดตะเกียง

ทันใดนั้น กล้ามเนื้อของเขาก็เกร็งกระชับ ร่างกายแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น

บนเตียงมีนักบวชเฒ่าสวมชุดเต๋าโกโรโกโสผู้หนึ่งนั่งอยู่ ผมหงอกขาวของเขาถูกมัดรวบด้วยปิ่นเต๋าไม้มะเกลือ เส้นผมระเกะระกะห้อยลงมาหลายเส้น

แสดงให้เห็นชัดถึงความอิสระและความโชกโชนที่อยู่นอกกรอบ

“พวกเราเจอกันอีกแล้ว” แววตาของนักบวชเฒ่าจ้องมองอย่างสงบ “จากลากันครั้งก่อน เจ้ายังเป็นทหารระดับหลอมจิตอยู่เลย ตอนนี้อยู่ระดับหลอมปราณแล้ว เจ้าช่างมีดาวนำโชครายล้อมเสียจริง”

สวี่ชีอันยืนอยู่ข้างโต๊ะ ร่างกายอยู่ในสภาวะเตรียมพร้อมต่อสู้ฉับพลัน เขาเอ่ยเสียงขรึม

“ท่านนักบวชบุกรุกบ้านผู้อื่นยามวิกาลเช่นนี้มีจุดประสงค์ใด”

นักบวชเฒ่าไม่สนใจความไม่เป็นมิตรของสวี่ชีอัน เขาเอ่ยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้ามาพูดกับเจ้าว่า ศิษย์น้องจื่อเหลียนของข้าไปสวรรค์แล้ว เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลอีกต่อไป”

“ท่านฆ่าเขาหรือ”

“ข้าช่วยเขาให้ไปสวรรค์เท่านั้นเอง”

แล้วคืนนี้เจ้าจะมาช่วยข้าให้ไปสวรรค์ด้วยหรือ

หมายเลขเก้าตายแล้ว ตายด้วยมือของนักบวชผู้นี้…ถ้าหากเขาสามารถจัดการจื่อเหลียนได้ด้วยตัวคนเดียว เขาก็ไม่จำเป็นต้องทิ้งสมบัติไว้ก็ได้นี่…สวี่ชีอันคาดเดาว่านักบวชเฒ่าน่าจะเป็นพวกนกปากซ่อมกับหอยกาบสู้กัน คนตกปลาได้ประโยชน์[2]

ปัญหาคือ เขามาซุ่มอยู่ล่วงหน้าได้อย่างไร

ข้ารู้แล้ว…แม่มันเถอะ สะกดรอยตามข้าอีกแล้วสิ! มุมปากสวี่ชีอันกระตุก

นักบวชเฒ่าคลำมาถึงจวนสกุลสวี่ได้ก็หมายความว่าสะกดรอยตามเขามานานแล้ว ดังนั้นย่อมกระจ่างแจ้งดีถึงสถานะและตำแหน่งงานในหน่วยลาดตระเวนยามวิกาล

มือสังหารของคนสกุลโจว หน่วยลาดตระเวนยามวิกาล นักบวชเฒ่า…ข้าเป็นแค่คนข้ามภพธรรมดาๆ เท่านั้น พวกเจ้าตัวสารเลวช่างพากันสะกดรอยตามข้าคนแล้วคนเล่า

ข้าพิจารณาไม่รอบคอบเอง เขามอบสมบัติให้ข้า แล้วเหตุใดจะไม่สะกดรอยตามให้ความสนใจข้าล่ะ…

สวี่ชีอันลองเอ่ยถาม “ท่านนักบวชมาเอาหนังสือปฐพีคืนหรือ”

นักบวชเฒ่าส่ายหน้า “ข้ามีอยู่แล้ว”

กระจกหยกไถลออกมาจากแขนเสื้อของเขา ลักษณะเหมือนกับในอกเสื้อของสวี่ชีอันไม่มีผิด

“นี่คือชิ้นส่วนหมายเลขเก้าที่ศิษย์น้องของข้าถืออยู่ วันนี้นับว่ากลับสู่มือเจ้าของเดิมแล้ว ส่วนบานนั้นของเจ้า ก็คิดเสียว่าข้ามอบให้เจ้าเป็นของกำนัลขอบคุณเถิด”

ไม่ทันรอให้สวี่ชีอันตอบกลับ เขาก็พึมพำกับตัวเอง “ชิ้นส่วนหนังสือปฐพีมีทั้งหมดเก้าชิ้น ข้าแบ่งส่งมอบให้คนที่แตกต่างกัน เจ้าก็คือหนึ่งในคนที่ข้าเลือก และคนเจ็ดคนที่แตกต่างกันพวกนั้นรวมตัวก่อตั้งเป็นพรรคฟ้าดิน”

สวี่ชีอันเอ่ยถาม “พวกเขาเป็นใคร”

นักบวชเฒ่าส่ายหน้า “พวกเขามีตัวตนสถานะของตัวเอง มาจากทั่วทุกหนแห่ง ถ้าหากเจ้าอยากรู้ก็ไปถามเอาเอง เจ้ารู้วิธีการใช้งานหนังสือปฐพีแล้ว ข้าจะไม่เปิดเผยตัวตนของผู้ใด รวมถึงตัวเจ้าด้วย”

“วันนี้ที่ข้ามาก็เพราะจะเชิญเจ้าเข้าร่วมพรรคฟ้าดิน”

“ข้าหรือ” สวี่ชีอันเอ่ยถามพร้อมจิตใจระแวดระวัง “ข้าเป็นแค่ทหารที่เพิ่งเข้าสู่ระดับหลอมปราณเท่านั้น มีดีอะไรให้ท่านนักบวชให้ความสำคัญหรือ”

“เมื่อกี้ข้าเพิ่งพูดไป เจ้าเป็นผู้ที่มีดาวนำโชครายล้อม”

สวี่ชีอันใจสั่น จริงด้วย นักบวชเฒ่าผู้นี้สามารถมองเห็นโชคลางแปลกประหลาดของข้าได้

ในที่สุดก็มีคนวงในมาคลี่คลายให้ข้าแล้ว เขามักเก็บเงินได้อยู่บ่อยๆ แม้จะดียิ่งนัก แต่กลับไม่สบายใจเลยสักนิด

ถึงอย่างไรข้าก็เป็นคนที่อยู่ในโลกความเป็นจริง

เขาไม่ได้เอ่ยถึงโชคอันแปลกประหลาดของตนออกไป แต่ใช้ประโยชน์จากทักษะการพูดอย่างเต็มที่ กล่าวว่า “ขอท่านนักบวชโปรดอธิบายด้วย”

…………………………………

[1] ดำกินดำ สำนวนจีน หมายถึง การกระทำสิ่งชั่วร้ายต่ออีกฝ่าย เช่น การบังคับ กดขี่ข่มเหง ข่มขู่

[2] นกปากซ่อมกับหอยกาบสู้กัน คนตกปลาได้ประโยชน์ สุภาษิตจีน หมายถึง คนสองฝ่ายต่อสู้กัน ไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายฝ่ายที่สามก็ยื่นมาเข้ามาหาผลประโยชน์

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Nightwatcher, Dafeng's Night Squad, Great Feng's Nightwatchers The Nightwatchers of Feng 大奉打更人, วิถียุทธ์คนเคาะยามแห่งต้าเฟิ่ง(siaminter), Guardians Of The Dafeng(ซีรีส์)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , , ต้นฉบับ: 951 Chapters (จบแล้ว)
สวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน….. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset