📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง – ตอนที่ 47

บทที่ 47 - ยั่วโมโหอาสะใภ้รายวัน
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

เป็นเช่นนี้ สวี่ชีอันจึงได้มาหนึ่งตำลึงเงินกับสี่อีแปะ บวกกับเงินที่มีอยู่เดิมสามอีแปะและที่เก็บมาได้อีกหนึ่งอีแปะ จึงมีทั้งหมดสองตำลึงเงิน

แต่ปิ่นระย้าทองที่สวี่ชีอันถูกใจมีราคาสิบตำลึงเงิน

เขาช่วยแม่นางน้อยอีกสามคนแก้ปริศนาคำตามสูตรเดิม ในที่สุดก็ทำเงินได้ห้าตำลึงเงิน

“น่าจะพอซื้อปิ่นระย้าทองหนึ่งชิ้นแล้ว แต่ข้ายังต้องซื้อให้อาสะใภ้อีกหนึ่งชิ้น…”

“คุณชายขอรับ” เถ้าแก่ร้านเรียกขัดจังหวะความคิดของสวี่ชีอันด้วยใบหน้าซีดขาว

สวี่ชีอันมองเขาเงียบๆ

“คุณชายโปรดเมตตาได้หรือไม่ขอรับ”

“เถ้าแก่หมายความว่าอย่างไรหรือ ท่านเป็นคนตั้งกฎเองนี่หนา”

“คุณชายต้องการอะไรโปรดพูดตามตรงเถิด”

“ข้าอยากซื้อปิ่นระย้าสองชิ้น แต่มีเงินพอซื้อแค่ชิ้นเดียว…อืม แบบครึ่งราคา”

“ข้า ข้าส่งให้คุณชายเลยแล้วกัน” เถ้าแก่ร้านขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“เช่นนั้นก็เกรงใจแล้ว”

“…ต่อไปท่านอย่าได้มาอีกเลย ชายชราผู้นี้จะซาบซึ้งใจอย่างมาก”

จ่ายไม่ไหวสินะ… สวี่ชีอันจากไปพร้อมกับปิ่นระย้าทองสองชิ้น

เขาไม่ได้คิดจะกินฟรีจริงๆ ข้าแซ่สวี่ไม่ใช่คนอย่างนั้น เถ้าแก่ร้านผู้อับจนก็เกรงใจเกินไปแล้ว

ส่วนความรู้สึกของเถ้าแก่ร้านนั้น เขาไม่สนใจ สามารถเปิดร้านค้าเช่นนั้นได้ แม้ว่าของราคายี่สิบสามสิบตำลึงเงินจะเจ็บเข้าเนื้อแน่ๆ แต่ก็ไม่ถือว่าสูญเสียมากนัก

อีกอย่าง ในเมื่อเล่นแบบนี้และได้รับประโยชน์จากเส้นทางนี้ เช่นนั้นก็ต้องเตรียมใจพบยอดฝีมือให้ดี

ไม่สมเหตุสมผลเลยที่เจ้าสามารถเอาเงินคนอื่นได้ แต่คนอื่นไม่อาจถอนขนแกะ[1]ของเจ้าได้

ออกจากร้านมาได้ไม่นาน จู่ๆ ก็รู้สึกเย็นวาบด้านหลังจนขนลุกซู่ รูขุมขนคล้ายมีเข็มเล็กๆ แทงลงไป

นี่ทำให้หัวใจของเขาเต้นถี่รัวแล้วหลั่งอะดรีนาลีนออกมา

มีคนสะกดรอยตามข้า… กำลังสังเกตดูข้าอยู่… แล้วซ่อนเก็บความไม่เป็นมิตรเอาไว้… สวี่ชีอันรับรู้ได้รางๆ

สวี่ชีอันระงับอารมณ์ แสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ในใจกำลังครุ่นคิด

‘ใครสะกดรอยข้า… ร้านเป่าชี่ซวนหรือ เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ ถึงแม้เถ้าแก่จะดูเหมือนอยากทุบตีข้ามากๆ แต่ยอดฝีมือที่ทำให้ข้าขนลุกขนพองได้จะต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ แต่ร้านเป่าชี่ซวนเล็กๆ ไม่มียอดฝีมือเช่นนี้อยู่

สำนักศึกษาอวิ๋นลู่หรือ ก็ไม่ถูกสิ พวกปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ของสำนักศึกษาอวิ๋นลู่สู้กันเพื่อรับข้าไปเป็นศิษย์ แล้วจะมาแอบแฝงความคิดร้ายต่อข้าได้อย่างไร’

‘เป็นบ้านสกุลโจว!’

ช่วงนี้ถ้าหากจะมีใครเกลียดชังและแอบเฝ้าสังเกตการณ์เขาได้ ก็ต้องเป็นบ้านสกุลโจว

สวี่ชีอันเคร่งเครียดในใจ ประสบการณ์จากชาติก่อนบอกเขาว่าทันทีที่เจ้าถูกคนสะกดรอยตามเฝ้าสังเกต นั่นก็แปลว่าอีกฝ่ายจะลงมือในเร็วๆ นี้ ถึงขั้นที่อาจเป็นคืนนี้เลยก็ได้

‘แผนเยี่ยมเยียนสำนักศึกษาอวิ๋นลู่นั้นจัดการได้ถูกต้องแล้ว ถึงแม้ฝีมือของข้ากับอารองจะไม่อ่อนด้อย แต่ผู้หญิงในบ้านก็ยังเป็นภาระ…’

สีหน้าของสวี่ชีอันเคร่งเครียด แผนจัดการสกุลโจวจะล่าช้าไม่ได้แล้ว

เมื่อกลับไปที่จวนสกุลสวี่ สวี่ชีอันก็หยิบเอาหน้าไม้ในตู้ที่ได้มาจากการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม (ของฟรี) กับซ่งชิงแห่งสำนักโหราจารย์มาห้อยไว้ที่เอว และนำเกราะคันฉ่องมาผูกไว้ที่หน้าอก

เช่นนี้จึงจะรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาก

เมื่อข้ามกำแพงไปยังบ้านใหญ่ เขาก็เห็นสวี่หลิงอินกำลังวิ่งไล่ฝูงห่านอยู่ที่ลานด้านหลัง นางเท้าเอวแล้วกระทืบเท้าแรงๆ จนทำให้ห่านน้อยตกใจขวัญหนีดีฝ่อ ส่งเสียงแผดร้องวุ่นวายไปทั่ว

“พี่ใหญ่ๆ ท่านเห็นความน่าเกรงขามของข้าหรือไม่” เมื่อสวี่หลิงอินเห็นพี่ใหญ่กลับมาก็ยิ่งรู้สึกได้ใจมากขึ้น

“ห่านมาจากไหนน่ะ” สวี่ชีอันตะลึงงัน เช้านี้ตอนที่ออกจากบ้านเห็นชัดๆ ว่ายังไม่มีเลย

“ท่านแม่ให้คนไปหาซื้อมา บอกว่าเลี้ยงที่บ้านตัวเอง…” สวี่หลิงอินเอียงคอแล้วเอ่ยเสียงเบา “ข้าลืมท่อนหลังไปแล้ว”

น่าจะเป็นเลี้ยงที่บ้านตัวเองถูกกว่าซื้อข้างนอกสินะ… สวี่ชีอันร้อง “อ้อ” คำหนึ่ง แล้วกล่าว “เจ้าระวังหน่อย อย่าเหยียบห่านจนตายล่ะ แล้วไม่มีห่านตัวใหญ่หรือ”

“ห่านตัวใหญ่อยู่ทางนั้น ข้าจะไปไล่มันมา” สวี่หลิงอินเสนอตัวย่างก้าวเข้าไปในสวนดอกไม้ด้วยขาสั้นเล็กๆ ของนาง

ไม่กี่วินาทีต่อมา เด็กน้อยก็ร้องเสียงดังลั่นปานฆ่าหมู

พุ่มไม้สั่นไหวรุนแรง สวี่หลิงอินร้องไห้โฮวิ่งออกมา เท้าลากห่านตัวใหญ่ตัวหนึ่งที่กำลังงับขาน้อยๆ ของนางไว้แน่น

สีหน้าของนางเหมือนกำลังจะตายอยู่แล้ว “พี่ใหญ่ช่วยข้าด้วย…”

สวี่ชีอันยืนดูอยู่ข้างๆ พร้อมหัวเราะเป็นเสียงหมูออกมา

ย่ำค่ำ อารองสวี่กลับมาบ้าน สวมเครื่องแบบทหาร ที่เอวแขวนดาบยาวและหน้าไม้ทหาร แววตาดุจอินทรีกิริยาดังหมาป่า บุคลิกแตกต่างจากยามสวมเสื้อผ้าปกติโดยสิ้นเชิง

คุณชายทั้งสามมาถึงห้องหนังสือ หลังจากลวี่เอ๋อยกชาร้อนเข้ามาแล้วก็ถอยออกไปอย่างรู้งาน

สวี่ฉือจิ้วเอ่ย “ข้ากับพี่ใหญ่จัดการทุกอย่างแล้ว วันพรุ่งสามารถส่งท่านแม่กับน้องสาวไปยังสำนักศึกษาได้ หลิงอินก็กำลังจะเข้าระดับก่อปัญญาพอดี ระดับความสามารถของอาจารย์ที่ท่านพ่อเชิญมาจึงไม่พอ สอนนางไม่ได้ หากใช้อาจารย์ของสำนักศึกษาก็ไม่มีปัญหาแล้ว”

หลิงอินได้ยินข่าวนี้จะต้องดีใจจนร้องไห้ออกมาแน่… สวี่ชีอันนึกถึงเรื่องตลกขำขันที่ไปมอบชุดรวมแบบฝึกหัดหนึ่งลังให้เด็กๆ ด้วยความมีน้ำใจในชาติก่อนขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล

อารองสวี่ยินดีเป็นอย่างยิ่ง นี่สามารถแก้ไขความหนักใจของเขาได้อย่างไม่ต้องสงสัย ผู้หญิงในบ้านสามารถอยู่ในที่ทางที่เหมาะสม เขาก็ไม่ต้องเป็นห่วงกังวลใดๆ แล้ว

“ฉือจิ้ว ลำบากเจ้าแล้ว พ่อรู้ว่าการให้เจ้าเรียนหนังสือนั้นเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดในชีวิตนี้”

สวี่ฉือจิ้วรู้สึกอับอายเล็กน้อย “ท่านพ่อ นี่เป็นผลงานของพี่ใหญ่ ไม่เกี่ยวกับข้า”

“หนิงเยี่ยนหรือ” อารองสวี่มองไปยังหลานชายอย่างคาดไม่ถึงโนiวลกูดอทคอม

เมื่อได้ยินลูกชายอธิบาย อารองสวี่ก็เอ่ยอย่างเสียดาย “หนิงเยี่ยนเอ๋ย เรื่องผิดพลาดที่สุดในชีวิตที่อารองทำก็คือส่งเจ้าไปฝึกยุทธ์”

ตอนนี้อารองสวี่เชื่อแล้วว่าหลานชายของเขาเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งปัญญา

ข้าแค่ใช้ประโยชน์จากความรู้ที่เคยเรียนในชาติก่อนอย่างมีประสิทธิภาพเท่านั้น… สวี่ชีอันเอ่ยเสียงเบา “มีเรื่องหนึ่งที่ข้าอยากบอกอารอง ตอนที่ข้ากลับมาก็มีคนสะกดรอยตามด้วย ฉือจิ้ว เจ้าล่ะ”

ท่าทางของสองพ่อลูกเปลี่ยนไป

สวี่ซินเหนียนขมวดคิ้ว “ถึงจะถูกคนสะกดรอยตาม แล้วข้าจะไปรู้ได้อย่างไร”

เขาเป็นแค่ปัญญาชนระดับเปิดปัญญาคนหนึ่งเท่านั้น

อารองสวี่ยืนขึ้นแล้วเดินไปมาอย่างวิตกกังวลพร้อมเอ่ยเสียงเบา “หนิงเยี่ยน คืนนี้เจ้าค้างในจวนเถอะ พวกเราอาหลานอยู่ใกล้กันสักหน่อย จะได้ดูแลกันง่าย อีกอย่าง เดี๋ยวข้าจะออกไปข้างนอกสักรอบ ไปบอกกองดาบให้พวกเขาเพิ่มกำลังลาดตระเวนบริเวณใกล้เคียงตอนกลางคืน”

สวี่ซินเหนียนและสวี่ชีอันมองสบตากัน ในใจเคร่งเครียด

เมื่อถึงเวลาอาหารเย็น สวี่ชีอันก็เหลือบมองดูสวี่หลิงเยวี่ย น้องสาวกินอาหารอย่างสง่างาม เขาส่งเสียงกระแอมไอขึ้นมา ดึงดูดสายตาของทุกคนในบ้าน

เขาหยิบกล่องไม้แดงเล็กๆ สลักอักษร ‘เป่าชี่ซวน’ ออกมาจากอกเสื้อ แล้วเปิดกล่องออกช้าๆ มันคือปิ่นทองระย้าที่ทำขึ้นอย่างประณีต หัวปิ่นเป็นดอกไม้ประดับมุกที่แกะสลักอย่างวิจิตรบรรจง มีพู่สีทองเรียวเล็กหลายเส้นห้อยลงมา

อย่าว่าแต่รูปแบบ แค่ปริมาณของทองคำอย่างเดียวก็ดึงดูดความสนใจของทุกคนแล้ว

สวี่หลิงเยวี่ยและอาสะใภ้ตะลึงงันทันที ดวงตาโตจดจ้องอยู่ที่ปิ่นทองระย้า

ปิ่นทองระย้าเป็นเครื่องประดับชนิดหนึ่ง เพราะต้องใช้ฝีมือประณีตและวัสดุล้ำค่า ต่อมาจึงเป็นที่ต้องการของหญิงสาวและสตรีออกเรือนในตระกูลสูงศักดิ์ฐานะร่ำรวย ผู้หญิงทั่วไปสวมใส่เครื่องประดับดีๆ เช่นนี้ไม่ได้

ก่อนหน้านี้อาสะใภ้ก็มีปิ่นทองระย้าแกะสลักดอกไม้อยู่ชิ้นหนึ่งซึ่งล้ำค่าอย่างมาก

สวี่ชีอันเป็นชายโสด ย่อมไม่ซื้อปิ่นทองระย้ามาโดยไม่มีเหตุผล ที่บ้านก็มีผู้หญิงสองคนที่เหมาะจะใช้งาน ส่วนอาสะใภ้นั้น ในฐานะที่เป็นนายหญิงของบ้าน…

ใบหน้าสวยงามของอาสะใภ้แย้มยิ้มออกมา แววตาอ่อนโยนลง “นับว่าเจ้ายังมีมโนธรรมอยู่บ้าง หยิบมาเถิด…”

เพิ่งจะเอ่ยจบ สวี่ชีอันก็วางปิ่นทองระย้าเอาไว้ตรงหน้าสวี่หลิงเยวี่ย “น้องหญิง ข้ามอบให้เจ้า!”

สวี่หลิงเยวี่ยเบิกตาโต รู้สึกไม่อยากจะเชื่ออยู่บ้าง เครื่องประดับของเป่าชี่ซวนมีชื่อเสียงมากในแถบนี้ งานฝีมือละเอียดประณีตชั้นสูง จึงเป็นที่ชื่นชอบของหญิงสาวและสตรีออกเรือนฐานะดีในบริเวณใกล้เคียง

“ขอบพระคุณพี่ใหญ่เจ้าค่ะ” ดวงหน้างามพิสุทธิ์ของนางเผยรอยยิ้มไร้เดียงสาออกมา ดวงตาโค้งขึ้นราวกับพระจันทร์เสี้ยว

อาสะใภ้ตัวสั่นเทา หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง ดวงตาแดงก่ำ หันไปเอ่ยถามอารองสวี่อย่างดุดัน

“พูดมา ท่านเลือกหลานหรือข้า”

นางกับเจ้าตัวสารเลวนี่อยู่ร่วมกันไม่ได้

อารองสวี่จดจ้องไปที่หลานชายอย่างดุดัน แล้วรีบคีบผักให้ภรรยา “สงบจิตสงบใจเสียหน่อย อย่าได้ยุ่งกับเจ้าเด็กหน้าเหม็นนี่เลย”

สวี่ชีอันรู้สึกว่าถูกเตะที่น่อง จึงเงยหน้าเหลือบมองไปยังสวี่ซินเหนียนที่อยู่ข้างๆ

สวี่เอ้อร์หลางก้มหน้าก้มตากินข้าว

…………………………..

[1] ถอนขนแกะ คำแสลง หมายถึง ได้รับผลประโยชน์จากกิจกรรมส่วนลดหรือโปรโมชันต่างๆ ของร้านค้า ธนาคารหรือหน่วยที่จัดกิจกรรม

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Nightwatcher, Dafeng's Night Squad, Great Feng's Nightwatchers The Nightwatchers of Feng 大奉打更人, วิถียุทธ์คนเคาะยามแห่งต้าเฟิ่ง(siaminter), Guardians Of The Dafeng(ซีรีส์)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , , ต้นฉบับ: 951 Chapters (จบแล้ว)
สวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน….. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset