📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง – ตอนที่ 420.2

บทที่ 420.2 - สวี่ชีอัน ‘เอ้อร์หลาง พี่ใหญ่จะสอนอุบายจับปลาให้เจ้า’ (2)
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

บัดนี้สวี่ชีอันได้เดินออกมาจากโถงด้านหน้า แล้วเอ่ยเรียก “ไท่ผิง ลงมา”

ดาบไท่ผิงลดระดับต่ำลงและลอยอยู่นิ่งๆ อาสะใภ้ชิงเอาลูกสาวที่รักมาทันทีพร้อมสบถ “ดาบพังๆ อะไรกันเนี่ย”

พูดจบนางก็เห็นสวี่ซินเหนียนจ้ำอ้าวเข้ามาและหยุดอยู่ตรงหน้าดาบผิงไท่ มองตาค้างยื่นมือออกไป ราวกับอยากจะจับดาบเอาไว้ทว่าก็ไม่กล้า ทั้งร่างตื่นเต้นเหนือสิ่งใด

สวี่เอ้อร์หลางในฐานะที่เป็นปัญญาชนที่มาจากระบบลัทธิขงจื๊อดั้งเดิม ย่อมรู้จักอาวุธวิเศษเป็นธรรมดา

เมื่อเห็นลูกชายมีท่าทีเช่นนี้ อาสะใภ้ก็เอ่ยอย่างสงสัย “เอ้อร์หลาง ดาบเล่มนี้มีปัญหาอะไรหรือ”

สวี่เอ้อร์หลางบ่นพึมพำ “ดาบเล่มนี้ไร้เทียมทานหาได้ยากยิ่ง ล้ำค่า ไม่สิ นี่เป็นสมบัติที่มิอาจประเมินค่าได้”

สมบัติที่มิอาจประเมินค่าได้?! อาสะใภ้ใจเต้นโครมคราม มองพิจารณาดาบไท่ผิงอย่างประหลาดใจ แล้วเอ่ยหยั่งเชิง “เช่นนั้นจะเป็นเงินสักเท่าไรกันเชียว”

อาสะใภ้ต้องการตัวเลขตีมูลค่าของมัน

“เอาอย่างนี้ดีกว่า หากพี่ใหญ่เอามันไปแลกกับตำแหน่ง อย่างน้อยก็แลกตำแหน่งป๋อมาได้ หรือแม้แต่ตำแหน่งโหวก็อาจเป็นไปได้”

ตำแหน่งโหวรองลงมาจากตำแหน่งกง ในต้าฟ่งตำแหน่งกงแทบไม่ต่างอะไรกับจุดสูงสุดของตำแหน่งที่ต่างสกุล

ปากเล็กของอาสะใภ้อ้าค้าง ยามมองไปที่ดาบไท่ผิงอีกครั้งก็ราวกับมองลูกชายของตน ไม่สิ ร้อนผ่าวยิ่งกว่าลูกชายของตนเสียอีก

“ข้าอยากเล่นอีก” สวี่หลิงอินตะกายดาบไท่ผิง

“ไปๆ ให้ตายสิเด็กคนนี้ ของล้ำค่าเช่นนี้ เสียหายขึ้นมาแม่จะตีเจ้าให้ตาย” อาสะใภ้ตีเสี่ยวโต้วติงด้วยฝ่ามือ

สวี่ชีอันมองฉากนี้ด้วยรอยยิ้มแล้วตะโกน “เอ้อร์หลาง เจ้าเข้ามานี่หน่อย ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า”

สวี่เอ้อร์หลางเข้าไปในโถงด้านหน้า นั่งลงที่โต๊ะ เขาถูกจดหมายที่วางซ้อนอยู่บนโต๊ะดึงดูดสายตา ไม่ใช่จดหมายลับที่หลินอันให้คนส่งมา แต่เป็นจดหมายลับที่ค้นมาจากบ้านของเฉากั๋วกง

“ข้ารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับสมุหราชเลขาธิการหวาง เอ้อร์หลาง หากเจ้าสามารถช่วยเขาข้ามผ่านอุปสรรคไปได้ เจ้าจะยื่นมือเข้าช่วยหรือสังเกตการณ์อยู่เงียบๆ ”

เมื่อได้ยินสวี่ซินเหนียนก็ขมวดคิ้วน้อยๆ แล้วเอ่ยอย่างไม่สะท้าน “ข้าเป็นห่วงซือมู่ ทว่าตนก็ไม่ได้สะเทือนใจและเป็นกังวลกับสิ่งที่สมุหราชเลขาธิการหวางประสบมากเช่นนั้น ทว่าหากไม่มีซือมู่ ตอนนี้ข้าน่าจะดื่มสุราสำราญสุขกับพี่ใหญ่ไปแล้ว”

ลูกเขยดีเด่นแห่งต้าฟ่ง…สวี่ชีอันแขวะในใจ แล้วหัวเราะเอ่ย “ทว่าหากเจ้าช่วยได้ เชื่อว่าสมุหราชเลขาธิการหวางจะยินยอมรับเจ้า อย่างน้อยก็ไม่ขัดแย้งกับเจ้า”

เขาพูดพลางชี้จดหมายลับบนโต๊ะ

สวี่เอ้อร์หลางคลี่จดหมายลับและอ่านทีละฉบับด้วยความสงสัย ม่านตาเขาหดตัวเล็กน้อยก่อนจะเผยสีหน้าตื่นตระหนก จากนั้นก็ตื่นเต้น สองมือสั่นเทาเล็กน้อย

จดหมายลับเหล่านี้หากตกอยู่ในมือของผู้มีความสามารถจะกลายเป็นของมีคมในมือ เช่นนั้นไม่รู้ว่าขุนนางในเมืองหลวงจะได้รับโทษเพราะเหตุนี้ไปมากเท่าไร วงราชการทั้งเมืองหลวงนำไปสู่แผ่นดินไหวครั้งใหญ่

แน่นอนว่ายังมีอีกหนึ่งความเป็นไปได้ นั่นคือจดหมายลับเหล่านี้จะถูกทำลายทั้งหมด เพราะคนที่เกี่ยวข้องมีมากเกินไปจริงๆ

“จดหมายลับเหล่านี้ข้าจะมอบให้เจ้าเพียงส่วนเล็กๆ พวกเราจำเป็นต้องเลือกคนที่เป็นประโยชน์กับสมุหราชเลขาธิการหวางออกมาเพียงไม่กี่คน” สวี่ชีอันวางจดหมายลับลงทีละฉบับ

ที่เรียกว่าคนที่เป็นประโยชน์จะเป็นพรรคหวางหรือหยวนสยงไม่ได้ อย่างหลังมีจักรพรรดิหนุนหลัง จดหมายลับเหล่านี้ไม่สามารถทำพวกเขาถึงตายได้ อย่างน้อยในสถานการณ์ตอนนี้ก็มิอาจสังหารได้ในคราเดียว

ในไม่ช้าสองพี่น้องก็เลือกออกมาแปดคน ทั้งมียศถาบรรดาศักดิ์และไม่ใช่สองฝ่ายที่กล่าวก่อนหน้า

“หลังจากออกเวรเจ้าไปที่จวนสกุลหวาง ส่งจดหมายลับเหล่านี้ให้สมุหราชเลขาธิการหวางกับมือ จำไว้ว่าต้องไปพบคุณหนูหวางก่อนและให้นางเป็นคนแนะนำ”

ความหมายของพี่ใหญ่คือจะให้ข้าบอกใบ้สมุหราชเลขาธิการหวางถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับซือมู่…สวี่ซินเหนียนส่งเสียง ‘อืม’ พอเก็บจดหมายลับเสร็จก็เห็นพี่ใหญ่ถกแขนเสื้อขึ้น

“พี่ใหญ่จะทำอะไร”

“ต่อยเจ้าไง! ”

‘ผัวะ!’

ใบหน้าหล่อเหลาของสวี่เอ้อร์หลางโดนชก แล้วล้มลงพลางร้องโอดโอย สวี่ต้าหลางถือโอกาสขึ้นคร่อม สองมือพัลวัน

“พี่ใหญ่อย่าต่อยที่หน้า…” สวี่เอ้อร์หลางร้องโอดโอย

“ไม่ต่อยที่หน้าแล้วจะทำให้เห็นว่าเจ้ายอมสละชีวิตได้อย่างไร จะทำให้คุณหนูบ้านสกุลหวางประทับใจได้อย่างไร เพื่อช่วยพ่อตาแล้ว เจ้ายอมแตกหักเป็นปฏิปักษ์กับพี่ใหญ่”

“นะ นี่จะไม่เลวทรามไปหน่อยหรือ”

“ไม่ได้เลวทราม นี่คืออุบาย มา จัดท่าให้ดี พี่ใหญ่จะต่อยเจ้าอีกสักหมัดสองหมัด”

ตำหนักจิ่งซิ่ว

ในไม่ช้าทางด้านตำหนักหลินอันก็ได้รับข่าวกลับมา ไม่มีจดหมายตอบกลับ มีเพียงหนึ่งประโยค ‘ข้ารับทราบแล้ว’

องค์รัชทายาทชำเลืองมองหลินอัน ลูบจมูกพร้อมตรัสอย่างปลงตก “ดูท่าว่าจะไม่มีหวังแล้ว แต่ก็จริง ไม่รับราชการแล้วก็รู้ว่าตนได้ยั่วโทสะเสด็จพ่อเข้า ก็ขี้คร้านจะจัดการความสัมพันธ์ระหว่างเราสองพี่น้อง”

เบ้าตาหลินอันแดงระเรื่อขณะที่เขาพูด

สนมเฉินขมวดคิ้วเอ่ยตำหนิ “พูดให้น้อยๆ หน่อย เขาไม่ช่วยก็เป็นเรื่องปกติ หากเว่ยเยวียนพึ่งเขาอีกจะเชื่อฟังเขาได้หรือ”

องค์รัชทายาทตรัสอย่างช่วยไม่ได้ “ข้ารู้ ทว่าท่าทางของเขาทำเอาไม่สบอารมณ์เสียเลย”

หลินอันเม้มปากแน่น แล้วเอ่ยอย่างหดหู่ “ข้าจะกลับตำหนักเส้าอิน”

จวนสกุลหวาง

บรรยากาศภายในโถงด้านในอึมครึมเล็กน้อย

หวางซือมู่นั่งอยู่ข้างกายฮูหยินหวาง เสียงนุ่มชวนคุยเล่นพยายามคลายความกังวลของมารดา

คุณชายใหญ่บ้านสกุลหวางที่ดำรงตำแหน่งในกรมการคลังดื่มชาโดยไม่เอ่ยปากพูด คุณชายรองหวางที่ประกอบการค้านิสัยใจร้อนเดินวกไปวนมาอยู่ภายในห้องโถง

“พี่ใหญ่ ข้าได้ยินสหายที่คุ้นเคยบอกว่า ครั้งนี้ฝ่าบาทมีพระประสงค์จะกำจัดพวกเราสกุลหวางให้สิ้นซากงั้นหรือ” คุณชายรองหวางพูดพลางเดินด้วยน้ำเสียงถี่กระชั้น

นัยน์ตาของฮูหยินหวางยิ่งเป็นกังวล แล้วใช้สายตาขอคำยืนยันมองไปที่ลูกชายคนโต

คุณชายใหญ่หวางวางถ้วยชาลง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุม “ค่อนข้างยุ่งยากเล็กน้อย หยวนสยงกับฉินหยวนเต้ามีหลักฐานกระทำผิดจำนวนไม่น้อย หนึ่งเรื่องที่ยุ่งยากที่สุดก็คือยักยอกเงินและเสบียงทหารไปเป็นของตนเอง ยังจำได้ว่าโจวเสี่ยนผิงรองเจ้ากรมกรมการคลังคนก่อน เขาเป็นคนของท่านพ่อก็ยักยอกเงินและเสบียงทหารไปเป็นของตนจริงๆ ขณะที่ค้นบ้านยึดทรัพย์ ทั้งจวนสกุลโจวมีเพียงไม่กี่พันตำลึง เงินจะไปอยู่ไหนล่ะ ต่างพูดกันว่าอยู่ที่บ้านสกุลหวางของพวกเรา”

“เรื่องไร้สาระทั้งเพ” คุณชายรองหวางกัดฟันกรอด

คุณชายใหญ่หวางนวดหว่างคิ้ว ถอนหายใจอย่างอ่อนแรงเล็กน้อย

“เมื่อก่อนท่านพ่อเป็นที่รู้จักของจักรพรรดิย่อมไร้อุปสรรค ตอนคดีสังหารหมู่ล้างบางเมืองฉู่โจว ท่านพ่อได้ล่วงเกินฝ่าบาทอย่างรุนแรง นี่จึงเป็นปมปัญหา”

ฮูหยินหวางเอ่ยอย่างกระวนกระวาย “แล้วควรจะทำอย่างไร จะต้องทำอย่างไรดี”

หวางซือมู่รีบปลอบมารดา สักพักก็ขมวดคิ้วเอ่ย

“พวกเจ้าทั้งสองอย่าเพิ่งพูดอะไรเลย หากคิดแผนรับมือไม่ได้ก็อย่ามาระบายอารมณ์ตรงนี้ แล้วมันจะได้อะไรนอกเสียจากเพิ่มความกังวลให้ท่านแม่”

จากนั้นนางก็ใช้เสียงนุ่มปลอบมารดา “ท่านพ่อรับตำแหน่งสมุหราชเลขาธิการมานานสิบกว่าปี เคยพบมาทุกอุปสรรค เขาย่อมรู้อยู่แก่ใจ นี่มิใช่ว่าหารือกับพวกท่านลุงอยู่ที่ห้องหนังสือหรอกหรือ”

คุณชายใหญ่หวางชำเลืองมองน้องสาวและส่ายหน้า เมื่อก่อนถึงจะเคยผ่านวิกฤตมาแล้วก็ตาม ทว่าก็ไม่เคยอันตรายเฉกเช่นครั้งนี้ สู้กับศัตรูทางการเมืองกับสู้กับฝ่าบาท ใช่เรื่องเดียวกันหรืออย่างไร

ขณะที่กำลังพูดพ่อบ้านก็รีบมาแจ้งข่าว กวาดตามองทุกคนในห้องโถง แล้วมองไปที่หวางซือมู่ “คุณหนู ใต้เท้าสวี่รอพบท่านอยู่ด้านนอกขอรับ”

พี่รองหวางเย้ยหยัน “นี่มันเวลาไหนกัน ยังจะมีเวลาว่างมาพลอดรักกันอีกหรือ”

ฮูหยินหวางกับคุณชายใหญ่หวางพากันขมวดคิ้ว

พวกเขารู้ว่าสวี่เอ้อร์หลางนั่นสนิทสนมกับลูกสาวบ้านตน หวางซือมู่มีบุคลิกแข็งแกร่ง สติปัญญาเกินมนุษย์ ในบ้านนอกจากหวางเจินเหวินใครก็คุมไม่อยู่

ดังนั้นจึงเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ปล่อยให้นางไป

ทว่าตอนนี้บ้านสกุลหวางเผชิญกับวิกฤต สวี่เอ้อร์หลางมาเยี่ยมบ่อยครั้ง น่าเอือมระอาอย่างบอกไม่ถูก

หวางซือมู่เหล่มองพี่รอง ยืนขึ้นอย่างสุภาพพร้อมเอ่ย “พาเขาไปที่โถงด้านนอก”

นางตบหลังมือของมารดาและตรงจากไป ทะลุผ่านลานใน เดินผ่านระเบียงทางเดินอันวกวน คุณหนูหวางก็เห็นสวี่เอ้อร์หลางอยู่ที่โถงรับแขกโนเวลกูดอทคoม

เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ใช้แขนเสื้อปิดบังใบหน้าอย่างหลบๆ ซ่อนๆ

“เอ้อร์หลางเป็นอะไรไป” หวางซือมู่ชะโงกหน้ามองอยู่สักพักเขาก็หลบเลี่ยง

“ไม่มีอะไร…”

สวี่เอ้อร์หลางเอ่ย “ข้ามาเพื่อมอบบางสิ่งให้เจ้า”

พูดพลางใช้มืออีกข้างหนึ่งชี้โต๊ะน้ำชา หวางซือมู่จึงพบกับกองจดหมายที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชา

หวางซือมู่ดูประหลาดใจ คลี่จดหมายออกและชำเลืองมอง ร่างบางสั่นเทา นัยน์ตาสวยเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

“จะ จดหมายลับพวกนี้ เอ้อร์หลางได้มันมาจากไหน” ปากเล็กอ้าค้างเล็กน้อย ใบหน้าสวยซีดขาว

“ได้มาจากพี่ใหญ่ของข้า” สวี่เอ้อร์หลางตอบ

ได้มาจากสวี่ชีอันหรือ เขาเป็นคนสนิทของเว่ยเยวียน จะช่วยเหลือท่านพ่อของข้าได้อย่างไร…หวางซือมู่เบนสายตามองท่าทางหลบๆ ซ่อนๆ ของสวี่เอ้อร์หลางอีกครั้ง

ในใจหนักอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะคว้าแขนเสื้อของเขาออก

“อ๋า…”

หวางซือมู่ร้องเสียงหลง

เห็นเพียงแก้มของสวี่เอ้อร์หลางบวมเป่ง ดั้งจมูกฟกช้ำ ริมฝีปากแตกหลายจุด ราวกับถูกคนทำร้าย

“พี่ใหญ่เจ้าเป็นคนทำหรือ พะ เพราะจดหมายพวกนี้งั้นหรือ” ริมฝีปากหวางซือมู่สั่นเทา

“ข้าหกล้มเอง” สวี่เอ้อร์หลางปฏิเสธหัวเด็ดตีนขาด

หวางซือมู่น้ำตาไหล ‘พราก’ ร่วงเปาะแปะราวกับไข่มุกที่ตัดด้ายร้อย

“ขะ เขาทำร้ายเจ้าจนเป็นเช่นนี้…” คุณหนูหวางหลั่งน้ำตาจนเสียงแห้งแหบ

‘อุบายของพี่ใหญ่ใช้ได้ผลจริงๆ’…ในใจสวี่เอ้อร์หลางปลงตก แล้วอธิบาย “ข้าหกล้มเองจริงๆ”

เขาไม่ปล่อยให้เสียเวลาและเอ่ยต่อ “จดหมายลับพวกนี้พี่ใหญ่เป็นคนมอบให้ข้า ทว่าเขาก็มีเงื่อนไขว่าข้าต้องพูดกับท่านสมุหราชเลขาธิการต่อหน้า”

หวางซือมู่หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากแขนเสื้อ เช็ดคราบน้ำตาเบาๆ แล้วมองแววตาของสวี่เอ้อร์หลางที่เปี่ยมไปด้วยความรัก

เขาพยักหน้า “ข้าจะพาเจ้าไปเอง”

ในห้องหนังสืออันกว้างใหญ่ กำยานไม้จันทน์ลอยพริ้ว สมุหราชเลขาธิการหวางสองมือประคองชา คิ้วไม่ขยับปากไม่เอื้อนเอ่ย

เฉียนชิงซูปราชญ์มหาสำนักจากตำหนักอู่อิง เฉินฉีปราชญ์มหาสำนักจากตำหนักเจี้ยนจี๋ เจ้ากรมซุนกรมอาญา และคนสนิทที่เหลือมารวมตัว สีหน้าเคร่งขรึม

“ดูจากความหมายของฝ่าบาท อีกไม่กี่วันก็จะถึงตาพวกเราแล้วหรือ” เฉียนชิงซูเอ่ยเสียงขรึม

เฉินฉีปราชญ์มหาสำนักจากตำหนักเจี้ยนจี๋นิสัยฉุนเฉียว ตบโต๊ะและก่นด่า “คดีสังหารหมู่ล้างบางเมืองฉู่โจวเดิมก็เป็นเพราะไหวอ๋องสติฟั่นเฟือน แล้วจะยอมทนได้หรือ อย่างมากข้าก็แค่ลาออกจากราชการ”

เจ้ากรมกรมปกครองเอ่ยเยาะเย้ย “หากเจ้าลาออกจากราชการก็เข้าทางพวกสกุลฉินมิใช่หรือ”

สมุหราชเลขาธิการหวางนั่งอยู่ตำแหน่งหลัก ชิมชาหอม ฟังสหายข้าราชการโต้เถียงกันอย่างเงียบๆ วงการขุนนางของชายชราขึ้นๆ ลงๆ มาครึ่งชีวิต ไม่เคยมีช่วงเวลาที่ต้องโมโหใหญ่โตมาก่อน

เมื่อเห็นการโต้เถียงพักยก สมุหราชเลขาธิการหวางก็เอ่ยถาม “ทางฝั่งเว่ยเยวียนมีท่าทีเป็นอย่างไร”

“ปิดประตูไม่รับแขก” เฉียนชิงซูตีหน้าขรึม

“ไม่น่าแปลกใจ” สมุหราชเลขาธิการหวางพยักหน้า “ฝ่าบาทยังต้องใช้เขา บทบาทของเว่ยเยวียนแข็งแกร่งกว่าพวกเรามาก”

เจ้ากรมกรมปกครองเอ่ยเย้ยหยัน “ฝ่าบาทจะยอมให้เขาเป็นใหญ่งั้นหรือ”

สมุหราชเลขาธิการหวางดื่มชาและเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุขุม “เมื่อหลายปีก่อนข้าก็คิดว่าเขาเบื่อหน่ายสงครามในท้องพระโรงแล้ว เขาอยากจะคุมกองกำลังอีกครั้ง หากข้าเดาไม่ผิด การตายของไหวอ๋องเป็นความดีความชอบของเขา เจ้ากรมซุน เจ้าคุมกรมอาญาจะต้องคุมให้ดี อย่าให้ศาลต้าหลี่กับฝ่ายตรวจการตัดสินโทษได้”

เจ้ากรมซุนกรมอาญาพยักหน้า

“เจ้ากรมสวี ข้ารู้ว่าเจ้าสนับสนุนองค์รัชทายาท หากสนับสนุนองค์รัชทายาทก็ใช้โอกาสนี้ติดต่อพรรคอื่นขององค์รัชทายาทได้พอดี”

เจ้ากรมกรมปกครองพยักหน้า

ตามด้วยน้ำเสียงราบเรียบของสมุหราชเลขาธิการหวาง ทุกคนต่างมองไปรอบๆ “ลาออกจากราชการใช่ว่าจะไม่ดี รีบถอนตัวตอนรุ่งโรจน์ก็ดีกว่าเลิกในยามแร้นแค้น ยิ่งไปกว่านั้นหลังลาออกจากราชการก็ฟื้นตัวได้ สุภาพชนต้องเรียนรู้ที่จะมุ่งหาผลประโยชน์หลีกเลี่ยงอันตราย คิดถอยก็ถอย”

บัดนี้เสียงเคาะประตูดังขึ้น เสียงกังวานละมุนรื่นหูของหวางซือมู่ก็ดังขึ้น “ท่านพ่อ ลูกมีเรื่องอยากขอพบ”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Nightwatcher, Dafeng's Night Squad, Great Feng's Nightwatchers The Nightwatchers of Feng 大奉打更人, วิถียุทธ์คนเคาะยามแห่งต้าเฟิ่ง(siaminter), Guardians Of The Dafeng(ซีรีส์)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , , ต้นฉบับ: 951 Chapters (จบแล้ว)
สวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน….. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset