📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง – ตอนที่ 247.2

บทที่ 247.2 - ประชุม
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“สวี่ชีอัน เจ้าเป็นอะไรหรือไม่”

กลุ่มลาดตระเวนสามคนกลุ่มนี้เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง พวกเขาสัมผัสดูแล้ว แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงหัวใจเต้นของชายชุดดำทั้งสาม เดาได้ว่าพวกนักฆ่าสิ้นชีพไปแล้ว

“ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย ไม่สาหัสนัก”

สวี่ชีอันหอบหายใจ ก่อนที่เพื่อนร่วมงานทั้งสามคนจะมา เขาได้ใช้ยาเพิ่มพลังเข้าไปแล้ว พลังกายจึงค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นมา แต่หากคิดจะเดินเหินได้เหมือนเก่า ก็ต้องใช้เวลาพักผ่อนสักหนึ่งเค่อ

ดาบที่ท่านโหราจารย์มอบให้และวิชาดาบเดียวตัดฟ้าดินเข้ากันอย่างยิ่ง

ฆ้องทองแดงทั้งสามค่อยๆ พยักหน้า แล้วมองไปที่ชายชุดดำทั้งสาม สามารถบีบให้ใต้เท้าสวี่ผู้เพิ่งเข้าสู่ระดับหลอมวิญญาณสะบักสะบอมขนาดนี้ ในนั้นจะต้องมีระดับหลอมวิญญาณอยู่แน่

ตอนนี้เอง เสียงฝีเท้าวุ่นวายครึกโครมก็ดังเข้ามา กองดาบห้าสิบคนรีบวิ่งเข้ามา

“ใต้เท้าสวี่ ท่านรีบกลับไปรักษาบาดแผล ณ ที่ทำการปกครองก่อนเถิด สามคนนี้ปล่อยให้พวกเราจัดการเอง”

ฆ้องทองแดงผู้กล่าวเดินออกไปจากตรอกเล็กแล้วเรียกกองดาบที่รีบว่า “พวกเจ้าคุ้มกันใต้เท้าสวี่กลับไปยังที่ทำการหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลเร็ว เหลือคนไว้สิบคน มาช่วยพวกข้าจัดการกับศพ”

หัวหน้ากองดาบเล็กกอบหมัดเอ่ย “ขอรับ”

หลังจากสวี่ชีอันจากไปแล้ว ฆ้องทองแดงทั้งสามก็กลับมายังตรอกเล็กแล้วตรวจสอบศพ ร่างของชายชุดดำที่เดิมทีอยู่นิ่งไม่ขยับพลันแยกสองออกเป็นสองส่วน ส่วนบนกับส่วนล่างแยกจากกัน บาดแผลแนวเฉียงปรากฏอยู่ที่เอว รอยฟันเนียนกริบ

อวัยวะภายในผสมรวมกับเลือดแล้วไหลกองอยู่กับพื้น

เหล่าฆ้องทองแดงขมวดคิ้ว ทั้งรังเกียจทั้งตกตะลึง

“ข้าจำได้ว่าเคล็ดวิชาของสวี่หนิงเยี่ยนคือวิชาดาบที่มีอานุภาพร้ายกาจอย่างหนึ่ง ตอนแรกใช้เพียงหนึ่งดาบก็สามารถทำร้ายฆ้องเงินจูได้แล้ว”

“ใช่ๆ ตอนนี้ดูไปแล้วมีอานุภาพมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก ดาบนี้ฟันไปสามคน และในสามคนนั้นจะต้องมีหนึ่งคนอยู่ระดับหลอมวิญญาณ”

ทั้งสามคนพร้อมใจกันหันไปมองชายชุดดำคนหน้าสุด เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาทั้งสามคน

“เอ๊ะ เหตุใดเขาไม่มีอาวุธล่ะ”

ชายชุดดำอีกสองคนล้วนมีดาบมาตรฐานและหน้าไม้ติดกาย มีเพียงชายชุดดำคนนี้เท่านั้นที่มือเปล่า ไม่ได้พกอาวุธ

ถูกสวี่ชีอันชิงไปแล้วหรือ

ขณะที่สงสัยอยู่นั้น พวกเขาก็ตรวจค้นศพของชายชุดดำผู้นั้นเพียงคนเดียวก่อน และยามที่นิ้วมือสัมผัสกับศพ ก็เกิดความรู้สึกราวกับสัมผัสเหล็กกล้า

เพราะศพยังคงสภาวะโคจรพลังก่อนตายอยู่

“หืม”

ในหัวของคนทั้งสามผุดเครื่องหมายคำถามขึ้นมาเป็นชุด

ประมาณพักหนึ่ง พวกเขาก็ตอบสนองได้แล้ว ในใจเกิดความรู้สึกตะลึงลานและสั่นสะท้านขึ้นมา

“กระ…กระดูกเหล็กผิวทองแดง…” ฆ้องทองแดงคนหนึ่งเอ่ยพึมพำ

ครึ่งชั่วยามต่อจากนั้น ณ ที่ทำการหน่วยลาดตระเวนยามวิกาล

โถงเสินเจี้ยน

หลังจากจางไคไท่ผู้เฝ้ายามในคืนนี้ได้รับข่าว ก็เรียกรวมฆ้องเงินทั้งหมดมาหารือเกี่ยวกับเรื่องที่สวี่ชีอันต้องเผชิญการลอบสังหาร

ฆ้องเงินที่เพิ่งนำกลุ่มไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเอ่ยรายงานว่า “ตั้งแต่การลอบสังหารไปจนถึงถูกฟันสังหาร ทั้งกระบวนการไม่เกินครึ่งเค่อ นักฆ่าทั้งสามราวกับรู้เส้นทางที่สวี่หนิงเยี่ยนจะเดินทางไป แล้วดักซุ่มโจมตีอยู่บนทางผ่าน หลังจากสองฝ่ายต่อสู้กันอยู่ช่วงสั้นๆ พวกเขาก็ตามสวี่หนิงเยี่ยนเข้าไปในตรอกเล็ก จากนั้นก็ถูกฟันสิ้นด้วยดาบเดียว ตรงไปตรงมาเช่นนั้นเลย”

จางไคไท่พยักหน้าแล้วมองไปยังฆ้องเงินอีกคน เขาคือฆ้องเงินผู้รับผิดชอบตรวจสอบศพ

ฆ้องเงินผู้นั้นเอ่ยเสียงขรึม “ผู้ลอบสังหารใช้ดาบยาวมาตรฐานที่ธรรมดาที่สุด ค่ายทหารรักษาวังสามแห่งและหน่วยองครักษ์ในเขตพระราชฐานห้าหน่วยล้วนใช้ดาบเช่นนี้ ถึงขั้นมีกองกำลังคุ้มกันในจวนของขุนนางที่ใช้ดาบแบบนี้เช่นกัน พวกเราไม่อาจสืบหาเบาะแสจากอาวุธได้เลย

“นอกจากนั้น พวกเราได้พบอาวุธเวทมนตร์หน้าไม้บนร่างของมือลอบสังหารคนหนึ่ง เป็นหน้าไม้ที่เพียงพอจะคุกคามระดับหลอมวิญญาณได้ แต่นี่ก็ยังไม่อาจเป็นช่องโหว่ใดๆ

“ปัญหาการยักยอกทรัพย์ภายในกรมโยธาและกรมทหารรุนแรงอย่างยิ่ง การซื้อขายอาวุธของบรรดาองค์ชายและขุนนางใหญ่ก็มีอยู่มากมายเช่นกัน มันสะสมมานานปีแล้ว อาวุธเวทมนตร์และยุทโธปกรณ์ที่แพร่สู่ภายนอกจึงมีนับไม่ถ้วน ไม่อาจสืบรู้ได้เลย

“หากต้องการสืบจริงๆ ก็คงเกี่ยวพันกับวงราชการของเมืองหลวงส่วนใหญ่ อาจเกิดการต่อต้านอย่างมาก เกรงว่าต่อให้ฝ่าบาททรงมีรับสั่งมาด้วยองค์เอง ก็คงไร้ผลลัพธ์ใด”

จางไคไท่พยักหน้า ราวกับคาดเดาไว้แล้วจึงเอ่ยถามว่า “ระดับฝึกตนของมือสังหารทั้งสามคนล่ะ”

“ระดับหลอมวิญญาณสองคน ระดับกระดูกเหล็กผิวทองแดงหนึ่งคน”

หนึ่งดาบก็สังหารหลอมวิญญาณและกระดูกเหล็กผิวทองแดงได้…ภายในห้องโถงตกอยู่ในความเงียบสงัดราวป่าช้า

ไม่รู้ว่าผ่านไปเท่าใด จางไคไท่ก็เอ่ยขึ้น “สวี่หนิงเยี่ยนล่ะ”

“ทำแผลเสร็จก็นอนหลับไปแล้วขอรับ”

จางไคไท่พยักหน้า เขามองฆ้องเงินทุกคนแล้วเอ่ยกระแอมไอ “ไม่จำเป็นต้องใส่ใจในรายละเอียดนัก พวกเจ้าเป็นฆ้องเงิน ล้วนเป็นอัจฉริยะคนต้นๆ ของต้าฟ่ง ไม่ด้อยกว่าใครทั้งนั้น นี่เป็นแค่เรื่องบังเอิญ…ที่บางครั้งก็จะมีคนประหลาดสักหนึ่งถึงสองคนโผล่ ไม่อาจนำมาใช้เป็นเครื่องตัดสินมาตรฐานได้”

เหล่าฆ้องเงินฝืนยิ้ม เอ่ยรับคำสองสามประโยค

จางไคไท่เปลี่ยนเรื่อง “พวกเจ้าคิดว่าใครเป็นคนส่งมือสังหารมา”

ฆ้องเงินผู้หนึ่งขมวดคิ้วเอ่ย “ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าช่วงนี้สวี่หนิงเยี่ยนไปสร้างความแค้นให้ใคร ตามที่พวกเราวิเคราะห์จากสถานการณ์ที่รู้ หากตัดเรื่องบุญคุณความแค้นส่วนตัว เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้มากว่าจะเกี่ยวกับพระสนมฝู”

วันต่อมา ยามเหม่าnovelgu.com

จางไคไท่ไปเยี่ยมเยียนสวี่ชีอันก่อน เห็นเขากำลังหลับสนิทก็ไม่ได้กวน จึงไปรับสำนวนคดี ‘สวี่ชีอันถูกลอบสังหาร’ ที่เจ้าพนักงานเขียนเสร็จสิ้นเมื่อคืนวานมา แล้วไปยังหอเฮ่าชี่

หลังจากผ่านทางเดินมาแล้ว เขาก็มาถึงชั้นเจ็ดและเข้าพบเว่ยเยวียนที่ห้องน้ำชา

ขันทีใหญ่ผู้สูงส่งคนนี้มีจุดหมายในเส้นทางอยู่สองที่ คือพระราชวังและหอเฮ่าชี่

ต้องขอบคุณเครือข่ายข่าวกรองที่ปูทางโดยที่ทำการหน่วยลาดตระเวนยามวิกาล เว่ยเยวียนจึงไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอก เขาก็สามารถรู้ทุกเรื่องในใต้หล้าได้แล้ว

“เว่ยกง เมื่อวานตอนที่สวี่หนิงเยี่ยนออกจากพระราชวังก็ถูกคนลอบสังหารระหว่างทางขอรับ” จางไคไท่มอบสำนวนคดีไป

แววตาของเว่ยเยวียนเคร่งเครียดขึ้นมา เขารับสำนวนคดีไป ไม่ได้รีบร้อนเปิดออกดูแต่เอ่ยถามว่า “เขาเป็นอย่างไรบ้าง”

“ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่มีบาดแผลร้ายแรง เพียงแต่เสียพลังจิตสาหัส ตอนนี้ยังหลับใหลอยู่ขอรับ” จางไคไท่เอ่ย

เว่ยเยวียนพยักหน้าแล้วจึงเปิดสำนวนคดีออก หลังจากอ่านดูอย่างรวดเร็วแล้วก็เงยหน้ามองจางไคไท่ “ระดับหลอมวิญญาณสองคน กระดูกเหล็กผิวทองแดงหนึ่งคน?”

ราวกับเขากำลังตรวจสอบให้แน่ใจอยู่

แม้ว่าจะเป็นคนฉลาดเก่งกาจเช่นเว่ยกง ก็มักจะถูกเจ้าเด็กนั่นทำให้ทึ่งอยู่บ่อยๆ…จางไคไท่เปล่งเสียง ‘อืม’ ออกมา

“กระดูกเหล็กผิวทองแดง”

เว่ยเยวียนเงียบไปนาน จู่ๆ ก็หัวเราะแผ่วเบาออกมา “ไม่เลว ไม่เลวเลย”

จางไคไท่ถือโอกาสกล่าว “จะเกี่ยวข้องกับคดีของพระสนมฝูหรือไม่ขอรับ”

“คดีพระสนมฝูเป็นเรื่องภายในของฝ่าบาท ไม่ใช่เรื่องที่ขุนนางภายนอกจะเข้าไปแทรกแซง แต่เรื่องนี้ข้าต้องรายงานขึ้นไป” เว่ยเยวียนปิดสำนวนคดีแล้วขมวดคิ้ว

เขาไม่ได้มีหูตามากมายอยู่ในวัง ถึงอย่างไรพระราชวังก็เป็นอาณาเขตของจักรพรรดิหยวนจิ่ง หากแทรกหูตามากเกินไปจะทำให้จักรพรรดิหยวนจิ่งทรงพิโรธได้ ตั้งแต่ครั้งก่อนที่ถูกกำจัดหมากสามตัวนั้นไป เว่ยเยวียนก็ล้มเลิกการสอดแนมในพระราชวังชั่วคราวแล้ว

ความรู้ใจระหว่างเจ้าและขุนนางที่ควรมีก็ต้องมี จักรพรรดิหยวนจิ่งได้บอกกับเขาตรงๆ ว่า ‘สืบข่าวในวังให้น้อยหน่อย’

แต่เมื่อสวี่ชีอันพบมือสังหาร เว่ยเยวียนก็เริ่มโกรธแล้ว เขาต้องเริ่มใช้หูตาในวังอีกครั้ง แล้วดูแลคดีนี้ด้วยตัวเอง

เสียงฝีเท้าดังมาจากด้านล่าง เว่ยเยวียนเงยหน้าขึ้นมา จางไคไท่ก็หันไปมองเช่นกัน

เจ้าพนักงานชุดดำผู้หนึ่งก้มหน้าเข้ามาในห้องน้ำชาแล้วเอ่ยด้วยความเคารพ “เว่ยกง ในวังมีคำสั่งมาว่าให้เรียกประชุมต้นยามเฉินขอรับ”

“รู้แล้ว” เว่ยเยวียนพยักหน้า

“บางทีอาจเกิดเรื่องใหญ่บางอย่าง…” จางไคไท่ลุกขึ้นอย่างรู้ความ “เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวก่อนขอรับ”

การประชุมราชสำนักไม่ได้กระทำกันทุกวัน ปกติแล้ว จักรพรรดิที่ขยันขันแข็งจะเปิดประชุมใหญ่ทุกๆ สามวัน เวลาตามกำหนดการ

ส่วนจักรพรรดิผู้เกียจคร้านจะประชุมหนึ่งครั้งในสามถึงสิบวัน

เมื่อมาถึงจักรพรรดิหยวนจิ่ง ปกติจะไม่มีประชุมเช้า หากวันไหนอารมณ์ดีรู้สึกอยากจะจัดการกับราชกิจ ก็จะส่งคนไปแจ้งขุนนางก่อนหนึ่งวัน

แต่ในวันนี้ การประชุมชั่วคราวเร่งด่วนหมายถึงต้องมีเหตุใหญ่เกิดขึ้น

เว่ยเยวียนดื่มชาเสร็จก็เรียกหนานกงเชี่ยนโหรวมา แล้วเข้าวังไปพร้อมกับลูกบุญธรรมผู้นี้

จากนั้นยามเหม่า หกเค่อ พวกเขาก็มาถึงประตูอู่เหมิน บนลานกว้างมีขุนนางเมืองหลวงมาออกันอยู่เต็มไปหมด พวกเขากระซิบกระซาบพูดคุยกันถึงสาเหตุที่จักรพรรดิหยวนจิ่งทรงเรียกประชุมอย่างกะทันหัน

ส่วนใหญ่เดาว่าเกี่ยวข้องกับคดีของพระสนมฝูหรือไม่ เพราะเรื่องใหญ่ในช่วงนี้ก็มีแต่เรื่องนี้แล้ว

คดีนี้เกี่ยวพันกับองค์รัชทายาท เกี่ยวพันกับรากฐานของแผ่นดิน จึงทำให้จักรพรรดิหยวนจิ่งผู้นิ่งเงียบมานานต้องเรียกประชุมกะทันหัน แล้วรวมตัวขุนนางมาปรึกษากัน

“เว่ยกง”

ผู้ตรวจสอบฝ่ายขวาจากฝ่ายตรวจการเดินเข้ามาแล้วมองซ้ายมองขวาอย่างระมัดระวัง จากนั้นกล่าวเสียงเบา “ในวังมีข่าวแพร่ออกมา ว่าเมื่อคืนฝ่าบาทเข้าไปที่ตำหนักเฟิ่งฉี จากนั้นจึงออกมาพร้อมความพิโรธ”

เว่ยเยวียนชะงักนิ่งแล้วค่อยๆ พยักหน้า “อืม”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Nightwatcher, Dafeng's Night Squad, Great Feng's Nightwatchers The Nightwatchers of Feng 大奉打更人, วิถียุทธ์คนเคาะยามแห่งต้าเฟิ่ง(siaminter), Guardians Of The Dafeng(ซีรีส์)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , , ต้นฉบับ: 951 Chapters (จบแล้ว)
สวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน….. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset