📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง – ตอนที่ 246

บทที่ 246 - ลอบสังหาร
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

หลังออกจากอารามรัตนะก็เป็นเวลายามเหว่ย สามเค่อ[1]แล้ว

สวี่ชีอันเข้าไปในพระราชวังและให้ทหารรักษาพระองค์นำความไปกราบทูล เขารอที่ประตูวังเป็นเวลาหนึ่งเค่อถึงยามเหว่ย สี่เค่อ ก่อนที่ขันทีน้อยจะมาถึง

“ใต้เท้าสวี่ พวกเราจะสืบสวนอย่างไรต่อไป” ขันทีน้อยถาม

“ไปหาฮองเฮาที่ตำหนักเฟิ่ง…จะเข้าเฝ้าฮองเฮาไม่จำเป็นต้องทูลฝ่าบาทล่วงหน้าใช่หรือไม่” สวี่ชีอันกล่าว

ขันทีน้อยรีบโบกมือ “ฝ่าบาททูลว่า ในวังหลัง ท่านอยากไปที่ไหนก็ไป แน่นอนว่า เงื่อนไขแรกคือมีข้ารับใช้ติดตาม โดยเฉพาะเมื่อเข้าเฝ้ากุ้ยเฟยกับฮองเฮา”

สวี่ชีอันพยักหน้า

หากต้องการเข้าเฝ้ามเหสีของจักรพรรดิ แน่นอนว่าไม่สามารถเข้าเฝ้าเป็นการส่วนตัวได้

ชื่อเต็มของตำหนักเฟิ่งคือตำหนักเฟิ่งฉี ซึ่งเป็นตำหนักที่ใหญ่ที่สุดและหรูหราที่สุดในวังหลัง ที่ประทับของจักรพรรดิไม่ได้อยู่ในนั้น

เมื่อมาถึงตำหนักเฟิ่งฉีก็ได้รู้ว่าฮองเฮากำลังงีบหลับอยู่ สวี่ชีอันกับขันทีน้อยรออยู่ที่ระเบียงทางเดินด้านนอกเกือบครึ่งชั่วยามแล้วนางข้าหลวงผู้น่าเอ็นดูคนหนึ่งก็นำความมาแจ้งว่า

“ฮองเฮาทรงตื่นแล้ว เชิญใต้เท้าสวี่เข้าไปได้”

สวี่ชีอันเข้าไปในตำหนักและเห็นฮองเฮาพระมารดาของแผ่นดินอยู่ในห้องโถงที่ตกแต่งหรูหรา นางสวมชุดคลุมสีเข้มปักด้วยไหมสีทอง บนหัวสวมมงกุฎงดงาม

คิ้วเข้มราวกับภาพวาด ริมฝีปากอวบอิ่ม นางไม่ใช่เด็กสาวแล้ว แต่ใบหน้ายังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยคอลลาเจนและไม่เผยความแก่ชราออกมาเลย สิ่งนี้ทำให้ความงามอันรุ่งโรจน์ซึ่งไร้ที่ติของนางเพิ่มเสน่ห์เย้ายวนของสตรีสูงวัยเข้าไป

ในบรรดาสาวงามที่ข้าเคยพบเจอนางอยู่อันดับสอง ลั่วอวี้เหิงอยู่อันดับหนึ่ง แต่ราชครูมีเสน่ห์ของตัวเองและมีบัฟเพิ่มเติม ขณะที่ฮองเฮาพึ่งพาพื้นฐานของตัวเอง…หากหญิงสาวเช่นนี้เป็นฮองเฮา ไม่มีผู้ใดในวังหลังสู้ได้

สวี่ชีอันรีบก้มหัวและรักษามารยาทกับกฎที่ขุนนางภายนอกคนหนึ่งควรมี

“เด็กหนุ่มผู้มากพรสวรรค์นั่นเอง”

เห็นได้ชัดว่าฮองเฮาก็ให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์เช่นกัน นางพินิจมองสวี่ชีอันและพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ฮว๋ายชิ่งเอ่ยถึงเจ้าต่อหน้าข้าเป็นครั้งคราวและยกย่องชื่นชมเจ้า เรื่องที่เจ้าคลี่คลายคดีแปลกประหลาดหลายต่อหลายครั้ง ข้าเองก็ได้ยินมาบ้างเช่นกัน”

ความประทับใจแรกของทั้งสองฝ่ายไม่เลว

ไม่รู้ว่าสวี่ชีอันรู้สึกไปเองหรือเปล่า เขารู้สึกว่าฮองเฮาชื่นชมเขามาก โดยไม่เห็นเป็นคนนอกเลย

“เว่ยเยวียนได้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่โดดเด่นเช่นเจ้าถือเป็นโชคดีของเขา” ฮองเฮาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “รินน้ำชาให้ใต้เท้าสวี่”

นางข้าหลวงนำชาร้อนๆ มาให้ สวี่ชีอันรับด้วยมือทั้งสองข้าง เขาไม่ได้ดื่มและถามอย่างตรงไปตรงมา “ข้าน้อยมาเพราะคดีของพระสนมฝู มีคำถามสองสามคำถามอยากถามฮองเฮา”

“เชิญใต้เท้าสวี่ถาม”

“ท่านรู้จักนางข้าหลวงชื่อหวงเสี่ยวโหรวหรือไม่”

“ข้าไม่รู้จัก” ฮองเฮาส่ายหน้า

“เช่นนั้นในตำหนักของฮองเฮามีสาวใช้ที่ชื่อเหอเอ๋อร์หรือไม่”

“มีสิ” ฮองเฮานิ่งเงียบไปสองสามวินาทีและพยักหน้าช้าๆ

“หรงหมัวมัวแห่งเซี่ยเก๋อเล่าว่า เมื่อสี่ปีก่อน หวงเสี่ยวโหรวเคยฆ่าตัวตายโดยไม่มีเหตุผลและนางข้าหลวงที่อยู่ห้องเดียวกันกับนางในขณะนั้นก็ช่วยนางไว้ นางข้าหลวงคนนั้นคือเหอเอ๋อร์ที่อยู่ตำหนักของฮองเฮา”

“เหอเอ๋อร์ไม่เคยไปที่เซี่ยเก๋อ” ฮองเฮาปฏิเสธทันที

สวี่ชีอันพูดต่อ “หลังจากข้าน้อยตรวจสอบศพ พบว่านางข้าหลวงหวงเสี่ยวโหรวได้รับบาดเจ็บสาหัสจนถึงแก่ชีวิต ไม่ใช่เรื่องที่นางข้าหลวงคนหนึ่งจะช่วยได้และหมอหลวงจากสำนักหมอหลวงก็ไม่อาจช่วยได้เช่นกัน ต้องเป็นยาครอบจักรวาลที่กินแล้วฟื้นจากความตายเป็นแน่”

ฮองเฮาจ้องมองสวี่ชีอันและตรัสเบาๆ “ใต้เท้าสวี่มีหลักฐานยืนยันคำพูดนี้หรือไม่”

“ศพคือหลักฐานขอรับ”

“แล้วยาเม็ดนั่นล่ะ”

“…ไม่มีขอรับ” สวี่ชีอันส่ายหน้า

คนที่ฉีกบันทึกรายรับรายจ่ายของห้องโอสถหลวงคือฮองเฮาเหรอ

ฮองเฮาพยักหน้าและเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ข้าเหนื่อยแล้ว ส่งใต้เท้าสวี่ออกจากตำหนักด้วย”

เจ้าเพิ่งงีบเสร็จไม่ใช่เหรอ…ริมฝีปากของสวี่ชีอันอ้ำๆ อึ้งๆ อยู่สองสามครั้ง เขาลุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้และตามนางข้าหลวงออกจากตำหนักเฟิ่งฉีไป

….

สวี่ชีอันมองดวงอาทิตย์ “ขันทีน้อย รายชื่อที่ข้าให้เจ้ารวบรวมจัดการเรียบร้อยแล้วหรือยัง”

ขันทีน้อยหยิบกระดาษเซวียนจื่อที่พับไว้ออกมาจากในอกเสื้อ “ข้าน้อยกำลังจะมอบให้ใต้เท้าสวี่”

ไม่เลว ประสิทธิภาพในการทำงานสูงมาก สมกับเป็นคนที่พระราชวังสั่งสอนออกมา

สวี่ชีอันคลี่รายชื่อออกและกวาดตามอง มีชื่อนางข้าหลวง ขุนนางรับใช้กับทหารรักษาพระองค์สิบกว่าคนแจกแจงอยู่บนนั้น

“พวกเรามาสอบสวนทีละคนตามรายชื่อบนนี้กันเถิด” สวี่ชีอันกล่าว

“ด้านฮองเฮา…”

“แน่นอนว่าตรวจสอบไม่ได้”

สวี่ชีอันถอนหายใจ แม้ว่าจักรพรรดิหยวนจิ่งจะให้อภิสิทธิ์แก่เขามากมาย อยากสอบสวนใครก็สอบสวน แต่ฮองเฮาถึงตายก็คงไม่ให้ความร่วมมือและสวี่ชีอันเองก็ไม่อาจใช้กำลังได้

แต่มีสิ่งหนึ่งที่สามารถยืนยันได้ นั่นก็คือฮองเฮามีผีอยู่ในใจ

คงไม่ใช่ฮองเฮาทำจริงๆ เช่นนั้นฮว๋ายชิ่งก็ไม่ได้น่าสงสารนักหรอก ข้าควรจะสืบสวนต่อไปหรือไม่ แต่หากไม่สืบสวน ยายตัวร้ายจะไม่น่าสงสารหรือ มาๆ สนามรบแบบให้เลือกหนึ่งในสอง…สวี่ชีอันถอนหายใจเงียบๆ ในใจ

แต่จะว่าไปแล้ว ฮองเฮาสวยมากจริงๆ อายุมากแล้วยังมีเสน่ห์เช่นนี้ ตอนสาวๆ คงสวยมาก ไม่แปลกใจที่นางได้เป็นฮองเฮา

ใบหน้าของฮว๋ายชิ่งกับฮองเฮาคล้ายคลึงกัน

“เปรียบเทียบกันแล้ว ข้ายังคงรู้สึกว่าลั่วอวี้เหิงดีกว่า เพราะนางพึงพอใจรสนิยมหลายอย่างของข้า…อ้อ ซูซูก็เช่นกัน”

สวี่ชีอันอดคิดถึงคำพูดของนักบวชเต๋าจินเหลียนเมื่อครู่ไม่ได้ ลั่วอวี้เหิงมีพร้อมหลากหลายบุคลิกจึงสามารถทำให้ผู้ชายเห็นส่วนที่ตัวเองชอบได้และสิ่งที่เขาเห็นก็คือ สาวน้อยวัยแรกแย้มอายุยี่สิบปี หญิงสาวอายุสามสิบปี สตรีสูงวัยอายุสี่สิบปี…

“ข้าไม่อยากยอมรับเลยว่าข้าลามกจริงๆ”

ในชั่วยามต่อมา สวี่ชีอันสอบปากคำคนบนรายชื่อ เพราะเวลามีจำกัด เขาจึงต้องรีบออกจากพระราชวังก่อนกำแพงพระราชวังจะปิด ดังนั้นเขาจึงสอบปากคำทันเพียงแค่หนึ่งในสามเท่านั้น

ท่ามกลางเสียงระฆังปิดกำแพงอันดังก้อง เขาออกจากพระราชวังไปอย่างราบรื่น ดึงแม่ม้าน้อยของตัวเองมาจากหน่วยองครักษ์ราชวัลลภ นำดาบยาวสีดำทองที่ท่านโหราจารย์มอบให้กลับคืน ก่อนจะออกจากเขตพระราชฐานไปอย่างช้าๆ

เวลานี้ ตะวันเหลือเพียงแสงเท่านั้น

ห้ามออกนอกเคหสถานยามวิกาลเริ่มขึ้นแล้ว คนสัญจรบนถนนก็หายไป สวี่ชีอันสวมเครื่องแบบของหน่วยลาดตระเวนตรวจการณ์ยามวิกาลและมีตราทองคำอยู่กับตัวอีก นอกจากภายในพระราชวัง สถานที่ที่เหลือก็ผ่านไปได้โดยไร้การขัดขวาง

‘กุบกับๆๆ…’

แม่ม้าน้อยเดินไปบนถนนที่ไร้ผู้คนอย่างช้าๆ สวี่ชีอันไตร่ตรองบริบทของคดีพระสนมฝู

พระสนมฝูเป็นเหยื่อรายใหญ่สุดในคดีนี้ เหยื่อสังเวยที่ใช้เพื่อใส่ร้ายองค์รัชทายาทและคนที่ลงมือก็คือหวงเสี่ยวโหรวซึ่งถูกฆ่าปิดปากไปแล้ว

หวงเสี่ยวโหรวเคยได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ได้ฮองเฮารักษา ดังนั้นฮองเฮาจึงมีบุญคุณอันใหญ่หลวงต่อนาง

และพระราชโอรสสี่ของฮองเฮาก็เป็นทายาทตามกฎหมาย องค์รัชทายาทองค์ปัจจุบันเกิดจากนางสนม ฮองเฮาไม่ยินยอมให้ตำแหน่งองค์รัชทายาทตกไปอยู่ผู้อื่น ดังนั้นนางจึงวางอุบาย ใส่ร้ายองค์รัชทายาทและทวงตำแหน่งวังบูรพาคืน

แรงจูงใจชัดเจนมาก รายละเอียดคดีทั้งหมดก็สมเหตุสมผล ขาดเพียงแค่หลักฐาน

ใช่ ตอนนี้ยังขาดหลักฐานที่จะพิพากษาฮองเฮา

“หรงหมัวมัวพูดถูก ภายในวังในที่ล้ำลึกแห่งนี้มีความลับที่ไม่อาจบอกได้เยอะเกินไป หากเท้าข้างหนึ่งติดอยู่ในนั้นแล้วก็ไม่อาจดึงออกมาได้ เดิมทีข้าคิดว่าคดีนี้ต้องใช้เวลา ไม่คิดว่าความคืบหน้าจะเร็วขนาดนี้ คราวนี้แม้แต่โอกาสถ่วงเวลาก็ไม่มี จักรพรรดิหยวนจิ่ง ไอ้ลูกหมา หากยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ พรุ่งนี้ข้าจะลาหยุดเสีย”

เวลานี้มีภาพหนึ่งปรากฏขึ้นในหัวของสวี่ชีอัน ด้านหลังสันหลังคาฝั่งซ้ายมีชายชุดดำคนหนึ่งหมอบอยู่และด้านหลังสันหลังคาฝั่งขวาก็มีชายชุดดำคนหนึ่งซุ่มโจมตีอยู่เช่นกัน

ในตรอกด้านหน้ามีชายชุดดำถือดาบคนหนึ่งยืนอยู่

อาศัยความพิเศษของทหารระดับหลอมวิญญาณ เขาสัมผัสถึงอันตรายได้ในทันที

ข้าถูกซุ่มโจมตี…ความคิดนี้ผุดขึ้นมาในใจของเขา วินาทีต่อมา เสียงแหวกอากาศอันแหลมคมก็ดังขึ้น

ยามพลบค่ำnᴏveʟɢᴜ.cᴏᴍ

หลังเสวยพระกระยาหารเย็น จักรพรรดิหยวนจิ่งวางแผนจะไปหาลั่วอวี้เหิงที่อารามรัตนะ เพื่อนั่งสมาธิฝึกลมหายใจกับนางและฟังพระคัมภีร์ลัทธิเต๋า

จู่ๆ ขันทีที่เฝ้าอยู่ด้านนอกก็เข้ามารายงานว่า “ฝ่าบาท เฉินกุ้ยเฟยมาขอเข้าพบอยู่ด้านนอก”

‘นางมาทำอะไรเวลานี้…’ จักรพรรดิหยวนจิ่งขมวดคิ้ว เขาครุ่นคิดเล็กน้อยและเอ่ยว่า “บอกให้นางเข้ามา”

เฉินกุ้ยเฟยมายังที่ประทับของเขาในเวลานี้ หากเป็นเมื่อสองสามปีก่อน จักรพรรดิหยวนจิ่งคงคิดว่านางมาเสนอตัวให้และมาปรนนิบัติ

ภายในเวลาสิบปีเต็มนับตั้งแต่เขาฝึกเต๋า เหล่านางสนมนางกำนัลในวังหลังก็มาออดอ้อนขอปรนนิบัติอย่างไม่ลดละ จักรพรรดิหยวนจิ่งเมินเฉย คนที่ดื้อรั้นก็คุกเข่าอยู่ด้านนอกเป็นเวลาหนึ่งคืน

ต่อมาเมื่อเห็นว่าหัวใจของเขาราวกับเหล็กและรู้ว่าตัวเองไม่อาจนำหัวใจของจักรพรรดิกลับมาได้ เหล่านางสนมนางกำนัลก็หยุดความคิดนี้และใช้ชีวิตอย่างสงบ

จนถึงตอนนี้ก็ทำตัวสบายๆ แล้ว

ทุกคนต่างก็ใช้ชีวิตของตัวเองและรวมกลุ่มกันพูดคุยเป็นครั้งคราว

วังหลังของจักรพรรดิหยวนจิ่งน่าจะเป็นวังหลังที่กลมเกลียวกันมากที่สุดในห้าร้อยปีของต้าฟ่ง

หลังจากขันทีถอยออกไป จักรพรรดิหยวนจิ่งก็นั่งขัดสมาธิบนเตียงและหลับตาฝึกลมหายใจ ไม่นานนัก เฉินกุ้ยเฟยก็ร้องไห้กระซิกพุ่งเข้ามา นางร้องไห้พลางเอ่ยว่า

“ฝ่าบาท ท่านต้องออกหน้าให้ข้า ออกหน้าให้องค์รัชทายาท”

นางมาเพื่อองค์รัชทายาท ซึ่งจักรพรรดิหยวนจิ่งก็ไม่แปลกใจกับผลลัพธ์นี้ หรือก็คือ อยู่ในการคาดการณ์ของเขา

จักรพรรดิหยวนจิ่งที่พระเกศาดำเพิ่งขึ้นใหม่ลืมตาขึ้นและมองเฉินกุ้ยเฟยอย่างเฉยเมย “เรื่องขององค์รัชทายาทยังอยู่ระหว่างการสืบสวน เชิญนางสนมกลับไปเถิด ถูกผิดย่อมมีการตัดสิน”

“ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนหรือ คดีไม่ใช่ว่าความจริงปรากฏแล้วหรือ ฝ่าบาท ข้าได้ยินมาจากหลินอันว่า” เฉินกุ้ยเฟยบีบผ้าเช็ดหน้าผ้าไหม นางเช็ดน้ำตาพลางพูดอย่างเศร้าโศก

“องค์รัชทายาทถูกใส่ร้าย องค์รัชทายาทถูกใส่ร้าย”

‘หือ?’ จักรพรรดิหยวนจิ่งขมวดคิ้ว “หลินอันบอกเจ้าว่าอะไร”

“ใต้เท้าสวี่คนนั้นสืบหาความจริงพบแล้ว…”

จักรพรรดิหยวนจิ่งชะงัก เขารู้ว่าศพที่จมน้ำที่กู้ขึ้นมาในเซี่ยเก๋อวันนี้เป็นนางข้าหลวงของพระสนมฝูที่หายตัวไปหลายวัน แต่เขาไม่คาดคิดว่า สวี่ชีอันจะสืบพบความจริงเร็วขนาดนี้

เฉินกุ้ยเฟยร้องไห้พลางบอกข้อมูลที่ตัวเองรู้ออกมา

จักรพรรดิหยวนจิ่งฟังจบ สีหน้าก็มืดมนเหมือนกับน้ำ เขาหันไปทางคนสนิทและสั่งว่า “ไปเรียกคนที่ดูแลสวี่ชีอันมา”

ขันทีชราในชุดคลุมงูขานรับและออกไป ไม่ถึงหนึ่งเค่อ เขาก็พาขันทีน้อยเข้ามา

ขันทีน้อยกวาดสายตามองไปรอบๆ จักรพรรดิหยวนจิ่งนั่งขัดสมาธิบนเตียงด้วยสีหน้าเฉยชา เฉินกุ้ยเฟยคุกเข่าอยู่ข้างเตียงและร้องไห้สะอึกสะอื้น

จักรพรรดิหยวนจิ่งเอ่ยเสียงเรียบ “วันนี้คดีมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง”

ขันทีน้อยร่างความคิดไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้ยินคำถามนี้ เขาก็ตอบอย่างไม่รีรอ “หลังจากคุณชายสวี่เข้ามาในวัง เขาก็รีบไปตรวจสอบศพทันทีและได้ข้อสรุปว่า นางข้าหลวงหวงเสี่ยวโหรวถูกคนจับกดน้ำจนจมน้ำตาย แล้วค่อยโยนศพลงไปในบ่อน้ำ”

จากนั้นก็กล่าวเสริมขั้นตอนการชันสูตรพลิกศพเพื่อพิสูจน์การอนุมานนี้

“นอกจากนี้ ใต้เท้าสวี่ยังตรวจพบอีกว่านางข้าหลวงหวงเสี่ยวโหรวได้รับบาดแผลฉกรรจ์ที่หัวใจ เดิมทีนางควรจะตายไปหลายปีแล้ว แต่ถูกช่วยชีวิตด้วยยาครอบจักรวาล…ก่อนจะไปสอบปากคำหรงหมัวมัวที่เซี่ยเก๋อ…”

ครั้งนี้ขันทีน้อยมีประสบการณ์มาก เขาเล่าเพียงแค่กระบวนการ ไม่เพิ่มความรู้สึกส่วนตัวใดๆ แล้วก็ไม่พูดถึงความสัมพันธ์ของสวี่ชีอันกับองค์หญิงทั้งสองคน

เขาเข้าใจแล้วว่าการพูดเรื่องพวกนี้ออกมาจะเป็นการเพิ่มปัญหาให้ใต้เท้าสวี่ แต่วิธีที่นำเอานิสัยขี้ฟ้องขององค์หญิงทั้งสองคนมาใช้เช่นนี้ เกรงว่าจะทำให้ฝ่าบาทไม่ทรงโปรด

จำเป็นต้องทำร้ายผู้อื่นและตัวเองด้วยหรือ

นอกจากนี้ใต้เท้าสวี่ยังดีกับข้าและห่วงใยข้ามาก แม้ว่าจะอารมณ์ฉุนเฉียวไปบ้าง แต่ความรู้สึกลำบากใจก็ไม่เลว

“แน่ใจหรือว่าสมุดบัญชีรายรับรายจ่ายของห้องโอสถหลวงถูกคนฉีกทิ้งไปบางส่วน” จักรพรรดิหยวนจิ่งตรัสถามเพื่อยืนยัน

“ใต้เท้าสวี่พูดเช่นนี้” ขันทีน้อยยังคงไม่แสดงความคิดเห็นส่วนตัวออกมา

จักรพรรดิหยวนจิ่งพยักหน้าช้าๆ “แจ้งผู้ตรวจพิสูจน์ศพให้เข้ามาในวังคืนนี้ ตรวจสอบศพของนางกำนัลหวงเสี่ยวโหรวอีกครั้ง ข้าต้องการรู้คำตอบในทันที”

ครึ่งชั่วยามต่อมา คนสนิทก็นำผลการชันสูตรพลิกศพของผู้ตรวจพิสูจน์ศพกลับมา ซึ่งยืนยันเหมือนกับสวี่ชีอันอย่างไม่ต้องสงสัย

จักรพรรดิหยวนจิ่งสิ้นหวังทันทีและไม่ตรัสคำใดอยู่นาน ที่ประทับอันกว้างใหญ่เงียบสนิท

จนกระทั่งเฉินกุ้ยเฟยหมอบลงกับพื้นและร้องไห้ “ใต้เท้าสวี่ไม่กล้าสอบสวนฮองเฮา เรื่องนี้มีเพียงฝ่าบาทออกหน้าด้วยตนเองเท่านั้นถึงจะได้ วอนขอฝ่าบาทจัดการให้องค์รัชทายาทกับข้าด้วยเถิด”

…………………………………………………

[1] ยามเหว่ย สามเค่อ เทียบเวลาปัจจุบันคือ 13.45 น.

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Nightwatcher, Dafeng's Night Squad, Great Feng's Nightwatchers The Nightwatchers of Feng 大奉打更人, วิถียุทธ์คนเคาะยามแห่งต้าเฟิ่ง(siaminter), Guardians Of The Dafeng(ซีรีส์)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , , ต้นฉบับ: 951 Chapters (จบแล้ว)
สวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน….. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset