📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง – ตอนที่ 161

บทที่ 161 - มหาอำนาจมังกรสวรรค์
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

“มันเป็นบ้านผีสิงขอรับ!”

นายหน้าชรากระซิบในขณะที่กำลังนั่งลงพร้อมกับเอนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย

“มันเกิดขึ้นเมื่อราวๆ สองปีก่อน จวนหลังนี้เดิมทีเป็นของครอบครัวเศรษฐี ทว่าในคืนหนึ่งจู่ๆ พวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องน่าสยดสยองของผู้หญิงคนหนึ่งดังมาจากลานบ้าน คนรับใช้ของจวนจึงออกมาพร้อมกับตะเกียงเพื่อตรวจดู เห็นผู้หญิงชุดขาวนั่งปิดหน้าร้องไห้อยู่ที่ข้างบ่อน้ำ”

“คนรับใช้ถามว่านางเป็นใคร แต่ก็ไม่ได้คำตอบ นางเอาแต่ร้องไห้ คนรับใช้คิดว่าเป็นหญิงสาวสักคนในจวนที่ถูกกลั่นแกล้งให้น้อยเนื้อต่ำใจ และวิ่งมาระบายอารมณ์ที่ลานบ้าน เขาจึงยกตะเกียงขึ้นมาส่องดูให้รู้ว่าเป็นใคร…”

เมื่อพูดถึงตรงนี้น้ำเสียงของนายหน้าชราก็ต่ำลงเรื่อยๆ และทำท่าทำทางราวกับว่าเขาเป็นพยานเห็นสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นด้วยตาของเขาเอง

“หลังจากนั้นล่ะ” ฉู่ไฉ่เวยกำหมัดเล็กๆ ของนาง ดวงตากลมโตเป็นประกาย ทั้งตื่นเต้นและลุ้นระทึก

สวี่ชีอันนึกถึงพวกผู้หญิงในชาติก่อนที่กลัวก็กลัวแต่ก็อยากดูหนังผีไปด้วย แต่นางเป็นปรมาจารย์ฮวงจุ้ยระดับเจ็ดเชียวนะ

“ในตอนนั้นเอง…” เสียงของนายหน้าชราสั่นเทา ฟังดูลึกลับและน่ากลัว “ผู้หญิงคนนั้นก็เงยหน้าขึ้น ใบหน้าของนางเน่าเฟะและมีลูกตาห้อยถลนออกมา เหลือแต่เบ้าตากลวงโบ๋สองข้างที่มีตัวหนอนไต่ยั้วเยี้ย ปากของนางเป็นสีม่วงเข้มและมีเลือดสีดำสนิทไหลออกมา…”

สวี่ชีอันเห็นลำคอขาวใสของฉู่ไฉ่เวยเป็นตุ่มนูนเพราะขนลุกซู่ พร้อมกับร่างบอบบางของนางที่สั่นเทาเล็กน้อย

นายหน้าชราพอใจกับปฏิกิริยาของฉู่ไฉ่เวยเป็นอย่างมาก กระหยิ่มยิ้มย่องอย่างมีชัยพลางกล่าวต่อ“หลังจากที่ครอบครัวเศรษฐีกลุ่มแรกย้ายออกไป ผู้ซื้อสองสามรายที่เข้ามาต่อจากนั้นก็เจอเหตุการณ์แบบเดียวกัน ผีซ้ำด้ำพลอย นับแต่นั้นมาก็เหมือนถึงคราวเคราะห์ มีแต่ปัญหาประเดประดังเข้ามาไม่หยุดหย่อน ใครก็ตามในครอบครัวล้วนประสบเคราะห์ได้รับบาดเจ็บ ทำมาค้าขายตกต่ำ ทรัพย์สินของครอบครัวก็เริ่มร่อยหรอลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ต้องย้ายออกไป”

ก็ถือว่าเป็นนายหน้าที่มีมโนธรรมอยู่พอตัว…สวี่ชีอันถาม “ได้แจ้งเจ้าหน้าที่หรือไม่”

“แจ้งสิขอรับ จะไม่แจ้งได้อย่างไร แต่เนื่องจากไม่มีใครถูกฆ่าตาย หลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้ามาสองสามครั้งก็ไม่สนใจอีกเลย ถึงกระนั้นครอบครัวเศรษฐีสองสามกลุ่มแรกก็เคยเชิญปรมาจารย์มาปราบนะขอรับ แรกๆ ก็ราบรื่นดีอยู่ระยะหนึ่ง ทว่าไม่นานนักก็กลับสู่สภาพเดิม ผีสาวน่าเวทนาในยามราตรี หลอกหลอนคนทั้งบ้าน ความโชคร้ายไม่เคยดีขึ้น กาลกิณีอย่างไรก็ยังกาลกิณีอยู่วันยังค่ำ”

สวี่ชีอันเคาะโต๊ะและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นบ้านที่น่าสนใจมาก พวกเราไปดูที่นี่กันก่อนเถิด”

นายหน้าชราคาดไม่ถึงเป็นอย่างมากและคิดว่าสองหนุ่มสาวสามีภรรยาคู่นี้ไม่น่าใช่คนโง่ พวกเขายังเด็กและมีพลังเหลือล้น ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำและมักรู้สึกว่าตนเองเป็นคนพิเศษที่จะได้รับการยกเว้น

“ได้ขอรับ เช่นนั้นข้าจะพาพวกท่านทั้งสองไปดู พวกเราค่อยๆ เลือกบ้านที่อยู่แถวนั้นไปนะขอรับ” ใบหน้าของนายหน้าชรายังคงยิ้มด้วยความนอบน้อม

ตัวบ้านอยู่ห่างจากหอนางโลมไปสามลี้ (1 ลี้ เท่ากับ 500 เมตร) ทางทิศตะวันออกของบ้านมีแม่น้ำอันคดเคี้ยวอยู่สายหนึ่ง ส่วนทิศตะวันตกเป็นสวนดอกไม้ซึ่งอยู่ห่างจากถนนสายหลักออกไปเพียงสิบเมตร และไม่มีเสียงดังรบกวนในตอนกลางวัน เดินไปตลาดไม่ไกลมากด้วย

บรรยากาศสงบร่มเย็นท่ามกลางความวุ่นวาย เป็นทำเลที่ดีทีเดียว

นายหน้าชราไขกุญแจที่คล้องอยู่ตรงประตูบ้านและใช้พละกำลังผลักประตูบานใหญ่ออก มือปัดฝุ่นไปด้วยขณะที่ทำท่าเชื้อเชิญ

“นายท่านนายหญิง เชิญทางนี้ขอรับ”

การเรียกนายท่านนายหญิงถือเป็นการให้เกียรติอย่างมาก เทียบเท่ากับการเรียก ‘คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง’ ในโอกาสสำคัญทีเดียว น่าจะเรียกคุณชายกับคุณหนู ถึงจะเข้ากับหนุ่มหล่อสาวสวยเช่นนี้มากกว่า

“อืม!” สวี่ชีอันพยักหน้าและเดินนำฉู่ไฉ่เวยเข้าไปพร้อมกับสังเกตรอบๆ อย่างละเอียด ลานบ้านอยู่ในสภาพรกร้างและทรุดโทรม ฝุ่นหนาเตอะจับบนพื้น ส่วนเสาและผนังของบ้านที่มีรอยด่างดำถูกทาด้วยสีทับไว้ หากฤดูร้อนมาถึงอาจได้เห็นลานบ้านที่เต็มไปด้วยวัชพืช ในสวนดอกไม้มีกลิ่นสาบของดินโชยมา

นายหน้าชรากำลังนำพวกเขาไปรอบๆ ลานด้านหน้าและห้องโถง สวี่ชีอันพอใจมากทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นแผนผังหรือตัวอาคารก็กว้างขวางปลอดโปร่งกว่าบ้านของท่านอารอง

ทว่านายหน้าชราเป็นตายอย่างไรก็ไม่ยอมพาพวกเขาไปยังลานชั้นในพร้อมกับโบกมือพูดว่า “ดูถึงแค่ตรงนี้เถิด เข้าไปข้างในต่อไม่ได้แล้วขอรับ อัปมงคลยิ่งนัก”

ข้าว่าเจ้ากำลังขวางทางข้าอยู่นะ…สวี่ชีอันโบกมือ “เจ้าไปรอข้างนอกก่อน อีกประเดี๋ยวเราจะตามไป ข้าขอพาฮูหยินเข้าไปดูก่อน”

ตอนนี้ยังเป็นตอนกลางวันและมีแสงแดดส่องจ้า นายหน้าชราสบายใจขึ้นเล็กน้อยและกล่าวเตือนว่า “รีบออกมาล่ะขอรับ”

ฉู่ไฉ่เวยมองสวี่ชีอันด้วยท่าทีเพิ่งรู้ตัว นางขมวดคิ้วและกล่าว “ใครเป็นฮูหยินของเจ้า พูดจาเหลวไหล”

ไม่ช้าก็เร็วละกัน…

“เจ้าเป็นคนที่แปลกมาก มีเงินออมเหตุใดถึงไม่ซื้อที่ดิน แต่กลับซื้อบ้านเล่า”

“รอให้เจ้าถูกความกลัวจากราคาบ้านครอบงำเสียก่อน เจ้าก็จะเป็นเหมือนข้า” สวี่ชีอันกล่าวพร้อมกับพิจารณาดูไปยังรอบๆ อย่างระมัดระวัง “ข้ารู้ว่านอกจากลัทธิเต๋าแล้ว หลังจากที่ผู้บำเพ็ญเพียรแต่ละระบบตายไป จิตเดิมจะคงอยู่ในโลกเป็นเวลานาน ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของจิตเดิม บ้านหลังนี้ยังมีจิตเดิมของผู้แข็งแกร่งหลงเหลือไว้หลังความตายบ้างหรือไม่”

สวี่ชีอันหยิบกระจกหยกขนาดเล็กออกมาอย่างใจเย็น พลิกด้านหลังเล็กน้อยพร้อมกับชักกระบี่เล่มยาวสีดำทองออกมา

ในขณะที่เผชิญหน้ากับดวงตาคู่งามที่เบิกกว้างของฉู่ไฉ่เวย เขาก็พูดด้วยรอยยิ้ม “นี่คือสมบัติและความลับของข้า อย่าได้แพร่งพรายออกไปเด็ดขาด ไว้กลับไปข้าจะเลี้ยงอาหารอร่อยๆ เจ้า”

“โอ้” ฉู่ไฉ่เวยมองดูด้วยความประหลาดใจเล็กน้อยแล้วก็ไม่ได้สนใจอีก เพราะถึงอย่างไรกระเป๋าคาดเอวหนังกวางของนางก็เป็นเหมือนอาวุธเวทมนตร์ที่ไว้สำหรับเก็บของอยู่แล้ว

กระจกแตกอันหนึ่งแลกกับอาหารอร่อยๆ หนึ่งมื้อ ช่างคุ้มค่าเหลือเกิน

ฉู่ไฉ่เวยกระโดดขึ้นไปบนหลังคา ดวงตากลมชวนมองของนางเรืองแสงราวกับดวงตาของไอรอนแมน[1]

นางตรวจดูบ้านหลังนี้อย่างละเอียด โดยกระโดดขึ้นไปมาบนหลังคาเพื่อเปลี่ยนตำแหน่ง ไม่ให้พลาดแม้แต่จุดเดียว

ในที่สุดดวงตาเรืองแสงก็มาหยุดอยู่ที่บ่อน้ำของลานชั้นใน นางมองเห็นปราณสีดำที่เล็ดลอดออกมาเล็กน้อย

“ที่นี่แหละ” ฉู่ไฉ่เวยมีความสุขมาก นางจึงร่อนตัวลงมาเบาๆ พร้อมกับลากสวี่ชีอันไปทางบ่อน้ำ

“ที่นี่มีความอาฆาตแค้นอยู่ เป็นความอาฆาตแค้นที่สามารถหล่อเลี้ยงผีร้ายได้เลยทีเดียว”

สวี่ชีอันตกใจ แสดงท่าทีระแวดระวัง และดึงฉู่ไฉ่เวยออกไป

“ไม่เป็นไร!” คนงามส่ายหัว “ความอาฆาตแค้นนั้นอ่อนแรงมาก ข้าคิดว่าพลังของวิญญาณอาฆาตยังไม่แข็งแกร่งพอ แค่ข้าคนเดียวก็จัดการได้”

ในขณะที่พูดอยู่นางก็เอื้อมมือไปแตะกระเป๋าหนังกวางและหยิบสารพัดสิ่งของออกมา มีทั้งเลือดของหมาดำ ชาด[2] ทองคำและของแปลกๆ ที่สวี่ชีอันจำไม่ได้

จากนั้นนางก็ยึดเอาบ่อน้ำเป็นจุดศูนย์กลาง ในมือถือกิ่งไม้แห้งขีดเขียนไปตามพื้นจนก่อเป็นกระบวนพยุหะแปดทิศ[3]

หลังจากวาดกระบวนพยุหะแปดทิศเสร็จสิ้น นางจึงนำวัตถุที่เป็นสัญลักษณ์พลังหยางอันทรงพลังวางลงไปยังตำแหน่งที่เฉพาะเจาะจง

“ค่ายกลงั้นหรือ” สวี่ชีอันมองดูอยู่ข้างๆ ด้วยความเพลิดเพลิน

“ไม่ใช่ นี่คือการจัดฮวงจุ้ย ไม่ใช่ค่ายกลแบบจริงจัง ข้าจัดวางฮวงจุ้ยหยางบริสุทธิ์นี้โดยมีบ่อน้ำเป็นศูนย์กลาง พื้นที่ที่ถูกยันต์แปดทิศครอบคลุม ฮวงจุ้ยก็จะเปลี่ยนเป็นพลังหยาง[4]และระงับความอาฆาตแค้นในบ่อน้ำ” ฉู่ไฉ่เวยกล่าว

เทียบเท่ากับค่ายกลขั้นพื้นฐาน…ปรมาจารย์ฮวงจุ้ยเป็นร่างเดิมหรือเรียกว่าเป็นรากฐานของปรมาจารย์ค่ายกล สวี่ชีอันเข้าใจระบบโหรของสำนักโหราจารย์ได้อย่างลึกซึ้งขึ้น

หลังจากดื่มชาไปหนึ่งถ้วย ฉู่ไฉ่เวยเบิกดวงตาอันส่องประกายของนางและพยักหน้าด้วยความพอใจ “หมดแล้ว”

สวี่ชีอันหัวเราะ “ขอบคุณแม่นางไฉ่เวย”

ทั้งคู่ช่วยกันเก็บวัสดุอุปกรณ์ ฉู่ไฉ่เวยตบกระเป๋าหนังกวางและกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่า “ข้าจะไปดูฮวงจุ้ยของบ้านหลังอื่นกับเจ้าด้วย จากนั้น อืม ข้าจะไปร้านกุ้ยเยว่ตอนเย็น”

“ได้สิ!” สวี่ชีอันให้คำมั่นสัญญา

ทั้งสองเดินออกไปเคียงข้างกัน ทว่าหลังจากเดินไปได้สองสามก้าวฉู่ไฉ่เวยก็หยุดกึกและร้องอุทานออกมา “เอ๊ะ” นางหันกลับไปมองด้วยดวงตาเรืองแสง

หลังจากใช้วิชามองปราณสังเกตดู ก็เห็นปราณสีดำจางๆ เพิ่มขึ้นอีกครั้งจากในบ่อน้ำ

“มีอะไรหรือ” เมื่อเห็นสีหน้าของนางแปลกไปสวี่ชีอันจึงถามขึ้น

“ไม่…ไม่ได้ทําให้บริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์…ไม่ใช่สิ ยังมีไอของปราณสีดำโชยออกมา ฉะนั้นต้องมีสิ่งแปลกปลอมอยู่ที่ก้นบ่อ” ฉู่ไฉ่เวยวิ่งกลับไป นอนคว่ำลงที่บ่อน้ำและจ้องมองอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นนางจึงจัดฮวงจุ้ยวางหยางบริสุทธิ์ลงไปเพื่อปัดเป่าปราณสีดำอีกครั้งโดยไม่เกรงกลัว

ทว่าผลลัพธ์ก็ยังเหมือนเดิมและยังคงมีไอของปราณสีดำโชยออกมา

“ทำอย่างไรดี” สวี่ชีอันคิดไม่ถึงว่าสถานการณ์จะยุ่งยากเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้

“วิธีที่ง่ายและได้ผลมากที่สุดคือการนิมนต์พระจากวัดมังกรเขียวมาทำพิธีเพื่อปัดเป่าปราณสีดำออกไป…” ฉู่ไฉ่เวยยังไม่ทันจะพูดจบก็เห็นสวี่ชีอันวิ่งไปยังบ่อน้ำแล้ว

สีหน้าของเขาดูจริงจังในขณะที่กำมืออยู่และสวดบทอะไรสักอย่างไปด้วยในเวลาเดียวกัน

“ปีศาจอาจหาญ แสร้งทำตนเป็นผี🤘มหาอำนาจมังกรสวรรค์👌พระกษิติครรภโพธิสัตว์! 🤙มหาธรรมมันตรา🙏 ด้วยพระปัญญาบารมีพระพุทธเจ้า! ✋ด้วยปัญญาบารมีกลับใจ! 🐉มังกรท่องเวหา! 👉ไปซะ!”

ทว่ากลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ไม่มีแม้แต่เสียงลม

ฉู่ไฉ่เวยมองเขาอย่างมึนงง “เจ้าทำอะไรหรือ”

“นี่เป็นบทสวดไล่ผีและจับปีศาจที่บ้านเกิดของข้า ข้าแค่อยากลองดู” สวี่ชีอันยักไหล่ “แต่ดูท่าบทสวดไล่ผีของบ้านเกิดข้าไม่ได้เรื่องเลย”

ฉู่ไฉ่เวยกล่าว “ข้าพูดยังไม่ทันขาดคำ นายหน้าก็เพิ่งพูดไปหยกๆ ว่าครอบครัวเศรษฐีสองสามกลุ่มแรกเคยเชิญปรมาจารย์มาทำพิธีแล้ว แต่หลังจากนั้นก็ดีขึ้นมาระยะหนึ่งแล้วก็กลับสู่สภาพเดิม ซึ่งตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับข้าพอดี”

“เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี” สวี่ชีอันถาม

“ข้าพอจะคาดเดาไว้แล้ว คืนนี้เราจะกลับมาใหม่” ท่าทางของฉู่ไฉ่เวยเต็มไปด้วยความมั่นใจ “แต่ว่า เจ้าต้องเลี้ยงข้าวเพิ่ม”

เลี้ยงข้าวเพิ่มไม่ใช่ปัญหา ข้าเพียงแต่รู้สึกว่าเจ้ามันไม่น่าไว้ใจ อย่าลืมว่าเจ้าเป็นเด็กเรียนกากนะ แม่สาวน้อยไฉ่เวย…สวี่ชีอันกล่าวด้วยรอยยิ้มโนlวลกูดอทคoม

“ขอแค่แม่นางไฉ่เวยลงมือจัดการ ข้าก็ไม่กังวลอีกต่อไป เลี้ยงข้าวเพิ่มก็เลี้ยงข้าวเพิ่มสิ จะเป็นไรไป”

จากนั้นทั้งสองจึงออกจากที่นั่นและตะลอนดูบ้านหลังอื่นๆพร้อมกับนายหน้าชรา

สำหรับสวี่ชีอันยังมีตัวเลือกอีกมากมาย ไม่ต้องรีบร้อนตัดสินใจ

แสงแดดอันอบอุ่นสาดส่องลงมายังหอสังเกตการณ์ เว่ยเยวียนยืนอาบแดดในชุดสีน้ำเงิน

ใบหน้าของเขาเปล่งประกายราวกับหยกอุ่นๆ ที่ส่องแสงแวววาว ผมหงอกข้างหูมีเกล็ดน้ำค้างเกาะอยู่เล็กน้อย สะท้อนกับแสงอาทิตย์ทำให้ดูเป็นประกายยิ่งกว่าเงิน

“คดีของท่านหญิงผิงหยางทำลายพรรคเหลียงจนสิ้น คดีภาษีและคดีทะเลสาบซังผอสร้างความสูญเสียอันยิ่งยวดกับพรรคหวาง ตอนนี้เหลือแต่พรรคเอี้ยนและพรรคฉีที่ยังอยู่รอดปลอดภัยในท้องพระโรง”เว่ยเยวียนดึงจดหมายลับออกจากแขนเสื้อแล้วยิ้ม

“จดหมายลับฉบับนี้สามารถทำลายปีกข้างหนึ่งของพรรคฉีได้”

หนานกงเชี่ยนโหรวยิ้มอย่างเย็นชา “ท่านพ่อบุญธรรมโปรดอาศัยช่วงตรวจสอบข้าราชสำนัก กำจัดเสี้ยนหนามที่ขวางหูขวางตาเหล่านี้ให้หมดไปโดยเร็วเถิดขอรับ ท่านจะได้แสดงฝีมือที่แท้จริงของท่าน”

“อย่ารีบร้อนไป!” เว่ยเยวียนกำลังจะลงไป ทว่ากลับได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากบันได เป็นเจ้าพนักงานที่ขึ้นมาและพูดว่า

“เว่ยกง ฝ่าบาทเรียกเข้าเฝ้าขอรับ”

หนานกงเชี่ยนโหรวค่อยๆ จอดรถม้าไว้ด้านนอกวังหลวง จากนั้นเว่ยเยวียนจึงลงจากรถม้าและพาบุตรบุญธรรมผู้มีรูปโฉมงดงามยิ่งกว่าสตรีไปยังห้องทรงพระอักษร

จักรพรรดิหยวนจิ่งไม่ค่อยเสด็จมาว่าราชการบ่อยนัก ทว่าบางครั้งก็จัดประชุมเล็กในห้องทรงพระอักษรในวันธรรมดาเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่ในช่วงตรวจสอบราชสำนัก การประชุมเล็กก็จะจัดถี่ขึ้น

โดยแท้จริงแล้วพระองค์ไม่ได้หูหนวกตาบอดต่อโลกภายนอก เพียงแต่มีใจมุ่งศึกษาวิถีแห่งชีวิตอันยืนยาวเท่านั้น

เมื่อมาถึงด้านนอกของห้องทรงพระอักษร เว่ยเยวียนก้าวข้ามธรณีประตูส่งและชะงักไปชั่วขณะหนึ่งโดยไม่มีใครทันสังเกต จากนั้นจึงปฏิบัติตนตามเดิม

“กระหม่อมเว่ยเยวียน ถวายบังคมฝ่าบาท” ขันทีใหญ่คำนับแสดงความเคารพ และในขณะเดียวกันเขาก็กวาดสายตาไปยังใบหน้าของจักรพรรดิหยวนจิ่งและเสนาบดีทั้งสองฝ่าย

เขารับรู้ได้ถึงวิกฤต

สีหน้าของจักรพรรดิหยวนจิ่งนิ่งเฉยและกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เว่ยเยวียน เหตุใดข้าถึงปล่อยให้เจ้ารับผิดชอบหน่วยลาดตระเวนตรวจการณ์ยามวิกาล”

เว่ยเยวียนกล่าว “เพื่อคุ้มกันฝ่าบาทและปกป้องเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ”

“พูดได้ดี” จักรพรรดิหยวนจิ่งพยักหน้า และทันใดนั้นพระองค์ก็คว้าพระราชสาส์นพับหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะเขวี้ยงใส่เว่ยเยวียนอย่างแรงพร้อมกับตรัสด้วยสุรเสียงแข็งกร้าว ดวงตาดุดัน

“นี่คือวิธีที่เจ้าคุ้มกันข้าหรือ ข้าปฏิบัติต่อเจ้าด้วยความจริงใจ และเจ้าก็ตอบแทนข้าด้วยวิธีนี้อย่างนั้นหรือ”

……………………………………

[1] ไอรอนแมน เป็นตัวละครของมาร์เวลคอมิกส์ รู้จักกันในนามนักรบใส่เกราะซึ่งมักจะใส่เกราะ แดง-เหลือง เป็นชุดประจำตัวอยู่เสมอ

[2] ชาด คือแร่ชนิดหนึ่ง ลักษณะเป็นก้อนคล้ายก้อนหิน เป็นวัตถุดิบหลักสำหรับนักเล่นแร่แปรธาตุในสมัยโบราณในการทำการเล่นแร่แปรธาตุ

[3] กระบวนพยุหะแปดทิศ เป็นการจัดกระบวนพยุหะกองทัพที่ขงเบ้งประยุกต์ขึ้นในวรรณกรรมสามก๊ก

[4] พลังหยาง คือ สีขาว หมายถึง ดวงอาทิตย์ อันเป็นสัญลักษณ์ของพลังแห่งบุรุษเพศ การเคลื่อนไหว ความกระตือรือร้น การเคลื่อนขึ้นไปด้านบน การเจริญเติบโต เจริญรุ่งเรือง

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Nightwatcher, Dafeng's Night Squad, Great Feng's Nightwatchers The Nightwatchers of Feng 大奉打更人, วิถียุทธ์คนเคาะยามแห่งต้าเฟิ่ง(siaminter), Guardians Of The Dafeng(ซีรีส์)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , , ต้นฉบับ: 951 Chapters (จบแล้ว)
สวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน….. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset