📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง – ตอนที่ 123

บทที่ 123 - ผู้มีอิทธิพลที่พัวพันกับคดีทะเลสาบซังผอ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

องค์หญิงรองทรงประทับที่ ‘ตำหนักเส้าอิน’ เป็นเขตพระราชอุทยานที่กว้างขวางและงดงาม

หัวหน้าทหารรักษาพระองค์นำสวี่ชีอันเดินข้ามธรณีประตูสูง อ้อมผ่านกำแพงบังตา เบื้องหน้าเป็นลานที่เต็มไปด้วยสีสันของเด็กสาวไร้เดียงสา

ชิงช้าแขวนอยู่บนเถาองุ่น มีโคลนกองอยู่ที่มุมกำแพง ในศาลาทางทิศตะวันออกเห็นของประหลาดกองอยู่รางๆ

ที่ริมสวนดอกไม้ทางทิศตะวันตก องค์หญิงรองหลินอันกำลังเตะลูกบอลแพรปักอยู่กับสาวใช้สองสามคนท่ามกลางเสียงพูดคุยจ้อกแจ้กของหญิงสาว บางครั้งก็มีเสียงหัวเราะราวเสียงระฆังเงินขององค์หญิงหลินอันแทรกมาด้วย

“ฝ่าบาท สวี่ชีอัน ขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” ทหารรักษาพระองค์กำหมัดอยู่ระยะไกล ถวายรายงานเสียงดัง

องค์หญิงรองทรงเหยียบลูกบอลแพรปัก แล้วหันมามอง พระองค์จ้องหน้าสวี่ชีอยู่หลายวินาที กระตุกมุมพระโอษฐ์เล็กน้อย แล้วทรงเตะลูกบอลแพรปักอย่างแรงจนลอยสูงขึ้นฟ้า

‘ตุบ!’

ลูกบอลแพรปักถูกยิงลอยไป ชายกระโปรงขององค์หญิงหลินอัน ก็บานออกเป็นวงกลม ราวกับดอกไม้บาน

ในใจของสวี่ชีอันที่พบหน้ากันก็ต้องเจอกับการแสดงฤทธิ์เดชรู้สึกสะท้าน ขณะที่เขากำลังจะหลบ จู่ๆ ก็ชะงัก ลูกบอลแพรปักยิงเฉไป กระเด้งตุบๆๆ ไปไกล

“ …จะยอมอภัยให้เจ้าสักครั้ง” องค์หญิงรองทรงกู้ศักดิ์ศรีตนเอง ทรงพระดำเนินไปยังห้องโถงด้านหน้าและตรัสว่า “สวี่ชีอัน เจ้าตามข้าเข้ามา คนอื่นๆ ให้รออยู่ข้างนอก”

ในห้องโถงด้านหน้าที่หรูหรา องค์หญิงรองทรงประทับอยู่บนพระเก้าอี้ขนาดใหญ่ ส่วนสวี่ชีอันยืนอยู่กลางห้องโถง ทั้งสองต่างสังเกตอีกฝ่ายอย่างละเอียดอยู่เงียบๆ

องค์หญิงรองทรงใช้วิธีจ้องมองเพื่อบังคับสวี่ชีอันให้ยอมแพ้ โดยผ่านสถานะขององค์หญิง

พระองค์ทรงทราบดีว่าเมื่อครั้งฮว๋ายชิ่งยังเด็ก มีช่วงเวลาหนึ่งเคยล่าเหยี่ยวมาแล้ว สายตาเหยี่ยวนั้นแหลมคมที่สุด ราวกับมีด คนธรรมดาไม่สามารถจ้องตากับมันเป็นเวลานาน ดังนั้น ในกระบวนการล่าเหยี่ยว จำเป็นต้องใช้สายตาที่แหลมคมกว่ามาสยบมัน

ทันทีที่คนล่าเหยี่ยวละสายตา ก็สูญเสียคุณสมบัติที่จะเป็นเจ้าของเหยี่ยวทันที

จุดประสงค์ในการล่าเหยี่ยวของฮว๋ายชิ่งก็เพื่อฝึกสายตาที่แหลมคม จนถึงทุกวันนี้องค์หญิงรองยังไม่กล้าจ้องตากับฮว๋ายชิ่งเป็นเวลานาน

น่าเสียดายที่ดวงพระเนตรกลมโตที่เป็นประกายของพระองค์นั้นไม่มีพลังทำลายล้างจริงๆ เมื่อพระองค์จ้องไปที่ใคร กลับมีความรู้สึกเหมือนอยากพูดแต่ไม่กล้าพูดเสียอย่างนั้น

สวี่ชีอันพินิจพิเคราะห์องค์หญิงรอง พระพักตร์ของพระองค์กลมคล้ายกับใบหน้าของฉู่ไฉ่เวย แต่คนหลังนั้นสวยงามอ่อนหวานดวงตาโตสองมิติ

องค์หญิงรองนั้นทรงงามแบบผู้ใหญ่ ดวงพระเนตรกลมโตทอดพระเนตรไปที่ใครก็เต็มไปด้วยความเสน่หา

“สวี่ชีอัน ได้ยินมาว่าเจ้าเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ของฮว๋ายชิ่ง” เมื่อองค์หญิงรองเห็นว่าการจ้องมองด้วยแววตาดุร้ายของพระองค์ ไม่สามารถทำให้สวี่ชีอันหวาดกลัวได้ ดังนั้นจึงทรงหัวเราะเยาะเย้ย และหันไปใช้วาจาโจมตีเขาแทน

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนามว่าฮาจิโกะ” สวี่ชีอัน กล่าวอย่างจริงใจ

“ฮาจิโกะคืออะไร”

“มันเป็นสุนัขที่จงรักภักดี”

“เจ้ากำลังล้อเล่นกับข้าหรือ” องค์หญิงหลินอันทรงเลิกพระขนง

“มิบังอาจพ่ะย่ะค่ะ” สวี่ชีอัน พูดด้วยกิริยาวาจาที่เหมาะสม

องค์หญิงหลินอันทรงถอนพระปัสสาสะเบาๆ แล้วตรัสว่า “ข้าจะให้โอกาสเจ้า รีบสวามิภักดิ์ต่อข้าเสียแต่ตอนนี้ เพื่อจะได้หลุดพ้นจากผู้หญิงที่ชื่อฮว๋ายชิ่งนั่น มิฉะนั้น…”

สวามิภักดิ์ต่อพระองค์? ตอนนี้กระหม่อมได้โอบกอดพระอูรุขององค์หญิงใหญ่ กอดขาของเว่ยเยวียนไว้แน่นแล้ว ถ้าหากยังสวามิภักดิ์ต่อพระองค์อีก…กระหม่อมจะไม่กลายเป็นข้าสามเจ้า บ่าวสามนายหรือพ่ะย่ะค่ะ

สวี่ชีอัน ส่ายหน้า “ขอประทานอภัย กระหม่อมได้สาบานไว้แล้วว่าจะขอถวายการรับใช้องค์หญิงใหญ่ อย่างถวายชีวิตพ่ะย่ะค่ะ”

องค์หญิงรองทรงตัดทันทีว่า “ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะให้เจ้าถวายการรับใช้ข้าเช่นกัน”

ถ้าเช่นนั้นพระองค์จะให้ค่าตอบแทนกระหม่อมหรือไม่ สวี่ชีอันเข้าใจสถานการณ์แล้ว องค์หญิงรองเห็นว่าเขาได้รับการชื่นชมจากองค์หญิงใหญ่ เป็นผู้ช่วยขององค์หญิงใหญ่ เขาหล่อเหลา แต่งกลอนเป็น และพูดจาน่าฟัง จึงทรงริษยาและอยากจะแย่งตัวเขาไปจากองค์หญิงใหญ่

“องค์หญิงรองอย่าทรงฝืนใจผู้อื่นเลยพ่ะย่ะค่ะ” สวี่ชีอันปฏิเสธสิ้นเชิง เป็นคนต้องรักษาสัญญา ในเมื่อรับปากว่าจะทำงานให้องค์หญิงใหญ่แล้ว ก็ไม่สามารถสวามิภักดิ์ต่อผู้ใดอีก

“หากเจ้าไม่ยินยอม” องค์หญิงรองทรงถลึงพระเนตร แย้มพระสรวลอย่างเย็นชา และทรงข่มขู่ว่า “ข้าจะตะโกนว่าถูกล่วงเกิน และบอกทหารรักษาพระองค์ว่าเจ้าพยายามเกี้ยวพาราสีข้า”

“กระหม่อมยินดีที่จะถวายการรับใช้องค์หญิงรองอย่างถวายชีวิตพ่ะย่ะค่ะ” สวี่ชีอันกล่าวอย่างจริงใจ

องค์หญิงรองทรงดีพระทัยในทันที “คนที่รู้จักปรับตัวตามสถานการณ์เป็นคนฉลาด เจ้าเป็นคนเก่งคนหนึ่ง..อืม ต่อไปหลังเที่ยงทุกวัน เจ้าก็มาเข้าเฝ้าข้าที่นี่ ไปปฏิบัติงานข้างนอกแทนข้า”

“พระองค์ กระหม่อมมีงานที่ได้รับมอบหมาย ให้ไปตรวจสอบคดีทะเลสาบซังผอ” สวี่ชีอันถอนหายใจ

“…ก็จริงนะ” องค์หญิงหลินทรงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าเช่นนั้นพรุ่งนี้ก็ช่างเถิด รอให้ข้าอยากใช้งานเจ้าเมื่อใด เจ้าค่อยมาก็แล้วกัน”

สวี่ชีอันเข้าใจแล้วว่า ผู้หญิงคนนี้แค่ต้องการหาเรื่อง ไม่ได้ต้องการให้เขาทำงานให้จริงๆ เจตนาหาเรื่ององค์หญิงใหญ่อย่างแท้จริง

การข่มขู่เมื่อครู่ไม่ได้มีกำลังสังหารเท่าไหร่นัก เอาชื่อเสียงขององค์หญิงมาแลกกับชีวิตของฆ้องทองแดงเล็กๆ คนหนึ่ง คุ้มแล้วหรือ!

เป็นเพราะว่าเขาเข้าใจดีแล้ว จึงได้เปลี่ยนใจยอมรับปากองค์หญิงรอง ถือว่าเล่นเป็นเพื่อนเด็กน้อยก็แล้วกัน รับปากไปอย่างนั้น

“เจ้าไปได้” องค์หญิงรองทรงอารมณ์ดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะทุกอย่างเป็นไปด้วยดี

“พ่ะย่ะค่ะ”

“ช้าก่อน” องค์หญิงรองทรงเรียกเขา ถอดชิ้นหยกที่เอวของออกแล้วทรงตรัสว่า “นี่คือสัญลักษณ์ของข้า สามารถใช้สิ่งนี้เข้าวัง ทหารรักษาพระองค์จะไม่ขัดขวางเจ้า แต่มาที่ตำหนักข้าได้เท่านั้น เจ้าจะไปที่อื่นไม่ได้”

…ใจกว้างขนาดนี้? เจ้าไม่กลัวเลยเหรอ ดวงตาของสวี่ชีอันเป็นประกาย รับชิ้นหยกไว้แล้วเก็บไว้ในอกเสื้อ “ต่อไปกระหม่อมจะจงรักภักดีต่อพระองค์อย่างสุดความสามารถพ่ะย่ะค่ะ”

สวี่ชีอันข้าสามเจ้า บ่าวสามนายออกจากเขตพระราชฐานตอนพลบค่ำ ควบม้ากลับหน่วยลาดตระเวนยามวิกาล

หน่วยงานได้แยกย้ายกันไปหมดแล้ว เหลือเพียงหน่วยลาดตระเวนยามวิกาลและเจ้าพนักงานไม่กี่คน เงียบเหงากว่าตอนกลางวันมาก

ขณะที่สวี่ชีอันเพิ่งเข้าไปในหน่วยงาน ฆ้องทองคำที่มีจมูกโด่งหน้าผากกว้างคนหนึ่งก็เดินมาหา เขาคือจูหยางพ่อของจูเฉิงจู้

เมื่อศัตรูมาพบกัน ไม่ได้ตาแดงก่ำด้วยความโกรธ แค่ต่างสังเกตซึ่งกันอย่างหวาดหวั่น

“ฆ้องทองคำจู บุตรชายของท่านอาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้าง?” สวี่ชีอันยิ้มพร้อมกับหยิบป้ายคาดเอวออกมา แล้วผูกไว้ที่เอวด้วยความมั่นใจ

จูหยางเหลือบมองป้ายทองคำอย่างใจเย็น แล้วพูดเบาๆ ว่า “โชคดีที่ไม่ตาย เกรงว่าใต้เท้าสวี่จะต้องไปก่อน”

สวี่ชีอันโบกมือไปมา ยิ้มอย่างอ่อนโยน “ข้าจะรอเขา เพื่อพบกัน”

จูหยางจ้องหน้าเขาหลายวินาที แล้วพยักหน้า “ตรวจสอบคดีให้ดี”

“เดินทางปลอดภัย ฆ้องทองคำจู”

เมื่อเข้าไปในห้องชุนฟงที่อยู่ด้านข้าง ฆ้องทองแดงที่อยู่ในสังกัดของหลี่อวี้ชุนและมือปราบของทางการหลายคนล้วนยังคงอยู่ที่นั่น

หลี่อวี้ชุนได้ยินเสียงฝีเท้า จึงเดินออกมาจากห้องชุนถัง แล้วกล่าวว่า “การตายของนายอำเภอจ้าวมีเค้าเงื่อนแล้ว ไม่แน่ว่าจะเป็นการกระทำของลัทธิเต๋า”

สวี่ชีอันพยักหน้า ไม่ได้เข้าไปในห้องโถงด้านข้าง แต่เดินตามหลี่อวี้ชุนเข้าไปในห้องชุนเฟิง

“บ่ายวันนี้ ข้าหลวงเฉินเชิญเจ้าพนักงานของสำนักโหราจารย์มาสอบปากคำทหารประจำคุกและเจ้าพนักงานชั้นผู้น้อย เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาไม่มีอะไรผิดปกติ และเพื่อให้มั่นใจไปอีกขั้นว่านายอำเภอจ้าวตายอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยในคุกตอนก่อนฟ้าสางจริงๆ”

หลี่อวี้ชุนรินน้ำชาให้กับสวี่ชีอันซึ่งเป็นทั้งผู้ใต้บังคับบัญชาและผู้บังคับบัญชาแล้วก็กล่าวว่า “พวกลัทธิเต๋าสามารถทำได้ถึงขั้นนี้ แล้วยังสามารถเลี่ยงทหารประจำคุกและทหารยามไปได้อย่างเงียบกริบ แต่หลังจากตรวจสอบข้อมูลวันนี้แล้ว พบว่ายังมีอีกกลุ่มหนึ่งที่สามารถทำถึงขั้นนี้ได้”

สวี่ชีอันจิบชา และฟังอย่างอดทน

“พ่อมด!” หลี่อวี้ชุนกล่าว

“พ่อมด?”

“เจ้าเคยได้ยินเรื่อง นิกายพ่อมดหรือไม่”

“เรื่องพ่อมดข้าเคยได้ยินท่านพูด บุคคลระดับเทพที่ไม่ถูกจัดระดับ นิกายพ่อมดเป็นนิกายที่ก่อตั้งโดยพ่อมดเหรอ”

หลี่อวี้ชุนส่งเสียง “อืม พ่อมดเป็นเทพที่แคว้นต่างๆ ทางภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือศรัทธาร่วมกัน นิกายพ่อมดมีอำนาจสูงสุดในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่นเดียวกับที่พุทธศาสนาที่มีอำนาจต่อแคว้นต่างๆ ในภูมิภาคตะวันตก”

ต้าฟ่งนั้นพระราชอำนาจของจักรพรรดินั้นเป็นอำนาจสูงสุด ชนเผ่าทางเหนือก็เช่นเดียวกันโน!วลกูดoทคอม

แต่ในภูมิภาคตะวันตกและภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นอำนาจของเทพเป็นอำนาจสูงสุด นิกายจึงเป็นผู้มีอำนาจที่แท้จริง

“ในขอบเขตของเทพพ่อมดสามารถเคียงบ่าเคียงไหล่กับลัทธิเต๋าได้หรือ” สวี่ชีอันขอคำแนะนำอย่างถ่อมตน

“ไม่ ไม่มีกลุ่มใดในขอบเขตของเทพที่สามารถเปรียบเทียบกับลัทธิเต๋าได้” หลี่อวี้ชุนส่ายหน้าและพูดว่า “แต่พ่อมดระดับสี่ หรือเรียกอีกอย่างว่า พ่อมดแห่งความฝัน สามารถถักทอความฝันและฆ่าคนในความฝันได้ เจ็ดสิบปีที่แล้ว เผ่าพันธุ์ปีศาจทางภาคเหนือและนิกายพ่อมดเคยทำสงครามกันเพราะเรื่องดินแดนมาก่อน ตามข่าวกรองที่หน่วยลาดตระเวนยามวิกาลส่งมา มีกองกำลังของเผ่าพันธุ์ปีศาจจำนวนสองพันนายกองหนึ่งเสียชีวิตอย่างปริศนาในค่ายทหาร ไม่มีบาดแผลใดๆ บนร่างกายของพวกเขา ทุกคนต่างนอนหนุนอาวุธพักผ่อนและนอนหลับไป แต่ก็ไม่ตื่นขึ้นอีกเลย”

พ่อมดระดับสี่…เหตุใดจึงดึงพ่อมดเข้ามาพัวพันอีก…คดีนี้ยากมากๆ

ปัจจุบันนิกายมนุษย์เป็นศาสนาประจำชาติของต้าฟ่ง และผู้นำศาสนาคือครูแห่งชาติ นับเป็นเกียรติยศสูงสุดแล้ว การที่พวกเขาช่วยอ๋องสยบแดนเหนือแย่งชิงบัลลังก์จะมีประโยชน์อย่างไร?

ไม่สามารถเลื่อนขั้นสูงไปกว่านี้อีกแล้ว ระดับเต็มแล้ว

ดังนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่นิกายพ่อมดจะเข้าร่วม หากคนที่ฆ่านายอำเภอจ้าวคือพ่อมดแห่งความฝัน ถ้าเช่นนั้น ผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังคดีทะเลสาบซังผอก็คือ มือมืดที่อยู่เบื้องหลัง (อ๋องสยบแดนเหนือ) เผ่าพันธุ์ปีศาจทางภาคเหนือ นิกายพ่อมดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ!

สวี่ชีอันจิบชาอึกหนึ่ง ไม่สามารถซ่อนความเหนื่อยล้าในดวงตาของเขาได้

“แต่ก็ไม่ถึงกับไม่ได้อะไรเลย อย่างน้อยเวลานี้ก็สามารถตัดนิกายมนุษย์ออกไปได้ รายละเอียดของคดีมีความคืบหน้าอยู่บ้าง” สวี่ชีอันกล่าวว่า

“หัวหน้า รายงานเรื่องนี้ให้เว่ยกงทราบเถิด”

หลี่อวี้ชุนพยักหน้า แต่สีหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “ข้ามักจะรู้สึกว่าปลายปีเกิงจื่อเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย”

“พวกเรารับผิดชอบคลี่คลายคดีเท่านั้น อย่าคิดมาก หรือเป็นห่วงเรื่องของประเทศชาติ” สวี่ชีอันตบไหล่เขาและออกจากหน่วยงานไป

เมื่อเขากลับถึงบ้านก็มืดสนิท หิวมาทั้งวัน ท้องร้องจ๊อกๆ เขากินอาหารที่แม่ครัวอุ่นมาให้จนหมด ดื่มนมที่น้องสวี่หลิงเยวี่ยส่งมาให้ เมื่อกลับถึงบ้าน เอนกายลงก็หลับไป

วันที่สาม สวี่ชีอันขี่ม้าไปที่หน่วยงานเมื่อยามฟ้าเริ่มสาง ก็เห็นฉู่ไฉ่เวยที่สวมกระโปรงสีเหลืองกำลังขี่ม้าเสียงดังกุบกับๆ อยู่ฝั่งตรงข้ามเช่นเดียวกัน

มือหนึ่งนางจับสายบังเหียนม้า อีกมือหนึ่งถือถุงกระดาษไว้ในอ้อมแขน ซาลาเปาสีขาวโผล่ขึ้นมาครึ่งหนึ่ง โคลงเคลงไปตามทิศทางของม้า พยายามจะกระโดดออกมา

“เจ้ากินหรือไม่” ฉู่ไฉ่เวยยื่นซาลาเปาให้อย่างใจกว้าง พร้อมกับพูดเสริมว่า “ไส้เค็ม”

สวี่ชีอันรู้สึกซาบซึ้งใจ เช่นเดียวกับที่ได้ยินว่าสวี่หลิงอินดื่มโจ๊กเพียงชามเดียวเพราะเป็นห่วงเขา นักกินคนนี้เห็นเราเป็นคนกันเองแล้ว

สวี่ชีอันรับซาลาเปามาแล้วงับไว้ที่ปาก แล้วโยนสายบังเหียนของม้าให้เจ้าพนักงานที่ประตู

กินพร้อมกับเดินเข้าไปข้างใน ถามว่า “มีเบาะแสอะไรหรือไม่”

ฉู่ไฉ่เวยกล่าวว่า “ข้าถามมาแล้ว ศิษย์พี่ซ่งบอกว่าติดเครื่องมือบางส่วนของในวังและของสำนักโหราจารย์ไป ในเมืองหลวงนี้ เครื่องมือที่สามารถบังตาของวิชาพยากรณ์ได้ก็มีเพียงศาสนาพุทธเท่านั้นที่มี อืม ไม่ใช่วัดธรรมดาทั่วไป แต่มันคือวัดมังกรเขียว”

วัดมังกรเขียว?!

ผู้สืบทอดของวัดเจดีย์…สวี่ชีอันรู้สึกทั้งประหลาดใจและไม่ประหลาดใจ

เป็นจริงดั่งคาด ศาสนาพุทธเกี่ยวข้องกับคดีทะเลสาบซังผอจริงๆ

สำนักโหราจารย์ ราชวงศ์ นิกายพ่อมด เผ่าพันธุ์ปีศาจทางภาคเหนือ อ๋องสยบแดนเหนือ ศาสนาพุทธ…คดีเล็กๆ ของทะเลสาบซังผอ กลับพัวพันกับผู้มีอิทธิพลสำคัญมากมาย

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

ผู้พิทักษ์รัตติกาลแห่งต้าฟ่ง

Nightwatcher, Dafeng's Night Squad, Great Feng's Nightwatchers The Nightwatchers of Feng 大奉打更人, วิถียุทธ์คนเคาะยามแห่งต้าเฟิ่ง(siaminter), Guardians Of The Dafeng(ซีรีส์)
Score 9.2
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , , ต้นฉบับ: 951 Chapters (จบแล้ว)
สวี่ชีอัน อดีตนายตำรวจรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากอาชีพข้าราชการเพื่อออกไปทำธุรกิจของตัวเอง แต่ดันต้องมาจบชีวิตลงด้วยโรคพิษสุราเรื้อรัง เขาตื่นขึ้นมาอีกครั้งแล้วพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในห้องขัง ในร่างของใครอีกคน….. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset