หลายนาทีแล้วที่แพทย์หญิงอมรรัตน์กอดปลอบลูกสะใภ้คนเล็ก ตั้งแต่ได้ยินที่ท่านพูด รัญณาก็ร้องไห้ไม่หยุดจนสามีเป็นห่วง
ที่เธอร้องไห้เพราะสงสารลูกที่ต้องมารับรู้เรื่องอะไรแบบนี้ตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง เด็กคงจะได้ยินความคิดของแม่ ที่คิดว่าถ้าไปจากที่นี่แล้วจะไปอยู่ที่ไหน กลับไปบ้านก็ไม่ได้ หนีออกมาแบบนี้ถ้ากลับไปต้องถูกพ่อตีแน่ แต่ถ้าไม่กลับบ้านแล้วเธอจะไปที่ไหนได้ เพื่อนฝูงก็ไม่มี
“ไม่ร้องนะลูก เราจะกลับไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน”
“ค่ะ” ความคิดที่อยากจะหนีไปให้ไกล มันได้หายไปจนหมดสิ้น เพราะถ้าแม่ยังมีความคิดแบบนั้นอยู่ลูกก็ต้องรับรู้ได้
หลายวันต่อมา..
“หาปู่” ยิ่งเห็นว่าคุณปู่ไม่สบาย ปลาบปลื้มก็ยิ่งอยากเข้าไปหา ผู้ใหญ่อาจจะคิดว่าเด็กไม่รู้เรื่อง แต่จริงๆ แล้วพวกเขารู้ และเป็นห่วงคนที่พวกเขาผูกพันด้วย
“ไม่ได้ครับ” ปิ่นมุกตำหนิลูกชาย เพราะปลาบปลื้มเล่นไม่รู้เรื่องกลัวไปถูกแผลของคุณปู่เข้า
“ไม่เป็นไรหรอก มาให้ปู่ชื่นใจหน่อยเร็ว” ถึงวันนี้อาการของท่านก็ดีขึ้นมาก จนลุกมาทำกายภาพบำบัดได้แล้ว แต่ก็ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
“ปู่”
ถึงแม้ท่านจะอุ้มหลานยังไม่ได้แต่ก็กอดและหอมแก้มได้ หลายคนที่อยู่ในห้องนั้นต่างก็มองแบบเอ็นดู นี่แค่คนเดียวนะ แต่ถ้าอยู่ในท้องออกมาอีกคงวุ่นวายกันน่าดู
เวลาผ่านไปอีกหลายวัน.. ทุกคนก็ยังคงผลัดเปลี่ยนกันมาดูแล และตอนนี้ท่านก็เดินเองได้แล้ว
“ฉันยังไม่อยากให้กลับไปอยู่บ้านเลยค่ะ”
“เชื่อใจได้หรือเปล่าเนี่ย หรือว่าจะมาหลอกถามอะไรกู” เจ้าของคำพูดนี้พูดออกมาเพียงแค่เบาๆ กลัวว่าเหมือนพวกล่อซื้อ แบบถ้ารับเงินแล้วจะตะครุบตัวเอง
“คุณไม่ต้องกลัวหรอก และไม่ต้องอยากรู้ด้วยว่าผมเป็นใคร แค่จำไว้ว่าคุณไม่มีลูกสาวเท่านั้นพอ” ท่านสืบมาจนรู้ว่าผู้ชายคนนี้มีเมียมาแล้วหลายคน ที่อยู่ด้วยกันปัจจุบันนี้ก็มีลูกชายด้วยกันอีกหนึ่ง
พอเอาซองสีน้ำตาลซึ่งบรรจุเงินสดไว้ในนั้นจำนวนหนึ่ง วางให้กับผู้ชายที่เคยได้ชื่อว่าเป็นพ่อของลูกสะใภ้คนเล็ก ท่านก็ออกมาจากชุมชนแห่งนั้นโนlวลกูดอทคoม
“อะไรวะ อยู่ดีๆ ก็เอาเงินมาให้กูมันโง่หรือเปล่า” ใช่แล้วผู้ชายคนนี้ก็คือพ่อของรัญณา “เอาไปแล้วอย่าเอากลับมาคืนแล้วกันนะเว้ย กูบอกไว้ก่อนว่ากูไม่ให้คืนและเงินนี้กูก็จะใช้ให้หมด” ความคิดของพ่อเธอในเวลานี้ ผู้ชายที่เอาเงินมาให้ คงซื้อตัวลูกสาวไปเป็นเมียน้อยเมียเก็บ
“ออกจากบ้านได้ก็เหลวไหลเลยนะ” ภรรยาซึ่งอยู่หน้าบ้านพอเห็นรถสามีวิ่งเข้ามาก็ทำหน้าบูดบึ้ง
“ทำไมบ้านดูเงียบๆ ล่ะ”
“คงได้เชื้อพ่อแรงมั้งคะ”
“ยังไงเหรอ”
“ก็ชอบออกจากบ้านไง”
“ผมแค่ไปทำธุระ ไม่ได้ไปชมรมสักหน่อย”
ได้ยินแบบนั้นภรรยาก็เลยไม่ได้พูดต่อ เป็นบ้าอะไรมาหึงหวงสามีแก่ขนาดนี้แล้ว
เย็นวันเดียวกัน..
“ไหนบอกว่าจะย้ายมาทำงานบริษัทในกรุงเทพฯแล้วไง” ท่านหมายถึงลูกชายคนกลาง เพราะได้ยินพูดมาครั้งหนึ่งแล้วว่าจะย้ายเข้ามาทำงานที่บริษัทเทพประทาน
“ลูกบอกว่าเหลืองานอีกไม่มาก ก็เลยขอไปจัดการให้จบไซต์ก่อนค่ะ”
“ตาหมอก็เหมือนกัน บ้านมีก็ไม่พาเมียกลับมา”
“ลูกบอกว่าจะหาเวลามาค้างที่บ้านบ่อยๆ ค่ะ” ตั้งแต่สามีฟื้นขึ้นมาเปลี่ยนไปมาก แต่นางก็ชอบแบบนี้นะ เพราะดูเหมือนท่านวางทุกอย่างแล้วหันกลับมาเลือกครอบครัว
“ขอโทษค่ะที่ลงมาช้า” รัญณาลงมาก็เห็นทั้งสองท่านนั่งรออยู่โต๊ะอาหาร
“แม่กำลังจะให้คนขึ้นไปตามอยู่พอดีเลย”
“น้องรัญจ๋าาามัวนอนกลางวันอยู่ครับแม่”
“หึหึ”
“คุณ” เรื่องนอนกลางวันเธอไม่อายหรอก แต่อายตอนที่น้องรัญจ๋านี่สิ
“ก็จริงนี่ พี่รันขาาปลุกตั้งนาน น้องรัญจ๋าก็ไม่ยอมตื่น”