“นายเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า” หญิงสาวพยายามแกะมือที่ถูกเขาบีบแน่นให้หลุดออก “ฉันเจ็บนะ” แต่เขาก็ไม่ได้ปล่อยง่ายๆ
“จำไว้ว่าอย่ามาทำเก่งกับฉัน”
ร่างกายของเธอถึงแม้คุณหมอจะอนุญาตให้ออกมาพักที่บ้านได้ แต่ความเจ็บปวดมันก็ยังคงมีอยู่ เธอก็เลยต้องได้เงียบไว้ก่อน
ติ้ง! ทันใดนั้นเสียงข้อความไลน์ก็ดังขึ้น
“คืนนี้ฉันไม่กลับมาค้างที่บ้าน ห้ามปากสว่างล่ะ” ประโยคนี้ออกจากปากเมื่ออ่านข้อความในไลน์และพิมพ์ตอบกลับไปแล้ว
หญิงสาวไม่ได้สนใจอยู่แล้วว่าเขาจะนอนที่ไหน ไม่กลับมาอีกเลยได้ยิ่งดี
กว่าจะถึงเวลาค่ำก็อีกหลายชั่วโมง รันเวย์ก็เลยเดินไปทิ้งตัวลงนอนที่เตียงเพื่อเอาแรงไว้เที่ยวตอนเย็น ..ส่วนเธอก็ต้องมานอนโซฟาเหมือนเคย
เที่ยงวันเดียวกัน..
ก๊อก ก๊อก
“ใคร” โชคดีที่เข้านอนเต็มอิ่มแล้วถ้าไม่งั้นคนที่มาเรียกคงถูกตะคอก
“แม่เอง”
“แม่มีอะไรครับ” พอรู้ว่าเป็นแม่รันเวย์ก็เลยรีบเดินมาเปิดประตูให้
“น้องเป็นยังไงบ้าง”
“น้องไหนครับ” ตายแล้ว! ..พอนึกขึ้นได้ว่าให้เธอนอนอยู่ที่โซฟา เขาก็กำลังจะปิดประตูถ้าแม่เห็นนี่แย่เลย แต่นางรู้ทัน..ประตูที่กำลังจะถูกปิดลงก็เลยถูกผลักให้เปิดออก
“แกทำไมให้น้องไปนอนที่นั่น” เดินเข้ามาก็เห็นว่าลูกสะใภ้นอนอยู่โซฟา ถึงแม้มันจะยาวกว่าร่างของเธอ แต่มันก็ไม่ใช่ที่นอนที่จะสบายตัว
“ก็เธอชอบนอนตรงนั้นนี่จะให้ผมว่ายังไง”
“อุ้มน้องมานอนที่เตียง” รัญณากินยาเข้าไปก็เลยง่วงมาก ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่เธอก็ยังคงหลับ
“ได้ครับคุณนายแม่” ใครจะกล้าขัดใจแม่ได้ล่ะ ..ชายหนุ่มก็เลยเดินไปอุ้มเธอมาวางลงที่เตียง
“อย่าให้แม่เห็นอีกว่าให้น้องนอนโซฟา” แพทย์หญิงอมรรัตน์เดินไปจับชีพจรของลูกสะใภ้ดู และเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากเพื่อเช็คอุณหภูมิของร่างกายด้วย “คงกินยาเข้าไปก็เลยหลับลึก ถ้าน้องตื่นบอกแม่บ้านด้วยให้เอาข้าวและยาขึ้นมาให้กินอีก”
“ผมไม่ใช่พยาบาลส่วนตัวสักหน่อย”
“รันเวย์”
“ได้ครับคุณแม่คนสวย พอใจหรือยังล่ะครับ เชิญคุณแม่ออกไปได้แล้วครับ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับดันร่างของแม่พามาที่ประตูแล้วก็รีบปิดมันไว้
“ถ้าย้อนเวลาได้นะ!” เขาคิดถึงเมื่อหลายวันก่อน ที่ขับรถผ่านแล้วมองไปเห็นเธอซึ่งกำลังเดินอยู่ข้างถนน ยังเสียดายอยู่เลยถ้าเธอปฏิเสธข้อเสนอที่เขายื่นให้คงไม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้แล้ว
ขณะที่รันเวย์ยืนมอง ..คนที่นอนหลับอยู่บนเตียงขยับตัวนอนหงาย กางเกงตัวบางที่เธอสวมใส่อยู่นูนขึ้นตรงกลางระหว่างขา
อะไรวะมึงจะแข็งตอนนี้ไม่ได้นะเว้ย ค่อยไปแข็งตอนเย็นไม่ได้หรือไง สายตานั้นจ้องมองความเป็นสาวของอีกฝ่าย ไม่รู้ว่าเผลอกลืนน้ำลายลงไปตั้งแต่เมื่อไร
นอนหลับเพราะฤทธิ์ยาอย่างนั้นเหรอ ถ้างั้นแสดงว่าทำอะไรก็คงไม่รู้สึกตัวน่ะสิ ..ชายหนุ่มโน้มตัวลงไปถอดกางเกงของเธอออก เพื่อจะมองดูสิ่งที่มันนูนให้ชัดหน่อย
เขาจ้องมองอยู่ครู่หนึ่งก็รูดซิปกางเกงตัวเองลงมา แล้วกำช่วงกลางลำขยับขึ้นลงเพื่อที่จะไม่ให้มันตึงมากเวลาสอดเข้าไป
“อ้าาา เสียวว่ะ” ชายหนุ่มยังคงจำความฟิตแน่นของมันได้ดี แบบนี้ไม่ต้องไปหานอกบ้านให้เหนื่อยแล้ว เพราะในบ้านก็มีให้กินอยู่ ..ที่เขาบอกว่าหานอกบ้านให้เหนื่อยนั้น เพราะต้องดูให้ดีก่อนที่จะมีเซ็กส์ กลัวว่าผู้หญิงจะเอาโรคมาให้
แต่สำหรับเธอเขามั่นใจแล้วว่าไม่มีโรคอะไรที่จะมาถึงตัวได้ เพราะเธอทั้งตรวจเลือดตรวจความพร้อมทุกอย่าง ตอนที่รักษาตัวอยู่โรงพยาบาลแล้ว
ร่างหนาค่อยๆ ดันแก่นกายเข้าไปให้ลึกที่สุด
“ซี๊ดดด เสียวอะไรอย่างนี้” ใบหน้าคมโน้มลงไปดูดริมฝีปากเบาๆ พร้อมกับขยับความเป็นชายให้เบาที่สุด
“อือ อือ อื้อ” ถึงแม้ว่าเธอจะหลับเพราะฤทธิ์ยา แต่ถ้าร่างกายถูกกระตุ้นหนักเข้า.. “คุณ!” พอรู้ตัวมือเรียวก็เอื้อมขึ้นมาดันหน้าอกแกร่งให้ออกห่าง
“ตื่นก็ดีแล้ว” จากที่เบาอยู่ก็เริ่มใช้แรงมากขึ้น แต่ก็ไม่กล้าทำรุนแรงเหมือนตอนที่เมา “อ้าา า”
“เจ็บ” แผลเดิมที่ยังคงทิ้งรอยเจ็บไว้ แต่พอมันขยายตัวอีกครั้งก็ยิ่งเจ็บและแสบ
“รู้หรือยังว่าการมีผัวมันไม่ได้สบายอะไร ต้องคอยรองรับอารมณ์ของผัวอีก เธอทำได้แค่ครางห้ามบอกว่าเจ็บ” ว่าแล้วเขาก็เพิ่มความเร็ว เข้าไปอีกจนการเสียดสีนั้นทำให้ความเสียวถึงจุดสุดท้าย “ซี๊ดดด”
จังหวะที่เขาเร่งการกระแทกไม่ใช่แค่เขาหรอกที่เสียว เธอก็ไม่ต่างกัน
“อื้อ พอแล้วว” น้ำที่เขาปล่อยเข้ามาเสียงดังจนฟังได้ชัด เพราะเขายังไม่ได้หยุดการขยับสิ่งที่อยู่ในตัวเธอเลย
“ขออีกรอบ” ไหนๆ มันก็มีน้ำหล่อลื่นนำทางแล้ว อีกสักรอบก็คงไม่นานเท่าไร ว่าแล้วรันเวย์ก็ขยับความเป็นชายตามจังหวะที่คิดว่าอีกคนจะรับได้
“อื้อ” ไม่ได้ตั้งใจจะครางหรอก แต่พอความเสียวมันใกล้ถึงจุดอีกครั้งใครจะไปอดทนได้ล่ะ มือเรียวเอื้อมไปกอดร่างของเขาไว้เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยว ..และเพียงไม่นานทุกอย่างก็หยุดลง
ชายหนุ่มเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อชำระร่างกาย พอออกมาก็เห็นเธอยังนอนอยู่บนเตียง
“เดี๋ยวตอนเย็นจะซื้อยาคุมมาให้” พูดพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เพื่อที่จะหาเสื้อผ้าออกมาสวมใส่
คนตัวเล็กที่นอนคลุมผ้าห่มอยู่บนเตียง ทำได้แค่มองประตูที่เพิ่งจะปิดลง ..อยากจะหนีไปให้พ้นแต่ร่างกายมันไม่เอื้ออำนวยเลย
รัญณาคิดถึงตอนที่เจอกับเขาครั้งแรก ตอนนั้นกำลังหาที่ซุกหัวนอนอยู่พอดี ก็เลยรีบตกลงกับเขา ถ้าออกไปจากบ้านหลังนี้เธอคงจะเจอสภาพเดิมๆ แต่ถ้ายังคงอยู่ที่นี่เธอต้องเป็นที่รองรับอารมณ์ของผู้ชายโรคจิตคนนี้แน่
“แล้วนั่นเราจะไปไหน”
“แม่ไม่ไปทำอะไรเหรอครับ มานั่งเฝ้าผมทำไม” ชายหนุ่มที่คิดว่าตัวเองจะเดินพ้นออกประตูบ้าน แต่ก็ได้ยินเสียงแม่ถามขึ้นมาก่อน
“แม่ถามว่าเราจะไปไหน”
“ออกไปซื้อของครับ”
“ถ้าภายในหนึ่งชั่วโมงไม่กลับมาบ้าน…”
“รู้แล้วครับไม่ต้องขู่หรอก ออกไปแป๊บเดียวเอง” ทีแรกคิดว่าจะให้คนขับรถตามไปเอาของมาให้กับเธอ แต่พอเจอแม่แบบนี้แล้ว เขาต้องได้กลับเข้ามาก่อน ถ้าจะออกไปเย็นนี้คอยแอบออกไปอีกทีโนเวลกูดอทคoม
เวลาผ่านไปยังไม่ถึงยี่สิบนาทีเลยด้วยซ้ำรันเวย์ก็กลับเข้ามา และแม่ก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม
ชายหนุ่มเดินตรงขึ้นไปชั้นบน โดยที่ไม่ได้คุยอะไรกับผู้เป็นแม่
“กินซะ” มือหนาส่งของที่เพิ่งจะซื้อมาให้กับคนที่ยังนอนอยู่บนเตียง
รัญณารับมันมาแล้วแกะใส่ปากแบบว่าง่าย
“นี่น้ำ”
ถึงขนาดรินน้ำให้เลยเหรอ คงกลัวว่าเราจะท้องมากเลยสินะ
เวลาผ่านไปจนถึงช่วงค่ำๆ
รัญณาทานข้าวทานยาไปได้สักพักแล้ว พอยาออกฤทธิ์ก็เริ่มง่วง คนตัวเล็กเดินไปเอนตัวลงนอนที่โซฟา
ชายหนุ่มกลับขึ้นมาบนห้องเพื่อรอเวลาที่นัดกับเพื่อนไว้ให้มารอรับอยู่ข้างรั้วบ้าน เพราะถ้าขับรถออกไปแม่ต้องรู้แน่
“ก็บอกให้นอนบนเตียงไง” ขึ้นมาถึงเห็นว่าเธอนอนอยู่โซฟา ถ้าแม่มาเห็นเขาได้ถูกเล่นงานอีกแน่ ชายหนุ่มก็เลยเดินไปอุ้มมาวางลงที่เตียง
พอวางลงเท่านั้นแหละ ขาทั้งสองข้างของเธอก็ค่อยๆ เลื่อนแยกออกจากกันไปคนละทิศละทาง และตรงกลางระหว่างขาก็นูนขึ้นมาจนเห็นได้ชัด