เซอร์เวย์รีบขึ้นมาดูห้องทำงานชั้นบน..ห้องที่เธอเคยอยู่
“??” พอมาถึงเขาก็เห็นเธอนั่งรออยู่ที่หน้าห้อง “ทำไมไม่โทรหาผมก่อน”
“คุณหมอคะ” คนที่รับตำแหน่งเป็นเลขานุการ ยิ้มหน้าบานเมื่อเห็นคุณหมอเจ้าของโรงพยาบาลนี้ขึ้นมาบนห้องทำงาน
“อายรอคุณหมออยู่ค่ะ” ขณะที่พูดกับเขา..สายตาเธอเหลือบมองไปดูผู้หญิงที่ไม่อนุญาตให้เธอเข้าไปในห้อง
“คนนี้คุณวิชุดา มาทำงานแทนคุณแจน” เซอร์เวย์ก็เลยแนะนำเลขาคนใหม่ให้เธอได้รู้จัก
“คุณหมอห้ามไว้ไม่ให้ใครเข้าไปในห้อง วิก็เลยไม่ให้เข้าค่ะ” สีหน้าวิชุดาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะสำคัญกับเจ้านายพอสมควร
“คนนี้ภรรยาผมเอง ถ้าเธอมาก็ให้เข้าไปได้เลย” เขาเพิ่งปรับเปลี่ยนตำแหน่งก็เลยยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเลขาคนใหม่ เพราะไม่คิดว่าเธอจะมาแบบไม่ได้บอกกล่าว “เข้าไปข้างในดีกว่าครับ” ชายหนุ่มเดินไปเปิดประตูเพื่อให้เธอได้เข้าไป
“เมียเลยเหรอ?” วิชุดาถึงกับสตั้นไปหลายวิ จนเจ้านายพาภรรยาเข้าไปในห้องแล้วถึงตั้งสติได้ “..หัวเราจะขาดไหมวะเนี่ย โอ๊ยตายแล้ว”
ตอนที่นั่งรอเขาอยู่หน้าห้อง วิชุดาแอบโทรเม้าท์กับเพื่อน..ว่าคุณหมอเจ้าของโรงพยาบาลหล่อมาก เพื่อนยังยุให้จีบอยู่เลย
“คุณยังไม่ตอบผมเลยทำไมไม่แวะหาผมหรือโทรลงไปบอกก่อน”
“ไม่อยากโทรค่ะ”
“งอนอะไรให้ผมหรือเปล่า” มือหนาเอื้อมไปเขี่ยแก้มนวลของอีกฝ่ายเบาๆ แบบเอ็นดู
“อายไม่รู้ว่าคุณเปลี่ยนเลขาคนใหม่”
“มีเหตุจำเป็นนิดหน่อย คุณไม่ต้องใส่ใจ” ที่เขาเปลี่ยนเลขาเพราะไม่ชอบนกสองหัว เพราะแจนปล่อยให้รุ่งฤดีเข้ามาในห้องของเขาง่ายไป นั่นแสดงว่าเขาไว้ใจแจนไม่ได้อีกแล้ว
และเหตุผลที่ไอยวริญไม่โทรไปบอก เพราะเธอได้ยินเลขาคนใหม่เม้าท์มอยกับเพื่อน ถึงแม้พวกเขาจะพูดแทบจะเป็นเสียงกระซิบ แต่พอเรื่องนั้นมันเกี่ยวกับสามีเธอก็เลยพยายามจับใจความดู
{“สงสัยน้องจะคิดถึงห้องนั้นแน่เลย”}
{“ทำไมแม่รู้ล่ะครับ”}
{“ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ดูแลกันให้ดีด้วย แค่นี้นะ”} สถานที่ไหนที่มีความผูกพัน ผู้หญิงคนนั้นมักจะไม่มีวันลืมโนlวลกูดอทคoม
เย็นวันเดียวกัน..
“รอนานหรือยังครับ” ออกมาจากห้องตรวจก็เห็นว่าเธอนั่งรออยู่ที่เก้าอี้สำหรับญาติ
“สักครู่แล้วค่ะ” ที่ลงมานั่งรอเพราะดีใจจะได้เจอแม่
“ทีหลังเข้าไปหาผมในห้องเลย”
“คุณหมอติดคนไข้อยู่นี่คะ” ริมฝีปากหนายกยิ้มขึ้นพร้อมกับเอื้อมมือไปลูบคลำใบหน้าของอีกฝ่ายแบบเอ็นดู จนพยาบาลที่ประจำอยู่แถวนั้นมองมา
แน่นอนว่าพยาบาลหน้าห้องหรือทั่วโรงพยาบาลแห่งนี้ยังไม่รู้ ว่าเขากับเธอคนนี้เป็นอะไรกัน แต่ที่รู้ๆ คืองานแต่งเมื่อคืนนี้ล่มไม่เป็นท่า ทุกคนก็เลยมองว่าสาเหตุคงเกิดจากผู้หญิงคนนี้แน่
เซอร์เวย์พาเธอออกมาที่รถ แล้วก็ขับไปสถานที่แห่งหนึ่ง
“คุณแม่อยู่ที่นี่หรือคะ”
“ใช่แล้วครับ” ที่ตรงนี้ดูลึกลับเหมือนไม่มีคนอยู่
“ตามมา” จอดรถได้เขาก็พาเธอเดินอ้อมไปด้านหลัง
ด้านหลังมีผู้ชายเฝ้าอยู่ พอเปิดประตูเข้าไปด้านในก็มีผู้หญิงอีกคน
“คุณหมอ”
“คุณน้าเป็นยังไงบ้าง”
“วันนี้ก็ทานข้าวได้เยอะค่ะ”
ไอยวริญไม่ได้สนใจรอบข้างแล้ว เพราะตอนนี้เธอมองเข้าไปในห้อง
“แม่คะ” ไม่รู้ว่าน้ำตามาจากไหนบ้าง
“อาย”
“แม่” ไอยวริญรีบตรงเข้าไปกอดแม่ แต่เธอก็กอดแค่เบาๆ เพราะกลัวไปถูกแผลผ่าตัด “อายดีใจที่แม่ดีขึ้นมาก”
“หนูไปอยู่ไหนมา” มือของผู้เป็นแม่ทั้งสองข้างเอื้อมมาลูบคลำใบหน้าลูกสาวด้วยความคิดถึง
“อายอยู่กับคุณหมอค่ะ”
“น้ากับลูกเป็นหนี้บุญคุณของคุณหมอมาก” ว่าแล้วนางก็พนมมือขึ้นเพื่อที่จะไหว้ขอบคุณจากใจ แต่เซอร์เวย์รีบเข้าไปหยุดท่านไว้ก่อน
“คุณแม่อย่าทำแบบนี้อีกนะครับ”
“คุณแม่?” ทุกครั้งคุณหมอจะเรียกนางว่าน้า ครั้งนี้มาแปลกเรียกคุณแม่นางก็เลยไม่ชิน
“ผมรักลูกสาวคุณแม่ครับ” ประโยคนี้ออกจากปากของเซอร์เวย์..ไม่ได้มีแค่แม่เธอที่ตกใจ ไอยวริญเองก็ตกใจไม่ต่างกัน เพราะเขายังไม่เคยบอกรักเธอเลย แต่กลับมาบอกรักต่อหน้าแม่ของเธอเนี่ยนะ