“ลูกชายของท่านนายพล เป็นพวกเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งคือไม่มีอารมณ์กับผู้หญิง ไม่แน่ว่าลูกชายของท่าน อาจจะเป็นประเภทรักร่วมเพศก็ได้” ตอนที่รุ่งฤดีรู้เรื่องนี้ก็ช็อคไปเหมือนกัน จนต้องได้ถามตัวเองว่าถ้าร่วมหอลงโลงกับผู้ชายคนนี้จะรับได้ไหม คำตอบที่ได้ก็คือรับได้อยู่แล้ว เพราะฐานะทางบ้านของเขานอกจากจะมั่งมีแล้วยังมีอำนาจ
แต่ความเป็นจริงแล้วมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น ในเมื่อเธอไม่ได้คนอื่นก็ต้องไม่ได้
เซอร์เวย์ไม่ได้สนใจคนที่พูดเลย เขาหันมองไปดูหน้าเธอ ที่นั่งอยู่อีกฝั่งหนึ่ง เพราะหลายครั้งต่อหลายครั้งที่เขาปฏิเสธเรื่องร่วมเพศ
“คุณไปเอาที่ไหนมาพูดคะ” จากที่ทุกคนกำลังตกใจและให้ความสนใจกับรุ่งฤดีอยู่นั้น พอได้ยินไอยวริญพูดขึ้นทุกคนที่อยู่ในห้องต่างก็หันมองมาที่เธอ “สามีฉันจะเป็นพวกเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ยังไง ก็ในเมื่อฉันแทบไม่ได้นอนทั้งคืน” ถ้าอยู่ในสถานะการณ์อื่นเธออาจจะไม่กล้าพูด แต่นี่มันคือการยืนยันว่านายแพทย์เซอร์เวย์หรือผู้เป็นสามีของเธอ ไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้หญิงอีกคนว่ามาเลย
“แกจะไม่พูดอะไรเลยเหรอ” พลตรีนายแพทย์วันเวย์หันไปถามลูกชาย เพราะเรื่องนี้มันน่าตกใจอยู่มาก ถ้าไม่มีมูลรุ่งฤดีจะเอาที่ไหนมาพูด
“ผมไม่อยากจะพูดกลัวเมียผมเสียหาย แต่ทุกคนก็ได้ยินจากปากของภรรยาผมแล้วนี่”
“ฉันไม่เชื่อ พวกคุณต้องร่วมมือกันโกหกแน่”
“คุณหมอจะตรวจภายในฉันไหมล่ะคะ”
แพทย์หญิงอมรรัตน์ถึงกับหันมามองหน้าลูกสะใภ้ เพราะเธอยืนยันหนักแน่นขนาดนี้
“แต่ถ้าสามีฉันไม่ได้เป็นแบบที่คุณหมอพูด ฉันขอฟ้องคุณหมอกลับนะคะ” ถึงแม้จะตรวจภายในเธอก็ชนะเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว
“เธอจะมาฟ้องฉันทำไม”
“ก็คุณหมอเอาเรื่องที่เป็นเท็จมาพูดในที่สาธารณะแบบนี้ ทำให้ฉันกับสามีเสียหาย”
“ฉันก็บอกคุณพี่แล้วไง ถ้าคิดยังไม่ได้ก็ไม่ต้องตามมา”
“คุณก็จะซ้ำเติมอะไรผมนักหนา”
แกร็ก.. จากที่เซอร์เวย์ยืนรออยู่หน้าห้องตั้งแต่มาถึง เพราะคนในห้องไม่ยอมเปิดประตูให้ แต่พอได้ยินเสียงพ่อกับแม่ของเขาด้านนอก เธอก็เลยรีบเปิดประตู กลัวพวกท่านจะมองเธอไม่ดี
“เราต้องคุยกัน” เข้ามาถึงเขาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรก่อน ก็เลยชวนคุยนี่แหละสิ่งที่จะประสานกันได้โuเวลกูดoทคoม
“ก็พูดมาสิคะ”
“มันอาจจะมีส่วนใช่อยู่บ้าง แต่มันไม่ได้เป็นทั้งหมดนะ”
“ยังไงคะ”
“คุณก็รู้..เคยเจอจนเลือดสาดมาแล้วไม่ใช่เหรอ”
“มันใช่เวลาพูดเรื่องนี้ไหมคะคุณหมอ”
“เลือดสาดเลยเหรอ?”
“จุ๊จุ๊” คนที่เอาหูแนบฟังอยู่ว่าลูกชายจะทะเลาะกับภรรยาไหม รีบส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายไม่ต้องพูด
“แล้วคุณโกรธผมเรื่องอะไรล่ะ”
“แล้วทำไมคุณหมอถึงไม่บอกฉันดีๆ”
“บอกว่า?” เพราะมันหลายเรื่องมากเขาไม่รู้ว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร
“ก็เรื่องรักษา”
“บอกแล้วคุณจะช่วยเหรอ”
“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะคะ ขนาดคุณหมอยังช่วยผ่าตัดแม่ฉันเลย”
“อะไรนะ?” ใบหน้าที่เป็นกังวลเริ่มผ่อนคลายขึ้นมาก..แถมยังมีรอยยิ้มออกมาให้เห็น
ด้านนอกในเวลาเดียวกันนั้น..
“โอ๊ย.. คุณดึงหูผมทำไม”
“แล้วคุณพี่จะไปแอบฟังลูกทำไมล่ะคะ”
“ขอฟังหน่อยไม่ได้หรือไง เขากำลังจะรักษากัน”
“มันใช่เรื่องไหมคะ ตามฉันมานี่เลย”