ถ้าในห้องสว่างหน่อยคงจะเห็นรอยยิ้มของคนตัวเล็ก เธอเป็นบ้าอะไรเรียกร้องความสนใจจนเขาจับได้เนี่ยนะ เพราะมันกระสับกระส่ายเมื่อเขาไม่สนใจ
ที่เซอร์เวย์ไม่ได้สนใจ เพราะคิดว่าประจำเดือนเธอยังคงตกค้างอยู่ ก็เลยไม่อยากจะถูกตัวกลัวเธอจะหงุดหงิดด้วย เรื่องนี้คนเป็นแพทย์รู้ดี ว่าช่วงที่ผู้หญิงมีรอบเดือนจะอารมณ์ไม่ปกติ
“หายนานหรือยัง”
“พอใส่ผ้าอนามัยเมื่อคืนนี้มันก็หยุดไหลเลยค่ะ” หญิงสาวตอบไปแบบอายๆ แต่ก็ต้องตอบแหละ กลัวว่าเขาจะไม่กล้าทำอะไร แต่นี่เธอเป็นบ้าหรือไงถึงอยากจะให้เขาทำอะไรกับตัวเอง
“จริงเหรอ” กำลังคิดอยู่เลยว่าอยากจะรักษาตัวเองอีกสักครั้งลองดู เขาอาจจะไม่คิดเหมือนผู้ชายคนอื่นทั่วไป เพราะสุขภาพจิตของเขาไม่ปกติ
มือหนาขยับขึ้นมาวางแนบกับหน้าอกอวบ แล้วลูบคลำเบาๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์ตัวเอง
สายตาทั้งสองมองสบกันผ่านความมืด แล้วคนที่อยู่ด้านบนก็ค่อยๆ โน้มลงมาช้าๆ
“??” อยู่ดีๆ เขาก็หยุดทุกอย่างไว้ จนหญิงสาวที่หลับตาลงเพราะคิดว่าเขาจะจูบ ค่อยๆ ลืมตาขึ้น “ทำไมคะ”
“เปล่าหรอก คุณเพิ่งหายผมกลัวว่ามันจะไปกระตุ้นอีก” แต่จริงๆ ไม่ใช่เลย เพราะภาพคนป่วยในห้องผ่าตัดมันชัดขึ้นมาอีกครั้ง
ไอยวริญแอบตำหนิตัวเอง ภาพเมื่อคืนนี้มันคงทำให้เขารู้สึกขยาด
หญิงสาวก็เลยนอนหันหลังให้ พยายามทำตัวเองให้หลับ
เช้าวันต่อมา..
“จะเข้าโรงพยาบาลแล้วเหรอลูก”
“ครับ” ขณะที่พูดเขาไม่ได้มองแม่หรอก แต่มองเธอที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่ ผู้เป็นแม่ก็แอบมองสายตาลูกชาย ส่วนลูกสะใภ้ไม่มองมาเลยด้วยซ้ำ
ทำไมคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนจะดูไม่ออก ว่าทั้งสองต้องมีเรื่องที่งอนกันอยู่แน่ เป็นธรรมดาของข้าวใหม่ปลามัน นางก็เลยไม่ใส่ใจ
“เข้างานกันดีกว่าค่ะ” รุ่งฤดีที่อยู่ในชุดวิวาห์ ยังคงพยายามที่จะควงอีกฝ่ายให้ได้ เพราะตอนนี้นักข่าวกำลังจับตามอง
[หมู่บ้านจัดสรร]
“คุณแม่จะไปไหนคะ” หญิงสาวที่เข้าไปอาบน้ำ กำลังจะออกมานั่งดูทีวีเป็นเพื่อนแม่ของสามี พอออกมาก็เห็นว่าท่านกำลังจะออกไปข้างนอก
“แม่มีธุระนิดหน่อย หนูไม่ต้องเปิดทีวีนะ”
“คะ?”
“โทรศัพท์ก็ไม่ต้องเปิด เสร็จธุระแล้วเดี๋ยวแม่กลับมา”
“เออ..ค่ะ” ไอยวริญก็เลยเดินเข้าห้องเพื่อที่จะให้ท่านสบายใจ
[โรงแรมหรู]
“เข้างานกันค่ะ” รุ่งฤดีเห็นว่าเขากำลังจะหนีกลับไปโดยที่ยังไม่เข้างานเลยด้วยซ้ำ รีบเอื้อมมือไปควงแขนเขาไว้แบบไม่ให้อีกฝ่ายได้ตั้งตัว
“ตาหมอแกอย่าทำให้พ่อเสียหน้าเด็ดขาด เห็นไหมข้างในมีแต่ผู้ใหญ่ทั้งนั้น”
“ผมไม่คิดว่าพ่อจะเล่นแรงขนาดนี้” ชายหนุ่มที่หันหลังให้ เพราะกำลังจะออกไปจากโรงแรมนี้ พูดโดยไม่หันกลับไปมองผู้เป็นพ่อเลย
“แกรู้ไหมว่าถ้าแกไป พ่อจะขายหน้าคนขนาดไหน”
“รู้ครับ” ชายหนุ่มแกะมือของผู้หญิงที่เกาะเขาไว้ออก แต่รุ่งฤดีไม่ยอมปล่อยยังคงรัดแขนเขาไว้แน่น
“คุณหมอไม่กลัวว่าความลับของคุณหมอจะถูกเปิดเผยเหรอคะ นักข่าวเยอะซะด้วย”
“อยากจะพูดอะไรก็พูดไปเลย” ขณะที่พูดประโยคนี้สายตาของเขาไม่ได้มองคนที่พูดด้วยเลย เพราะเซอร์เวย์มองไปที่พ่อซึ่งยืนอยู่ตรงนั้นโนiวลกูดอทคอม
“ความลับอะไร” เรื่องนี้พลตรีนายแพทย์วันเวย์ยังไม่รู้
“ความลับ เออ..” ดันเผลอปากพูดออกมาต่อหน้าพ่อของเขา “แน่ใจเหรอคะว่าคุณพ่ออยากจะรู้” เอาสิถ้าเขากลับไปเธอก็เสียหน้าไม่ต่างกัน เพราะมันคือการหนีงานแต่ง..นักข่าวจ้องจะทำข่าวกันอยู่ด้วย
หน้าโรงแรม..
แพทย์หญิงอมรรัตน์จอดรถได้ก็รีบเดินเข้าไปในโรงแรมอย่างไว เพราะต้องเข้าไปหยุดงานแต่งนี้ให้ได้ ใช่แล้ว..ที่นางห้ามไม่ให้ไอยวริญเปิดทีวีเพราะกลัวจะเห็นข่าวแบบที่นางเห็น
“ไปหาที่เงียบๆ คุยกันก่อน” พลตรีนายแพทย์วันเวย์ไม่รู้หรอกว่ารุ่งฤดีไปล่วงรู้ความลับอะไรของลูกชายมา แต่มันต้องเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ถึงได้นำมาขู่กันในวันนี้ได้
“คุณพี่กำลังจะทำอะไรคะ” ทั้งสามยังไม่ทันได้ไปไหน แพทย์หญิงอมรรัตน์ก็เข้ามาถึงหน้างานเสียก่อน
“คุณแม่?” เซอร์เวย์รีบมองไปด้านหลังของแม่ กลัวว่าเธอจะมาเห็นอะไรแบบนี้
“ฉันไม่คิดว่าคุณพี่จะกล้าทำแบบนี้”
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน”
“จะเอาไว้ก่อนได้ยังไง คุณพี่จะให้ลูกชายแต่งงานซ้อนเหรอคะ” นางต้องรีบชิงพูดเรื่องนี้ไปก่อนที่เรื่องมันจะบานปลาย
“แต่งงานซ้อนหมายความว่ายังไง” รุ่งฤดีหน้าซีดจนเห็นได้ชัด สายตาแอบมองไปดูกลุ่มนักข่าวที่รอทำข่าวกันแบบใจจดใจจ่อ
“ตาหมอแต่งงานแถมจดทะเบียนสมรสกับภรรยาแล้ว แล้วตาหมอจะแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่นอีกได้ยังไง”
“แต่งงานจดทะเบียนสมรส? คุณเอาอะไรมาพูด”
“นี่ไงคะใบทะเบียนสมรสของลูก” นางยกใบทะเบียนสมรสขึ้นมาเพื่อให้นักข่าวได้เห็น ทุกอย่างจะได้จบลงตรงนี้