ถ้าเธอสังเกตก็จะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา เพราะเขาจับชีพจรของเธอได้ มือหนาค่อยๆ เลื่อนมาวางลงที่หน้าอก เพราะอยากจะฟังการเต้นของหัวใจด้วย
อือ หญิงสาวไม่กล้าขยับหนี กลัวเขาคิดว่าเธอเล่นตัว แต่เธอน่าจะเล่นตัวสักหน่อยดีไหม..
“อื้อคุณหมอ”
“ทำไม”
ถามแบบนี้จะให้เราตอบยังไง ..หญิงสาวก็เลยนิ่งเงียบหลับตาลงช้าๆ ถ้าเขาจะทำมากกว่านี้ก็ปล่อยให้เขาทำไปเลยแล้วกัน แต่ทำไมหัวใจมันเต้นแรงขนาดนี้ล่ะ
มือหนาเอื้อมไปโอบกอดร่างของเธอเข้ามาแน่นกว่าเดิม จนเจ้าของร่างกายนั้นหายใจไม่ค่อยสะดวก แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านี้อีกแล้ว แถมตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะหลับไปแล้วด้วย ..อะไรของเขาวะ หลอกให้อยากแล้วจากไปนี่หว่า
น้อยใจได้ไหมเนี่ย เดี๋ยวก็หาว่าเราใจง่ายอีกหรอก จะหลับก็หลับไปเลย ไอยวริญทำได้แค่คุยกับตัวเองแล้วก็เคลิ้มหลับตามเขาไป
แกร็ก..
“อุ๊ย” พอถึงเวลาอาหารเย็น นักโภชนาการก็เตรียมอาหารมาให้ปกติเหมือนทุกมื้อ แต่ภาพที่เห็นอยู่บนเตียง มันแทบจะทำให้คนที่เข้ามาอยากจะถอยออกไปก่อน แต่หน้าที่ก็คือหน้าที่ นักโภชนาการก็เลยเตรียมอาหารไว้ที่โต๊ะ แล้วก็รีบออกไป
“คุณหมอคะ”
“หือ”
“เมื่อสักครู่ฉันได้ยินเสียงปิดประตู”
“เขาอาหารเข้ามาให้” ชายหนุ่มตอบโดยไม่ได้ลืมตา
“เอาอาหารเข้ามาให้เหรอคะ แสดงว่าเขาก็เห็น?” ดวงตางามมองต่ำลงไปมือของเขาที่วางแนบกับหน้าอก
“เห็นก็ช่างปะไร ไม่ง่วงแล้วเหรอ”
“ใครจะไปง่วงได้ล่ะ ปล่อยเลยนะ”
“หิวข้าวหรือยัง” ชายหนุ่มยังไม่ปล่อย แต่เขาถามเรื่องนี้ก่อน
“ยังไม่หิว..” ค่ะ ..คำว่าค่ะถูกกลืนหายเขาไปในริมฝีปากหนาของอีกฝ่าย พอเธอบอกว่ายังไม่หิวเท่านั้นแหละ เขาก็แนบปากลงมาจูบ
ดวงตากลมค่อยๆ หลับลงช้าๆ แล้วปล่อยให้เขาจูบไป
ร่างหนาขยับขึ้นคร่อมคนตัวเล็กไว้โดยที่ไม่ได้ปล่อยจูบออก
ในขณะที่จูบมือเรียวก็ได้เอื้อมขึ้นไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตให้ พอกระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออก เธอก็แนบมือลงไปวางไว้กับแผ่นอกที่เต็มไปด้วยกล้ามและซิกแพคของคนที่รักษาหุ่นและสุขภาพ
ทุกครั้งเขาพยายามจะทำให้มีอารมณ์แต่ก็ไม่มี แต่ครั้งนี้เขาพยายามหยุดอารมณ์ตัวเองไว้ แต่ก็ไม่สามารถที่จะหยุดได้ มือหนาเอื้อมลงไปลูบคลำเนินน้องสาวของอีกฝ่าย หญิงสาวก็ไม่ได้ห้ามแถมเธอยังค่อยๆ เปิดทางให้เขาแบบมีจริตเล็กน้อย
“อือออ” พอนิ้วกลางเกี่ยวถูกตรงที่ไวต่อความรู้สึก ไอยวริญถึงกับสะดุ้ง
นิ้วของเขาไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ยังส่งผ่านมันเข้าไปในช่องคับแคบ ความรู้สึกของเขาที่เป็นหมอก็คืบคลานเข้ามา โดยการเห็นเธอเป็นคนไข้กำลังนอนตรวจภายในอยู่
ริมฝีปากถอนจูบออกโดยอัตโนมัติ พร้อมกับชักมือตัวเองออกมา
“?” หญิงสาวถึงกับงง อยู่ดีๆ อารมณ์ทุกอย่างก็ถูกหยุดลง เพราะตอนนี้คนที่กระตุ้นอารมณ์ของเธอได้เดินเข้าไปในห้องน้ำไปแล้ว ..หรือว่าเขาจะรังเกียจเรา อดคิดไม่ได้เพราะทุกครั้งที่กำลังจะมีอะไรกัน เขาชอบหยุดแล้วรีบออกห่างตัวเธอ ทั้งๆ ที่เขาจะทำอะไรก็ได้ มีทั้งการลงนามและการยินยอมจากเจ้าของร่างกาย แต่นี่เขาไม่ต้องการมันเลยเหรอ หรือว่าเขามีใครอยู่ในใจ
หญิงสาวรีบจัดระเบียบเสื้อผ้าของเธอใหม่ แล้วก็ดึงผ้าห่มขึ้นมานอนคลุมตัวกลบเกลื่อนความอายที่เขาไม่ต้องการ
ชายหนุ่มหายเข้าไปในห้องน้ำพักใหญ่ๆ ก็ออกมา
ขณะที่กำลังใส่เสื้อผ้าสายตาคมก็ได้มองมาดูเธอเป็นระยะ
แกร็ก.. เสียงสะอื้นดังขึ้นขณะที่ประตูห้องปิดลง อย่าสำคัญตัวเองผิดสิอาย เธอก็แค่ผู้หญิงที่เขาเก็บไว้เพื่อขัดดอก กลัวว่าเงินที่ลงทุนไปกับแม่ของเธอจะเสียเปล่า
หญิงสาวก็นอนรอฟังอยู่ว่าเขาจะกลับขึ้นมาไหมสองชั่วโมงผ่านไปก็แล้ว สามชั่วโมงผ่านไปก็แล้ว จนตอนนี้ดึกดื่นค่อนคืนเขาก็ยังไม่กลับเข้ามาในห้อง
แกร็ก~ เวลาผ่านไปเท่าไรไม่รู้ ก็ได้ยินเสียงประตูห้องเปิดเข้ามา
“ทำไมถึงยังไม่กินข้าว”
“ฉันไม่หิว” หญิงสาวพูดโดยที่ไม่ได้หันกลับไปมอง
“ไม่หิวก็ต้องกิน ถ้างั้นจะให้นักโภชนาการมาดูแลเรื่องนี้ทำไม”
“ฉันก็อยากรู้เหมือนกัน คุณให้นักโภชนาการมาดูแลฉันทำไม” บางครั้งจนเผลอคิดว่าตัวเองสำคัญกับเขามาก แต่กับการกระทำของเขาบางอย่างมันไม่ใช่เลย
“โกรธเรื่องนั้นเหรอ” ได้ยินแค่คำพูดของเธอก็รู้แล้ว เสียงขึ้นจมูกขนาดนั้น ถ้าไม่สบายก็ร้องไห้
ยังจะมาถามอีกมันน่าโกรธไหมล่ะ กี่ครั้งแล้วที่มากระตุ้นอารมณ์เธอแล้วก็ทิ้งไว้กลางทางแบบนั้น
“เดี๋ยวจะให้คนเอาอาหารขึ้นมาให้ใหม่ ลุกขึ้นมากินข้าวก่อน”
“มันดึกขนาดนี้แล้วไม่ต้องหรอกค่ะ” หญิงสาวรีบห้ามเขาไว้แต่ก็ไม่ทัน ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรบอก ..โรงพยาบาลของเขารอสแตนด์บายตลอด 24 ชั่วโมงอยู่แล้วไม่ว่าจะแผนกไหน
นักโภชนาการอีกกะหนึ่งได้เตรียมอาหารขึ้นมาให้ โดยมองอาหารที่คนก่อนเอาขึ้นมา เพราะไม่มีรอยแตะแม้แต่เล็กน้อย
เห็นสายตาของคนที่เอาอาหารขึ้นมาให้ไอยวริญรีบลุกจากที่นอน เพื่อมานั่งกิน เธอแอบเกรงใจเขาอุตส่าห์เตรียมอาหารที่มีประโยชน์ครบทั้ง 5 หมู่ขึ้นมาให้
เช้าวันต่อมา..
ที่จริงเธอตื่นตั้งนานแล้ว แต่ก็แกล้งหลับต่อ ปล่อยให้เขาออกจากห้องไปก่อนถึงได้ลุกขึ้นมาโนlวลกูดอทคoม
“??” อะไรกัน มาวันนี้เหรอ? คนตัวเล็กลุกขึ้นยืนก็รู้สึกแปลกๆ ถ้าประจำเดือนเธอมา จะทำยังไง ผ้าอนามัยก็ไม่มีใส่ ต้องได้รีบลงไปซื้อมาเก็บไว้แล้วล่ะ
ไอยวริญรีบหาเสื้อผ้ามาสวมใส่ แล้วก็ออกจากห้อง
..ชั้นล่าง..
“เอ้าา..เงิน..” ลงมาถึงเพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้นำเงินติดตัวลงมาด้วย จะกลับขึ้นไปก็คงไม่ทันแล้วเพราะรู้สึกเหมือนว่ากำลังมีอะไรจะไหลออกมา
นาทีนี้ใบหน้าของเขาก็ลอยเข้ามา เพราะห้องทำงานเขาอยู่ชั้นล่าง ถ้าลงมาตรวจคนไข้ก็ต้องอยู่ในห้องนั้นแน่ เพราะตอนที่แม่รักษาตัวอยู่เธอไปขอพบเขาบ่อยครั้ง
“มาพบคุณหมอเหรอคะ” พยาบาลที่ประจำอยู่หน้าห้องรีบเดินตามมา เพราะเธอไม่ได้แจ้งอะไรไว้ก็จะเปิดประตูห้องของคุณหมอเข้าไปแล้ว
“ใช่ค่ะ”
“คุณหมอกำลังมีตรวจคนไข้อยู่ค่ะ คุณมีธุระอะไรกับคุณหมอหรือคะ” พยาบาลจำเธอได้ดีว่าเป็นญาติคนไข้
“คือว่าฉันขอคุยกับคุณหมอเองได้ไหมคะ”
“ไม่ได้ค่ะ” ..แต่ก็ไม่ทันแล้ว เพราะเธอเปิดประตูเข้าไปในห้องตรวจ
นายแพทย์เซอร์เวย์ที่กำลังตรวจคนไข้หันกลับมามอง
“เดี๋ยวหมอจะนัดวันผ่าตัดให้” แล้วเซอร์เวย์ก็หันไปบอกพยาบาลคนนั้นให้ทำเรื่องนัดผ่าตัดคนไข้ ..พอทุกคนออกจากห้องไป ชายหนุ่มก็ได้มองดูหน้าเธอ พร้อมกับเขียนเอกสารรายละเอียดของคนไข้ที่เพิ่งจะตรวจเช็คไปพร้อมกัน
“คือ..ฉัน..”
“มีอะไรก็ว่ามา”
“ฉันลืมเอาเงินลงมาด้วยค่ะ” กลัวเขาว่าก็กลัว เพราะเขายังไม่อนุญาตให้เธอลงมา แต่มันเหตุสุดวิสัยจริงๆ นี่
“เงิน?”
“ฉันจะไปซื้อของ ถ้ากลับไปกลัวไม่ทัน”
ชายหนุ่มก็เลยล้วงเอากระเป๋าเงินออกมาส่งให้กับเธอ
“ฉันขอยืมแค่ร้อยเดียวค่ะ ขึ้นไปแล้วฉันจะคืนให้”
“ไม่ต้องหรอก จะซื้ออะไรก็ซื้อ เงินอยู่ในนั้นแหละ”
“ค่ะ” จังหวะนี้ไม่มีเวลาคิดอะไรแล้ว เธอต้องรีบไปให้ถึงร้านสะดวกซื้อ และก็ไปเข้าห้องน้ำของโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด