เช้าวันอังคาร
มือถือของเผยเชียนดังขึ้นตอนที่เขากำลังหลับปุ๋ยอยู่
เขาลืมตางัวเงียขึ้นมาดูเบอร์ที่โทรเข้ามาแล้วพบว่าเป็นหวงซื่อปั๋ว
เผยเชียนรับสาย “ว่าไง”
เสียงตื่นเต้นเล็กน้อยของหวงซื่อปั๋วดังขึ้นจากปลายสาย “บอสเผยครับ ผมมีข่าวดีมารายงานครับ! หนังคัตซีนเกม Mission & Choice ถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราเพิ่งถ่ายทำฉากสุดท้ายเสร็จเมื่อเช้าครับ!”
เผยเชียนยังงงอยู่ “หืม?”
แต่เขาก็ตอบสนองในวินาทีถัดมา
หนังถ่ายเสร็จแล้ว!
ถึงจะไม่ได้ตั้งตาคอยแต่วันนี้ก็มาถึงแล้ว
เผยเชียนไม่ได้ใส่ใจโปรเจ็กต์ Mission & Choice ที่เป็นการรวมกันระหว่างเกมและหนังมากนัก
เหตุผลค่อนข้างซับซ้อน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเผยเชียนกลัวว่าถ้าใส่ใจมากเกินไปจะกลายเป็นการสำแดง ‘พลังสังเกตการณ์’ ได้ หรือคำแนะนำที่บอกออกไปโดยไม่รู้ตัวอาจส่งผลดีเกินความคาดหมายและย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง อีกส่วนเป็นเพราะโปรเจ็กต์นี้กินเวลาสองรอบบัญชีและเผยเชียนมีโปรเจ็กต์สำคัญกว่าต้องจัดการ
แน่นอนว่าหนึ่งในเหตุผลหลักคือเผยเชียนคิดว่าตัวเองเตรียมการไว้มากพอแล้วสำหรับโปรเจ็กต์นี้ เกม Mission & Choice รวบรวมต้นเหตุความล้มเหลวทั้งหมดเอาไว้ที่เดียว ดังนั้นเผยเชียนจึงมั่นใจในโปรเจ็กต์นี้มาก
เผยเชียนเพิ่งคิดอยากแวะไปดูความคืบหน้าการค้นคว้าและพัฒนาเกม Mission & Choice ก็ตอนที่บังเอิญเจอเหออันก่อนหน้านี้
ส่วนเรื่องหนังเผยเชียนไม่เคยแวะไปสตูดิโอเลย แม้แต่โครงเรื่องก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
สิ่งเดียวที่เผยเชียนรู้คือเซ็ตติ้งเนื้อเรื่องของเกม Mission & Choice ที่เขาเป็นคนตัดสินใจ ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับสงครามระหว่างมนุษย์กับเซิร์ก
เพราะเกม Mission & Choice ที่รู้จักกันในนาม ‘ความอัปยศของวงการเกมจีน’ เมื่อหลายสิบปีก่อนก็ใช้เซ็ตติ้งนี้ เผยเชียนจึงบอกให้ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อใช้เซ็ตติ้งนี้ด้วย และผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อก็น่าจะทำตาม
เขาไม่รู้ว่าหลังจากเริ่มถ่ายทำแล้วหนังออกมาเป็นยังไงบ้าง
คิดได้แบบนั้นเผยเชียนก็ลุกขึ้นนั่งบนเตียง
“เยี่ยมเลยที่ถ่ายทำกันเสร็จแล้ว แบบนี้ต้องฉลอง!
“เอางี้เป็นไง เดี๋ยววันนี้เราไปกินข้าวเที่ยงกันที่ภัตตาคารบ้านหมิงฝู่ ผมเลี้ยงเอง!
“แล้วจากนั้นคุณก็จัดให้ทุกคนได้เที่ยวเล่นกันในจิงโจวสักหน่อย วันจันทร์หน้าวันที่ 20 เดี๋ยวผมเลี้ยงอีกรอบที่ภัตตาคารไร้ชื่อ!”
ก่อนหน้านี้ตอนที่วันพรุ่งนี้ที่สดใสถ่ายทำเสร็จก็ได้รับการปฏิบัติแบบนี้ คือกินเลี้ยงมื้ออาหารสุดหรูสองมื้อกับท่องเที่ยวในจิงโจวหนึ่งสัปดาห์ สำหรับเผยเชียนเรื่องที่ต้องใช้เงินแบบนี้ต้องทำเพิ่มไม่ใช่ลดลง เขาจะใช้เงินน้อยกว่าเดิมไม่ได้แม้แต่หยวนเดียว
หวงซื่อปั๋วดีใจมาก “ได้เลยครับบอสเผย!”
…
ตอนบ่าย ที่ภัตตาคารบ้านหมิ่งฝู
วันนี้เป็นวันอังคาร ปกติก็มีลูกค้าไม่เยอะอยู่แล้วและเผยเชียนก็โทรมาจองเหมาร้านไว้ก่อน ดังนั้นทั้งร้านจึงมีแค่พนักงานในร้าน
หวงซื่อปั๋ว จูเสี่ยวเช่อ ลู่จือเหยา ตากล้อง ทีมงานในกองถ่าย ทีมตัดต่อ และทีมดูแลขั้นตอนหลังการผลิตต่างมากันพร้อมหน้า
ว่ากันตามตรงตอนนี้น่าจะเป็นช่วงที่ยุ่งที่สุดของทีมตัดต่อและทีมดูแลขั้นตอนหลังการผลิต แต่ Mission & Choice แบ่งถ่ายเป็นตอนๆ พวกเขาตัดต่อและใส่เอฟเฟ็กต์คร่าวๆ ทุกครั้งที่ถ่ายทำแต่ละตอนไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นความกดดันในขั้นตอนการตัดตอนและขั้นตอนดูแลหลังการผลิตจึงไม่หนักหน่วงมาก
นอกจากนั้นไม่ว่าพวกเขาจะยุ่งกันขนาดไหน ถ้าบอสเผยเป็นคนเลี้ยงยังไงก็ต้องมากินดื่มกัน!
ทุกคนรู้ว่าบอสเผยไม่ได้มีพิธีรีตองมากนักเวลากินเลี้ยง ดังนั้นพวกเขาจึงนั่งคุยกันตามสบายรอบอสเผยมาถึง
หวงซื่อปั๋ว จูเสี่ยวเช่อ ลู่จือเหยา และคนอื่นๆ นั่งรอบอสเผยอยู่บนโต๊ะเดียวกัน
“มาแล้วๆ!”
“ทางนี้ครับบอสเผย!”
หวงซื่อปั๋วลุกขึ้นโบกมือให้เผยเชียน
เผยเชียนบอกพนักงานเสิร์ฟทันที “รออะไรกัน ยกอาหารเครื่องดื่มมาเลย เอาที่แพงที่สุดเลยนะ ให้ไวเลย”
จากนั้นเขาก็ไปนั่งที่โต๊ะของจูเสี่ยวเช่อ
เผยเชียนเพิ่งจะได้พบกับทีมงาน
หลังจากมองไปรอบๆ สายตาของเขาก็หยุดอยู่ที่ลู่จือเหยา
โอเค เอาลู่จือเหยามาเล่นอีกแล้ว
เผยเชียนเตรียมใจเอาไว้แล้ว เพราะลู่จือเหยากับเฟยหวงสตูดิโอสนิทชิดเชื้อกันดี พวกเขาร่วมงานกันได้ดีจึงไม่แปลกที่จะกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ตอนที่คุยกันเรื่องนักแสดงเผยเชียนกำหนดว่าให้จ้างนักแสดงหลักแค่คนเดียวเท่านั้น คนอื่นเป็นได้แค่ตัวประกอบ ตัวเอกจะเอาใครมาแสดงก็ได้ จะดังหรือไม่ดังก็ไม่สำคัญ ขอแค่ไม่แสดงออกทางสีหน้ามากเกินไปก็พอ
ถึงลู่จือเหยาจะมีทักษะการแสดงดี แต่ถ้าไม่ให้แสดงออกทางสีหน้าเลยจะแสดงออกมาให้ดีได้ยังไง
ดังนั้นเผยเชียนจึงไม่ได้โกรธแต่ยอมรับอย่างสงบใจแทน
กรณีดีที่สุดคือหนังเจ๊งและเสียเงินที่หามาอย่างยากลำบากไปหมด ลู่จือเหยากลายเป็น ‘พิษร้ายของวงการหนัง’ อีกครั้งและตัดโอกาสทำงานร่วมกันในอนาคตทิ้งหมด พวกเขาจะได้ปล่อยมือกันสักที!
หลังจากทักทายเล็กๆ น้อยๆ พนักงานก็เริ่มยกอาหารมาเสิร์ฟ
เผยเชียนมองไปรอบๆ แล้วตระหนักถึงปัญหาหนึ่งทันที
แปลกๆ แฮะ ทำไมลู่จือเหยามาคนเดียว แล้วนักแสดงคนอื่นๆ ล่ะ
ก่อนหน้านี้เผยเชียนบอกหวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อแค่ว่ามีนักแสดงหลักได้แค่คนเดียวเท่านั้น ที่เหลือรับบทตัวประกอบได้
แล้วพวกตัวประกอบล่ะ
หรือเพราะเป็นตัวประกอบเล็กๆ เลยไม่ยอมเรียกมาเลี้ยงข้าวด้วย
บ้าไปแล้ว! ไม่สอดคล้องกับจิตวิญญาณเถิงต๋าเลย!
เผยเชียนหันไปมองหวงซื่อปั๋วด้วยสีหน้าจริงจัง “ทำไมพวกตัวประกอบไม่เห็นมาเลย ในเมื่อเป็นงานเลี้ยงก็ต้องมากันให้ครบห้ามขาดแม้แต่คนเดียวสิ!”
หวงซื่อปั๋วผงะไปครู่หนึ่งก่อนจะรีบอธิบาย “อ๋อ บอสเผยครับ ทุกคนในทีมโปรดักชันมากันครบหมดเลยรวมถึงทีมงานจิปาถะด้วย
“เราไม่มีนักแสดงตัวประกอบเพราะไม่ได้จ้างเลยสักคนครับ ลู่จือเหยาเป็นนักแสดงแค่คนเดียว”
เผยเชียน “?”
เจ้าหวงซื่อปั๋วทำได้เหนือกว่าที่กำหนดไว้อีกเหรอ
เผยเชียนกำหนดให้พวกเขามีนักแสดงหลักได้แค่คนเดียว ส่วนที่เหลือเป็นบทตัวประกอบ novelgu.com
กลายเป็นว่าหวงซื่อปั๋วไม่ใช้ตัวประกอบเลยแม้แต่คนเดียว!
หนังทั้งเรื่องใช้แค่ลู่จือเหยาคนเดียวเหรอ
ฟังดูไม่น่าเชื่อถือสุดๆ มีโอกาสสูงมากที่จะทำเงินไม่ได้เลย!
เผยเชียนอดไม่ได้ที่จะยกนิ้วให้ “เยี่ยมมาก! ทำได้ดีเลย!”
หวงซื่อปั๋วกับจูเสี่ยวเช่อหันมองหน้าแล้วยิ้มให้กัน ทั้งสองเห็นความภาคภูมิใจในสายตาอีกฝ่าย
สมแล้วที่เป็นบอสเผย บอสเดาออกได้ทันทีว่าบทละครฉายเดี่ยวของเรายอดเยี่ยมขนาดไหนและกล่าวชมทันที
รู้ใจกันจริงๆ!
เผยเชียนหันไปหาลู่จือเหยา “รู้สึกยังไงกับการแสดงของตัวเองบ้างครับ”
ลู่จือเหยายิ้มด้วยความรู้สึกผิด “เอาตรงๆ เลยนะครับบอสเผย ผมรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“ตลอดทั้งเรื่องเป็นการแสดงฉายเดี่ยวหมด ยากมากๆ เลยครับสำหรับผม!
“แถมผู้กำกับจูก็บอกผมไม่ให้แสดงอารมณ์มากจนเกินไป กล้ามเนื้อใบหน้าต้องเปลี่ยนแปลงให้น้อยที่สุด ผมรู้สึกอึดอัดจนเหมือนจะเป็นบ้าเลยครับ…”
เผยเชียนดีใจมาก
อืม ไม่เลวเลย!
เป็นการแสดงฉายเดี่ยวทั้งเรื่องและนักแสดงหลักไม่ได้แสดงฝีมือการแสดงอย่างเต็มที่ ถือเป็นการบอกเป็นลางว่าหนังห่วยแน่นอน ไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้!
เผยเชียนอยากขอบทจากจูเสี่ยวเช่อ แต่พอคิดดูอีกทีหนังห่วยแบบนี้บทจะไปมีอะไรดี
แถมพวกเขาก็ถ่ายหนังกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าวหุงสุกแล้ว ถึงจะเอาบทมาดูตอนนี้ก็ถ่ายทำใหม่ไม่ได้อยู่ดี ไม่งั้นถ้าปล่อยหนังไม่ทันเวลาก็จะกระทบกับการสรุปบัญชี
ดังนั้นเผยเชียนจึงไม่อยากทำอะไรให้ยุ่งยากตัวเอง เขายกแก้วพร้อมกับพูดขึ้น “หลายเดือนมานี้ทุกคนทำงานกันหนักมาก! กินกันให้เต็มที่แล้วก็เที่ยวจิงโจวกันต่อให้สนุก เดี๋ยวผมเลี้ยงข้าวทุกคนอีกทีวันที่ 20 ที่ภัตตาคารไร้ชื่อ!”
ทุกคนโห่เชียร์กันทันที
ปกติแล้วภัตตาคารไร้ชื่อไม่ได้จองไปกินกันได้ง่ายๆ ทุกคนยุ่งกับงานและรอกินเลี้ยงที่นั่นมาเป็นเดือนๆ จะไม่ให้ตื่นเต้นได้ไงไหว
พอถ่ายทำเสร็จอย่างเป็นทางการทุกคนก็ผ่อนคลายกันได้ พวกเขาเพลิดเพลินกับอาหารเลิศระหว่างพูดคุยหัวร่อต่อกระซิก บรรยากาศเป็นไปอย่างสรวลเสเฮฮา
…
หลังจากกินจนอิ่มเผยเชียนก็ขอตัวกลับก่อนโดยบอกว่ามีงานต้องทำ ชัดเจนว่าทีมงานยังกินกันไม่อิ่ม บางคนถึงขั้นเริ่มดื่มระหว่างพูดคุย
จูเสี่ยวเช่อกับหวงซื่อปั๋วคุยเรื่องขั้นตอนหลังการผลิตของ Mission & Choice ต่อ
ถึงตากล้อง ทีมถ่ายทำ และทีมงานประจำกองสามารถพักผ่อนได้แล้วเว้นแต่ว่าต้องมีถ่ายแก้บางซีน แต่ฝั่งการตัดต่อและงานขั้นตอนหลังการผลิตยังมีปัญหาอยู่หลายอย่าง จูเสี่ยวเช่อกับหวงซื่อปั๋วก็ไม่สามารถพักผ่อนได้
ระหว่างที่กำลังคุยงานอยู่มือถือของหวงซื่อปั๋วก็ดังขึ้น
หวงซื่อปั๋วหยิบมาดูแล้วพบว่าเป็นสายจากรุ่ยยู่เฉิน
“หืม?”
หวงซื่อปั๋วแปลกใจเล็กน้อยเพราะปกติงานของเขาไม่มีความเกี่ยวข้องกับรุ่ยยู่เฉิน
รุ่ยยู่เฉินดูแลโมหยูเดลิเวอรี่ไม่ใช่เหรอ ทำไมโทรมาหาล่ะ หรือรุ่ยยู่เฉินอยากให้โฆษณาโมหยูเดลิเวอรี่ในหนัง
ถ้าเป็นแบบนั้นก็เป็นไปไม่ได้ Mission & Choice ใช้ตีมไซไฟ ใส่โฆษณาโมหยูเดลิเวอรี่เข้ามาต้องดูไม่เหมาะสมแน่นอน
หวงซื่อปั๋วรับสายด้วยความสับสน
หลังจากทักทายกันเล็กน้อยรุ่ยยู่เฉินก็อธิบายจุดประสงค์ที่โทรมา “คืองี้ครับพี่หวง พี่รู้ใช่มั้ยครับว่าบอสเผยซื้อบริษัทชื่อสาวหน้านิ่งมา ผมคุยกับผู้จัดการบริษัทนั้นมาเมื่อสองวันก่อน แล้วรู้มาว่าพวกเขาอยากถ่ายสารคดีเดี่ยวกับร้านอาหารข้างทาง
“ผมได้ยินมาว่าพวกพี่เคยถ่ายสารคดีมาก่อนเลยอยากติดต่อให้พวกพี่ทำให้ ไม่ใช่ว่าหาคนอื่นมาถ่ายไม่ได้ ประเด็นคือผมไม่รู้ว่าคนอื่นทำงานดีขนาดไหน กลัวว่าผลลัพธ์จะออกมาไม่เป็นที่น่าพอใจ
“ปัญหาข้อเดียวคือก่อนหน้านี้พวกพี่ทำสารคดีเกี่ยวกับอีสปอร์ต ไม่รู้ว่าพี่จะทำสารคดีเกี่ยวกับอาหารได้รึเปล่า”
หวงซื่อปั๋วพูดขึ้น “แป๊บนะ พี่ถามผู้กำกับจูก่อน”
เขาเล่าที่รุ่ยยู่เฉินบอกคร่าวๆ แล้วได้คำตอบยืนยันจากจูเสี่ยวเช่อ
หวงซื่อปั๋วตอบ “ได้ ผู้กำกับจูบอกว่าถ้าเราถ่ายหนังได้ สารคดีเกี่ยวกับอาหารก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร!
“แต่ถ้าจะให้ได้ผลลัพธ์งานภาพที่ดีที่สุด เราอาจจะต้องเตรียมอุปกรณ์พิเศษสำหรับถ่ายทำบางอย่าง ซึ่งก็ไม่มีอะไรยาก ยังไงสตูดิโอเราก็ต้องใช้ของพวกนี้อยู่แล้ว เพราะงั้นก็แค่ซื้อ
“พวกคุณเลือกจังหวะได้ดีเลย เราเพิ่งถ่ายทำหนังเสร็จกำลังว่างพอดี!”
รุ่ยยู่เฉินดีใจ “จริงเหรอครับ บังเอิญมากเลย
“งั้นก็ตกลงเลยครับ! เดี๋ยวผมส่งรายละเอียดการติดต่อของผู้จัดการให้ พวกคุณคุยกันเรื่องวิธีการถ่ายทำและงบประมาณที่ต้องการได้เลยครับ”
หวงซื่อปั๋ว “ได้ๆ”
ถ้าต้องร่วมงานกับบริษัทอื่นก็อาจจะมีเรื่องให้กังวลเยอะ
ตัวอย่างเช่น ถ้าอีกฝ่ายต่อราคาจะทำยังไง ถ้าอีกฝ่ายไม่พอใจกับผลงานที่ถ่ายทำออกมาล่ะ ถ้ามีข้อโต้แย้งเรื่องค่าใช้จ่ายระหว่างการถ่ายทำต้องจัดการยังไง
เรื่องพวกนี้น่าหงุดหงิดใจมาก
แต่ถ้าทำงานกับกิจการภายในเถิงต๋าก็ไม่ต้องกังวลอะไรมาก ทุกคนได้รับเงินจากบอสเผย เงินแค่ย้ายจากกระเป๋าซ้ายไปอยู่กระเป๋าขวาขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นลูกค้า ใครเป็นคนให้บริการ พวกเขาไม่ต้องห่วงว่าจะมีเรื่องไม่เข้าท่าแบบนั้นเกิดขึ้น
บังเอิญหนังเพิ่งถ่ายทำเสร็จพอดี หลายคนในทีมว่างและไม่มีอะไรทำ พวกเขาใช้โอกาสนี้ถ่ายคลิปโปรโมตได้ งานไม่น่าจะเหนื่อยมากเพราะเป็นการถ่ายอาหารข้างทาง ถือว่าได้เปลี่ยนบรรยากาศ
ดังนั้นหวงซื่อปั๋วเลยตอบตกลงทันที