📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 878

บทที่ 878 - มุมมองทางวัฒนธรรมของ Mission & Choice
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ลู่จือเหยาเหม่อไปเลย

เดิมทีบทของ Mission & Choice แบ่งออกเป็นส่วนๆ ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อจงใจทำแบบนี้เพื่อให้ลู่จือเหยา ‘สามารถวิเคราะห์บทได้อย่างละเอียดถี่ถ้วนและทำให้การแสดงในปัจจุบันไม่ได้รับผลกระทบจากการรู้ตอนจบ’

ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อบรรลุเป้าหมายนี้

ลู่จือเหยาสามารถสวมบทบาทเป็นฉินอี้ได้จริงๆ ในการแสดงแต่ละตอน เพราะไม่รู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นจึงแสดงออกมาได้ใกล้เคียงกับสภาพจริงของฉินอี้ในบท

แต่ก็ทำให้เกิดปัญหาอีกอย่างคือลู่จือเหยาใจจะขาดกับข้อมูลที่ได้มาเป็นส่วนๆ

แต่ละครั้งเขาได้บทมาแค่ส่วนเล็กๆ แต่การพัฒนาโครงเรื่องนั้นซับซ้อนมาก บทมักตัดจบตอนที่อยากรู้เนื้อหาส่วนถัดไปทุกครั้ง

ลู่จือเหยาไม่คิดเลยว่าแม้ในที่สุดจะได้บทส่วนสุดท้ายมาแล้ว แต่ก็ยังจบแบบค้างคาอยู่ดี ไม่มีเนื้อหาต่อจากนั้น!

จุดนี้ทำให้ลู่จือเหยาปวดใจและสิ้นหวัง

แน่นอนเขาเองก็รู้ว่าจากเนื้อหาในตอนนี้โครงเรื่องทั้งหมดจบสมบูรณ์แล้ว มีจุดเริ่มต้นและจุดพลิกผัน เนื้อหาถือว่าเพียงพอสำหรับหนังหนึ่งเรื่อง

หวงซื่อปั๋วกับผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อน่าจะยังไม่ได้คิดเนื้อเรื่องส่วนถัดไปเหมือนกัน พวกเขาทิ้งตอนจบแบบค้างคาไว้เพื่อทำภาคต่อ

แต่ถึงลู่จือเหยาจะรู้เรื่องนี้อยู่แก่ใจ เขาก็ยังอดสบถด่า ‘ตอนจบแบบค้างคา’ ไม่ได้อยู่ดี

หลังจากสงบใจลงลู่จือเหยาก็เริ่มพิจารณาส่วนสุดท้ายของบทอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้เขาผ่านการท้าทายทักษะการแสดงมาทุกแง่มุม จนคิดว่ามีประสบการณ์มากพอและไม่เกรงกลัวอะไรทั้งนั้น

แต่พอเห็นบทส่วนสุดท้ายลู่จือเหยาก็ตระหนักว่าความยากจริงๆ อยู่ที่ตอนจบ!

ยังมีเหตุการณ์พลิกผันอีกมากมายในช่วงท้ายเรื่อง อารมณ์ของฉินอี้พังทลายจากความสิ้นหวังก่อนจะพบโอกาสรอดชีวิตในความสิ้นหวัง จากนั้นก็ใช้การพูดปลุกใจสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารทุกนาย และแสดงให้มนุษยชาติเห็นแสงแห่งชัยชนะได้สำเร็จ

ถ้าบทจบตรงนี้ก็คงเป็นหนังบล็อกบัสเตอร์มาตรฐานที่มีตอนจบแบบปลุกใจตามพิมพ์นิยม

แต่บทกลับหักมุมตอนที่ฉินอี้กำลังจะเห็นแสงแห่งชัยชนะ

ฉินอี้ในสภาพไม่ได้สติตระหนักว่าตัวเองมีจิตใต้สำนึกรังของเผ่าพันธุ์เซิร์ก จิตใต้สำนึกรังทำให้เขามองปัญหาจากมุมมองของเซิร์กและเห็นอกเห็นใจเหล่าเซิร์ก ฉินอี้พบว่ามนุษย์เป็นคนเปิดฉากโจมตีเซิร์กก่อน ว่ากันตามตรงแล้วพวกเซิร์กเป็นฝ่ายโดนรุกราน

หลังได้สติกลับคืนมาเขาก็สั่งให้ทหารทุกนายหยุดโจมตี สงครามระหว่างมนุษย์กับเซิร์กถูกบังคับให้หยุด

ถ้าเรื่องราวจบลงตรงนี้มนุษย์กับเซิร์กก็จะจับมือกันสร้างจักรวาลอันงดงามไปด้วยกัน ถือเป็นตอบจบสไตล์การเมืองตามมาตรฐานของหนังตะวันตก

แต่ฉินอี้ดันไม่อยากจับมือสร้างสันติกับเซิร์ก เขาตลบหลังพวกเซิร์กโดยการหาตำแหน่งราชินีเซิร์กและราชินีรองทั้งหมดผ่านจิตใต้สำนึกรัง จากนั้นก็เปิดฉากปฏิบัติการล่าตัดหัว

ฉินอี้โกหกพวกเซิร์กเพื่อมนุษยชาติแต่กลับโดนลวงหลอกและทอดทิ้ง เนื่องจากราชินีเซิร์กกับราชินีรองถูกกวาดล้างหมด สุดท้ายฉินอี้ก็ได้ขึ้นเป็นผู้นำเหล่าเซิร์กขณะโดยสารอสูรยักษ์ท่องไปในอวกาศอันไร้ที่สิ้นสุด

ในบทส่วนนี้อารมณ์ของฉินอี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก

มีทั้งตื่นเต้น ทั้งตกใจเมื่อค้นพบความจริง ทั้งเลือดเย็น ทั้งรู้สึกโดนหักหลัง…

โดยเฉพาะฉากสุดท้ายตอนที่ฉินอี้ตื่นขึ้นมาในบ่อฟักตัวภายในอสูรยักษ์ จะมีช็อตถ่ายระยะใกล้ที่ลู่จือเหยาต้องแสดงอารมณ์ซับซ้อนของฉินอี้ด้วยการมองกล้องเพียงครั้งเดียว

เห็นได้ชัดว่าสำหรับลู่จือเหยา บทส่วนนี้ยากกว่าส่วนที่ผ่านมาหลายเท่า!

อย่างที่เขารู้มาตั้งแต่ต้น ฉินอี้เป็นตัวละครที่ทดสอบฝีมือการแสดงของเขาสุดๆ เพราะตัวละครนี้วางบทมาให้เป็นทหารใจแกร่งดั่งหินผา

ในสถานการณ์ส่วนใหญ่ฉินอี้มักไร้อารมณ์ความรู้สึก ถึงมีก็จะข่มกลั้นเอาไว้

แต่ในบทส่วนนี้โชคชะตาของฉินอี้สลับซับซ้อนเกินไป เขามักพบกับความสิ้นหวังและความเจ็บปวดถึงขีดสุด ทำให้ลู่จือเหยาหาจุดสมดุลได้ยากมาก

หากยัดเยียดอะไรเกินไปแม้แต่นิดเดียวตัวละครฉินอี้ก็จะพังลงได้ คงไม่เหมาะถ้าจะให้ทหารใจแกร่งเดือดจัดหรือสติแตก แต่ถ้าแสดงออกน้อยเกินไปผู้ชมก็จะคิดว่าลู่จือเหยาขาดทักษะการแสดง และสื่อสารอารมณ์ออกมาได้ไม่ดีพอ

เมื่อเทียบกันแล้วตัวละครอายุน้อยนั้นแสดงได้ง่ายกว่า เพราะอารมณ์ของตัวละครประเภทนี้ตรงไปตรงมา ดีใจก็คือดีใจ โกรธก็คือโกรธ ไม่มีความซับซ้อน ระดับอารมณ์มีความยืดหยุ่น

กลับกันการรับบทเป็นกัปตันฉินอี้ผู้มีความตั้งใจอันแรงกล้านั้นยากที่สุด

ลู่จือเหยาถอนหายใจเบาๆ ดูเหมือนว่าหลายวันต่อจากนี้จะยุ่งอีกแล้ว

เขาอยากศึกษาบทกับกระจกอยู่ในโรงแรม อยากปรับปรุงทักษะการแสดงและสีหน้าเพื่อให้แสดงเนื้อเรื่องส่วนสุดท้ายได้อย่างสมบูรณ์แบบโนเวลกูดอทคoม

แต่ลู่จือเหยาก็เลือกหยิบบททั้งหมดที่มีมาอ่านตั้งแต่ต้นจนจบอีกครั้ง แล้ววิเคราะห์เนื้อเรื่องจากมุมมองของตัวเอง

ความประทับใจที่ตราตรึงที่สุดที่เรื่องนี้ทิ้งไว้ให้ลู่จือเหยาคือ ‘มุมมองทางวัฒนธรรม’

ในฐานะนักแสดงลู่จือเหยาดูหนังมาหลายเรื่อง เขาเคยดูหนังแนวต่างๆ จากหลากหลายประเทศ

เนื้อเรื่องของ Mission & Choice ถ้าแยกออกมาเป็นส่วนๆ ก็ไม่ได้มีความพิเศษอะไรเมื่อเทียบกับหนังแนวไซไฟทั่วไป

แน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติ

เพราะ ‘เซิร์ก’ ปรากฏตัวในหนังแนวไซไฟมาหลายทศวรรษแล้ว หนังที่ออกมาก่อนนำเสนอแนวคิดจากหลากหลายแง่มุมด้วยหลากหลายวิธี แทบไม่เหลือช่องให้คนรุ่นใหม่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ออกมาได้

เป็นไปไม่ได้เลยที่จะล้มล้างโครงเรื่องทิ้งหมดเมื่อมีผลงานสุดคลาสสิกมากมายขนาดนี้

แต่ลู่จือเหยามองว่าความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเกม Mission & Choice คือการผสมผสานมุมมองทางวัฒนธรรมของจีนและตีมไซไฟเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ในจีนหนังแนวไซไฟหาได้ยากมาก เพราะหนังแนวไซไฟใช้ทุนสร้างสูงเกินไปและต้องใช้พร็อบสั่งทำพิเศษ เอฟเฟ็กต์พิเศษ และทีมงานขนาดใหญ่ ถ้าขาดประสบการณ์ก็เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้หนังออกมาด้อยคุณภาพ

ดังนั้นแม้แต่ในตลาดหนังจีน พอพูดถึงหนังไซไฟผู้คนก็มักจะนึกถึงหนังไซไฟฟอร์มใหญ่ของยุโรปและอเมริกา

ปัญหาคือหนังไซไฟดังๆ แทบทั้งหมดที่เห็นในปัจจุบันมักนำเสนอเรื่องราวผ่านมุมมองวัฒนธรรมตะวันตก

ทำให้ผู้ชมจีนหลายคนเกิดคำถามและรู้สึกเข้าไม่ถึงค่านิยมที่แสดงให้เห็นในหนังไซไฟเหล่านั้น สิ่งที่ชาวตะวันตกคุ้นชินเป็นสิ่งที่ชาวจีนยอมรับไม่ได้เลย

แนวคิดของเรื่อง Mission & Choice จริงๆ เขียนขึ้นโดยนักเขียนนิยายแนวไซไฟชื่อดังจากต่างประเทศในปีค.ศ. 1985 แถมยังได้รางวัล Hugo Award กับ Nebula Award ด้วย ถือเป็นนิยายแนวไซไฟสุดคลาสสิกตลอดกาล

แต่ในเรื่องผู้บัญชาการยังเป็นเด็ก เขารู้สึกผิดมากหลังจากกวาดล้างเหล่าเซิร์ก จึงพาราชินีเซิร์กที่ยังไม่โตเต็มวัยเดินทางไปในอวกาศเพื่อหาบ้านหลังใหม่ โดยหวังว่าจะได้ไถ่โทษให้ตัวเอง

นี่คือแนวคิดมาตรฐานของชาวตะวันตก เหมือนที่หลายคนในองค์กรคุ้มครองสัตว์ฝั่งตะวันตกออกมาเรียกร้องให้มนุษย์กินมังสวิรัติเพื่อให้สัตว์ได้รับสิทธิเท่าเทียมกับมนุษย์…

จุดนี้อาจเป็นความถูกต้องทางการเมืองและความเมตตาของผู้ที่อาศัยอยู่ในภูมิหลังวัฒนธรรมตะวันตก

แต่สำหรับคนที่อาศัยอยู่ในภูมิหลังวัฒนธรรมจีนถือเป็นความโง่เขลาและความหน้าซื่อใจคด เป็นการสำแดงถึงความเมตตาอันเหลือล้นของพระแม่มารีย์

ชาวตะวันตกร้องปาวๆ ถึงความถูกต้องทางการเมืองและถึงขั้นต่อสู้เพื่อสิทธิและผลประโยชน์ของสัตว์ แต่ท้ายที่สุดก็เป็นเพราะชีวิตของพวกเขามั่งคั่งและสะดวกสบายเกินไป มีทรัพยากรล้นเหลือและพลังงานมากพอที่จะส่งต่อความเห็นอกเห็นใจในระดับที่มากเกินเหตุไปทั่วสารทิศในขณะที่ตัวเองมีกินมีใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย

รากเหง้าของชีวิตที่มั่งคั่งและสะดวกสบายของชาวตะวันตกคือการเอารัดเอาเปรียบ การปล้นสะดม และการสังหารนองเลือดทั่วโลกที่บรรพบุรุษของพวกเขาทำไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อน

ระหว่างที่ชาวตะวันตกออกมาเรียกร้องว่า ‘สัตว์ก็มีสิทธิเช่นกัน’ พวกเขากลับไม่เคยเหลียวหลังมองชาวอะบอริจินที่ถูกบรรพบุรุษของตัวเองฆ่า พวกเขาไม่ตระหนักเลยว่าความมั่งคั่งของตัวเองมาจากการปล้นสะดมและแสวงหาประโยชน์จากส่วนที่เหลือของโลก

ในขณะที่ชาวตะวันตกเหล่านี้เรียกร้องสิทธิให้สัตว์ด้วยความเห็นอกเห็นใจ ประเทศของพวกเขากลับกำลังรังแก กดขี่ และเอารัดเอาเปรียบประเทศอื่นๆ ในโลก พวกเขาก่อสงคราม สร้างความอดอยากและโรคระบาด ปล่อยให้เพื่อนมนุษย์เหมือนอาศัยอยู่ในนรก

ดังนั้นการที่มนุษย์เห็นใจเซิร์กจึงเป็นสิ่งที่โง่เขลาและหน้าซื่อใจคดในมุมมองวัฒนธรรมจีน

ถ้าชาวตะวันตกแบ่งความเห็นอกเห็นใจที่มีต่อสัตว์สักครึ่งหนึ่งมาปฏิบัติกับผู้คนต่างเชื้อชาติและประเทศอื่นๆ โลกจะน่าอยู่ขึ้นกว่านี้

ในเนื้อเรื่องเซิร์กเป็นเผ่าพันธุ์ในจักรวาลที่เป็นภัยคุกคามต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด พวกมันมีจิตใต้สำนึกที่แข็งแกร่ง มีการส่งต่อข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ และความสามารถในการสืบพันธุ์ที่เยี่ยมยอด การดำรงอยู่ของพวกมันคือการขยายและสืบพันธุ์อย่างต่อเนื่องในจักรวาลและกวาดล้างเผ่าพันธุ์อื่น

ถึงราชินีเซิร์กจะอยากอยู่ร่วมกับมนุษย์อย่างสงบสุข แต่เผ่าพันธุ์พวกมันก็เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อการมีชีวิตรอดของมนุษย์

การที่มนุษย์เห็นใจและไว้ชีวิตพวกเซิร์กเท่ากับเป็นการเก็บงูเข้าบ้าน จะรู้ได้ยังไงว่าราชินีเซิร์กไม่ได้โกหก จะมั่นใจได้ยังไงว่าราชินีเซิร์กจะไม่เปลี่ยนความคิดในอนาคต

ภายใต้สถานการณ์นี้ การกำจัดเผ่าพันธุ์เซิร์กจึงเป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุดสำหรับมนุษยชาติ

การเห็นใจและปกป้องพวกเซิร์กจะเป็นการทำให้มนุษย์ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง

Mission & Choice นำมุมมองวัฒนธรรมจีนมาใช้อย่างเต็มที่ในตีมนี้

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset