หลังจากอารมณ์เย็นลง เผยเชียนก็กดดูคลิปโปรโมตเกมหมึกหมอกม่านเมฆ
เนื้อหาคลิปทั้งหมดใช้สไตล์ภาพหมึกจีนโบราณ
หมึกหยดน้อยเปรอะกระจายบนกระดาษเขียนพู่กันสีเหลืองอ่อนก่อนจะกลายเป็นหมู่เมฆสีดำ ขณะที่รวมตัวและแยกจากกัน อสูรหน้าตาดุร้ายก็ถือกำเนิดขึ้นมา มันลอยวนแย้มเขี้ยวเล็บอยู่กลางท้องฟ้า กลุ่มเมฆดำเข้าปกคลุมเมืองโบราณที่อยู่ห่างออกไป…
ขณะเดียวกันเสียงทุ้มต่ำฟังดูมีอายุก็ดังขึ้น
“ตำนานกล่าวขานว่าในสมัยโบราณมีอสูรร้ายชนิดหนึ่งถือกำเนิดขึ้นในจีนจากความเคียดแค้น อสูรตนนี้ชื่อว่าฝันร้าย ลือกันว่าอสูรฝันร้ายสามารถถักทอความฝัน พวกมันกลืนกินความกลัว ความเกลียดชัง ความสิ้นหวัง ความไม่พอใจ และอารมณ์ด้านลบอื่นๆ และแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน…”
ภาพ CG ในคลิปเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามเสียงพากย์ อสูรฝันร้ายซ่อนตัวอยู่หลังหมู่เมฆดำบนท้องฟ้า สัตว์ร้ายรูปร่างแปลกประหลาดนับไม่ถ้วนโผล่ออกมาสร้างหายนะให้กับโลก
บัณฑิตคนหนึ่งตระหนักว่าตัวเองติดอยู่ในความฝัน มือซ้ายของเขาถือม้วนกระดาษ มือขวาถือพู่กัน เขาเริ่มใช้พลังแห่งการวาดพู่กันในการกำจัดสัตว์ร้ายในความฝัน หมายมั่นจะตามหาอสูรฝันร้ายที่แฝงกายอยู่ในความฝัน ในขณะที่อสูรฝันร้ายสร้างปีศาจร้ายออกมามากมายเพื่อหยุดยั้งบัณฑิต
ปีศาจนับไม่ถ้วนถาโถมเข้าหาบัณฑิต บัณฑิตตวัดพู่กันวาดภาพหินก้อนใหญ่ลงบนกระดาษ จากนั้นด้วยคลื่นแสงจากการตวัดพู่กัน หินก้อนใหญ่ก็ตกลงใส่หัวปีศาจทำลายร่างแหลกสลายเป็นควันดำทันใด
สัตว์ร้ายยกก้อนหินและต้นไม้ยักษ์ตรงหน้าผาปาใส่บัณฑิต แต่บัณฑิตก็ตวัดพู่กันลบสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้นให้หายวับไป
ปลายพู่กันสะบัดหมึกกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง หมอกสีดำกระจายไปทั่ว บัณฑิตห้ำหั่นกับอสูรร้ายอย่างดุเดือดขณะที่เสียงพากย์บรรยายเนื้อเรื่องภูมิหลังของเกม…
คลิปโปรโมตนี้จริงๆ ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ไม่ใช่ CG ที่เห็นเส้นผมและรูขุมขนได้อย่างชัดเจน เทียบไม่ได้กับคลิปโปรโมต GPL รอบฤดูใบไม้ผลิด้วยซ้ำ
แต่ความสวยงามของคลิปนี้อยู่ตรงที่มันเข้ากับตัวเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
‘หมึกหมอกม่านเมฆ’ เป็นเกมสองมิติมุมมองด้านข้าง ไม่ใช่เกม AAA ทุนสร้างสุด แถมยังเป็นเกมสไตล์จีน มีความเชื่อมโยงกับการวาดพู่กัน ดังนั้น CG สไตล์ภาพหมึกจีนโบราณจึงเข้ากับเกมมาก
นอกจากจะเน้นถึงเอกลักษณ์ของเกมแล้ว ยังลดทอนความยากในการสร้างลงด้วย
ถึงเดโม่ที่เพิ่งลงแพลตฟอร์มเกมทางการจะมีแค่สองด่านย่อยและมีความยาวแค่สิบนาที แต่ก็แสดงให้เห็นถึงระบบการเล่นหลัก
ตามรูปแบบการเล่นดั้งเดิมของเกมแนวสองมิติมุมมองด้านข้าง ตัวเกมมีการบังคับต่างๆ ตามแบบฉบับไม่ว่าจะเป็น การเคลื่อนไหว กระโดด กระโดดสองครั้ง โจมตี และป้องกัน ที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือการวาดพู่กันเมื่อคลิกสกิลวาด หน้าจอเกมจะเข้าสู่สภาวะหยุดนิ่ง เวลาจะผ่านไปช้ามากๆ
ผู้เล่นสามารถเลือกลบองค์ประกอบฉากในเกมหรือสร้างองค์ประกอบขึ้นมาใหม่โดยการวาดรูปร่างเฉพาะ เช่น วาดวงกลมเพื่อสร้างก้อนหินขนาดใหญ่และลากเส้นหยักเพื่อสร้างสายฟ้า
แต่ก็หมายความว่าผู้เล่นไม่สามารถเล่นโดยใช้จอยเกมได้ ต้องเล่นด้วยเมาส์หรือการสัมผัสจอเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าทางออฟฟิเชียลตั้งใจจะใช้แพลตฟอร์ม PC และมือถือเป็นสนามรบหลัก โดยให้สัญญาว่าผู้เล่นจะได้เล่นเวอร์ชัน PC ก่อน จากนั้นจึงเป็นเวอร์ชันมือถือ
ตามหลักแล้ว เวอร์ชันมือถือจะเล่นได้สะดวกกว่า แต่เวอร์ชัน PC มีผู้เล่นสายเกมอินดี้เยอะกว่าและพัฒนาได้ง่ายกว่า ดังนั้นพวกเขาจึงปล่อยเวอร์ชัน PC ออกมาก่อน
…
หลังได้ดูคลิปโปรโมตและเช็กเนื้อหาเกม สีหน้าของเผยเชียนก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมาราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูผู้น่าพรั่นพรึงอยู่
ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมมีคนซื้อล่วงหน้าไปเยอะมาก เกมดูน่าเล่นสุดๆ!
เกมเมอร์ที่ติดตามเกมอินดี้จีนเป็นกลุ่มที่สนับสนุนเกมในประเทศมากที่สุด หมึกหมอกม่านเมฆเป็นเกมสไตล์จีน อีกทั้งยังผสมผสานองค์ประกอบทางวัฒนธรรมดั้งเดิมอย่างการวาดพู่กันเข้ากับเกม จึงได้รับความรักใคร่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
แต่… แค่เดโม่เกมสร้างผลลัพธ์การประชาสัมพันธ์ได้ดีขนาดนี้เลยเหรอ
ไม่เห็นสมเหตุสมผลเลย
เผยเชียนคลิกคลิปโปรโมตในหน้ารายละเอียดเกมด้วยความงุนงง
…
คลิปเริ่มต้นในห้องมืด
เด็กสวมกางเกงขาสั้นและเสื้อกั๊กสีขาวซ่อนตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม กำลังพลิกอ่านนิตยสารเกมใต้แสงไฟสลัวของไฟฉาย
ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากด้านนอกประตู เด็กน้อยรีบปิดไฟฉายแล้วนอนลงทันที เขาซ่อนนิตยสารไว้ใต้หมอนก่อนจะแสร้งทำเป็นหลับ
ฉากเปลี่ยนเป็นเวลากลางวัน
พ่อแม่ของเด็กน้อยไม่อยู่บ้าน เด็กน้อยเปิดคอมพิวเตอร์อย่างระมัดระวัง บนจอเป็นเกมสแตนด์อโลนจีนสไตล์ภาพพิกเซล
เขาวางนิตยสารเกมไว้ด้านข้าง จากนั้นก็เริ่มเล่นเกมอย่างจริงจังพร้อมกับดูกลยุทธ์การเล่นในนิตยสารไปด้วย
ทันใดนั้นนาฬิกาบนผนังก็ตีบอกเวลา เด็กน้อยรีบปิดคอมพิวเตอร์ หยิบผ้าเปียกมาคลุมจอคอมพิวเตอร์ทรงอ้วน ก่อนจะรีบวิ่งกลับเข้าห้อง เปิดกระเป๋า หยิบการบ้านออกมากาง แล้วกลับไปเก็บผ้าเปียก
ผ่านไปไม่นาน ประตูกันขโมยก็เปิดออก พ่อของเด็กน้อยกลับมาถึงก็ตรงไปแตะจอคอมพิวเตอร์ดู เขาหันไปมองลูกที่กำลังอ่านหนังสืออย่างจริงจังก่อนจะหันไปจัดการธุระของตัวเอง
ฉากเปลี่ยนไปอีกครั้ง เด็กชั้นประถมกลายเป็นเด็กชั้นมัธยมปลาย แม้ว่าจะใช้นักแสดงคนละคน แต่ก็ยังบอกได้ว่าเป็นคนเดียวกันผ่านเครื่องแต่งกายของเขา
ในร้านอินเทอร์เน็ตควันโขมง เพื่อนบางคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมออนไลน์ เขาเป็นคนเดียวที่ยังเล่นเกมสแตนด์อโลนผลิตในประเทศอยู่ ซึ่งเป็นเกมเดียวกันกับที่เคยเล่นสมัยประถม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย
บางคนหัวเราะเยาะที่เขายังเล่นเกมเก่าแบบนี้อยู่ แต่เขาก็แค่ยิ้มให้ ไม่ได้ตอบโต้อะไร
ฉากเปลี่ยนไปอีกครั้ง เด็กมัธยมปลายคนนั้นโตเป็นผู้ใหญ่ เวลากลางดึกในห้องเช่าสภาพทรุดโทรมและรกรุงรัง สายตาของเขาจับจ้องที่จอคอมพิวเตอร์ขณะใช้เครื่องมือพัฒนาเกมสร้างเกมขึ้นมาอย่างขะมักเขม้น
ห้องสภาพยุ่งเหยิงและกองของระเกะระกะบ่งบอกถึงสภาพแร้นแค้นของเขา แต่เขาก็ยังตั้งหน้าตั้งตาจัดการงานผ่านคอมพิวเตอร์ตรงหน้าด้วยความกระตือรือร้นโนเวลกูดอทคoม
แต่เขาก็ถูกปลุกขึ้นมาด้วยเสียงเคาะประตูในตอนกลางวัน
หลังจากกลับเข้าห้องพร้อมบิลค่าเช่าและค่าสาธารณูปโภค เขาก็เงียบไปพักใหญ่
สุดท้ายเขาก็มองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ กดปิดโปรเจ็กต์เกมที่ทำค้างอยู่ในเครื่องมือพัฒนาเกมอย่างไม่เต็มใจ แล้วเปิดหน้าเรซูเม่ขึ้นมา
หลังจากส่งเรซูเม่หาหลายบริษัทเสร็จ เขาก็เลื่อนเมาส์ไปยังเครื่องมือพัฒนาเกมตามความเคยชิน แต่หลังจากลังเลอยู่นาน เขาก็ไม่ได้กดคลิกเข้าโปรแกรม
กล้องแพนไปรอบๆ เขาเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วพบสูทที่ไม่ได้ใส่มาพักหนึ่ง จากนั้นก็ไปยืนสำรวจตัวเองตรงกระจกขนาดเต็มตัว
เขาสวมชุดสูทเรียบร้อยและจัดผมจนดูดีต่อหน้ากล้อง แต่ดวงตากลับดูหม่นหมองขณะมองภาพตัวเองเบื้องหน้ากระจกด้วยสายตาว่างเปล่า
ในกระจกเขายังสวมเสื้อกั๊กสีขาว กางเกงขาสั้น และรองเท้าเตะ ผมเผ้ายุ่งเหยิง แต่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเปี่ยมด้วยแววความหวัง
ภาพทั้งสองขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง บ่งบอกว่าเขายังอยากเป็นนักพัฒนาเกมอินดี้อยู่
ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจเบาๆ หยิบเรซูเม่ที่ปรินต์วางไว้บนโต๊ะ แล้วเตรียมออกไปทำงาน
แต่ตอนนั้นเองเขาก็พบว่าในกล่องจดหมายที่ประตูมีจดหมายเชิญสีทองอยู่ บนจดหมายมีคำว่า ‘โปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลาน’ เขียนไว้
ในที่สุดรอยยิ้มแห่งความคาดหวังก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
…
คลิปโปรโมตจบลงตรงนี้ ถึงจะไม่มีการแนะนำเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานโดยละเอียด แต่ก็ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลาน
ส่วนเนื้อเรื่องต่อจากตอนจบของคลิป คนส่วนใหญ่พอเดาต่อได้ นักพัฒนาเกมอินดี้คนนี้ได้รับเงินทุนเพื่อทำฝันของตัวเองต่อ ทำโปรเจ็กต์เกมที่คั่งค้างอยู่จนเสร็จ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาวงการเกมอินดี้จีน
คลิปนี้ใช้เวลาถ่ายทำและตัดต่อสั้นมาก
ในปักกิ่งมีอาคารเก่าจำนวนมากที่ยังให้กลิ่นอายของศตวรรษที่แล้ว และร้านเกมจำนวนมากที่ยังมีเครื่องเกมคอนโซลและจอคอมพิวเตอร์อ้วนใหญ่ ภาพแห่งอดีตนี้ทำให้หลายคนหวนนึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก
เนื้อหาคลิปอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดมากมาย
เกมสแตนด์อโลนจีนพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในยุคจอคอมพิวเตอร์ทรงอ้วนได้รับความนิยม
แผงลอยขายหนังสือข้างโรงเรียนขายนิตยสารเกมจำนวนมาก ตอนนั้นเด็กนักเรียนหลายคนที่ไม่มีเวลาเล่นเกมมากนักจะซื้อนิตยสารเกมมาอ่านซ้ำไปมา ถึงจะไม่เคยได้เล่นหรือไม่สามารถซื้อเกมในนิตยสารได้ พวกเขาก็ยังสนุกสนานกับเนื้อหาในนิตยสาร
เด็กน้อยแอบเปิดคอมพิวเตอร์เล่นเกมในขณะที่พ่อแม่ยังไม่กลับบ้านจากการทำงาน แต่ก็ต้องไม่ลืมหยิบผ้าเปียกมาวางไว้เพื่อให้จอเย็นลง ไม่อย่างนั้นพ่อแม่จะรู้ทันทีที่แตะ และเขาย่อมได้เจอศึกหนักแน่
ในยุคร้านอินเทอร์เน็ตรุ่งเรือง เกมออนไลน์พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนเกมสแตนด์อโลนจีนตกต่ำลงเรื่อยๆ
ตัวเอกในคลิปรักเกมสแตนด์อโลนจีนมาก แต่การพัฒนาเกมสแตนด์อโลนในจีนยังมีช่องว่างอยู่ ในขณะที่เพื่อนร่วมชั้นหันไปเล่นเกมออนไลน์หมด ตัวเอกยังคงดื้อดึงเล่นเกมสแตนด์อโลนจีนจากหลายปีก่อนอยู่อย่างนั้น
สุดท้ายเขาก็โตขึ้นมาเป็นนักพัฒนาเกมที่อยากทำฝันให้เป็นจริง แต่เพราะสภาพความเป็นอยู่อัตคัดขัดสน เขาจึงต้องทำใจเลือกอย่างยากลำบากระหว่างความฝันกับความเป็นจริง…
เนื้อหาทั้งหมดกินใจคนที่ได้ดูสุดๆ!
หลังจากค้นดูในอินเทอร์เน็ตอยู่พักหนึ่ง เผยเชียนก็เข้าใจว่าทำไมเกมหมึกหมอกม่านเมฆถึงได้รับความสนใจสูงขนาดนี้ในเวลาสั้นๆ
เดโม่เกมที่สนุกและน่าสนใจเป็นเพียงเหตุผลหนึ่ง เหตุผลสำคัญกว่านั้นคือคลิปโปรโมตเกมหมึกหมอกม่านเมฆและโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานที่อัปโหลดลงเว็บอ้ายลี่เต่าได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม!
คลิปโปรโมตโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานในเว็บอ้ายลี่เต่าและเว็บไซต์ลงวิดีโอต่างๆ ถูกดันไปอยู่หน้าแรกสุดของหมวดเกม แถมความนิยมก็ยังพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผู้พัฒนาเกมอินดี้ซึ่งไม่เป็นที่รู้จักหลายคนแห่แสดงความคิดเห็นทั้งในช่องคอมเมนต์ใต้คลิปและคอมเมนต์วิ่งผ่านหน้าจอ
“คลิปนี้ทำฉันร้องไห้เลย! เด็กคนนั้นมันฉันนี่ แค่ฉันเลิกสร้างเกมไปแล้ว…”
“พ่อแม่แตะจอคอมพ์ดูทันทีหลังกลับบ้านจากไปทำงานนี่โคตรจริง! เป็นแบบนี้กันทั้งประเทศเลยเหรอ”
“เฮ้อ ฉากในร้านอินเทอร์เน็ตเศร้ามาก พวกที่ชอบเกมสแตนด์อโลนเหมือนเรากลายเป็นพวกนอกคอก เกมสแตนด์อโลนกำลังรุ่งเรืองเลยตอนที่เราเป็นเด็ก แต่สุดท้ายก็โดนเกมออนไลน์ครองตลาดหมด เฮ้อ”
“จริงๆ แล้วก็ยังโอเคอยู่นะ ตอนนี้กำลังฟื้นฟูทีละนิด เกมอินดี้มีให้เห็นเพิ่มขึ้น”
“เทียบกับต่างประเทศถือว่ายังตามหลังอยู่มาก!”
“‘โปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลาน’ อุทิศตนให้กับการสนับสนุนเกมอินดี้จีนเหรอ โคตรจะคนดี! แบบนี้ต้องสนับสนุนแล้ว!”