“รูตเถิงต๋าบ้าอะไร ฉันจงใจไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานขนาดนี้ ทำไมยังเชื่อมโยงมาถึงฉันได้อีก”
เผยเชียนไม่รู้จะเอาความคับข้องใจไปลงที่ไหน
เผยเชียนเองก็ไม่ต่างจากชิวหง เขามัวแต่สนใจศูนย์พัฒนาเกมอินดี้จนลืมสตูดิโออินดี้ที่ไม่ได้อยู่ในศูนย์พัฒนาจนโดนแทงหลังยับอย่างไร้ความปรานี!
ยิ่งอ่านเผยเชียนก็ยิ่งหงุดหงิด เกมแนวทางการเอาตัวรอดสำหรับวัยทำงานสร้างชื่อเสียงและยอดขายถล่มทลาย ถ้าสตูดิโอปล่อยอัปเดตและทำ DLC ที่น่าสนใจออกมา ก็น่าจะขายไปได้เป็นปีอย่างไม่มีปัญหาอะไร
ถึงตอนนั้นแม้จะทำเงินได้ไม่เยอะ แต่โปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานก็ได้ส่วนแบ่งอยู่ดี น่าหงุดหงิดใจจริงๆ!
ข่าวดีเพียงอย่างเดียวคือ อีกไม่กี่วันจะถึงวันสรุปบัญชีแล้ว รายได้ส่วนใหญ่น่าจะล่าช้าออกไปจนถึงเดือนหน้า ถือว่าในโชคร้ายยังมีโชคดีอยู่
เผยเชียนถอนหายใจเงียบๆ แล้วเริ่มตรวจสอบแผนทุ่มผลาญเงินกะทันหันต่อไป
…
ตอนเย็น ได้เวลาเลิกงานแล้ว
เผยเขียนแวะไปร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูใกล้ๆ จากนั้นก็หยิบมือถือมาเปิดไลฟ์สตรีมของหม่าหยางไว้เพื่อรอไอ้หม่ามาไลฟ์รีวิวเครื่องทะเลาะอัตโนมัติ
เผยเชียนเชื่อมั่นในตัวหม่าหยางมากๆ
เขาบอกไอ้หม่าไปแล้วว่าให้เข้มงวดกับเครื่องทะเลาะอัตโนมัติ เจาะลึกทุกรายละเอียด และบอกปัญหาตามความเป็นจริง หมอนั่นก็น่าจะทำตามที่เขาบอกอย่างจริงจัง
เฉินยู่เฟิงเป็นพนักงานที่เชื่อฟังไอ้หม่ามาก แถมยังตั้งใจทำงานอย่างรอบคอบและขยันขันแข็ง เพราะงั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหาใหญ่อะไร
สรุปแล้วเขาหวังว่าไลฟ์สตรีม ‘รีวิวสินค้า’ นี้จะกีดกันไม่ให้คนดูที่กำลังเล็งเจ้าเครื่องนี้อยู่ไม่เข้ามาซื้อ ยอดขายเครื่องทะเลาะอัจฉริยะจะได้น้อยลง ตุนของเยอะขึ้น และทำเงินได้ลดลง
ไม่นานก็ถึงเวลา
หม่าหยางเริ่มไลฟ์สตรีมอย่างเป็นทางกลางท่ามกลางคอมเมนต์วิ่งผ่านหน้าจอมากมาย
หลังจากสั่งสมชื่อเสียงมานานทั้งจากการแจกเงินบนเว่ยป๋อและการไลฟ์สตรีมรีวิวสินค้า ไลฟ์สตรีมของไอ้หม่าก็มีกลุ่มคนดูประจำ
บางคนดูไลฟ์สตรีมไอ้หม่าเพื่อเลี่ยงไม่ให้ตัวเองหลงกลคนขาย พวกเขาจะหลีกเลี่ยงสินค้าคุณภาพต่ำ บางคนดูเอาสนุกล้วนๆ
ขณะเดียวกัน ทีมงานของหม่าหยางก็ยุ่งมาก
หลังจากทำงานกันมาตลอดทั้งวัน แก้บทกันหลายหน จนในที่สุดก็ได้ดราฟต์สุดท้าย ช่วงต่างๆ ของการไลฟ์รีวิวจัดเตรียมไว้หมดแล้ว รวมถึงช่วงถอดประกอบเครื่องและทดสอบฟังก์ชันต่างๆ พวกเขาเตรียมการไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด
อีกอย่างหม่าหยางไม่ใช่คนเดียวที่ได้ปรากฏตัวในไลฟ์สตรีมอีกแล้ว บางครั้งเฉินยู่เฟิงจะมาโผล่ในไลฟ์สตรีมในฐานะผู้ช่วยไอ้หม่าเพื่อช่วยงานด้านเทคนิคบางอย่าง
หม่าหยางไล่สายตาดูคอมเมนต์ ใบหน้าใหญ่ยาวเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ
ดูจำนวนคอมเมนต์วิ่งผ่านหน้านจอกับความนิยมนี่สิ ต้องขอบคุณพี่เชียนที่ช่วยปั้นฉันขึ้นมา!
ในคอมเมนต์วิ่งผ่านหน้าจอ ชาวเน็ตกำลังเดากันว่าวันนี้จะรีวิวอะไร
“ไหนดูซิ ‘สินค้าผู้โชคดี’ ที่ได้รับเลือกวันนี้คืออะไร”
“เอาออก! ขอโทษ! เรียกคืน!”
“หลายบริษัทน่าจะกำลังกลัวจนตัวสั่น เตรียมโดนลงดาบแห่งความยุติธรรมได้เลย!”
“บอสหม่า เลิกเสียเวลาได้แล้ว เริ่มเลยเหอะ รอไม่ไหวแล้ว!”
ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นขาประจำ จึงไม่จำเป็นต้องสุภาพมาก หม่าหยางอ่านทวนบทคร่าวๆ ก่อนจะเริ่มเข้าช่วงรีวิวอย่างเป็นทางการ
“วันนี้ผมจะมารีวิวลำโพงบางส่วนให้ทุกคนได้ดูกัน ซึ่งตอนนี้วางอยู่หน้าผม”
กล้องซูมออกเล็กน้อยเพื่อจับภาพสินค้าบนโต๊ะ มีลำโพง ลำโพงซาวด์บาร์ บางตัวเป็นแถบยาว บางตัวเป็นทรงกระบอก บางตัวมาเป็นเซตรูปทรงต่างๆ
ในบรรดาลำโพงที่วางเรียงราย เครื่องทะเลาะอัจฉริยะโดดเด่นที่สุดจนดึงความสนใจจากทุกคนไปได้ทันที
ถึงลำโพงตัวอื่นจะมีการออกแบบเฉพาะตัว แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับเครื่องทะเลาะอัจฉริยะ
กล่องสี่เหลี่ยมสีดำมาพร้อมสวิตช์โลหะด้านบนดูเหมือนงานศิลปะสมัยใหม่ ไม่เหมือนสินค้าเทคโนโลยีเลยสักนิด แตกต่างจากลำโพงตัวอื่นๆ ชัดเจน
เครื่องหมายคำถามปลิวว่อนไลฟ์สตรีม
“หา? นั่นสินค้าของเถิงต๋าเองไม่ใช่เหรอบอสหม่า”
“ทำไมกัน นี่บอสหม่าจะลงดาบแห่งความยุติธรรมกับครอบครัวตัวเองเหรอ แม้แต่บอสฉางก็ไม่ปรานี?”
“ทำเหมือนไม่รู้ว่าระหว่างบอสหม่ากับบอสฉาง ใครตำแหน่งสูงกว่ากัน”
“บอสหม่าต้องสูงกว่าอยู่แล้ว บอสหม่าเป็นรองแค่บอสเผยในเถิงต๋า พูดอะไรของนาย”
“บอสหม่าคงไม่โปรโมตให้บอสฉางเพราะมีมิตรภาพต่อกันใช่มั้ย อย่านะ ไลฟ์สตรีมจะเปลี่ยนไปเลย! ถึงสินค้าของเถิงต๋าจะดี แต่บอสหม่าก็ไม่จำเป็นต้องมาโฆษณาเองแบบนี้!”
“บอสหม่ามาไลฟ์สตรีมช้าไป ฉันซื้อเครื่องทะเลาะอัจฉริยะมาแล้ว!”
ผู้ชมสับสนกันหมด
หม่าหยางไม่หวั่นไหวแม้แต่น้อย เขาดำเนินรายการต่อตามบท
เพราะยังไงเขาก็จัดไลฟ์สตรีมมาหลายครั้งและรีวิวของมาหลายอย่าง ผ่านอะไรมากมาย แค่ครั้งนี้ต่างออกไปตรงที่ต้องมารีวิวสินค้าของตัวเอง
“ลำโพงที่ผมจะมาแนะนำวันนี้เป็นสินค้าที่ซื้อได้ตามสภาพการเงินของคุณเอง ถึงจะโดนต้ม แต่ก็เสียหายไม่มาก
“ตัวแรกคือลำโพงซาวด์บาร์นำเข้าราคาห้าพันห้าร้อยหยวน สเป็กคือ… ตัวที่สอง…
“ส่วนเครื่องทะเลาะอัตโนมัติตัวนี้ ถึงจะขายราคาสองพันกว่าหยวน แต่สเป็กต่างๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับลำโพงราคาสองพันหยวนที่วางขายในจีน…”
หม่าหยางพูดตามบทที่เฉินยู่เฟิงเขียนไว้ให้และแนะนำลำโพงทุกตัว
สไตล์การไลฟ์สตรีมหม่าหยางจะบอกทิศทางของสินค้าไว้ตั้งแต่ประโยคเปิด ถ้าเป็นสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพและไม่ตรงกับมาตรฐานสิ่งแวดล้อม เขาจะจั่วหัวว่า ‘แนะนำสินค้าที่ไม่ควรซื้อ’ แต่ถ้าเป็นสินค้ามีคุณภาพ คุ้มค่ากับราคา และค่อนข้างเป็นที่นิยม จะจั่วหัวว่า ‘ซื้อตามสภาพการเงินของคุณ’
แต่ไม่ว่าจะพูดเปิดแบบไหน เขาก็เจาะลึกถึงรายละเอียดทุกแง่มุมของสินค้า รวมไปถึงข้อดีและข้อเสีย
นอกจากนั้น จะไม่มีการพูดประมาณว่า ‘ของมันต้องมี’ เด็ดขาด เพราะลูกค้าจะซื้อหรือไม่ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหม่าหยาง
มีผู้ชมไม่มากที่เข้าใจเรื่องค่าพารามิเตอร์ของลำโพง อย่างมากก็เปรียบเทียบตัวเลขได้ ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงได้แต่ฟังช่วงนี้ผ่านๆ
แต่เขาก็ตัดช่วงนี้ออกไม่ได้ เพราะถ้าตัดออกจะดูไม่มืออาชีพ
หลังแนะนำสเป็กเครื่องเสร็จ ผู้ชมก็จะมีภาพในหัวคร่าวๆ โดยทั่วไปคือ จ่ายเท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น แบรนด์ต่างชาติจะราคาแพงกว่าแบรนด์จีนสามถึงห้าพันหยวน เงินที่จ่ายไปไม่สูญเปล่าแน่นอน อย่างน้อยก็ในแง่ของสเป็กเครื่อง
แน่นอนว่าแบรนด์ต่างชาตินั้นมีความพรีเมียมสูงกว่า
ที่คนดูหลายคนแปลกใจคือบอสหม่าไม่ได้พูดอวยเครื่องทะเลาะอัจฉริยะ แต่บอกข้อเสียของมันแบบขวานผ่าซาก เช่นเรื่องความคุ้มค่าต่อราคา
ต่อไปเป็นช่วง ‘แนะนำรายละเอียด’
มีคนรับผิดชอบถ่ายภาพรายละเอียดต่างๆ ของลำโพงโดยเฉพาะ หลังจากแนะนำรายละเอียดภายนอกแล้ว เฉินยู่เฟิงก็เริ่มถอดประกอบลำโพงเพื่อโชว์รายละเอียดด้านในโuเวลกูดอทฺคoม
พอแกะรายละเอียดด้านในออกมาแสดง ความแตกต่างในสไตล์ของลำโพงก็เผยให้เห็น กล้องโชว์รายละเอียดของลำโพงอย่างชัดเจน
ส่วนประกอบต่างๆ ใช้ของแบรนด์อะไรบ้าง การจัดเรียงสายไฟเป็นระเบียบไหม งานเชื่อมทำได้ดีรึเปล่า มีฟองน้ำกันเสียงไหม วัสดุที่ใช้ทำฝาหลังเป็นยังไง…
รายละเอียดทั้งหมดแสดงให้ผู้ชมในไลฟ์สตรีมเห็นหมด
ถึงผู้ชมจะไม่รู้จักแบรนด์ของชิ้นส่วนต่างๆ แต่ก็พอจะเห็นภาพงานประกอบลำโพงคร่าวๆ
“เหมือนลำโพงของแบรนด์ที่ร่วมมือกันจะลดต้นทุนส่วนประกอบด้านในเลย! สายไฟพันยุ่งไปหมด ดูไม่ค่อยพิเศษอะไรเลย…”
“ของนำเข้าใช้ของคุณภาพดีกว่า”
“แต่แบรนด์จีนบางแบรนด์ก็ทำได้ดีเหมือนกันนะ ห่างชั้นกับแบรนด์ต่างชาติไม่มากเท่าที่คิด”
“ทำไมงานประกอบด้านในทำออกมาไม่สมกับราคาหกพันหยวนเลย ไม่คุ้มค่ากับราคาเลยจริงๆ”
“ดูๆ แล้วงานประกอบของเครื่องทะเลาะอัจฉริยะก็ทำได้ไม่เลวเลย เหมือนจะได้โรงงานที่เชื่อถือได้แฮะ”
“โครงสร้างกลไกภายในสวยงามมาก ทุกอย่างเข้ากันลงตัว มองแล้วรู้สึกถึงความสวยงามของเครื่องจักรเลย!”
“เถิงต๋าจริงจังมากเวลามองหาผู้ผลิตที่จะร่วมงานด้วย ยังไงก็ต้องเป็นโรงงาน OEM ที่เชื่อถือได้อยู่แล้ว ดูได้จากมือถือ OTTO!”
“ใช่เลย เครื่องทะเลาะอัจฉริยะชนะลำโพงตัวอื่นขาดลอยเรื่องโครงสร้างภายใน!”
“เอาโครงสร้างภายในมาเปรียบเทียบแบบนี้ไม่ยุติธรรมเลย เพราะเป็นสินค้าคนละประเภท!”
…
เผยเชียนอ่านคอมเมนต์วิ่งผ่านหน้าจอบนไลฟ์สตรีมแล้วได้แต่เกาหัวด้วยความงุนงง
“เอ่อ…”
เขาเป็นคนบอกให้หม่าหยางแนะนำรายละเอียดเพิ่ม
ว่ากันตามตรงแล้ว การผลิตเครื่องทะเลาะอัจฉริยะนั้นส่งต่อให้ผู้ผลิตลำโพงจากภายนอกเป็นคนทำให้ แถมราคายังสูงถึงสองพันกว่าหยวน ถึงเครื่องทะเลาะอัจฉริยะจะใส่ใจลูกค้า ใส่ส่วนประกอบภายในมาเพียงพอและประกอบได้ดี ก็ไม่ควรจะชนะลำโพงราคาไม่กี่พันได้!
แต่ปัญหาคือมันไม่ใช่แค่ลำโพง แต่เป็นเครื่องทะเลาะด้วย!
โครงสร้างหลักของเครื่องทะเลาะทำออกมาได้สวยงามมาก โครงสร้างกลไกภายในเชื่อมต่อกัน เหมือนนาฬิกาตอนถอดประกอบ ดูสวยงามมาก
กลับกัน ลำโพงตัวอื่นไม่มีอะไรมากกว่าแผงวงจร ฟองน้ำเก็บเสียง ดอกลำโพง และอื่นๆ ไม่ว่างานประกอบจะละเอียดขนาดไหน ก็เทียบชั้นกับโครงสร้างภายในของเครื่องทะเลาะอัจฉริยะไม่ได้เลย!
เพราะนอกจากตัวลำโพงแล้ว เครื่องทะเลาะอัจฉริยะมีโครงสร้างกลไกที่ซับซ้อน ซึ่งเพิ่มจุดเด่นในเรื่องรูปลักษณ์เข้ามา
อีกอย่างเครื่องทะเลาะอัจฉริยะยังมีการออกแบบแยกส่วนที่น่าสนใจมาก ลำโพงเสียงรอบทิศทางสามารถต่อเข้ากับเครื่องทะเลาะอัจฉริยะตัวหลักเพื่อชาร์จได้ การออกแบบสุดล้ำนี้ทำให้มีแต้มต่อเพิ่มขึ้น
ถึงหม่าหยางจะไม่ได้เน้นเครื่องทะเลาะอัจฉริยะเป็นพิเศษหลังจากแนะนำเครื่องและจงใจติไปเรื่องหนึ่ง แต่รูปลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร งานประกอบอันสวยงาม และรายละเอียดต่างๆ ก็ดึงดูดความสนใจของใครหลายคนได้
ถึงจะแพงกว่าลำโพงราคาสองพันหยวนตัวอื่นอยู่เล็กน้อย แต่ดีไซน์ก็เป็นเอกลักษณ์มาก!
ใครซื้อไปวางที่บ้านก็มั่นใจได้เลยว่าแขกที่มาบ้านต้องสงสัยเจ้าเครื่องนี้แน่ ได้หน้าเพิ่มตอนอธิบายการทำงานของมันอีก
‘การพยายามติ’ ของหม่าหยางนั้นดูเข้มงวดกับเครื่องทะเลาะเกินไป ทำให้ส่งผลด้านจิตวิทยาย้อนกลับกันผู้ชมหลายคน
ถึงนายจะบอกว่าไม่ดี แต่ฉันคิดว่าดี!
ถึงนายจะบอกว่าไม่คุ้ม แต่ฉันว่าคุ้ม!
แม้จะมีคอมเมนต์วิ่งผ่านหน้าจอที่คิดแบบนี้แค่เล็กน้อย แต่ก็ถือว่าเป็นกระแสที่อันตรายอยู่ดี
เผยเชียนจิบเครื่องดื่มเงียบๆ เพื่อสงบใจตัวเอง
“ไม่เป็นไรน่า ทั้งหมดนี่แค่เรื่องผิวเผิน เดี๋ยวมีรีวิวฟังก์ชันใช้งานจริงของลำโพงอีก
“พอรีวิวเรื่องคุณภาพเสียง เดี๋ยวก็เห็นกันเอง เพราะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้เท่านั้น”
เผยเชียนพยายามสงบอารมณ์และอ่านคอมเมนต์ต่อ
…
หลังจากนำเสนอโครงสร้างภายในของลำโพง เฉินยู่เฟิงก็ประกอบลำโพงกลับไปเหมือนเดิมแล้วเข้าสู่ช่วงทดลองเสียง
ช่วงนี้มีอุปกรณ์ระดับมืออาชีพเตรียมไว้เพื่ออำนวยความสะดวกในการรับเสียงจากรอบทิศทาง
เพราะสินค้าบางชิ้นเป็นลำโพงซาวด์บาร์ พวกเขาต้องเตรียมอุปกรณ์พิเศษไว้รับเสียงเพื่อแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของเสียงรอบทิศทาง
แน่นอนว่าถึงจะใช้ลำโพงและอุปกรณ์บันทึกเสียงที่ดีที่สุด แต่ผู้ชมก็ฟังเสียงจากลำโพงหรือหูฟังของตัวเองอยู่ดี
อุปกรณ์เหล่านี้จะทำให้คุณภาพเสียงผิดเพี้ยนไปมาก
ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็พอจะแยกความต่างด้านคุณภาพเสียงของลำโพงแต่ละตัวได้คร่าวๆ
เฉินยู่เฟิงต่ออุปกรณ์ต่างๆ อย่างรวดเร็วและเปิดเพลงเดียวกันกับลำโพงทุกตัว แต่ละตัวจะได้เล่นท่อนสั้นๆ
เหล่าเทพด้านการฟังเสียงในคอมเมนต์วิ่งผ่านหน้าจอเริ่มประเมิน
“ตกรอบไปก่อน เบสห่วยมาก!”
“เสียงดูอื้อๆ ไม่ผ่าน”
“ตัวนี้โอเค”
“เฮ้ย ตัวนี้ดีเลย ชนะตัวเมื่อกี้เลย!”
“ลำโพงหลักหมื่นนี่ระบบเสียงดีจริงๆ เห็นความแตกต่างได้เลยกับลำโพงตัวไม่กี่พัน นี่สินะเสียงของเงินตรา”
“เอ๊ะ เสียงของเครื่องทะเลาะอัจฉริยะจริงๆ ก็ไม่เลวเลยนะ เสียงออกมาค่อนข้างสมดุล ไม่ต่างกับลำโพงตัวละห้าหกพันเลย”
“จริงด้วย เสียงแหลมเพราะ เสียงกลางแม่นยำ เสียงเบสไปได้ต่ำดี ได้ยินชัดเจน ราคาก็ไม่เลว”
“แบรนด์ต่างชาติมีความพรีเมียมสูงมาก เครื่องทะเลาะอัจฉริยะผลิตในจีน ราคาควรจะเป็นมิตรกว่านี้”
เขาเปิดหลายเพลงต่อกันให้ได้ทั้งโน้ตสูงและโน้ตต่ำ
เหล่าเทพด้านการฟังเสียงประเมินและสรุปผลผ่านคอมเมนต์วิ่งผ่านหน้าจอว่าเสียงของเครื่องทะเลาะอัจฉริยะ… ไม่แย่เลย!
เสียงไม่ได้ต่างจากลำโพงระดับไฮเอนด์มากนัก
พิจารณาจากราคาและความเป็นเอกลักษณ์ก็ถือว่าคุ้มราคาทีเดียว