ถ้อยคำมากมายทำฉีเหยียนตกตะลึง
ความคิดแรกของเธอคือ เหลวไหลไปหน่อย
งานแข่งขันสตรีตฟู้ดนี้เป็นแค่หนึ่งในกิจกรรมมากมายที่เมิ่งชั่งวางแผนไว้ ฉีเหยียนมีส่วนร่วมมาตลอด เธอจึงรู้ดีว่าในใจของเมิ่งชั่ง งานนี้ก็เหมือนกิจกรรมส่งเสริมการตลาดอื่นๆ จัดขึ้นเพื่อสร้างกระแสนิยมให้กับสาวหน้านิ่งเท่านั้น
ดังนั้นตอนที่เมิ่งชั่งวางแผนงานนี้ เขาไม่ได้คิดมากขนาดนั้น
ส่วนบอสเผย…
ก็จริงที่บอสเผยขอให้เปลี่ยนรายละเอียดงาน โดยให้เฮ่อเต๋อเซิ่งมาบอกต่อให้เปลี่ยนจากการบันทึกภาพมาเป็นการไลฟ์สตรีม และให้กรรมการเปลี่ยนการประเมินสาวหน้านิ่งใหม่
แต่การเปลี่ยนแปลงเรื่องง่ายๆ สองอย่างจะนำไปสู่ข้อสรุปสุดซับซ้อนได้จริงเหรอ
หรือผู้เขียนที่ตั้งตัวเป็นสื่อคนนี้จะเข้าใจจุดประสงค์ของบอสเผยผิด
หลังเมิ่งชั่งออกจากบริษัท ฉีเหยียนก็ได้ดูแลสาวหน้านิ่งต่อ เธอมีส่วนร่วมในการวางแผนงานแข่งขันสตรีตฟู้ดทั้งหมด จึงรู้สึกว่าอาจจะเป็นการตีความที่ผิด เพราะเธอมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในกระบวนการจัดงาน
แต่พอคิดดูอีกที เธอก็คิดว่าระดับความเข้าใจของตัวเองอาจจะต่ำเกินไป เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับอาชีพของเธอ เพราะงั้นก็ต้องคิดให้มากขึ้น
เธอลุกไปหยิบแอปเปิลจากในตู้เย็น จากนั้นก็อ่านบทความตั้งแต่ต้นจนจบอีกรอบ ก่อนจะจมสู่ภวังค์ความคิดระหว่างกัดแอปเปิล
“มีบางจุดที่ฉันอธิบายไม่ได้จริงๆ ด้วย
“บอสเผยมีงานรัดตัวตลอด สาวหน้านิ่งถือว่าเป็นกิจการเล็กๆ ที่มีความสำคัญน้อยที่สุดในบรรดากิจการต่างๆ ของบอส แม้แต่กิจการใหญ่อย่างโมหยูเดลิเวอรี่ บอสเผยก็ไม่ถามไถ่อะไรมากนัก แล้วทำไมถึงมาสนใจสาวหน้านิ่ง
“ฉันรายงานข้อมูลกับบอสเฮ่อโดยตรง จากนั้นบอสเฮ่อก็รวบรวมข้อมูลทั้งหมดของบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งไปรายงานกับบอสเผย ดูจากโครงสร้างขององค์กรทั้งหมดแล้ว เห็นได้ชัดว่าสาวหน้านิ่งเป็นกิจการระดับล่างๆ
“แต่บอสเผยก็ยังแบ่งเวลาจากตารางงานที่ยุ่งมากๆ มาให้คำแนะนำงานแข่งขันสตรีตฟู้ด
“กิจกรรมส่งเสริมการตลาดถูกยกเลิกหมด ยกเว้นงานแข่งขันนี้ แถมบอสเผยยังสั่งลงมาเองให้เปลี่ยนเป็นไลฟ์สตรีมและบอกให้กรรมการวิจารณ์ตามความเป็นจริง…
“หรือว่าจะเป็นอย่างที่ผู้เขียนบทความบอกจริงๆ ว่านี่คือวิธีที่ใช้ความพยายามเพียงน้อยนิดเพื่อแก้ปัญหาใหญ่โต
“บอสเผยบังเอิญเห็นงานแข่งขันสตรีตฟู้ดในแคมเปญการตลาดของเมิ่งชั่ง บอสเผยตัดสินใจหยิบมาใช้และปรับแก้จุดที่ดูไม่ค่อยสำคัญสองอย่างในงาน แต่กลับเปลี่ยนธรรมชาติของงานไปได้อย่างสิ้นเชิง?”
พอเปิดรับความคิดนี้ ฉีเหยียนก็อ่านบทความอีกรอบแล้วพบว่ารายละเอียดต่างๆ ตรงกันหมดเลย!
เธอถึงบางอ้อทันที “เข้าใจแล้ว ฉันโง่เกินไปจนไม่เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงของบอสตัวเอง!
“บอสเผยไม่ได้พูดออกมาชัดเจน น่าจะเพราะอยากทดสอบความสามารถในการทำความเข้าใจของผู้จัดการคนใหม่! หลังจบงานแข่งขัน ถ้ายังตีความจุดประสงค์ของบอสเผยไม่ออกและไม่ยอมปรับแก้ ฉันก็อาจจะโดนแทนที่ได้!
“ถึงจะไม่ได้โดนแทนที่ทันที แต่ความประทับใจของบอสเผยที่มีแต่ฉันต้องตกลงแน่นอน บอสเผยจะคิดว่าฉันเป็นลูกน้องที่ใช้การไม่ได้…
“เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ โชคดีที่ได้ผู้เขียนบทความนี้ช่วยไว้!”
ฉีเหยียนดีใจอยู่ภายใน ก่อนจะรีบจดบันทึกประเด็นสำคัญในบทความไว้
จากการตีความของบทความ จริงๆ แล้วบอสเผยกำลังสื่อสารปรัชญาการดำเนินธุรกิจแบบใหม่ให้ลูกค้าทุกคนและพนักงานของสาวหน้านิ่งทั้งหมดผ่านงานแข่งขันสตรีตฟู้ด
อย่าเอาแต่โม้แล้วไม่ลงมือทำเหมือนเมิ่งชั่ง แต่จงอยู่กับความเป็นจริงและควบคุมรายละเอียดต่างๆ อย่างเข้มงวด ขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อเอามาปรับรสชาติและรสสัมผัสของบะหมี่เย็นย่างและเมนูอื่นๆ
พวกเขาไม่ควรทำตัวเหมือนเมิ่งชั่งที่ทำไม่ได้เหมือนปากพูด แล้วหันมาให้คุณค่าพรสวรรค์ พวกเขาต้องเคารพและให้ค่าร้านอาหารข้างทาง ต้องมองให้ออกว่าพวกเขาโดดเด่นยังไง
ทิ้งกลยุทธ์ทางการตลาดเกินจริงไปให้หมด ไม่ว่าจะเป็นการดูแลกิจการหรือการประชาสัมพันธ์ ทุกอย่างต้องอยู่บนความเป็นจริง พวกเขาต้องจริงใจกับลูกค้า อย่าพยายามชักจูงหรือหลอกลวงลูกค้าเด็ดขาด
หลังจากสรุปประเด็นเสร็จ ฉีเหยียนก็ทบทวนเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ ยิ่งพิจารณาดูเธอยิ่งรู้สึกว่าทุกอย่างสมบูรณ์แบบและสมเหตุสมผลมาก
“ว่ากันตามตรง วิธีการที่บอสเผยใช้สามารถเรียกได้ว่าเป็นการ ‘ทุบทิ้งแล้วสร้างใหม่’
“บอสตระหนักถึงสถานการณ์ของสาวหน้านิ่งเป็นอย่างดี ชื่อเสียงพังป่นปี้ รสชาติอาหารก็ไม่ได้ดี เจอทางตันแล้ว ลูกค้าทุกคนต่างมองว่าเราเป็น ‘เด็กเลี้ยงแกะ’ พวกเขาไม่ไว้ใจสาวหน้านิ่งอีกต่อไป
“ตอนนี้ไม่ว่าจะโปรโมตขนาดไหนก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อเป็นแบบนั้นก็ควรเลิกจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ไม่ได้ประโยชน์
“หนทางออกจากสถานการณ์นี้ของบอสเผยคือใช้งานแข่งขันสตรีตฟู้ดลบล้างแนวทางของเมิ่งชั่งทิ้งให้หมด บอสอยากทลายอคติที่ลูกค้าทุกคนมีต่อแบรนด์สาวหน้านิ่งและพัฒนารสชาติอาหาร มีแค่วิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้แบรนด์ฟื้นกลับมาได้!
“ถ้าอย่างนั้น สิ่งที่ฉันควรให้ความร่วมมือกับบอสเผยในตอนนี้ก็คือ… รักษาพรสวรรค์เหล่านี้ไว้!”
เจ้าของร้านข้างทางฝีมือโดดเด่นจากทั่วประเทศยังพักอยู่ในโรงแรมที่สาวหน้านิ่งเตรียมไว้ให้ เพราะกว่าจะแข่งเสร็จก็ค่ำแล้ว เธอปล่อยให้พวกเขาเดินทางข้ามคืนด้วยรถไฟความเร็วสูงไม่ได้ เพราะดูไม่เหมาะสมเกินไป
ทุกคนจะเช็กเอ้าต์เที่ยงวันพรุ่งนี้และนั่งรถไฟความเร็วสูงหรือขึ้นเครื่องบินกลับในช่วงบ่าย
เจ้าของร้านข้างทางที่ได้อันดับหนึ่งคือพรสวรรค์ที่บอสเผยกำลังตามหาอยู่ไม่ใช่เหรอ
เธอต้องคิดหาทางต่อสู้ให้ได้มา!
ฉีเหยียนรีบหารายชื่อผู้ชนะและช่องทางการติดต่อในคอมพิวเตอร์ของตัวเอง
“เดี๋ยวนะ ฉันควรเลือกแค่จากกลุ่มบะหมี่เย็นย่างหรือเลือกร้านอื่นๆ ด้วยดี”
ฉีเหยียนครุ่นคิดอย่างละเอียดรอบคอบ “เราแค่ต้องหาผู้ชนะอันดับหนึ่งจากกลุ่มบะหมี่เย็นย่างมาช่วยพัฒนารสชาติสาวหน้านิ่ง แต่งานแข่งขันนี้คืองานแข่งขันสตรีตฟู้ด ไม่ใช่แค่งานแข่งขันบะหมี่เย็นย่างโนเวฺลกูดoทคอม
“ถึงงานแข่งขันครั้งนี้จะเป็นไอเดียของเมิ่งชั่ง แต่บอสเผยก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร หมายความว่าบอสเผยเห็นด้วย ในเมื่อบอสเผยเปิดไฟเขียวให้งานแข่งขันสตรีตฟู้ด ก็หมายความว่าร้านข้างทางอื่นๆ สำคัญไม่แพ้กัน
“ฉันต้องคิดหาทางรั้งตัวผู้ชนะทั้งหมดไว้เพื่อถามความเห็น”
ตั้งแต่ได้ขึ้นมาดูแลสาวหน้านิ่งต่อ ฉีเหยียนก็ตกอยู่ในความสับสนสุดๆ
ก่อนหน้านี้เธอเป็นแค่คนช่วยเมิ่งชั่งดูแลกิจกรรมการตลาดต่างๆ หลังจากที่จู่ๆ ก็ได้ดูแลงานทั้งหมดของสาวหน้านิ่งต่อ เธอก็รู้สึกเคว้งมาตลอด
ขนาดคนแบบเมิ่งชั่งยังพาสาวหน้านิ่งไปไม่รอดตลอดฝั่ง ฉีเหยียนจึงคิดว่าถ้าเป็นตัวเองก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่
แต่บอสเผยได้ชี้ทางสว่างให้กับสาวหน้านิ่งแล้ว
ถึงไม่มั่นใจว่าจะทำสำเร็จได้รึเปล่า แต่อย่างน้อยฉีเหยียนก็พบทิศทางในการทำงานต่อไปแล้ว
จู่ๆ เธอก็รู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นมาขณะเริ่มวางแผนการทำงานในอนาคตต่อไป!
…
ขณะเดียวกัน ที่ภัตตาคารบ้านหมิงฝู่ในจิงโจว
หลี่สือเพิ่งกินเลี้ยงกับเพื่อนเสร็จและกำลังส่งเพื่อนกลับทีละคน
ระหว่างที่กำลังจะกลับบ้านไปพักผ่อน เขาก็เห็นเซวียเจ๋อปินเดินถือมือถือเข้ามาหา สีหน้าดูแปลกประหลาดใจ “บอสหลี่! ดูนี่สิครับ นี่คือสิ่งที่คุณคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ใช่มั้ย บอสเผยเผยเริ่มลงมือแล้วรึเปล่า”
หลี่สือผงะไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รับมือถือมาดู บนหน้าจอคือบทความชื่อ ‘การพังและสร้างชื่อเสียงของสาวหน้านิ่งขึ้นมาใหม่ผ่านงานแข่งขันสตรีตฟู้ด’
เขาอ่านอย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ จากนั้นก็ผุดยิ้มขึ้น
“ใช่เลย! ผมกะไว้แล้วว่าหลังจากได้สิทธิ์ควบคุมสาวหน้านิ่งมา บอสเผยจะเริ่มลงมือในไม่ช้า ไม่คิดเลยว่าจะเร็วขนาดนี้!”
หลี่สือทั้งดีใจและแอบภูมิใจหน่อยๆ
ครั้งนี้เขาคาดเดาการกระทำของบอสเผยสำเร็จ!
เซวียเจ๋อปินและตัวเขาเองลงทุนในสาวหน้านิ่งและได้หุ้นมาส่วนหนึ่ง พวกเขาซื้อมาในราคาถูก ตอนนี้ถือหุ้นอยู่ประมาณ 30%
ถึงหุ้นจำนวนนี้จะยังไม่มีราคาในปัจจุบัน แต่หลี่สือก็มั่นใจมากว่าในอนาคตอันใกล้ หุ้นและเงินปันผลจะทำเงินคืนทุนทั้งหมดที่ลงไปก่อนหน้านี้พร้อมได้ดอกเบี้ยเพิ่มแน่นอน!
บทความนี้วิเคราะห์ไว้ชัดเจนมาก ถ้าบอสเผยเคลื่อนไหวแล้ว สาวหน้านิ่งก็ไม่ได้ห่างไกลจากการเกิดใหม่
“เดี๋ยวนะ”
หลี่สืออ่านบทความตั้งแต่ต้นจนจบอย่างละเอียดอีกรอบ
เซวียเจ๋อปินแปลกใจเล็กน้อย “มีอะไรเหรอครับบอสหลี่ มีปัญหาอะไรรึเปล่า”
หลี่สือส่ายหน้า “ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่มีข้อบกพร่องบางอย่างอยู่
“ผมบอกได้เลยว่าผู้เขียนคนนี้ไม่ธรรมดา เขาน่าจะมีประสบการณ์ในแวดวงการเงินและการลงทุนก่อนที่จะผันตัวมาเป็นสื่อเอง เขาเข้าใจสถานการณ์ในอุตสาหกรรมค่อนข้างชัดเจนและมีสายตาที่เฉียบแหลมมาก สไตล์การเขียนก็ไม่แย่เลย
“แต่… บทความนี้ยังเล่ามหากาพย์ของบอสเผย เมิ่งชั่ง และสาวหน้านิ่งได้ไม่ครบถ้วน
“แน่นอนว่าก็ติเขาไม่ได้ เพราะมีรายละเอียดมากมายที่คนนอกไม่มีทางรู้ ผู้เขียนน่าจะไม่มีช่องทางในการหาข้อมูล จึงไม่สามารถเขียนได้ครบถ้วน
“ยกตัวอย่างเช่นงานโชว์เคสเปิดตัวสาวหน้านิ่ง คำพูดของเมิ่งชั่งบนเวที วาทกรรมของบอสหม่าท่ามกลางคนในงาน และการตั้งใจหรือไม่ตั้งใจเล็งเป้าสาวหน้านิ่งของบอสเผย ทำให้นักลงทุนต้องรอดูสถานการณ์และไม่มีใครเข้ามารับช่วงต่อ… แผนการเหล่านี้ไม่ได้ถูกระบุในบทความเลย
“จากข้อมูลที่รวบรวมมา ผู้เขียนบทความนี้คิดว่าเมิ่งชั่งทำสาวหน้านิ่งเละ จากนั้นบอสเผยก็เข้ามาเปลี่ยนแปลง แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่นั้นซับซ้อนเกินจินตนาการ เอาเข้าจริง บอสเผยอยู่เบื้องหลังสาวหน้านิ่งมาตั้งแต่ตอนก่อตั้ง เหตุผลที่สาวหน้านิ่งและเมิ่งชั่งมีจุดจบแบบนี้แยกจากบอสเผยไม่ได้เลย!
“ถ้าเรื่องนี้ถูกเปิดเผย… น่าจะมีบทบาทสำคัญในการกู้ชื่อเสียงสาวหน้านิ่ง!”
เซวียเจ๋อปินพยักหน้าเข้าใจทันที “ใช่เลย!
“วิธีที่ดีที่สุดในการกอบกู้ชื่อเสียงของสาวหน้านิ่งคือบอกทุกคนว่าสาวหน้านิ่งเปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้ว บอสเผยเป็นคนให้สาวหน้านิ่งจัดงานแข่งขันสตรีตฟู้ดเพื่อสื่อสารเรื่องนี้
“ถ้าทุกคนเข้าใจรายละเอียดต่างๆ ของสาวหน้านิ่งตั้งแต่ตอนก่อตั้งไปจนถึงตอนล้มละลาย ก็จะสามารถเบนความเกลียดชังที่มีต่อสาวหน้านิ่งไปยังเมิ่งชั่งและหันมายอมรับแบรนด์อีกครั้งเพราะบอสเผย
“หรือว่าบอสหลี่จะ…”
หลี่สือหัวเราะเบาๆ “ติดต่อผู้เขียนไปแล้วบอกว่าผมมีข้อมูลวงในสุดพิเศษเกี่ยวกับสาวหน้านิ่ง ผมอยากยืมพลังของบทความที่เขาเขียนในการบอกเรื่องนี้ให้คนรู้มากขึ้น”