เผยเชียนเป็นคนออกไอเดียเครื่องทะเลาะอัจฉริยะ
เหตุผลก็เพราะ OTTO อยากทำลำโพงอัจฉริยะสำหรับระบบเสียงอัจฉริยะในมือถือ ซึ่งถือว่าเป็นการต่อยอดผู้ช่วยเสียงปัญญาประดิษฐ์
ตอนนี้มีลำโพงอัจฉริยะหลายตัวในตลาด ราคาอยู่ในช่วงระหว่างสองร้อยถึงสามร้อยหยวน ตัวที่แพงที่สุดราคาสูงกว่าห้าร้อยหยวน
เผยเชียนคิดว่าที่ OTTO มาขอทำลำโพงอัจฉริยะนั้นก็สมเหตุสมผลดี เขาหาเหตุผลดีๆ มาปฏิเสธไม่ได้ จึงต้องตอบตกลง
เขาคิดได้แค่วิธีชักจูงไปในทางที่ผิด โดยบอกให้เอาไปรวมกับเครื่องทะเลาะอัตโนมัติ และให้ขายราคา 2,588 หยวน ซึ่งราคาห่างจากลำโพงอัจฉริยะตัวอื่นๆ มาก
แบบนี้ก็คงไม่มีใครซื้อใช่มั้ยล่ะ
เอาเข้าจริงเผยเชียนรู้สึกเหลือเชื่อและเข้าใจได้ยากมากที่เห็นเครื่องทะเลาะอัตโนมัติขายได้เป็นเทน้ำเทท่า
ครั้งนี้เขาเพิ่มราคาเป็นสองเท่า แถมยังยัด AEEIS เข้ามา ซึ่งจะคอยโต้เถียงกับคนอื่น อีกอย่างคนที่ซื้อเครื่องทะเลาะอัตโนมัติไปแล้วคงไม่ซื้อซ้ำอีกเครื่องหรอก…
น่าจะขายไม่ได้แน่นอนแหละ
ถึงเผยเชียนจะมั่นใจมาก แต่เขาก็ยังเข้าไปเช็กรายละเอียดสินค้าดูอย่างละเอียดอีกที
เขาสบายใจขึ้นได้เมื่อเห็นยอดขายอันน่าหดหู่และช่องคอมเมนต์ที่ว่างเปล่า
ดูเหมือนจะไปได้สวย โลกนี้กลับคืนสู่ความปกติแล้ว!
บอกแล้วไงว่าไม่มีใครซื้อหรอก!
แต่… ฉางโหย่วก็ดูจะไม่ได้จงใจโปรโมตอะไร มีแค่สร้างหน้าโฆษณาในแอปช้อปปิ้งมอลล์
ดูจากยอดขายมือถือ OTTO ที่ไม่ได้สูงเท่าไหร่ ผลลัพธ์การโฆษณาก็น่าจะไม่ได้ดี
เขากลัวว่านี่จะเป็นกับดัก จึงรีบโทรหาฉางโหย่ว
“สวัสดีครับบอสเผย เห็นอัปเดตเวอร์ชันเสถียรแล้วใช่ไหมครับ บอสมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมรึเปล่าครับ” ฉางโหย่วถาม
เผยเชียนพยักหน้าพร้อมกับพูดขึ้น “ใช่ ผมเห็นแล้ว เนื้อหาอัปเดตระบบดีมาก ตรงกับความต้องการของผมทุกอย่าง แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจไป การยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งานนั้นไม่มีที่สิ้นสุด”
ฉางโหย่วรีบตอบ “เข้าใจแล้วครับบอสเผย ไม่ต้องห่วงเลยครับ!”
ความตั้งใจแรกของเผยเชียนคือให้ฉางโหย่วปรับปรุงระบบเล็กน้อยต่อไปเพื่อที่จะได้ไม่มีพลังพอสร้างฟังก์ชันใหม่มาแทงหลังเขา
“ผมเห็นว่าเครื่องทะเลาะอัจฉริยะปล่อยออกมาแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ได้ทุ่มเงินกับการโปรโมตเท่าไหร่รึเปล่า” เผยเชียนแสร้งทำเป็นถามขึ้นลอยๆ
ฉางโหย่วรีบตอบ “อ๋อ ใช่ครับบอสเผย ก่อนหน้านี้ เราไม่ได้โปรโมตเครื่องทะเลาะอัตโนมัติเป็นพิเศษ รอบนี้เลยไม่ได้โปรโมตเหมือนกัน พวกเรารอแนวทางจากบอสอยู่ครับ ถ้าบอสคิดว่าจำเป็นต้องโปรโมต…”
“ไม่ต้อง!” เผยเชียนรีบพูดขัด “คุณทำได้ดีแล้ว ไม่ต้องโปรโมตเครื่องทะเลาะอัตโนมัติเลย
“แต่เรื่องโปรโมตก็เรื่องหนึ่ง ส่วนเรื่องสต๊อกของก็เรื่องหนึ่ง ถึงจะไม่จำเป็นต้องโฆษณา แต่เราก็ต้องเร่งเตรียมสินค้าไว้”
ฉางโหย่วไม่ได้ถามอะไรต่อให้มากความ “ได้ครับบอสเผย”
เผยเชียนสั่งงานง่ายๆ สองสามอย่าง ตัวอย่างเช่น ทุกคนพยายามพัฒนาระบบอย่างหนักมาเป็นเวลานาน ถึงเวลาให้พนักงานพักผ่อน แล้วค่อยกลับมาเริ่มงานเดือนหน้า จากนั้นก็วางสาย
เผยเชียนรู้สึกสบายใจขึ้นหลังได้โทรไปเช็ก
ฉางโหย่วทำได้ดีเลย! เข้าใจจุดประสงค์ของฉันดีมาก!
รอบนี้เขาไม่ได้โปรโมตเครื่องทะเลาะอัจฉริยะ ซึ่งเป็นการลดโอกาสการขายลง
เอาเวลาไปทุ่มกับการสต๊อกของและยัดทุกอย่างเข้าคลังแทน ทำแบบนี้ก็จะผลาญเงินได้ก้อนโต
เครื่องนี้ราคา 2,588 หยวน ผลิตสักสามสี่ร้อยเครื่องก็ใช้เงินหลักล้านแล้ว ผลาญเงินได้เร็วว่าเครื่องทะเลาะอัตโนมัติเวอร์ชันแรกอีก
ยังไม่ต้องพูดถึงว่าต่อไปจะเป็นยังไง ตอนนี้น่าจะผลาญเงินไปก้อนหนึ่งได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรก่อนสรุปบัญชีเดือนนี้
เผยเชียนยังไม่สามารถคิดในระยะยาวได้ในตอนนี้ เขาต้องผ่านการปิดบัญชีไปให้ได้ก่อน
กินข้าวเที่ยวเสร็จ เขาก็สั่งกาแฟมาหนึ่งแก้วและเพลิดเพลินไปกับแสงอาทิตย์จากหน้าต่างเต็มบานของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
“หือ? เดี๋ยวนะ
“ต้องเช็กคอมเมนต์ผู้ใช้งานด้วยนี่!”
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า เจ็บแล้วต้องจำ การโดนแทงหลังนับครั้งไม่ถ้วนทำให้เผยเชียนกลายเป็นคนขี้ระแวง ถึงจะมั่นใจว่าเครื่องทะเลาะอัจฉริยะจะขายไม่ออกและเห็นยอดขายอันน่าหดหู่ในแอปช้อปปิ้งมอลล์แล้ว เผยเชียนก็ยังรู้สึกไม่ปลอดภัยอยู่ดี
เขาเริ่มเช็กคอมเมนต์ผู้ใช้งานเกี่ยวกับอัปเดตของมือถือ OTTO บนเว็บบอร์ด
“มือถือ OTTO อัปเดตระบบแล้ว! ไม่มีจัดงานโชว์เคสอะไรเลย แค่ปล่อยอัปเดตเงียบๆ!”
“อัปเดตนี้มีเนื้อหาเยอะมาก ถ้าเป็นแบรนด์มือถือเจ้าอื่นคงจัดงานโชว์เคสยกใหญ่แล้ว ฉันรอดูฉางโหย่วมาแรปโชว์อยู่ แต่ดันไม่จัดงานโชว์เคสเลยเหรอ”
“แอนิเมชันระบบลื่นมาก ประทับใจสุดๆ! ในที่สุดมือถือจีนก็ลื่นเหมือนมือถือ Pineapple ลื่นหัวแตกเลยเนี่ย!”
“ไม่ใช่แค่มือถือจีน มือถือแอนดรอยด์ของต่างประเทศก็ทำแบบนี้ไม่ได้ OTTO นี่ช่างคิดจริงๆ”
“จิตวิญญาณที่คอยขัดเกลารายละเอียดอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่แบรนด์มือถืออื่นควรเอาเป็นแบบอย่าง จริงๆ แล้ว แอนิเมชันเคลื่อนไหวก็ไม่ได้ทำยาก ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาให้ความสำคัญหรือยอมลงเวลาและกำลังคนเพื่อทำรึเปล่า”
“ระบบกล้องอัปเดตมาได้ดีเลย ลองถ่ายรูปดูหน่อยแล้ว เห็นได้ชัดว่าอัลกอริทึมพัฒนาขึ้นมากจริงๆ”
“มีผู้ช่วยเสียงเพิ่มเข้ามาแล้วตอนนี้ ชื่อดูตะวันตกทีเดียว แต่ทำไมถึงรู้สึกเหมือนมันไม่มองฉันเป็นคนก็ไม่รู้ ควรโดนจับไปปรับทัศนคตินะ”
คอมเมนต์ส่วนใหญ่พุ่งความสนใจไปที่ฟังก์ชันพื้นฐานของระบบกับแอนิเมชันเคลื่อนไหว เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดสำหรับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ การใช้งานไหลลื่นมากขึ้น ไถหน้าจอได้สบายตาขึ้นโนฺเวลกูดอทคอม
บางส่วนคอมเมนต์เรื่องระบบกล้องใหม่และติติงผู้ช่วยเสียงอัจฉริยะ AEEIS แทบไม่มีใครคุยเรื่องเครื่องทะเลาะอัจฉริยะ
“ทุกคนชมอัปเดตใหม่กันเยอะเลยแฮะ
“โชคดีที่ส่วนที่ทุกคนชอบทำกำไรไม่ได้ ไม่มีใครสนใจส่วนที่ทำกำไรได้”
เผยเชียนโล่งใจเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจเครื่องทะเลาะอัจฉริยะ AEEIS
เห็นได้ชัดว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจเครื่องทะเลาะอัตโนมัติแล้ว คนที่ชอบก็ซื้อเครื่องรุ่นแรกไปแล้ว คนที่ไม่ได้ชอบก็คงไม่ซื้อเครื่องรุ่นใหม่
เผยเชียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก ดูเหมือนว่าเขาจะกังวลเกินไปเอง
เครื่องทะเลาะอัจฉริยะไม่มีทางขายได้ถล่มทลายในเดือนนี้ เขาสามารถเร่งผลิตออกมาเยอะๆ ได้อย่างไม่ต้องกังวล
…
…
วันอังคารที่ 10 มกราคม
เผยเชียนเดินออกจากห้องสอบแล้วตรงไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู จากนั้นก็หยิบโน้ตออกมาและพุ่งไปห้องอ่านหนังสือ
เมื่อเช้าเขาสอบวิชาที่สอบแบบเปิดหนังสือ และต้องสอบวิชาที่สอบแบบปิดหนังสือต่อในเช้าวันพรุ่งนี้ พอสอบตัวสุดท้ายเสร็จ เทอมนี้เขาก็จะเป็นอิสระ
ส่วนผลการสอบเมื่อเช้า…
บอกได้ยาก แต่เขาก็น่าจะเขียนไปเยอะพอสมควร
พยายามหนักขนาดนั้น อย่างน้อยก็น่าจะได้คะแนนความพยายามบ้างแหละ
ในเมื่อสอบไปแล้ว มาคิดมากตอนนี้ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทบทวนหนังสือตอนบ่ายนี้ให้เต็มที่เพื่อจะได้สอบแบบปิดหนังสือพรุ่งนี้ให้ได้คะแนนดีๆ
พอเข้าไปในห้องอ่านหนังสือ เผยเชียนวางมือถือไว้ให้ห่างตัวเหมือนอย่างเคย
แต่ระหว่างที่กำลังจะวางลง เขาก็เห็นการแจ้งเตือนเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ
“ร้านดังบนอินเทอร์เน็ตเจ๊งไปอีกหนึ่ง! ตำนานสาวหน้านิ่งมาถึงจุดจบ เมิ่งชั่งกลายเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษา!”
เผยเชียนไม่สนใจข่าวทั่วไป แต่พอเห็นข่าวนี้ก็ตะลึงงันไป
สาวหน้านิ่งล้มละลาย?!
เขารีบกดเข้าไปอ่าน
“ไม่นานนี้ เมิ่งชั่งผู้ก่อตั้งสาวหน้านิ่งถูกจัดอยู่ในรายชื่อผู้ที่ผิดสัญญาในศาลในฐานะลูกหนี้ตามคำพิพากษา เหตุมาจากติดหนี้ซัปพลายเออร์มากกว่าหนึ่งล้านหยวน และนี่อาจจะเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งของหนี้สินสาวหน้านิ่ง จากการวิเคราะห์ของคนในวงการ หนี้สินของสาวหน้านิ่งอาจจะสูงถึงหลายล้านหยวน ซึ่งไม่สามารถจ่ายคืนได้
“ในฐานะแบรนด์อาหารและเครื่องดื่มใหม่มาแรงบนอินเทอร์เน็ต สาวหน้านิ่งเรียกความสนใจจากผู้บริโภคได้นับไม่ถ้วนทันทีที่เปิดตัว กิจกรรมทางการตลาดผูกแนวคิดสาวหน้านิ่งเข้ากับแนวคิดบะหมี่เย็นย่างหลายต่อหลายหน เรียกให้ผู้คนกินบะหมี่เย็นย่างตามกระแส และยังเรียกนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนได้ ทำให้แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มแบรนด์นี้ติดตลาด ภายในเวลาไม่กี่เดือน พวกเขาได้รับการลงทุนหลายครั้ง มูลค่าสูงสุดถูกประเมินไว้ที่สามร้อยล้านหยวน
“แต่แบรนด์อาหารและเครื่องดื่มบนอินเทอร์เน็ตชื่อดังก็พังในชั่วข้ามคืน ตามรายงานข่าว ร้านสาวหน้านิ่งในปักกิ่งปิดตัวลงแล้ว มีป้าย ‘ปิดทำการ’ แขวนอยู่หน้าร้าน แต่ก็ไม่มีสัญญาณว่าจะกลับมาเปิดทำการอยู่หลายวัน เมิ่งชั่งผู้ก่อตั้งที่เป็นตัวก่อพายุความวุ่นวายนี้ยังไม่ออกมาตอบอะไรกับสาธารณชน”
เผยเชียนอ่านข่าวซ้ำสองสามรอบอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง
นี่มันข่าวที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่ข่าวลือ!
ข่าวเรื่องสาวหน้านิ่งกับเมิ่งชั่งผิดคำพูดน่าจะเป็นเรื่องจริง ส่วนเรื่องที่สาวหน้านิ่งปิดร้านไปหลายวันและเมิ่งชั่งไม่ออกมาพูดอะไรเลยก็เป็นตัวยืนยันเรื่องนี้
เผยเชียนยังมีทัศนคติต่อสาวหน้านิ่งเหมือนสัปดาห์ก่อน
ตอนนั้นมีข่าวลือว่าสาวหน้านิ่งกำลังจะเจ๊งปล่อยออกมาทางอินเทอร์เน็ต เมิ่งชั่งถึงกับโร่ออกโรงว่าสื่อปล่อยข่าวลือมั่วๆ
สุดท้ายผ่านไปสัปดาห์เดียว ไอ้ ‘ข่าวลือ’ ที่ว่าก็กลายเป็นความจริง ยืนยันชัดเจนว่าไม่ใช่ข่าวลือ
อันที่จริงถ้าเผยเชียนใส่ใจเรื่องนี้เร็วกว่านี้แล้วถามข้อมูลเพิ่มจากเฮ่อเต๋อเซิ่งหรือบอสหลี่ เขาก็อาจจะรู้เรื่องนี้ก่อนหน้า แต่สัปดาห์ก่อน นอกจากทบทวนหนังสือ เขาก็มัวแต่สนใจการแข่งขันชิงแชมป์โลก IOI ในลอสแอนเจลิส จึงได้ข่าวช้าไป
เผยเชียนเดินออกจากห้องอ่านหนังสือแล้วโทรหาเฮ่อเต๋อเซิ่ง
“สาวหน้านิ่งปิดกิจการแล้วเหรอ” เผยเชียนถามออกไปทันทีที่ต่อสายติด
เฮ่อเต๋อเซิ่งตอบ “ใช่ครับบอสเผย ผมกำลังจะรายงานเรื่องนี้กับบอสเผย สาวหน้านิ่งน่าจะใช้เงินจนหมด แต่ไม่สามารถหาเงินทุนเพิ่มได้ ห่วงโซ่เงินทุนเลยพัง ยังเหลือซัปพลายเออร์อีกหลายเจ้าที่ไม่ได้เงิน
“บอสหลี่มาหาผมเมื่อเช้าเพื่อถามผมว่าบอสมีท่าทียังไง ผมยังไม่ได้ตอบคำถามเขา บอสหลี่น่าจะอยากถามว่าบอสยังสนใจในสาวหน้านิ่งอยู่รึเปล่า เขาจะได้เตรียมนัดนักลงทุนคนอื่นๆ ยิ่งจัดการเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีครับ…”
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “โอเค พรุ่งนี้บ่ายแล้วกัน
“แจ้งบอสหลี่กับนักลงทุนคนอื่นๆ ให้ที บอกนักลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในจิงโจวให้มาที่จิงโจวเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาเรื่องสาวหน้านิ่ง”
เฮ่อเต๋อเซิ่งไม่รู้ว่าทำไมบอสเผยถึงเลือกเป็นพรุ่งนี้บ่าย และไม่รู้ว่าบอสวางแผนอะไรไว้ แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรมากและตกลงตามนั้น
เผยเชียนกลับเข้าห้องอ่านหนังสือหลังจากวางสาย
อันที่จริงก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรเป็นพิเศษที่เลือกเป็นพรุ่งนี้บ่าย เหตุผลก็แค่ตอนเช้าเขามีสอบแบบปิดหนังสือ
ถึงจะมีปัญหาใหญ่ แต่เขาก็เลื่อนสอบไม่ได้ ไม่งั้นจะเสียเวลาอ่านหนังสือมาตั้งนานทำไม
