หลังจากเห็นภาพคร่าวๆ ของสถานการณ์สโมสร FV ที่ลอสแอนเจลิส เผยเชียนก็พักเรื่องนี้ไว้ชั่วคราว
พวกเขาอยู่ห่างกันครึ่งโลก เวลาก็ห่างกันสิบกว่าชั่วโมง ถึงจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นู่น ก็คงสายเกินไปกว่าเผยเชียนจะแก้ไขอะไรได้
เขาได้แค่ปล่อยให้เป็นไปตามแต่ที่จะเป็นและหวังว่าชีวิตอันเสื่อมโทรมของระบบทุนนิยมจะทำให้ไฟในการสู้ของสมาชิกทีมพังลง
เผยเชียนเช็กกิจการอื่นๆ ต่อ
ตอนนั้นเองก็มีคนมาเคาะประตูห้องทำงาน
เผยเชียนเงยหน้าขึ้นมองแล้วเห็นว่าเป็นเฮ่อเต๋อเซิ่ง
“มีอะไรเหรอ” เผยเชียนถาม
เฮ่อเต๋อเซิ่งพยักหน้า “บอสเผยครับ เรื่องแบรนด์สาวหน้านิ่งครับ เมิ่งชั่งมาที่จิงโจวอีกแล้ว เขาอยากพบบอสอีก ผมยังไม่ได้ตอบตกลงไป เลยแวะมาถามก่อน บอส…อยากพบเขาไหมครับ”
เผยเชียนผงะไป
ทำไมไอ้เมิ่งชั่งมาที่จิงโจวอีกแล้วเนี่ย!
ฉันก็ดีใจที่แกบินไปบินมาเพราะจะได้ออกเงินค่าเดินทางคืนให้ แต่ทำไมแกอยากคุยกับฉันแบบต่อหน้าอีกแล้วล่ะ
ฉันยุ่งมาก… เอ้อ จริงๆ ก็ไม่ได้ยุ่ง แต่ถึงจะมีเวลาเยอะ ฉันก็ต้องเอาเวลาไปใช้ผลาญเงิน ไม่ว่างมาฟังแกพูดอะไรไร้สาระหรอก
เผยเชียนถาม “รอบนี้มาทำไม”
เฮ่อเต๋อเซิ่งตอบ “เขาบอกว่าอยากมาขอบคุณบอสต่อหน้าสำหรับเงินสองล้านหยวนที่ให้ไปก่อนหน้านี้ พูดอีกอย่างคือ เขาน่าจะอยากมาสู้ดูเผื่อจะได้เงินลงทุนเพิ่มจากบอส”
เผยเชียนขมวดคิ้ว
ลงทุนเพิ่ม?
ไม่ใช่ว่าฉันลงทุนเพิ่มไม่ได้ แต่ประเด็นอยู่ที่แกต้องใช้เงินอย่างตรงไปตรงมา อย่าสร้างปัญหาให้ฉัน!
รอบนี้เผยเชียนให้เงินสองล้านหยวนไปโดยไม่พูดอะไร เขาซื้อหุ้นบางส่วนของสาวหน้านิ่งตามมูลค่าปัจจุบัน
เผยเชียนวางแผนจะให้เงินเมิ่งชั่งอีกหลังอีกฝ่ายใช้หมดแล้ว เหตุผลหลักๆ ก็เพื่อให้สาวหน้านิ่งอยู่ในสภาพพอไปต่อได้ นี่คือวิธีผลาญเงินที่ปลอดภัยที่สุด
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้บอกเมิ่งชั่งเรื่องนี้ อันที่จริงเขาไม่ได้ให้แม้กระทั่งคำใบ้อะไรเลย เมิ่งชั่งจึงไม่รู้ว่าบอสเผยมีแผนจะลงทุนต่อไปเรื่อยๆ
เผยเชียนไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ “ผมจะไม่พบกับเขา”
เผยเชียนรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรจะคุยกับเมิ่งชั่งมากนัก เมิ่งชั่งมาจิงโจวก็เพื่อขอเงินเพิ่มไปทำการตลาดและเพิ่มมูลค่าแบรนด์สาวหน้านิ่ง แต่เผยเชียนไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
เพราะงั้นเป้าหมายของทั้งสองฝ่ายจึงขัดแย้งกันโดยพื้นฐาน ถึงจะเจอกัน ก็คงไม่เข้าใจกันอยู่ดี เผยเชียนเองก็บอกความจริงกับเมิ่งชั่งไม่ได้ มีแต่จะเสียเวลาตัวเองไปเปล่าๆ
เฮ่อเต๋อเซิ่งพยักหน้า “โอเคครับบอสเผย เดี๋ยวผมไปบอกให้เขากลับ”
…
อีกด้านหนึ่ง ในห้องรับรองของบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง
เมิ่งชั่งกำลังรอเฮ่อเต๋อเซิ่งกลับมาอย่างกังวลใจ ของขวัญแสดงความขอบคุณที่เตรียมมายังวางอยู่ข้างๆ
ระหว่างช่วงที่ผ่านมา ถึงในเบื้องหน้าเขาจะดูนิ่ง แต่จริงๆ แล้วในใจกำลังวิตกกังวลหนักมาก
จู่ๆ บอสเผยก็ขายหุ้นสาวหน้านิ่งทิ้งหมดและถอนตัวออกไป ปล่อยให้ผู้ก่อตั้งอย่างเขาตกอยู่ในสภาพน่าเวทนาและเกือบเกิดเรื่องใหญ่ขึ้น
โชคดีที่คุณสมบัติอันยอดเยี่ยมของเมิ่งชั่งทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนไม่พังทลายลงทันที เขายังหลอกล่อเหล่านักลงทุนได้อยู่ แต่เรื่องนี้ก็ยังส่งผลกระทบร้ายแรงอยู่ดี
ค่าใช้จ่ายประจำวันของสาวหน้านิ่งสูงมาก ในเมื่อหาเงินเพิ่มไม่ได้ เมิ่งชั่งก็ทำได้แค่ลดค่าใช้จ่ายลงอย่างระมัดระวัง เขาไม่กล้าทำอะไรชัดเจนเกินไป เพราะกลัวจะโดนจับไต๋ได้
เมื่อไหร่ที่ข่าวเรื่อง ‘สาวหน้านิ่งลดต้นทุนลง’ กระจายออกไป แม้แต่คนโง่ก็มองออกว่าสาวหน้านิ่งขาดแคลนเงินทุนและกำลังจะเจ๊ง จากนั้นได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นจริงๆ แน่
แต่ไม่ว่าในเบื้องหน้าจะตบตายังไง ยอดเงินในบัญชีก็ไม่มีทางโกหก แถมยังหวังพึ่งกำไรเพียงเล็กน้อยของร้านก็ไม่ได้
เมิ่งชั่งเครียดจนนอนไม่หลับ เพราะยิ่งนานวันไป สถานการณ์ฝั่งเขาก็ยิ่งตกเป็นรองมากขึ้น
เขาถึงขั้นอยากยอมแพ้และปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม พอห่วงโซ่เงินทุนไปต่อไม่ไหว เขาก็จะประกาศให้แบรนด์สาวหน้านิ่งล้มละลาย การล้มละลายของบริษัทจำกัดจะไม่เกี่ยวข้องกับเขาซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง อย่างมากสุดก็มองทุกอย่างเป็นแค่ความฝัน จิ้งจอกเจ้าเล่ห์ได้มาเจอจิ้งจอกที่เจ้าเล่ห์ยิ่งกว่าซึ่งก็คือบอสเผย อย่างน้อยก็ถือว่าแพ้อย่างสมศักดิ์ศรี
แต่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ บอสเผยก็กลับมา!
ถึงเงินสองล้านหยวนจะไม่มาก แต่ก็ช่วยจัดการปัญหาเร่งด่วนของเมิ่งชั่งและทำให้กิจการสาวหน้านิ่งไปต่อได้
อีกอย่างท่าทีของบอสเผยครั้งนี้ดูน่าสนใจมากๆ
เขาซื้อหุ้นตามมูลค่าสูงสุด ไม่มีตัดราคา เล่นเล่ห์เหลี่ยม หรือแม้แต่ขออะไรเป็นพิเศษ เหมือนกับว่าให้เงินมาเปล่าๆ
เรื่องนี้ทำให้เมิ่งชั่งสับสนมาก แต่ในขณะเดียวกันก็เหมือนเห็นแสงแห่งหวังอันริบหรี่
เมิ่งชั่งรู้ดีว่าสาวหน้านิ่งมีความนิยมในระดับหนึ่งแล้วหลังพัฒนามาถึงขั้นนี้ ตอนนี้มีชื่อเสียงและไม่มีปัญหาอะไรในเบื้องหน้า การหาคนมารับช่วงต่อนั้นขึ้นอยู่กับการหลอกล่อครั้งสุดท้าย
เงินสองล้านหยวนจากบอสเผยไม่ได้มาก แต่ก็ทำให้เมิ่งชั่งเห็นความหวังอีกครั้งโนlวลกูดอทคoม
อีกอย่างเมิ่งชั่งเห็นเว่ยป๋อของสโมสร FV ในอินเทอร์เน็ตวันนี้และรู้ว่าบอสเผยใจกว้างกับสโมสร FV มาก เขายอมให้คนจากสโมสรบินชั้นธุรกิจและพักโรงแรมห้าดาว ทริปลอสแอนเจลิสที่ไปกันเยอะขนาดนั้นต้องใช้เงินอย่างน้อยหลายล้านหยวน
ชัดเจนมากว่าบอสเผยใจกว้างมากและยังมีเงินอยู่ในมือล้นเหลือ
เขาจะยอมเสียเงินมากขนาดนั้นเพื่อให้สโมสรอีสปอร์ตไปเที่ยวเล่นต่างประเทศแทนที่จะลงทุนในแบรนด์สาวหน้านิ่งเนี่ยนะ ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลยรึเปล่า
เพราะงั้นในเมื่อบอสเผยให้เงินเขามาส่วนหนึ่งแล้ว เมิ่งชั่งจึงคิดว่าตัวเองยังขอเงินจากบอสเผยเพิ่มได้ แค่ขอพบสักสิบนาทีคงไม่น่าจะมากเกินไป
ระหว่างที่เมิ่งชั่งกำลังรออย่างอยู่ไม่สุข เฮ่อเต๋อเซิ่งก็กลับมา
“เป็นยังไงบ้างครับบอสเหอ” เมิ่งชั่งลุกขึ้นถามทันที
เฮ่อเต๋อเซิ่งส่ายหัวเบาๆ “ขอโทษด้วยครับ บอสเผยไม่มีเวลามาพบคุณ เชิญกลับไปก่อนนะครับ”
เมิ่งชั่งเผยอปากเล็กน้อย ในใจรู้สึกเคว้ง
โดนปฏิเสธเหรอ
บอสเผยให้เงินเขามาแล้ว แต่แค่ห้านาทีก็ไม่ยอมมาเจอเลยเหรอ นี่มันอะไรกันเนี่ย
ตอนนี้บอสเผยคิดยังไงกับสาวหน้านิ่งกันแน่
“บอสเหอครับ เราสู้อีกหน่อยไม่ได้จริงๆ เหรอครับ” เมิ่งชั่งยังไม่ยอมแพ้
เฮ่อเต๋อเซิ่งถอนหายใจ ส่ายหน้า แล้วตอบกลับ “บอสเผยเป็นคนยึดมั่นในคำพูดตัวเอง ถ้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีใครโน้มน้าวได้ ถ้าบอกว่าจะไม่พบก็คือไม่พบ ถ้าไปถามอีกคงไม่ดีแน่ รบกวนกลับไปก่อนด้วยครับ”
เมิ่งชั่งอ้าปากจะพูดแต่ก็นึกลังเล
ถึงจะไม่เต็มใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่หันหลังกลับออกไปเงียบๆ
เฮ่อเต๋อเซิ่งหยิบของขวัญราคาแพงต่างๆ ที่เมิ่งชั่งนำมาด้วยส่งคืนให้ “ของขวัญพวกนี้ไม่จำเป็นครับ บอสเผยไม่รับของพวกนี้”
เมิ่งชั่งอยากจะปฏิเสธ แต่พอเห็นสีหน้าแน่วแน่ของเฮ่อเต๋อเซิ่งก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากรับคืนมา
…
เมิ่งชั่งเดินถือของขวัญกลับออกจากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งด้วยความสับสนสุดๆ
แสงแห่งความหวังอันริบหรี่ที่เพิ่งลุกพรึบขึ้นมาโดนดับไปด้วยการปฏิเสธจากบอสเผย
ไม่รู้ทำไม เมิ่งชั่งรู้สึกเหมือนเจอเข้ากับคนชั่วช้า
บอสเผยหมายความว่าไงกันแน่
ลงทุน ถอนทุน กลับมาลงทุน แล้วถอนทุนอีก…
ประเด็นอยู่ที่เขาไม่สามารถคาดเดาการเคลื่อนไหวถัดไปของบอสเผยได้ พอเดาว่าจะลงทุนต่อ อีกฝ่ายก็ขายหุ้นในราคาถูก พอเดาว่าคงไม่ลงทุนอีกแล้ว จู่ๆ ไม่รู้ทำไมอีกฝ่ายก็เอาเงินมาให้สองล้านหยวน
จับทางไม่ถูกเหมือนพวกเพลย์บอยตัวฉกาจเลย
คนขับรถรับของขวัญมาแล้วเอาไปเก็บท้ายรถ จากนั้นก็ถามขึ้น “ไปไหนต่อครับบอสเมิ่ง จะกลับปักกิ่งเลย หรือว่า…”
เมิ่งชั่งขมวดคิ้วครุ่นคิด
จู่ๆ เขาก็นึกอะไรขึ้นได้เลยหยิบมือถือขึ้นมาเช็กดู
“บอสหลี่จากบริษัทลงทุนฟู่หุยก็อยู่ที่จิงโจว เราแวะไปดูกันดีกว่า ในเมื่อมาถึงที่แล้วก็ไม่ควรเสียโอกาสเปล่าใช่มั้ยล่ะ”
เมิ่งชั่งมีรายชื่อนักลงทุนที่มีศักยภาพและอาจลงทุนในสาวหน้านิ่งอยู่ในใจ
สำหรับเขา รายชื่อนี้สำคัญมาก
หลี่สือจับตาดูสถานการณ์สาวหน้านิ่งมาตลอดและคิดอยากลงทุน เมิ่งชั่งรู้เรื่องนี้ดี
ในเมื่อมาถึงจิงโจวแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรีบกลับ เขาควรใช้โอกาสนี้แวะไปหาบอสหลี่เพื่อคุยดูว่าจะขอเงินลงทุนได้หรือเปล่า
ไม่ว่าจะเป็นยุงตัวเล็กขนาดไหนยังไงก็มีเนื้อ แถมบริษัทลงทุนฟู่หุยก็มีเงินทุนเยอะมาก อาจเป็นไปได้ที่จะโน้มน้าวให้บอสหลี่ตัดสินใจลงทุนสักสองสามล้านเดี๋ยวนั้นเลย
ในแวดวงการลงทุน ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรกับการลงทุนหลายร้อยล้านภายในสิบนาที แถมยังเกิดขึ้นค่อนข้างบ่อย เงินแค่ไม่กี่ล้านจึงถือเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย
พอคิดได้แบบนั้น เมิ่งชั่งก็หันไปบอกคนขับรถ “อย่าเพิ่งกลับปักกิ่ง แวะไปบริษัทลงทุนฟู่หุยก่อน”