ที่หลงอวี่คอร์เปอเรชันจงใจไม่โปรโมตงานแข่งขัน IOI รอบคัดเลือกในจีนหลักๆ ก็เพราะไม่อยากเปลืองเงินกับเรื่องนี้
รอบคัดเลือกในจีนมีทีมลงแข่งแค่ไม่กี่ทีม นอกจากสามสโมสรใหญ่อย่าง SUG แล้ว ทีมอื่นๆ ที่ลงแข่งก็เป็นแค่ตัวประกอบ ทีมที่ผ่านเข้ารอบกำหนดไว้แล้วเรียบร้อย
อีกอย่างรอบคัดเลือกก็เรียกความสนใจในจีนไม่ได้มาก และไม่น่าจะมีคนมาดูการแข่งขันเท่าไหร่ หลงอวี่คอร์เปอเรชันเลยไม่ได้วางแผนใช้เงินกับจุดนี้มากนัก พวกเขาแค่หาสตูดิโอมาจัดพอผ่านๆ ให้จบๆ ไป
ทำไมต้องทุ่มเงินโปรโมตในสถานการณ์แบบนี้ด้วย
ถ้าโหมโปรโมต คนก็จะแห่เข้ามาดูแล้วพบว่า นี่เหรอเวที นี่เหรอมาตรฐานเกม ห่างชั้นกับ GPL มาก!
ถึงจะผลาญเงินไปก็ไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี
ดังนั้นเจ้าซวี่หมิงจึงไม่ได้ลืมเรื่องการโปรโมต แต่เขาจงใจไม่โปรโมตอะไรมากมาย แค่ทำทุกอย่างพอเป็นพิธีเพื่อส่งสามทีมจากสโมสรใหญ่ไปแข่งรอบชิงแชมป์โลก จากนั้นค่อยไปทุ่มเทโปรโมตสร้างกระแสระหว่างการแข่งขันชิงแชมป์โลก
ต้องใช้เงินให้ฉลาด
ไม่คิดเลยว่าสโมสร FV จะควักกระเป๋าจ่ายเงินโปรโมตเอง!
ถ้าสโมสรแบบ SUG เป็นฝ่ายควักกระเป๋าจ่ายเงินโปรโมตก็คงไม่เป็นไร เพราะยังไงพวกเขาก็เป็นฝ่ายได้รับความสนใจและความนิยมจริงๆ แต่สโมสร FV มาเป็นตัวประกอบเฉยๆ โปรโมตให้แบบนี้ไม่เสียเงินเปล่าเหรอ
เครเทียนไม่พอใจเมื่อเห็นเจ้าซวี่หมิงดูงงๆ
เขาเคาะโต๊ะเบาๆ พร้อมกับพูดขึ้น “บอสเจ้า เรื่องสโมสร FV ไม่ได้ส่งผลที่ดีเลย
“การโปรโมตของเราไม่ดีพอ ผู้เล่นหลายคนได้ข้อมูลจากสโมสร FV เพราะไม่มีข่าวอะไรจากทางออฟฟิเชียล เราเลยดูไม่มืออาชีพมากๆ!
“ตอนแรกผมคิดว่าคุณเป็นคนบอกให้สโมสร FV ช่วยโปรโมต ซึ่งก็มองว่าคุณจัดการได้ไม่เป็นมืออาชีพ แต่ไม่คิดเลยว่าคุณจะไม่รู้เรื่องนี้ แบบนี้ก็ยิ่งถือว่าไม่มีความเป็นมืออาชีพหนักกว่าเดิมอีกครับ!
“ที่เราไม่เคยถามคุณเรื่องงานแข่งขันรอบคัดเลือกในจีนก็เพราะเชื่อมั่นในหลงอวี่คอร์เปอเรชัน แต่สถานการณ์ปัจจุบันเหมือนจะชี้ให้เราเห็นถึงการทรยศต่อความไว้วางใจนะครับ”
มุมปากเจ้าซวี่หมิงกระตุก เขาพูดอะไรไม่ออก
ซวยแล้ว!
ตามแผนเดิม พวกเขาแค่จะจัดรอบคัดเลือกพอเป็นพิธี แค่ให้งานดูพอไปวัดไปวาก็น่าจะโอเคแล้ว ทีมก็ตัดสินใจกันภายในแล้ว คงไม่มีใครมาดูแข่ง แล้วจะโหมโปรโมตใหญ่โตไปทำไม
คงไม่ช้าเกินไปที่จะประหยัดเงินไว้ทุ่มตอนงานแข่งขันชิงแชมป์โลกเริ่ม
พอสโมสร FV ออกมาทำแบบนี้ ทางออฟฟิเชียลก็ตกที่นั่งลำบาก ผู้เล่นจะคิดว่าการโปรโมตของทางออฟฟิเชียล IOI แย่กว่าสโมสร และต้องคิดว่า Finger Games กับหลงอวี่คอร์เปอเรชันไม่มีความเป็นมืออาชีพ
เทียบให้เห็นภาพง่ายๆ คือ หลงอวี่คอร์เปอเรชันเป็นหัวหน้าแผนก ตอนแรกพวกเขาพาพนักงานอู้ไปด้วยกัน คนนอกเลยมองไม่ออก แต่ก็พอจะรู้สึกได้ว่าแผนกนี้ทำงานไม่ดีเท่าไหร่
สุดท้ายจู่ๆ ก็มีคนในแผนกทำงานอย่างขยันขันแข็งขึ้นมาและอยู่ล่วงเวลาทุกวัน ทุกคนในแผนกเลยโดนเปิดโปงและกลายเป็นพวกไร้ประโยชน์รอวันตาย
หัวหน้าแผนกย่อมต้องเป็นคนโดนดุมากที่สุด
เจ้าซวี่หมิงรีบพูดขึ้น “ไม่ต้องห่วงครับ ยังพอมีเวลากอบกู้สถานการณ์อยู่
“งานแข่งขันเริ่มวันเสาร์ ยังเหลือเวลาอีกสองวัน เราจะทุ่มทรัพยากรบางส่วนโปรโมตงานแข่งขัน IOI รอบคัดเลือก ทำแบบนี้ ผู้เล่นก็จะคิดว่าสโมสร FV แค่ได้ข้อมูลจากวงในล่วงหน้า และไม่คิดว่าเราไม่มีความเป็นมืออาชีพ
“อีกอย่าง เราน่าจะสร้างผลลัพธ์ได้ดีถ้าโปรโมตควบคู่ไปกับสโมสร FV”
เครเทียนพยักหน้าแสดงความพึงพอใจ “จะดีมากถ้าคุณแก้สถานการณ์ได้ ผมเชื่อในความสามารถของคุณ”
ในเบื้องหน้า เจ้าซวี่หมิงดูนิ่งและผ่อนคลาย แต่ในใจกำลังก่นด่าไม่หยุด
ทำไมสโมสร FV ต้องสร้างเรื่องด้วย นี่มันทำร้ายตัวเองโดยไม่สร้างประโยชน์ให้คนอื่นชัดๆ!
คราวนี้หลงอวี่คอร์เปอเรชันเลยต้องควักเงินก้อนโตมาลงทุนกับรอบคัดเลือก
นอกจากจะต้องใช้เงินโปรโมตและทำการตลาดแล้ว ยังต้องรีบตกแต่งสนามแข่งให้หรูหราด้วย
พอมีคนสนใจมากขึ้น ก็ต้องมีผู้เล่นที่เรื่องเยอะเพิ่มมากขึ้น ถ้าสนามแข่งไม่ดีพอ มาตรฐานงานแข่งก็จะลดลงและกลายเป็นเรื่องน่าขายหน้า
แน่นอนว่า งานแข่งจะเริ่มในอีกสองวัน เวลากระชั้นชิดมาก สายไปแล้วที่จะเปลี่ยนสถานที่ตอนนี้ เขาทำได้แค่ทุ่มเงินตกแต่งสนามแข่งเพิ่มเพื่อให้ดูดีที่สุด
เจ้าซวี่หมิงยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมสโมสร FV ถึงทุ่มเงินโปรโมตตัวเอง ทั้งๆ ที่ทำไปก็ไม่ได้อะไร แต่ก็ไม่มีเวลาพอให้มานั่งคิด
เพราะตอนนี้เวลาเหลือน้อย อีกสองวันจะถึงวันงานแล้ว เขาต้องทุ่มพลังทั้งหมดไปกับการเตรียมงานแข่งขันรอบคัดเลือก
…
ขณะเดียวกันที่ปักกิ่ง
ถังอี้ซู่ลงจากรถและก้าวเท้าเข้าสู่เมืองหลวงอย่างระมัดระวัง
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาที่นี่ ถึงจะตื่นกลัวตลอดทาง แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ถังอี้ซู่สบายใจขึ้นเลย เธอยิ่งรู้สึกหวาดระแวงกว่าเก่า
อาจจะเพราะมาตรการด้านการปลอดภัยตลอดทางนั้นดีเกินไป ดวงซวยของเธอเลยไม่มีโอกาสสำแดงฤทธิ์ เธอไม่รู้ว่าเจ้าดวงซวยจะสะสมพลังจนฤทธิ์เดชทะลุไปอีกขั้นและระเบิดออกมารึเปล่า
เสี่ยวซุนขับรถไปลานจอดรถของโรงแรม ชิวหงช่วยจองห้องไว้เรียบร้อยและรออยู่ที่ล็อบบี้
ตามตาราง พวกเขาจะไปหาอะไรกินตอนเที่ยงแล้วกลับมาพักผ่อน ช่วงบ่าย เขาจะพาเธอไปศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ จากนั้นก็แวะไปร้านสาวหน้านิ่งวันพรุ่งนี้ แล้วกลับจิงโจวตอนบ่าย
ชิวหงมองนาฬิกาแบบจักรกลบนข้อมือแล้วคิดว่าน่าจะได้เวลาแล้ว
สองนาทีต่อมา เขาก็เงยหน้าขึ้นเห็นถังอี้ซู่อยู่หน้าทางเข้าโรงแรม
คนขับรถสองคนเป็นเหมือนบอดี้การ์ดยืนขนาบข้างซ้ายขวาคอยดูแลความปลอดภัย แต่ประตูหมุนอัตโนมัติของโรงแรมก็หยุดทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งสามคนยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
ชิวหงรีบเข้าไปเปิดประตูด้านข้าง “น้องถังใช่มั้ย มาทางนี้ๆ!”
ถังอี้ซู่กับคนขับรถสองคนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินผ่านประตูด้านข้าง แต่ทันทีที่พวกเขาเข้ามาในล็อบบี้ ประตูหมุนอัตโนมัติตรงทางเข้าก็กลับมาทำงานตามปกติโนiวลกูดอทคอม
ชิวหงไม่ได้ใส่ใจอะไร เขาคิดว่าน่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ และจับมือกับถังอี้ซู่
“เดินทางกันมาไกล ทั้งสามคนน่าจะเหนื่อย แผนเราคืองี้ครับ เราจะไปกินอาหารง่ายๆ ในร้านแถวนี้ แล้วทุกคนกลับมาพักที่โรงแรม ตอนบ่ายสองให้มารวมกันที่ล็อบบี้ จากนั้นผมจะพาทุกคนไปดูศูนย์พัฒนาเกมอินดี้
“ตอนนี้เวลา… อ้าว”
ชิวหงยกนาฬิกาข้อมือมาดูเวลา แต่ก็พบว่านาฬิกาจักรกลของตัวเองที่ทำงานปกติเมื่อครู่หยุดเดินซะงั้น
เขาสับสนเล็กน้อย นาฬิกานี้ใส่มาหลายปี ไม่เคยมีปัญหาอะไร แถมยังเพิ่งปรับเข็มไปไม่นานด้วย
ทำไมจู่ๆ ถึงหยุดเดินขึ้นมา
ถังอี้ซู่เงยหน้ามองเพดานด้วยความลำบากใจ ทำทีเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
…
ตอนบ่าย ที่ศูนย์พัฒนาเกมอินดี้
อูจื้อเฉิงกำลังกินข้าวกับนักพัฒนาเกมอินดี้ที่เพิ่งมาใหม่อยู่ในโซนพักผ่อน
“เห็นมั้ย ฉันบอกแล้วว่าไข่ผัดมะเขือเทศของโมหยูเดลิเวอรี่อร่อยมาก รสชาติต่างจากที่ขายตามร้านทั่วไป อาหารของ โมหยูเดลิเวอรี่ดีต่อสุขภาพสุดๆ”
“…หือ? แผนงาน? ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องทำให้ทันตามกำหนดก็ได้ แผนปรับได้ตลอด ถ้าคิดว่าอยากเพิ่มอะไรใหม่ก็ไปคุยกับสีเฮ่าได้เลย”
“…ไม่ต้องไปกลัวเขาหรอก อย่ามองสีเฮ่าเป็นบอสหรือผู้จัดการ เขาเป็นหัวหน้าแผนกธุรการ ไม่มายุ่งวุ่นวายกับโปรเจ็กต์เรา แค่ช่วยวางแผนงานตามไอเดียของเรา ส่วนโปรเจ็กต์จะไปต่อยังไงก็ขึ้นอยู่กับเราเอง
“มาๆ กินข้าวต่อดีกว่า”
ถึงจะเพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือน อูจื้อเฉิงก็ทำตัวเหมือนเป็นรุ่นพี่คอยดูแลผู้พัฒนาเกมอินดี้หน้าใหม่
ตอนแรก อูจื้อเฉิงไม่คิดว่าจะปรับตัวให้เข้ากับการทำงานที่นี่ได้ แต่หลังจากมาทำงานเรื่อยๆ เขาก็พบว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลย!
หลังจากมาทำงานที่นี่ การพัฒนาเกมหมึกหมอกม่านเมฆก็รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว
อูจื้อเฉิงยังครุ่นคิดถึงความแตกต่างนี้
พอนึกย้อนกลับไป ความคิดที่ว่าเขาพัฒนาเกมได้อย่างมีประสิทธิภาพที่อพาร์ตเมนต์ตัวเองนั้นเป็นแค่ภาพลวงตา
เพราะเขามักเสียสมาธิไปกับเรื่องเล็กน้อยที่ห้อง เช่น จะทำทรัพยากรงานภาพบางช่วงในเกมยังไง หรือจะทำยังไงถ้าผ่านไปครึ่งทางแล้วพบว่าแผนงานไม่ชัดเจนและต้องเปลี่ยนใหม่หมด
เหตุการณ์คล้ายๆ กันนี้มักเกิดขึ้นบ่อยๆ เพราะอูจื้อเฉิงไม่วางแผนโปรเจ็กต์อย่างละเอียดและครอบคลุม ซึ่งเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้นี่แหละที่ทำให้เขาเสียสมาธิ
แต่หลังจากมาทำงานที่ศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ มีทีมงานคอยดูแลเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ให้ อูจื้อเฉิงแค่ต้องจัดการงานครีเอทีฟและออกแบบเกมอย่างจริงจัง ประสิทธิภาพการทำงานจึงเพิ่มขึ้นมาก
ผู้พัฒนาเกมอินดี้หลายคนไปไม่รอดเพราะปัญหานี้
ในวงการมีงานเฉพาะทางอยู่ แม้แต่ในการวางแผนยังมีงานประเภทต่างๆ เช่น การออกแบบและปรับแก้ระบบการเล่น การระบุทรัพยากรงานภาพ และการวางแผนกับความคืบหน้าการพัฒนา เป็นเรื่องยากมากที่จะมีใครเชี่ยวชาญทุกด้าน
ถ้าไม่เก่งเรื่องไหน ก็ต้องทุ่มพลังอย่างมากเพื่อชดเชยข้อบกพร่อง
แต่ด้วยความช่วยเหลือของศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ ผู้พัฒนาเกมอินดี้แบบอูจื้อเฉิงก็ได้รับผิดชอบแค่งานครีเอทีฟและออกแบบเกม งานอื่นก็ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยจัดการให้ พอมีการแบ่งงานอย่างละเอียด ประสิทธิภาพการทำงานจึงเพิ่มขึ้นเป็นธรรมดา
ตอนแรก อูจื้อเฉิงค่อนข้างกังวลเรื่องการเข้าสังคมและกลัวว่าจะเกิดปัญหาในที่ทำงาน แต่หลังจากได้ใช้เวลาร่วมกัน เขาก็พบว่าตัวเองกังวลไปเองทั้งนั้น!
ในฐานะหัวหน้าแผนกธุรการ สีเฮ่าวางตำแหน่งของแผนกตัวเองไว้ชัดเจน นั่นก็คือเป็นแผนกให้บริการ
ดังนั้นก็เลยไม่มีปัญหาเรื่องใครเป็นนายใคร ในที่ทำงานจึงไม่มีเรื่องพลิกผันอะไร
กลับกัน ผู้พัฒนาเกมอินดี้เหล่านี้ต่างผ่านการคัดกรองจากชิวหงมาก่อน ถึงจะมีความสามารถแตกต่างกันไป แต่บุคลิกนิสัยก็ค่อนข้างเรียบง่ายและตรงไปตรงมา ไม่มีการเล่นแง่หรือคิดแข่งขันกัน ทำให้พวกเขาเข้าถึงกันได้ง่ายโดยธรรมชาติ
อูจื้อเฉิงตระหนักว่าในโลกมีแค่ไม่กี่คนที่เป็นคนชอบเก็บตัวจริงๆ และไม่อยากติดต่อสื่อสารกับใคร หลายคนดูเป็นคนเก็บตัวและกลัวสังคมเพราะอยู่ในวงสังคมที่ไม่เหมาะกับตัวเอง
ตอนนี้อูจื้อเฉิงอยู่ในวงสังคมที่เหมาะกับตัวเองมากๆ เขาจึงมีความสุขในทุกวัน แถมยังมีนิสัยร่าเริงมากขึ้น
ระหว่างที่ทุกคนกำลังกินข้าวเที่ยงกันอย่างสุขใจ สีเฮ่าก็เดินเข้ามา
“บอสชิวอาจจะพาคนแวะมาศูนย์พัฒนาตอนบ่าย ผมมาบอกพวกคุณไว้ก่อนล่วงหน้า คิดซะว่าเป็นการตรวจดูศูนย์พัฒนาก็ได้ครับ” สีเฮ่าบอกทุกคน
อูจื้อเฉิงผงะไป “พวกผมต้องเตรียมตัวอะไรมั้ยครับ”
ถึงอูจื้อเฉิงจะมีประสบการณ์การทำงานในบริษัทอย่างจริงจังน้อยมาก แต่เขาก็เคยเห็นหัวหน้าลงมาตรวจดูงาน ปกติแล้ว พวกเขาต้องเตรียมตัวล่วงหน้าเพื่อสร้างความประทับใจที่ดีกับหัวหน้า
อันที่จริงอูจื้อเฉิงสงสัยมาตลอดว่าใครคือบอสเบื้องหลังศูนย์พัฒนาเกมอินดี้ แต่ก็ไม่เคยได้คำตอบที่ชัดเจน
ในเบื้องหน้า ชิวหงรับผิดชอบทุกอย่าง แต่ก็มีข่าวลือว่าชิวหงไม่ใช่บอสตัวจริง มีคนอยู่เบื้องหลังแผนงานทั้งหมดนี้
เขาสงสัยว่าคนที่แวะมาตรวจรอบนี้จะเป็นบอสตัวจริงรึเปล่า
สีเฮ่าส่ายหน้า “ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรครับ ให้เห็นสภาพการทำงานจริงของเราก็พอ
“เราทำตามคำสั่งของบอสชิวอย่างเคร่งครัด ถึงการทำงานแปดชั่วโมงจะไม่ใช่เวลาทำงานที่ยาวมากนัก แต่ทุกคนก็ทำงานอย่างจริงจังและเต็มที่ เอาเข้าจริง ดีกว่าบริษัทที่ใช้วัฒนธรรม 996 หลายๆ แห่งอีก
“ผมคิดว่า แค่ทุกคนมีความรับผิดชอบต่องานอย่างจริงจังกันตามปกติก็น่าจะพอแล้ว”