วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน
ที่บริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง เฮ่อเต๋อเซิ่งกับเผยเชียนนั่งอยู่ในห้องประชุมกันแค่สองคน แต่บนจอโปรเจ็กเตอร์มีหน้าต่างวิดีโอเล็กๆ นับสิบ
เฮ่อเต๋อเซิ่งพูดขึ้น “บอสเผยครับ ทุกคนเข้ามาครบแล้ว เราเริ่มการประชุมเลยไหมครับ”
เผยเชียนยกชาขึ้นจิบ “อืม เริ่มเลย”
เขามาที่บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งวันนี้ตามที่เฮ่อเต๋อเซิ่งขอมา
จนถึงตอนนี้ บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งทำตามกฎที่เผยเชียนวางไว้อย่างเคร่งครัด พวกเขาลงทุนประมาณสิบบริษัท เกณฑ์สูงสุดของการลงทุนแต่ละบริษัทเริ่มตั้งแต่หนึ่งล้านจนถึงสองล้านหยวน
เฮ่อเต๋อเซิ่งตัดสินจำนวนเงินลงทุนตามขนาดของบริษัทและจำนวนทุนในภาพรวมที่จำเป็นสำหรับการเริ่มโมเดลธุรกิจ
ว่าง่ายๆ คือ ถ้าเป็นบริษัทสตาร์ตอัปหรือโมเดลธุรกิจที่ใช้เงินไม่เยอะ เฮ่อเต๋อเซิ่งก็จะให้เงินลงทุนน้อยหน่อย
เนื่องจากเป็นการลงทุนแบบใครมาก่อนได้ก่อน บริษัทกลุ่มแรกที่เข้ามาขอเงินทุนหลักๆ เลยเป็นบริษัทสตาร์ตอัป เพราะบริษัทเหล่านี้ต้องการเงินมากที่สุด จึงเป็นกลุ่มแรกที่ออกหาเงินทุน
ถ้าหนึ่งในบริษัทกลุ่มแรกทำเงินได้ เฮ่อเต๋อเซิ่งจะขายหุ้นทั้งหมดของบริษัททิ้งตามคำสั่งบอสเผยแล้วลงทุนกับบริษัทถัดไปในคิว
ถ้าไม่มีบริษัทไหนทำเงินได้… บอสเผยก็น่าจะเปิดแชมเปญฉลอง
ถึงบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งจะให้เงินลงทุนไปแล้ว แต่พวกเขาก็ส่งผู้จัดการการเงินไปกำกับดูแลรายจ่ายประจำวันของแต่ละบริษัทด้วย และจัดประชุมทางไกลเป็นระยะเพื่อรายงานสถานการณ์การเงิน
ผู้จัดการการเงินทุกคนเป็นพนักงานเก่าของเถิงต๋าซึ่งผ่านการบ่มเพาะจิตวิญญาณเถิงต๋า และได้เงินช่วยเหลือก้อนโตหลังได้รับมอบหมายหน้าที่ ขณะเดียวกัน งบการเงินของพวกเขาก็ถูกกำกับดูแลโดยแผนกการเงินของเถิงต๋า
ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีการยัดเงิน แต่โอกาสนั้นน้อยมาก
หน้าต่างวิดีโอแรกเป็นของผู้จัดการการเงินสาวผมสั้นสวมแว่นอายุราวสามสิบ เธอเป็นพนักงานหลักของเถิงต๋า ถือเป็นพนักงานรุ่นใหญ่สุดและเก่งด้านธุรกิจที่สุดในบรรดาพนักงานแผนกการเงินที่ได้รับมอบหมายให้ไปประจำบริษัทอื่น
เธอชื่อจิงไห่ปิง รับผิดชอบกำกับดูแลเรื่องการเงินของโปรเจ็กต์สาวหน้านิ่ง
หลักๆ ที่เขาส่งเธอไปดูแลโปรเจ็กต์สาวหน้านิ่งเพราะโปรเจ็กต์นี้เข้าตาเฮ่อเต๋อเซิ่งมาก ตอนนี้ถือเป็นหนึ่งในบริษัทที่เขาให้ความสนใจเป็นหลัก
การรายงานความคืบหน้าเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
จิงไห่ปิงก้มหน้าอ่านรายงานในมือ จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมาพูด “สวัสดีค่ะบอสเผย บอสเฮ่อ แล้วก็ทุกๆ คน ก่อนจะเริ่มรายงานสถานการณ์การเงินของโปรเจ็กต์สาวหน้านิ่ง บอสเฮ่อให้ดิฉันมาเน้นย้ำเรื่องเล่ห์เหลี่ยมทั่วไปที่พบในการเงินซึ่งจะรบกวนเวลาทุกคนเล็กน้อยค่ะ”
นักตรวจสอบบัญชีที่เถิงต๋าส่งไปไม่ได้ฉลาดเป็นกรดทุกคน
เนื่องจากพนักงานทุกคนที่ส่งไปประจำบริษัทต่างๆ ต้องเป็นพนักงานของเถิงต๋าซึ่งผ่านการบ่มเพาะจิตวิญญาณเถิงต๋ามาแล้ว ทุกคนจึงเป็นพนักงานเก่าของเถิงต๋า
หลายคนเข้ามาทำงานกับเถิงต๋าหลังเรียนจบได้ไม่นาน เลยยังไม่เคยพบเจอเล่ห์เหลี่ยมมากมายในโลกภายนอก
เพราะยังไง เถิงต๋าก็บังคับใช้กฎหมายและข้อบังคับอย่างเคร่งครัดร้อยเปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่การซื้อ การเบิกจ่าย ไปจนถึงการจ่ายภาษี เถิงต๋าจัดการทุกเรื่องอย่างโปร่งใส พนักงานเหล่านี้จึงไม่มีโอกาสได้เห็นเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ
แต่ถ้าออกไปสู่โลกนอกบริษัทก็ย่อมต้องเจอกับเล่ห์เหลี่ยมสารพัดอย่าง พวกไม่มีประสบการณ์อาจจะโดนหลอกเอาได้
ดังนั้นเฮ่อเต๋อเซิ่งเลยอยากให้จิงไห่ปิงเน้นย้ำปัญหาที่พวกเขาอาจพบระหว่างการทำงาน เขาอยากเตือนเหล่าพนักงานไว้ล่วงหน้าเพื่อที่เวลาเจอปัญหาอะไรจะได้ระบุได้ทัน
เผยเชียนเองก็อยากฟังเรื่องนี้เหมือนกัน
รายงานด้านการเงินเต็มไปด้วยตัวเลขซึ่งน่าเบื่อสุดๆ แต่เรื่อง ‘เล่ห์เหลี่ยม’ ฟังดูน่าสนใจ
จิงไห่ปิงจัดระเบียบความคิดแล้วเริ่มอธิบาย
“เงินที่เราลงทุนโอนเข้าบัญชีทางการของบริษัททั้งหมด คงไม่มีใครหัวทึบโอนเข้าบัญชีส่วนตัวตรงๆ เล่ห์เหลี่ยมที่ว่าไม่มีอะไรมากไปกว่าเจ้าของบริษัทเหล่านี้ผลาญเงินในธุรกิจจริงด้วยวิธีการบางอย่าง แล้วเก็บบางส่วนไว้ใช้เองด้วยวิธีแอบแฝง
“ดังนั้น มีจุดทั่วไปที่ต้องตรวจสอบและยืนยันอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตัวอย่างเช่น ถ้าบริษัทซื้ออุปกรณ์สิ้นเปลือง พวกเขาอาจจะซื้อของราคาสองหรือสามหยวน แม้ว่าราคาตลาดจะอยู่ที่หนึ่งหยวน หรือราคาอุปกรณ์สิ้นเปลืองต่อชิ้นอาจดูไม่มีปัญหาอะไร แต่กลับไม่มีส่วนลดชัดเจนในการซื้อราคาส่ง ซึ่งถือว่าต้องมีปัญหาบางอย่างแน่
“เรื่องการโฆษณาก็ด้วย จะมีทั้งโปสเตอร์ แบนเนอร์ ป้ายโฆษณา ใบปลิว และอื่นๆ ตัวเลขอาจจะระบุว่าทำใบปลิวห้าพันแผ่น แต่จริงๆ แล้วทำแค่สี่พันแผ่น หรืออาจจะใช้วัสดุปนกันระหว่างของจริงกับของปลอมให้ได้อัตราส่วนกำไรเยอะขึ้น
“แล้วก็ต้องดูว่าบริษัทจ่ายเงินเดือนพนักงานให้บัญชีปลอมไหม มีกรณีสมรู้ร่วมคิดกับบริษัทนายหน้าเพื่อรับเงินใต้โต๊ะอย่างลับๆ ผ่านสัญญาที่ไม่สุจริตหรือเปล่า มีการจัดการที่น่าสงสัยในการโปรโมตไหม มีผู้สมัครจริงกี่คน มีใบสมัครที่สร้างขึ้นมาเองด้วยโปรแกรมไหม มีกรณีของการจัดส่งปลอมหรือกลวิธีทางการตลาดหลอกลวงที่ใช้กับสินค้าที่จับต้องได้ ส่วนลด และคูปองต่างๆ ที่แจกระหว่างกิจกรรมทางการตลาดหรือไม่
“การตรวจสอบและกำกับดูแลบัญชีแค่อย่างเดียวจะระบุปัญหาเหล่านี้ได้ยากมาก แต่เรารับผิดชอบเรื่องการเงินของบริษัทโดยตรง ก็เลยสามารถหาทางเลี่ยงปัญหาพวกนี้ได้
“ตัวอย่างเช่น ซื้ออุปกรณ์สิ้นเปลืองผ่านช่องทางที่ไว้ใจได้ของเถิงต๋า ทำแบบนี้ก็จะเลี่ยงไม่ให้ใช้เงินที่เราลงทุนไปกับช่องทางไม่พึงประสงค์
“แน่นอนว่า ทุกคนมีความสามารถและพลังงานจำกัด ยากมากที่จะการันตีได้ว่าเราจะจับตาดูทุกอย่างได้หมด แต่เราก็ต้องพยายามเต็มที่เพื่อรักษาบัญชีบริษัทให้ขาวสะอาดและไม่เกิดข้อผิดพลาดที่ไม่น่าพลาด…”
จิงไห่ปิงอธิบาย ‘เล่ห์เหลี่ยม’ ที่พบได้ทั่วไปในบริษัทสตาร์ตอัปให้ผู้จัดการการเงินคนอื่นๆ ฟังและสอนให้ทุกคนรู้จักระมัดระวังและหาทางป้องกันปัญหาล่วงหน้า
เธอย้ำด้วยว่าถ้าพบปัญหาอะไรให้รายงานทันที
เผยเชียนเองก็นั่งฟังอย่างตั้งใจ ถึงภายนอกจะดูนิ่ง แต่จริงๆ รู้สึกเปิดโลกมาก
วิธีการเหลี่ยมจัดจริงๆ!
เห็นได้ชัดว่ามีอัจฉริยะจากทุกสาขาอาชีพหวังหลอกนักลงทุนด้วยไอเดียต่างๆ เต็มไปหมดโนเวลกูดอทคอม
แน่นอนว่าจะโทษผู้ประกอบการฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ผู้ประกอบการใสซื่อบางคนโดนนักลงทุนทำเขวมาก่อน โดยชักนำให้ผู้ประกอบการไปหลอกคนอื่นต่อแล้วขายบริษัททิ้งให้ผู้ซื้อรายต่อไปและทำเงินเงียบๆ
ความคิดแรกสุดของเผยเชียนนั้นเรียบง่ายมาก เขาแค่ไม่อยากให้ผู้ประกอบการหาประโยชน์จากเงินที่เขาลงทุนไป เลยเลือกวางกฎระเบียบที่ยุ่งยากขึ้นมาหน่อยด้วยการส่งผู้จัดการการเงินไปประจำแต่ละบริษัท
ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะตัดสินใจถูกแล้ว
เผยเชียนไม่คิดว่าเรื่องนี้จะกระทบกับแผนขาดทุนของเขา เพราะยังไงโอกาสที่บริษัทสตาร์ตอัปจะล้มเหลวก็สูงมาก ถึงจะบริหารงานกันตามปกติ สตาร์ตอัปส่วนใหญ่ก็หนีชะตาล้มละลายไม่พ้น
ถึงจะล้มละลายและขาดทุนยับเหมือนกัน แต่นักลงทุนบางคนก็ทำเงินได้จากเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ ในขณะที่บางคนได้แค่เงินเดือนน้อยนิดหรืออาจถึงขั้นติดหนี้ ถ้าให้เลือก เผยเชียนย่อมเลือกอย่างหลัง
ไม่ว่าจะยังไง เงินของฉันก็ลงทุนกับคุณไปแล้ว ถ้าทำเงินได้ด้วยความสามารถตัวเองก็ถือเป็นโชคดีของคุณ เถิงต๋าจะถอนทุนทันที แต่ถ้าขาดทุนได้ด้วยความสามารถตัวเอง บอสเผยก็จะขอบคุณคุณอย่างสุดซึ้ง
สิ่งเดียวที่บอสเผยยอมรับไม่ได้คือรับเงินเถิงต๋าไปแล้วไม่ยอมทำอะไร แต่กลับทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ
ไม่นาน จิงไห่ปิงก็เล่าเล่ห์เหลี่ยมทั่วไปในแผนกการเงินของบริษัทสตาร์ตอัปจบ จากนั้นเธอก็รายงานสถานการณ์ของแบรนด์สาวหน้านิ่ง
เผยเชียนมีสรุปสถานการณ์ของแต่ละบริษัทวางอยู่ตรงหน้า เขาหยิบรายงานสรุปของแบรนด์สาวหน้านิ่งขึ้นมาเปิดดู
เมื่อประเมินจากสถานการณ์ในตอนนี้ แบรนด์สาวหน้านิ่งดำเนินการไปได้ราบรื่นสุดๆ เป็นไปตามแผนตั้งต้นของเมิ่งชั่ง
ร้านสาขาหลักของแบรนด์สาวหน้านิ่งเปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อย เผยเชียนดูรูปแล้วก็พบว่าร้านตกแต่งดีทีเดียว
ประตูกับด้านหน้าร้านมีกระจกเต็มบานขนาดใหญ่ ดูสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบ ป้ายร้านมีโลโก้สาวหน้านิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ มีทั้งกลิ่นอายมนตร์เสน่ห์ของยุคโบราณและความร่วมสมัยผสานรวมกัน
ร้านนี้เทียบได้กับร้านฟาสต์ฟู้ดสไตล์ตะวันตก เหนือเคาน์เตอร์มีรูปอาหารชวนน้ำลายสอ โต๊ะเก้าอี้คล้ายกับในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีองค์ประกอบวัฒนธรรมจีนเสริมเข้าไป
พนักงานเสิร์ฟในร้านทุกคนคือสาวสวย พวกเธอไม่ได้ยิ้มหวานอวดฟันตามแบบฉบับทั่วไป ถึงจะดูเย็นชา แต่รอยยิ้มน้อยๆ ก็แอบดูมีเสน่ห์ยั่วยวน
หลังจากเปิดร้านก็เป็นการโปรโมตแบรนด์สาวหน้านิ่งยกใหญ่และปั่นกระแสในโลกอินเทอร์เน็ต
ตัวอย่างเช่น เมิ่งชั่งเช่ารถสปอร์ตให้สาวสวยขับส่งบะหมี่เย็นย่างถึงที่ ซึ่งก็กลายเป็นประเด็นร้อนแรง
ตอนเปิดร้านมีแคมเปญให้ลูกค้าร้อยคนแรกกินฟรี
ถ้าลูกค้าผู้หญิงมากินที่ร้านสาวหน้านิ่งและโพสต์รูปลงเว่ยป๋อพร้อมติดแท็กแอกเค้านต์ทางการของแบรนด์สาวหน้านิ่งก็จะได้รับสิทธิ์จับฉลากชิงรางวัลแพ็กเกจแฟชั่น 1,888 หยวนซึ่งจะเปิดให้จับฉลากเรื่อยๆ
มีกิจกรรม ‘ออเดอร์แพงสุด’ ออเดอร์อาหารที่แพงที่สุดในช่วงสัปดาห์เปิดร้านสาวหน้านิ่งไม่ต้องจ่ายค่าอาหาร ส่วนที่สองกับที่สามจะได้ของสมนาคุณ
นอกจากนั้นก็มีกิจกรรมเทศกาลพิเศษอย่างวันที่ 7 เดือนหน้าจะมีกิจกรรม ‘พายุหิมะ’ โดยมีเมนูพิเศษ ‘บะหมี่เย็นย่างเกล็ดหิมะ’ ให้บริการในวันนั้น แค่ลูกค้ามาสั่งอาหารอะไรก็ได้และโพสต์ลงเว่ยป๋อก็ได้รับไปเลยฟรีๆ หนึ่งเซต
เบื้องหลังกิจกรรมการตลาดเหล่านี้คือเงินทุนที่ลดลงอย่างรวดเร็วของแบรนด์สาวหน้านิ่ง
เมิ่งชั่งได้ทุนสองล้านหยวนจากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งและหนึ่งล้านหยวนจากสองนักลงทุน รวมเป็นสี่ล้านหยวน
แต่เขาก็ใช้หมดไปอย่างรวดเร็ว
ค่าเช่า ค่ารีโนเวต เงินเดือนสาวสวยที่จ้างมาเป็นพนักงานเสิร์ฟ เงินอุดหนุนกิจกรรมต่างๆ ซื้อคำค้นหายอดนิยมบนเว่ยป๋อ และอื่นๆ ต่างก็จำเป็นต้องใช้เงินทั้งนั้น
เงินสี่ล้านหยวนอาจจะดูเหมือนเยอะ แต่ก็หมดไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งเมิ่งชั่งวางแผนว่าจะเปิดสาขาเพิ่มอีก ทุกสาขาที่เปิดเพิ่มก็จะเป็นหุบเหวไร้ก้น
แต่ถึงอย่างนั้น เมิ่งชั่งก็ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรในการใช้เงิน เพราะจิงไห่ปิงเป็นคนดูแลเรื่องการเงินของแบรนด์สาวหน้านิ่ง
ถ้าเมิ่งชั่งมีเล่ห์เหลี่ยมอะไรในการซื้ออุปกรณ์สิ้นเปลือง การโปรโมต และค่าจ้างพนักงานเพื่อช่องทางทำเงิน จิงไห่ปิงก็ต้องรู้แน่นอน
แน่นอนว่าในฐานะนักต้มตุ๋นระดับสูง เมิ่งชั่งไม่คิดจะใช้วิธีอุกอาจแบบนั้นเพื่อทำเงิน
ไม่ต้องพูดถึงเรื่องความเป็นไปได้ในการปฏิบัติจริง ถ้าขายบริษัทต่อให้ผู้ซื้อรายใหม่แล้วโดนตรวจสอบบัญชีขึ้นมา เมิ่งชั่งอาจถูกส่งเข้าตารางได้ง่ายๆ
ดังนั้นการหากินกับค่าวัสดุอุปกรณ์และการทำการตลาดจึงเป็นวิธีการชั้นต่ำเกินไป เมิ่งชั่งไม่มีทางใช้วิธีแบบนั้นแน่
ไม่นานจิงไห่ปิงก็รายงานเสร็จ
ผู้จัดการการเงินที่ประจำอยู่บริษัทอื่นๆ ทยอยรายงานสถานการณ์ต่อทีละคน