📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 753

บทที่ 753 - เปิดศูนย์พัฒนาอย่างเป็นทางการ
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

อู๋ปินตอบ “บอสเผยไม่อยากให้จิตวิญญาณเถิงต๋าเป็นแบบแผนตายตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่บอสเผยย้ำมาตั้งแต่ต้น

“ผมกับชุ่ยเกิ่งทำคู่มือจิตวิญญาณเถิงต๋าขึ้นมาเพื่อช่วยให้เราตีความความคิดบอสเผยได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้เป็นคำตอบมาตรฐาน เราไม่อยากให้คู่มือนี้จำกัดความคิดของทุกคน

“แต่จิตวิญญาณเถิงต๋าก็กลายเป็นแบบแผนตายตัว หลายกิจการพยายามผ่านการสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋าด้วยการบอกใบ้และปลูกฝังจิตวิญญาณเถิงต๋าที่เป็นแบบแผนแทนจิตวิญญาณเถิงต๋าที่มีความเป็นอิสระ จริงๆ แล้วถือเป็นการทำให้ความทุ่มเทของบอสเผยในการเตรียมการสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋าสูญเปล่า!

“เพราะงั้นบอสเผยเลยบอกว่าไม่จำเป็นต้องเสริมสร้างจิตวิญญาณในเถิงต๋า อันที่จริงบอสหมายความว่าเถิงต๋าไม่ควรเป็นเหมือนบริษัทอื่นที่ให้ท่องจำตรงๆ บอสต้องการย้ำว่ากระบวนการสำคัญกว่าผลลัพธ์

“บอสเผยอยากให้พนักงานใหม่มีอิสระในการทำความเข้าใจจิตวิญญาณเถิงต๋าในสภาพแวดล้อมบริษัทและสร้างแนวคิดที่หลากหลาย บอสไม่อยากปิดกั้นความเข้าใจของทุกคนด้วยวิธีการแบบเดียว

“ทำไมบอสเผยถึงไม่อยากให้แต่ละกิจการมีอิทธิพลต่อกันและให้ใส่ใจแค่กิจการของตัวเอง

“ส่วนหนึ่งก็เพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางความคิด กับป้องกันไม่ให้จิตวิญญาณเถิงต๋าเป็นแบบแผนตายตัวและมีคำอธิบายแค่แบบเดียว

“อีกส่วนก็เพื่อส่งเสริมให้กิจการต่างๆ อธิบายจิตวิญญาณเถิงต๋าตามสถานการณ์และเอกลักษณ์ของแต่ละกิจการ!

“แต่ละกิจการมีสิ่งที่ตัวเองต้องให้ความสำคัญ กิจการเกม กิจการภาพยนตร์ กิจการเทคโนโลยี กิจการหน้าร้าน… ทุกกิจการต้องใช้จิตวิญญาณเถิงต๋าเป็นแนวทางในการทำงาน ถึงอย่างนั้นแต่ละกิจการก็ต้องใช้จิตวิญญาณเถิงต๋าที่แตกต่างกันไป

“ดังนั้นบอสเผยจึงอยากให้ทุกกิจการเข้าใจจิตวิญญาณเถิงต๋าตามสถานการณ์และความต้องการในการใช้งานของแต่ละกิจการ 

“ส่วนทำไมผู้จัดการกิจการต่างๆ ถึงไม่จำเป็นต้องเข้าใจคำสั่ง แค่ทำตามก็พอ

“ผมคิดว่าเพราะไม่ช้าก็เร็ว ระหว่างขั้นตอนการดำเนินการทุกคนจะเข้าใจเอง บอสเผยจะบอกทุกคนว่าจิตวิญญาณเถิงต๋าไม่ต้องอาศัยการปลูกฝัง แต่เป็นการรับรู้ได้ด้วยตัวเอง

“ถ้าเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ด้วยตัวเองก็จะมีความลึกล้ำและสร้างความมั่นใจได้!”

ห่าวหยุนเข้าใจทันที “อย่างนี้นี่เอง 

“บอสเผยคิดว่าจิตวิญญาณเถิงต๋าที่บอสทุ่มเทกลายเป็นแบบแผนตายตัว ก็เลยตัดสินใจปรับกระบวนการคิดใหม่ ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้เสริมสร้างจิตวิญญาณ แต่บอสอยากเสริมสร้างด้วยวิธีที่ดีกว่าและละเอียดอ่อนกว่า!

“งั้น… เราควรทำยังไงดี”

อู๋ปินไม่ลังเล “แน่นอนว่า เราต้องทำตามคำสั่งของบอสเผยครับ!

“พูดให้ชัดเจนคือ ผมคิดว่ามีอยู่สองสามประเด็น

“ก่อนอื่นเลย เลิกเผยแพร่คู่มือจิตวิญญาณเถิงต๋าและการตีความจิตวิญญาณเถิงต๋าแบบเฉพาะเจาะจง เลิกให้คำใบ้กับพนักงานที่จะสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋า โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาในการทำข้อสอบ ปล่อยให้พวกเขาโดนคัดออก ถ้าพวกเขาไม่เข้าใจจิตวิญญาณเถิงต๋าภายใต้อิทธิพลของสภาพแวดล้อมการทำงานแบบนี้ ก็แสดงว่าการทำความเข้าใจของพวกเขาไม่ดีพอ ความคิดเป็นแบบแผนเกินไป ควรโดนคัดออก

“ห้ามให้คู่มือจิตวิญญาณเถิงต๋ากับคนที่ไม่มีความเข้าใจในจิตวิญญาณเถิงต๋าที่ลึกซึ้งมากพอ เพราะอาจจะทำคนคนนั้นเลิกค้นคว้าและครุ่นคิดเรื่องจิตวิญญาณเถิงต๋า 

“ให้คู่มือจิตวิญญาณเถิงต๋าได้แค่กับคนที่มีความเข้าใจในจิตวิญญาณเถิงต๋าที่ลึกซึ้งและไม่ขัดแย้งในตัวเอง พวกเขาจะเห็นถึงมุมมองใหม่และได้ความคิดใหม่ๆ โดยไม่กระทบกับความเข้าใจเดิม

“ทำแบบนี้ อัตราการผ่านของการสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋าก็จะลดลง แต่ก็น่าจะตรงกับที่บอสเผยต้องการ

“สอง กิจการต่างๆ ไม่ควรมีการสื่อสารเรื่องจิตวิญญาณเถิงต๋ามากจนเกินไป ควรใช้สถานการณ์จริงเพื่อเจาะลึกลงไปในจิตวิญญาณเถิงต๋าซึ่งตรงกับความต้องการของกิจการ ผู้จัดการกิจการแต่ละคนควรพัฒนาจิตวิญญาณเถิงต๋าของกิจการตัวเองโดยอ้างอิงจากจิตวิญญาณเถิงต๋าเดิมและพยายามไม่แทรกแซงกิจการอื่น 

“สาม เราระมัดระวังมากเป็นพิเศษเรื่องการพัฒนาวัฒนธรรมจิตวิญญาณเถิงต๋า เราต้องแนะนำไม่ใช่ปลูกฝัง ต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่จิตวิญญาณเถิงต๋าไม่ได้แค่ลอยอยู่อย่างผิวเผิน แต่จมลึกลงไปในรายละเอียดงานและฝังอยู่ในก้นบึ้งหัวใจของทุกคน โดยที่เราไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้กันอีก”

ห่าวหยุนพยักหน้าอย่างจริงใจ 

สมแล้วที่เป็นคนที่เข้าใจจิตวิญญาณเถิงต๋าลึกซึ้งที่สุด การวิเคราะห์ของเขาช่างมีเหตุผลและน่าเชื่อถือมาก 

“โอเค งั้นเดี๋ยวพี่บอกข้อมูลนี้กับผู้จัดการคนอื่นๆ และทำตามคำสั่งบอสเผยอย่างเคร่งครัด!”

ห่าวหยุนนึกอะไรขึ้นได้พอดี “จริงด้วย อู๋ปิน ฉันตัดสินใจเองว่าจะไม่รับรางวัลพักร้อนหนึ่งสัปดาห์แบบได้เงินเดือน อย่าโกรธกันนะ”

อู๋ปินรีบตอบ “ดีแล้วครับพี่ที่ไม่รับ!

“ผู้จัดการคนอื่นๆ มีความเข้าใจในระดับสูง พวกเขารู้ว่าจิตวิญญาณเถิงต๋าเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่อธิบายไม่ได้ พอพูดออกไป ความหมายจะเปลี่ยนและไปจำกัดความคิดของคนอื่น

“พักร้อนหนึ่งสัปดาห์น่าจะเป็นเหยื่อล่อที่บอสเผยเหวี่ยงออกไปรอให้ปลาพุ่งเข้ามาฮุบ!

“พูดตรงๆ เลยนะ ผมคิดว่าบอสเผยน่าจะไม่พอใจกับการกระทำของผมในตอนนี้ ถึงผมจะย้ำไปแล้วว่าการตีความของผมอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไปและพยายามให้ความร่วมมือกับบอสเผยอย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นสร้างผลกระทบเชิงลบซะได้

“เพราะงั้นผมไม่ได้ทำไปเพราะอยากได้หน้า แต่ทำไปเพราะอยากเผยแพร่จิตวิญญาณเถิงต๋าล้วนๆ ถ้าพี่บอกไปว่าเป็นผลงานผม ก็เท่ากับเผาผมทั้งเป็น!

“ถ้าเจอปัญหาเรื่องจิตวิญญาณเถิงต๋าอีกก็ไม่ต้องอ้างชื่อผมนะครับ นี่คือการตีความจิตวิญญาณเถิงต๋าที่ดีที่สุด!”

ใบหน้าอู๋ปินฉายชัดถึงความไม่เห็นแก่ตัว

ห่าวหยุนพยักหน้า “ได้เลย ฉันเข้าใจแล้ว!”

วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน

ที่อาคารสำนักงานระดับไฮเอนด์แห่งหนึ่งในปักกิ่ง

อูจื้อเฉิงเช็กความเรียบร้อยของตัวเองหน้าประตูก่อนจะเดินเข้าไป 

วันนี้เขาเลือกใส่เสื้อผ้าเข้าชุดซึ่งค่อนข้างแพง แถมยังสระผมก่อนออกมาข้างนอกเพราะกลัวว่าจะดูเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงและไปลดมูลค่าของอาคารสำนักงานลง 

แต่พอไปถึงออฟฟิศ เขาก็พบว่าตัวเองยังห่างชั้นจากอาคารสำนักงานอยู่มาก 

สองสัปดาห์ก่อน ชิวหงไปหาอูจื้อเฉิงถึงที่พักเพื่อดูสถานการณ์และตัดสินใจลงทุนกับอูจื้อเฉิงในโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลาน 

นอกจากนั้นแล้ว พอได้เห็นสภาพแวดล้อมการทำงานอันน่าเวทนาของอูจื้อเฉิง ชิวหงก็เสนอว่าจะสนับสนุนพื้นที่สำนักงานและความช่วยเหลือจำเป็นอื่นๆ 

หลังเตรียมการสองสัปดาห์ เมื่อวานชิวหงก็โทรมาบอกอูจื้อเฉิงว่าศูนย์พัฒนาพร้อมให้บริการแล้ว แถมยังส่งโลเคชันมาให้และบอกให้เขาแวะเข้าไปที่ศูนย์พัฒนาวันพรุ่งนี้โนlวลกูดอทคoม

อูจื้อเฉิงดูโลเคชันแล้วพบว่าห่างจากที่อยู่ตัวเองแค่สี่สถานี จัดว่าค่อนข้างสะดวก เขาจึงแวะไป 

แต่ก็ไม่มั่นใจในศูนย์พัฒนานี้เท่าไหร่ 

มีออฟฟิศเป็นหลักเป็นแหล่งก็ดี แต่ถ้าต้องเดินทางไปกลับออฟฟิศทุกวัน ทำเกมอยู่ห้องจะไม่ดีกว่าเหรอ 

ถึงห้องของเขาจะรกสุดๆ แต่ก็สะดวกสบายมาก เพราะไม่มีที่ไหนสุขใจเท่าบ้านตัวเอง 

อูจื้อเฉิงเป็นผู้พัฒนาเกมอินดี้ และถือว่าเป็นฟรีแลนซ์ การต้องไปทำงานข้างนอกหมายความต้องเสียเวลาเดินทางเพิ่มขึ้นในแต่ละวัน นอกจากความเหนื่อยล้าและความแออัดแล้ว เวลาที่ใช้ไปในแต่ละวันถ้าเอามารวมกันก็ไม่ใช่จำนวนน้อยๆ เลย 

เพราะงั้นถ้าไม่มีเหตุผลที่ล่อตาล่อใจเป็นพิเศษ อูจื้อเฉิงก็คงเลือกที่จะทำเกมอยู่ที่ห้องตัวเองมากกว่า 

ชั้นหนึ่งเป็นห้องโถงระยิบระยับที่ต้องใช้การ์ดรูดเข้าไป อูจื้อเฉิงเดินไปหาพนักงานและอธิบายจุดประสงค์ที่มาวันนี้ พนักงานเลยขอให้เขาลงชื่อก่อนเข้าไปด้านใน 

“อย่าลืมขอบัตรผ่านกับทางบริษัทนะคะ” พนักงานสาวเตือนเขา 

อูจื้อเฉิงขึ้นลิฟต์ไปชั้นยี่สิบสาม ทันทีที่เดินออกไป เขาก็ต้องตกใจ 

ออฟฟิศกว้างมาก!

ทันทีที่ก้าวออกจากลิฟต์ก็เจอกับโซนเลานจ์ซึ่งมีโซฟาที่นั่งเดี่ยวหลายตัว โต๊ะกาแฟ ทีวีจอใหญ่ เครื่องเกมคอนโซล และเคาน์เตอร์บาร์ 

พนักงานสาวที่เคาน์เตอร์บาร์รับหน้าที่ต้อนรับแขกด้วย เธอยิ้มและทักทายทันทีที่เห็นเขา “สวัสดีค่ะ คุณอูจื้อเฉิงใช่ไหมคะ”

ศูนย์พัฒนาเพิ่งเปิดทำการอย่างเป็นทางการวันนี้ พวกเขาให้บริการแค่ผู้พัฒนาเกมอินดี้ที่เข้าร่วมโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานและยังไม่มีออฟฟิศ เพราะงั้นจึงมีคนใช้บริการไม่มาก 

พนักงานต้อนรับจำอูจื้อเฉิงได้ทันทีหลังอ่านข้อมูลทุกคนไว้ล่วงหน้า 

อูจื้อเฉิงก้าวไปข้างหน้าอย่างขวยเขินเล็กน้อย “ใช่ครับ ผมอูจื้อเฉิง ผมต้องไปติดต่อใครเหรอครับ”

พนักงานสาวประจำเคาน์เตอร์รับรองรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการจะถามอะไร จึงยิ้มแล้วตอบกลับ “รอสักครู่นะคะ เดี๋ยวคนจากแผนกธุรการจะมาแนะนำเรื่องต่างๆ กับคุณ เชิญดื่มกาแฟและหาที่นั่งรอก่อนค่ะ”

พอเห็นอูจื้อเฉิงทำหน้าลังเล เธอก็รีบพูดเสริม “ฟรีค่ะ ถ้าไม่อยากดื่มกาแฟ รับเป็นชาหรือเครื่องดื่มอื่นก็ได้ค่ะ”

อูจื้อเฉิงรีบตอบ “อ๋อ งั้นขอชานมแก้วนึงครับ”

พนักงานสาวพยักหน้า “ได้ค่ะ สักครู่นะคะ”

อูจื้อเฉิงนั่งลงบนโซฟาตัวหนึ่ง เขารู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในคาเฟ่ระดับไฮเอนด์ขึ้นมาชั่วขณะ ซึ่งรู้สึกไม่ชินเลย 

เขาเงยหน้ามองไปรอบๆ ออฟฟิศ จริงๆ แล้วมีโซนเลานจ์อยู่สองจุดคือตรงทางเข้าและลึกเข้าไปในออฟฟิศ 

ดูเหมือนว่าโซนเลานจ์ตรงทางเข้าจะมีไว้รับแขก ส่วนโซนด้านในค่อนข้างเป็นส่วนตัวกว่า 

พื้นที่เลานจ์ทั้งสองจุดใช้เคาน์เตอร์บาร์ร่วมกัน ซึ่งมีกาแฟและเครื่องดื่มมากมายเตรียมไว้บริการ 

พื้นที่ที่เหลือเป็นโซนทำงาน โต๊ะทำงานตัวใหญ่จัดวางกระจายกันไป อูจื้อเฉิงรู้สึกว่าเป็นการใช้พื้นที่ออฟฟิศได้สิ้นเปลืองมาก 

ที่นี่ไม่มีห้องประชุม เพราะก็ไม่น่าจะจำเป็น 

เนื่องจากผู้ใช้บริการส่วนใหญ่ในศูนย์พัฒนาเป็นผู้พัฒนาเกมอินดี้ เป็นเรื่องยากมากที่จะมีคนจำนวนมากมาประชุมกัน ถ้าจะประชุมกันเล็กๆ แค่สองสามคนก็ไปคุยกันในโซนเลานจ์แทนได้ ไม่จำเป็นต้องมีห้องประชุมแยกเป็นพิเศษ 

พื้นที่ออฟฟิศทั้งหมดให้ความรู้สึกเปิดกว้างและเป็นอิสระ เทียบไม่ได้เลยกับสภาพแวดล้อมแสนคับแคบและน่าหดหู่ในบริษัทอื่นๆ 

อูจื้อเฉิงมองซ้ายมองขวาอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง 

นี่มันดีกว่าที่คิดเอาไว้อีก!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset