📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 751

บทที่ 751 - ไม่ต้องเสริมสร้างจิตวิญญาณในเถิงต๋า!
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

พอเถิงต๋าคอร์เปอเรชันเติบโตขึ้น บอสเผยก็เริ่มอยู่ไม่ประจำเป็นหลักเป็นแหล่ง ทำให้มีโอกาสเจอบอสน้อยลงเรื่อยๆ

นอกจากที่บอสเผยแวะเขาออฟฟิศทุกวันจันทร์แล้ว พวกเขาจะได้เจอบอสเผยตัวต่อตัวแค่ตอนโปรเจ็กต์ใกล้เสร็จเท่านั้น 

สำหรับเหล่าผู้จัดการกิจการต่างๆ ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเจ็บปวด 

บอสเผยเป็นอัจฉริยะแห่งวงการธุรกิจ ถ้าพวกเขาได้พูดคุยกับบอสเผยและฟังสิ่งที่บอสพูดมากกว่านี้ ก็จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากิจการและทักษะส่วนตัวมาก 

ดังนั้นทุกครั้งที่บอสเผยพูด พวกเขาต้องฟังอย่างตั้งใจและพยายามเข้าใจความหมายเบื้องลึกให้ได้!

เผยเชียนมองเหล่าผู้จัดการ ก่อนจะยิ้มแล้วพูดขึ้น “มีใครสรุปเรื่องจิตวิญญาณเถิงต๋าได้อย่างถูกต้องบ้าง คนที่สรุปได้ดีที่สุดจะได้พักร้อนแบบจ่ายเงินเดือนหนึ่งสัปดาห์ยกกิจการ”

พักร้อนแบบจ่ายเงินเดือนหนึ่งสัปดาห์ยกกิจการน่าจะเป็นรางวัลที่ใจกว้างมากพอว่ามั้ย

ถึงจะไม่อยากได้เอง ยังไงก็ควรคิดถึงพนักงานคนอื่นๆ 

แผนของเผยเชียนเรียบง่ายและตรงไปตรงมา 

ถ้าจิตวิญญาณเถิงต๋าถูกตีความผิดๆ ต้นตอต้องเริ่มมาจากยอดบนของพีระมิด ผู้จัดการกิจการต่างๆ แบกรับความรับผิดชอบมากที่สุด ตัวการต้องซ่อนตัวอยู่ในคนกลุ่มนี้แน่!

เพราะยังไงผู้จัดการกิจการต่างๆ ของเถิงต๋าก็มโนกันเก่งที่สุด 

เขาอยากกำจัดทิ้งให้หมดทุกคน แต่ถ้าทยอยจัดการทีละคน ต้องมีคนหลุดรอดไปได้แน่ 

ในเมื่อตอนนี้มารวมกันพร้อมหน้าพร้อมตา คนที่ตีความจิตวิญญาณเถิงต๋าได้อย่างละเอียด ครบถ้วน และผิดเพี้ยนมากที่สุดจะต้องเป็นตัวการแน่นอน!

อีกอย่างเผยเชียนคิดว่าตัวการจะต้องไม่ปล่อยโอกาสอวดอ้างความดีความชอบแน่ ถ้าราดน้ำมันลงกองเพลิงด้วยการเสนอรางวัลเป็นการพักร้อน เขาต้องเจอตัวการมากกว่าหนึ่งคนแน่! 

เหวี่ยงเบ็ดไปแล้ว ใครจะเป็นคนมางับ 

เผยเชียนยิ้มกว้าง 

เหล่าผู้จัดการหันมองหน้ากัน แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไร 

ผู้จัดการสองสามคนหันมองห่าวหยุนตามสัญชาตญาณ แต่เธอก็ส่ายหน้าเบาๆ ทุกคนเลยนิ่งเงียบต่อไป 

เหล่าผู้จัดการคิดเห็นต่างกันไป แต่หลักๆ มีอยู่สามเหตุผล 

หนึ่ง ผู้จัดการส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองไม่ควรค่าพอ 

หลายคนรู้ว่าอู๋ปินเป็นคนสรุปเรื่องจิตวิญญาณเถิงต๋า ซึ่งสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่นๆ 

คงไม่เหมาะถ้าจะเสนอออกไปรับความดีความชอบของอู๋ปิน!

ทุกคนเป็นคนที่น่าเคารพนับถือและมีหลักเกณฑ์ ถ้าเสนอหน้าออกไปตอนนี้ ในอนาคตคงไม่กล้าไปเจอหน้าฝ่าย HR อีก 

เพราะงั้นผู้จัดการหลายคนจึงหันมองห่าวหยุน มีแค่ฝ่าย HR เท่านั้นที่มีสิทธิ์รับรางวัลนี้ 

แต่ห่าวหยุนก็รู้สึกกระดากใจเล็กน้อย เพราะความดีความชอบนี้ควรเป็นของอู๋ปิน จะให้เธอรับมาเองได้ยังไง แต่ถ้าย้ำว่าอู๋ปินเป็นคนสรุป ก็จะขัดกับเจตนารมณ์ของอู๋ปิน 

เพราะอู๋ปินย้ำอยู่หลายครั้งว่าการตีความจิตวิญญาณเถิงต๋านี้เป็นแค่ความคิดเห็นด้านเดียวและไม่ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ จิตวิญญาณเถิงต๋าขึ้นกับการตระหนักรู้และเข้าใจเป็นหลัก เขาไม่อยากให้ถือเป็นความดีความชอบของเขา ไม่งั้นคงไม่เก็บตัวเงียบมาจนถึงปัจจุบัน

ห่าวหยุนรู้ว่าอู๋ปินไม่อยากทำตัวเด่น แต่จะให้เธอและผู้จัดการกิจการคนอื่นๆ อ้างว่าผลงานของอู๋ปินเป็นของตัวเองนั้นยากยิ่งกว่า ทุกคนเลยเงียบกันหมด 

สอง พักร้อนแบบได้รับเงินเดือนหนึ่งสัปดาห์นั้นไม่ได้น่าดึงดูดใจเลย

แต่ละกิจการมีแผนงานอยู่ ไม่ว่าจะพักร้อนหนึ่งสัปดาห์กันยกกิจการหรือแค่เฉพาะผู้จัดการคนเดียว ยังไงก็กระทบกับแผนงานอยู่ดี

แถมเถิงต๋ายังไม่สนับสนุนให้ทำงานล่วงเวลาด้วย พวกเขามีเวลาพักผ่อนเพียงพอทั้งหลังเลิกงานและวันหยุดสุดสัปดาห์ ถ้าต้องพักร้อนหนึ่งสัปดาห์คงรู้สึกไม่สงบใจกัน เพราะงั้นไม่เอาดีกว่า 

สาม ไม่มีใครกล้าคุยโวต่อหน้าบอสเผย และจิตวิญญาณเถิงต๋าเองก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด 

อู๋ปินวิเคราะห์เหตุผลที่บอสเผยไม่ยอมบอกต่อจิตวิญญาณเถิงต๋าด้วยตัวเอง แต่ใช้การสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋าเพื่อให้พนักงานทำความเข้าใจด้วยตัวเอง จะได้ไม่ถูกผูกมัดด้วยกฎระเบียบ 

ถ้าเป็นแบบนั้น ให้คุยโวความเข้าใจอันตื้นเขินต่อหน้าบอสเผยจะไม่ดูน่ากระอักกระอ่วนเอาเหรอ 

ไม่มีใครกล้าทำอะไรน่าขายหน้าต่อหน้าคนอื่น 

เพราะงั้นจึงไม่มีผู้จัดการคนไหนพูดอะไรหลังบอสเผยถาม พวกเขาแค่มองหน้ากันแล้วหันกลับไปหาบอสเผย 

เผยเชียนผงะไป 

อะไรกันเนี่ย 

ไม่มีใครฮุบเหยื่อเลยเหรอ 

ทุกคนระวังตัวกันขนาดนี้เลย 

หรือว่าพวกนายสำเร็จวิชาสื่อสารทางจิตกันหมดแล้ว 

เผยเชียนขมวดคิ้วพร้อมกับถามขึ้น “ทำไมไม่มีใครพูดอะไรเลยล่ะ”

หวงซื่อปั๋วกระแอมกระไอ “บอสเผยครับ ความเข้าใจจิตวิญญาณเถิงต๋าของเราอยู่ในระดับผิวเผินเกินไปและเป็นความเห็นด้านเดียว เราไม่กล้าอธิบายให้ขายหน้าตัวเองหรอกครับ”

หลินหวานพยักหน้า “ใช่ค่ะ เรื่องนี้ซับซ้อนเกินไปจนหนูไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี”

หม่าอี้ฉวินพูดด้วยสีหน้าลุ่มลึก “เราเข้าใจ แต่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ ให้ลงรายละเอียดคงไม่ได้หรอกครับ ถ้าอธิบายไปก็น่าจะผิด”

เสี่ยวเผิง “ความเข้าใจในจิตวิญญาณเถิงต๋าของเรายังไม่ถึงหนึ่งในสิบของจิตวิญญาณเถิงต๋าที่แท้จริงเลยครับ เราไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี”

เขาอยากจะพูดอะไรขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน 

เผยเชียนตะลึงงัน

ฉันให้แกเล่าเรื่องจิตวิญญาณเถิงต๋า ไม่ได้ให้เขียนวิทยานิพนธ์เรื่องเซน! 

แต่ดันได้ยินแต่อะไรแบบ ‘เราลงรายละเอียดไม่ได้ อธิบายไปเดี๋ยวผิด’ เนี่ยนะ 

คนพวกนี้ทำให้เผยเชียนนึกถึงกลุ่มพระแก่ๆ ที่ชอบพูดจาคลุมเครือจนถามอะไรเพิ่มไม่ได้ 

เผยเชียนรู้สึกอับจนหนทางเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ผิดถูกได้หมด ทุกคนอธิบายกันได้ตามสบาย”

เหล่าผู้จัดการมองหน้ากัน แต่ก็ยังนิ่งเฉย 

หวงซื่อปั๋ว หลินหวาน และพนักงานรุ่นใหญ่คนอื่นๆ ดูแน่วแน่เป็นพิเศษโuเวลกูดoทคoม

ผู้จัดการคนที่มีประสบการณ์ค่อนข้างสูงอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่พอเห็นสีหน้าของหวงซื่อปั๋ว หลินหวาน และคนอื่นๆ พวกเขาก็เข้าใจสถานการณ์และปิดปากเงียบอย่างว่าง่ายทันที 

ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการทดสอบของบอสเผย!

คนที่พูดอะไรออกมาตอนนี้คือคนที่ไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของบอสเผยหรือจิตวิญญาณเถิงต๋าลึกซึ้งมากพอ 

แก่นของจิตวิญญาณเถิงต๋าคือต้องคิดให้ออกด้วยตัวเอง ไม่ใช่พูดไปเรื่อยเปื่อย ถ้าอธิบายความเข้าใจในจิตวิญญาณเถิงต๋าต่อหน้าบอสเผยก็ขัดกับจิตวิญญาณเถิงต๋าสิ 

เพราะงั้น เงียบไว้นี่แหละคือคำตอบที่ถูกต้อง!

ถ้าเผยเชียนถามคำถามนี้รายบุคคล ก็อาจจะได้คำตอบกลับมาบ้าง เพราะยังไงทุกคนก็คิดเห็นแตกต่างกัน

แต่ตอนนี้ผู้จัดการทุกคนรวมกันอยู่ที่นี่ ความเงียบเป็นเหมือนโรคติดต่อ ทุกคนสังเกตท่าทีของกันและกัน โดยเฉพาะหลินหวาน หวงซื่อปั๋ว และพนักงานรุ่นใหญ่คนอื่นๆ แล้วตระหนักว่าเงียบคือคำตอบที่ถูกต้อง เพราะงั้นเลยตอบกลับด้วยการเงียบ!

เผยเชียนสับสนมาก บนหัวเขาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

???

เกิดอะไรขึ้น 

ล้วงข้อมูลจากคนพวกนี้ไม่ได้สักแอะเลยเหรอ 

เผยเชียนตั้งใจว่าจะเรียกชื่อสองสามคนให้พูดอะไรหน่อย แต่พอคิดดูอีกทีก็ไร้ประโยชน์!

พวกผู้จัดการต้องตอบอะไรสักอย่างแน่ แต่ก็คงไม่ได้ช่วยให้หาตัวการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดได้ อีกอย่าง พอเห็นคนพวกนี้ต่อต้านกันขนาดนี้ ไปบังคับให้พูดคงได้ผลลัพธ์แง่ลบมากกว่าเดิม 

เผยเชียนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจ 

โอเค งั้นต้องใช้แผนสำรอง 

เผยเชียนกะไว้แล้วว่าอาจเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาจึงเตรียมแผนรับมือไว้สองแผน ถังอี้ซู่จะแอบตรวจสอบเรื่องนี้ ความเป็นไปได้ที่จะหาตัวการเจอยังมีอยู่ 

นอกจากนั้น เผยเชียนยังตั้งใจจะพลิกสถานการณ์จิตวิญญาณเถิงต๋าจากมุมมองที่สูงกว่า!

คิดได้แบบนั้น เขาก็กระแอมกระไอ “ในเมื่อไม่มีใครอยากพูดอะไร งั้นก็ไม่เป็นไร แต่ผมอยากย้ำเรื่องหนึ่งกับทุกคน ช่วยนำไปใช้อย่างจริงจังด้วย

“ผมไม่สนใจว่าแต่ละกิจการจะเผยแพร่จิตวิญญาณเถิงต๋าในทางตรงหรือทางอ้อม ผมไม่สนว่าจิตวิญญาณเถิงต๋าที่ทุกคนส่งเสริมอยู่คืออะไรกันแน่ แต่ผมอยากให้ทุกคนหยุดสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ทันที

“พูดอีกอย่างคือ ไม่จำเป็นต้องสร้างเสริมจิตวิญญาณในเถิงต๋าคอร์เปอเรชัน

“โดยเฉพาะพวกคุณที่เป็นผู้จัดการกิจการ คุณต้องรับผิดชอบงานในกิจการ ไม่ว่ากิจการอื่นจะทำอะไรกันยังไง คุณต้องจำคำผมพูด

“ช่วยจำไว้ให้ขึ้นใจด้วย”

เหล่าผู้จัดการมองหน้ากันด้วยความงุนงง 

บอสเผยจะทำอะไร 

ทำไมถึงย้ำไม่ให้เถิงต๋าสร้างเสริมจิตวิญญาณในเถิงต๋า แบบนั้นก็หมายความว่าไม่ให้ส่งเสริมจิตวิญญาณเถิงต๋าต่อไปสิ 

บริษัทอื่นให้ความสำคัญกับการสร้างเสริมวัฒนธรรมองค์กร ถึงจะมีแค่สโลแกนปลอมๆ แต่ก็ยังให้พนักงานท่องจำ 

กลับกัน เถิงต๋ามีจิตวิญญาณเถิงต๋าที่ดีขนาดนี้ แต่บอสเผยดันไม่ให้ทุกคนเรียนรู้และส่งต่อเนี่ยนะ

เอ่อ… 

ผู้จัดการทุกคนสับสนกันหมด ถึงขั้นรู้สึกว่าการกระทำของบอสเผยนั้นย้อนแย้งมาก 

บอสเผยให้ความสำคัญกับจิตวิญญาณเถิงต๋ามากๆ ไม่ใช่เหรอ ถ้าไม่ใช่ ทำไมถึงตั้ง ‘การสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋า’ ขึ้นมาล่ะ

เผยเชียนมองหน้าทุกคนแล้วรู้ได้ทันทีว่าพวกเขากำลังมโนขั้นสุดยอดกันอีกแล้ว จึงรีบพูดขึ้น “คุณไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรือรู้ว่าทำไม แค่ทำตามที่ผมบอกอย่างเคร่งครัดก็พอ”

เหล่าผู้จัดการพยักหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง “ได้ครับ บอสเผย!”

วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 

เผยเชียนเข้าออฟฟิศตามปกติเพื่อดูว่ามีอะไรให้ต้องจัดการรึเปล่า 

นั่งลงได้ไม่นานก็มีคนมาเคาะประตู 

เผยเชียนเงยหน้ามองก็เห็นหลินหวานผลักประตูเข้ามาด้านใน 

“มีอะไรเหรอ”

เผยเชียนแปลกใจเล็กน้อยเพราะช่วงนี้เขาแวะไปฉางหยางเกมส์บ่อย ตอนนี้ฉางหยางเกมส์รับผิดชอบสองหน้าที่ เยว่จือโจวกับทีมดูแลเรื่องการให้บริการ GOG เซิร์ฟเวอร์ต่างประเทศ ส่วนหวังเสี่ยวปินดูแลเรื่องการพัฒนา DLC ของเกมในเครือเถิงต๋า

ว่ากันตามหลักการแล้ว สองงานนี้ไม่น่าจะมีเรื่องให้ต้องปรึกษาอะไรเป็นพิเศษ

หลินหวานพูดขึ้น “บอสเผยคะ หนูแวะมาหาเพราะ IOI เคลื่อนไหวครั้งใหม่แล้วค่ะ”

เผยเชียน “หืม? โอเค เล่ามาซิ”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset