📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 747

บทที่ 747 - ตึกใหม่ของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

บทส่วนล่าสุดของผู้กำกับจูเสี่ยวเช่อจบลงตรงนี้ ลู่จือเหยาไม่แน่ใจว่าจากเรื่องราวทั้งหมดบทไปถึงช่วงไหนแล้ว แต่ประเมินจากเวลาถ่ายทำ พวกเขาน่าจะยังไปไม่ถึงครึ่งเรื่องเลยด้วยซ้ำ

ถึงจะมีซีนใหญ่ๆ และเอฟเฟกต์พิเศษมากมายในฉากหลังๆ แต่พล็อตในตอนนี้ก็ยังไม่พอที่จะสรุปเรื่องราวทั้งหมด 

แต่นี่คือสิ่งที่ผู้กำกับจูเสี่ยวเช่ออยากให้เป็น 

ชัดเจนว่าในหลายๆ ช่วงของหนังมีพล็อตที่พลิกผันไปมา สภาพจิตใจของฉินอี้ที่เป็นตัวเอกเองก็มีทั้งการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยและการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่

ถ้าลู่จือเหยารู้ตอนจบตั้งแต่แรก การแสดงในฉากก่อนหน้านี้ต้องถูกกระทบแน่นอน 

ดังนั้นเขาจึงแบ่งบทให้เป็นส่วนๆ จุดประสงค์หลักคือให้ลู่จือเหยาได้ดำดิ่งในบทและไม่โดนอิทธิพลจากการรู้ฉากจบล่วงหน้าครอบงำ

แต่ก็ยังมีปัญหาเรื่อง ‘การเข้าถึงตัวละคร’

จนถึงตอนนี้ ลู่จือเหยาถ่ายทำมาได้หลายซีนแล้ว บางซีนเป็นที่น่าพอใจ ส่วนที่เหลือไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่

แต่เขาก็สับสนอยู่เล็กน้อยว่าตัวเองพอใจรึเปล่า

เขาไม่มีทิศทางการแสดงที่ชัดเจนและไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด ลู่จือเหยาไม่รู้ว่าตัวเองเข้าใจตัวละครฉินอี้ถูกต้องรึเปล่า เลยรู้สึกสับสนและไม่มั่นใจมากพอ 

ตอนนี้พอได้อ่านบท อารมณ์ของฉินอี้นั้นเปลี่ยนแปลงไปมาอยู่หลายหน 

ตอนแรก ฉินอี้รู้สึกโชคดีที่ยังมีชีวิตอยู่และโกรธที่โดนหลอก 

หลังจากได้เห็นความพ่ายแพ้ของเซิร์กและรู้ว่าผู้บังคับบัญชาคนก่อนพลีชีพตัวเอง ฉินอี้ก็รู้สึกผสมปนเป ถึงจะเข้าใจดีว่าไม่มีทางเลือกอื่น แต่ก็ปล่อยเรื่องนี้ไปจากใจไม่ได้เลย 

ตอนสั่งการรบครั้งต่อๆ มาที่มีการเพิ่ม ‘องค์ประกอบสมจริง’ เข้ามา ความคิดและจิตใจของฉินอี้ก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นเหมือนผู้บังคับบัญชาคนก่อน หลังจากได้บัญชาการรบที่เคยเกิดขึ้นจริง ฉินอี้ก็เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสภาพจิตใจของผู้บัญชาการคนก่อนตอนที่ส่งคำสั่ง ‘กำลังเสริมกำลังไป’ ให้ทีม AS-371-45

ตอนที่พบว่าการรบบางส่วนที่ได้สั่งการเกิดขึ้นจริงๆ สภาพจิตใจของฉินอี้ก็ผันผวนอีกครั้ง 

สำหรับลู่จือเหยาแล้ว การแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์เหล่านี้นั้นยากมาก 

เพราะตัวละครของฉินอี้ออกแบบมาให้เป็นทหารที่ใจเย็นและมีเหตุผลมากๆ หน้าที่ของทหารคือปฏิบัติตามคำสั่ง เขารู้อยู่แก่ใจดีว่าความทุกข์ใจแค่เล็กน้อย หรือแม้แต่ชีวิตของเขาเอง ไม่ได้สำคัญเลยเมื่อเทียบกับชัยชนะของมนุษยชาติในศึกต่อกรกับเซิร์กและความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ 

เพราะงั้นในมุมหนึ่ง ฉินอี้ต้องข่มกลั้นอารมณ์ในฐานะมนุษย์เพื่อตัดสินใจได้อย่างมีเหตุผลและเย็นชามากขึ้น เขาพยายามเต็มที่เพื่อชนะทุกศึกโดยลดการบาดเจ็บล้มตายให้ได้มากที่สุด ในอีกมุมหนึ่ง เขาก็มีข้อสงสัยและมีความรู้สึกสับสนเกี่ยวกับอนาคตของตนเองและมนุษยชาติ

อารมณ์ที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนเหล่านี้มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยในแต่ละช่วงของพล็อต สำหรับลู่จือเหยา ส่วนที่ยากที่สุดคือการแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเหล่านี้ โดยที่ต้องมั่นใจว่าจะไม่สูญเสียความเป็นตัวละครฉินอี้ไป 

ลู่จือเหยาลุกไปหยิบกระจกอันเล็กจากด้านข้าง จากนั้นก็ลองแสดงสีหน้าต่างๆ หน้ากระจก 

ตอนนั้นเอง เขาก็นึกอะไรขึ้นได้จึงออกไปหาจูเสี่ยวเช่อ 

“ผู้กำกับจู ตั้งแต่ตอนนี้ไป นอกจากตอนถ่ายทำ ผมจะอยู่แค่ในห้องพักที่โรงแรม ไม่ออกไปไหน ขอผมยืมโน้ตบุ๊กเครื่องที่ให้ผมเล่น Starcraft รอบก่อนด้วยครับ ผมจะใช้วิเคราะห์ตัวละคร

“ขอยืมกล้องดิจิทัลด้วยครับ ผมอยากใช้อัดสีหน้าตัวเองตอนเล่นแล้วเอามาดูทีหลัง

“แล้วก็ ช่วยหาลำโพงอัจฉริยะที่คล้ายกับ AEEIS ให้ด้วยได้มั้ยครับ จะดีมากถ้าคุณใส่บทพูดทั้งหมดของ AEEIS ลงไป เพื่อที่จะได้ช่วยต่อบทกับผม ผมเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าฉินอี้ไม่ได้แสดงฉายเดี่ยว แต่เป็นการเข้าบทกับ AEEIS ผมคิดว่าตัวเองแสดงฉายเดี่ยวมาตลอด เลยรู้สึกว่าขาดอะไรบางอย่างไป

“ถ้ามีเสียงระบบต่อบทกับผมน่าจะได้ผลดีมากกว่า”

จูเสี่ยวเช่อแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็รีบพยักหน้าอย่างสุขใจ “ได้เลยครับ ไม่มีปัญหา

“เดี๋ยวคืนนี้ผมส่งกล้องกับโน้ตบุ๊กไปให้ ส่วน AEEIS… ผมได้ข่าวจาก OTTO ว่าตัวต้นแบบใกล้จะเสร็จแล้ว เดี๋ยวผมหามือถือ OTTO มาให้ใช้แทนไปก่อน ในเครื่องมีเสียงอัจฉริยะ AEEIS แล้วพอตัวต้นแบบของ AEEIS ทำเสร็จเมื่อไหร่ ผมจะขอมาหนึ่งตัวแล้วส่งให้คุณที่ห้องทันทีครับ”

วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 

คอมมูนิตี้จินตี่หวาถิง เขตกวงหมิง เมืองจิงโจว

นี่คือตึกใหม่เอี่ยม เหลียงชิงฟานเลือกตึกหนึ่งไว้ทำเป็นอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 2.0

เผยเชียนไม่มีอะไรทำ เลยตัดสินใจแวะมาดูว่าทุกอย่างเป็นยังไงบ้าง 

เหลียงชิงฟานรออยู่ชั้นล่าง พอต้อนรับบอสเผยเสร็จ ทั้งสองก็ขึ้นไปดูห้องตัวอย่างที่ชั้นสาม 

“บอสเผยครับ ตึกนี้มีลิฟต์สองตัว ชั้นละสามยูนิต ขนาดร้อยยี่สิบตารางเมตร ร้อยสามสิบตารางเมตร และร้อยห้าสิบตารางเมตร ทุกห้องมีหน้าต่างและระเบียงขนาดใหญ่หันหน้าไปทางทิศใต้ ผังห้องก็ไม่แย่ ดูจากทำเลแล้วน่าจะตอบความต้องการของคนส่วนใหญ่ 

“แต่ตัวห้องชุดตกแต่งมาดีมาก เลยตั้งราคาไว้สูง แพงกว่าตึกในละแวกสองถึงสามแสนหยวน ตอนนี้เลยขายไม่ค่อยออก

“ผมคิดดูแล้ว อีกไม่กี่เดือนข้างหน้ามีโอกาสที่ราคาจะลดลง แต่ถ้าถึงตอนนั้น ซื้อเหมาทั้งตึกอาจจะกลายเป็นเรื่องยาก พวกผมเลยตัดสินใจซื้อในราคาปัจจุบัน”

เหลียงชิงฟานอธิบายข้อมูลเบื้องต้นของตึกให้เผยเชียนฟัง 

เผยเชียนพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “อืม ทำถูกแล้ว!”

เขาเคยบอกไปแล้วว่าจะให้เงินเหลียงชิงฟานห้าสิบล้านไปซื้อตึกที่มูลค่ามีโอกาสเพิ่มขึ้นน้อย 

หลักๆ เป็นเพราะเผยเชียนโดยอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 1.0 เล่นงาน เขาจงใจเลือกทำเลห่างไกลผู้คนเพราะไม่มีใครอยากซื้อ แต่สุดท้ายก็ซื้อมาได้ในราคาต่ำเกินไป พอรีโนเวตเสร็จ ราคาก็พุ่งทะลุฟ้าโนเวลกูดอทคoม

ถ้าไม่ได้ภารกิจพิเศษช่วยไว้ รอบบัญชีที่แล้วคงจะล้มเหลวไม่เป็นท่า 

แต่ตึกนี้โอกาสที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นมากในระยะสั้นๆ ดูไม่มากเท่าไหร่ 

ทำเลคอมมูนิตี้จินตี่หวาถิงถือว่าไม่เลวเลย เจ้าของโครงการ สไตล์การตกแต่ง และอื่นๆ ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ แต่เป็นเพราะไม่มีจุดไหนให้ติเลยนี่แหละที่ทำให้เจ้าของโครงการกล้าตั้งราคาสูงกว่าตึกในละแวกสองถึงสามแสนหยวนด้วยทำเลและการรีโนเวตระดับไฮเอนด์ 

เห็นได้ชัดว่ากลยุทธ์การวางราคาเจ้าของโครงการมีลูกเล่น ราคาของห้องชุดมีแต่จะสูงขึ้น ไม่ลดลง 

ถ้าราคาสูงพอ ก็จะเน้นย้ำ ‘คุณสมบัติความไฮเอนด์’ ของตึก เพื่อดึงดูดคนรวยให้เข้ามาซื้อก่อน พอขายไม่ได้ก็ค่อยแอบลดราคาลง ตัวอย่างเช่น พวกเขาจะเสนอส่วนลดเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองได้เปรียบและใช้เทคนิคการเลือกกำหนดราคาแบบไม่เท่าเทียมอย่างถึงที่สุด 

แต่ถ้าตั้งราคาต่ำแล้วค่อยขึ้นราคาทีหลังก็จะโดนด่าเปิง 

ดังนั้นราคาที่ตั้งไว้จึงสูงเกินไป ผู้ซื้อรู้สึกว่าห้องชุดนี้ราคาแพงเกินเหตุ หลายคนรอดูไปก่อน เหลียงชิงฟานจึงใช้โอกาสนี้ซื้อเหมาทั้งตึก 

ถ้าในอนาคตราคาลดลง ถึงจะลดไปสองร้อยหยวนต่อตารางเมตร เถิงต๋าก็จะขาดทุนหกแสนถึงเจ็ดแสนหยวน ยิ่งราคาลดลงมาก พวกเขาก็จะยิ่งขาดทุนมาก 

แต่นั่นคือสิ่งที่เผยเชียนต้องการ ได้ผลาญเงินเพิ่มถือเป็นเรื่องดี แบบนี้ต้องชม!

เหลียงชิงฟานพาเผยเชียนไปดูห้องชุดที่ชั้นสามและชั้นสี่ 

“บอสเผยครับ ห้องชุดสามห้องบนชั้นสามเดิมเป็นห้องตัวอย่างของโครงการ ไหนๆ ก็ตกแต่งไว้เสร็จสรรพแล้ว ให้รื้อทำใหม่ก็น่าเสียดาย พวกผมเลยปล่อยไว้เหมือนเดิม จะได้โชว์ให้ลูกค้าเห็นถึงความแตกต่างในสไตล์การรีโนเวตของโปรเจ็กต์อพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยกับเจ้าของโครงการ

“ห้องชุดสามห้องบนชั้นสี่เป็นห้องตัวอย่างของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 2.0 ที่รีโนเวตตามสไตล์มินิมอลของเรา

“ชั้นอื่นๆ ยังรีโนเวตอยู่ครับ ประเมินจากการส่งเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แล้ว น่าจะเสร็จตอนช่วงปลายเดือนธันวาคม แต่ผู้เช่าจะย้ายเข้าได้ช่วงต้นเดือนมกราคม ซึ่งตรงกับไทม์ไลน์ที่เราวางไว้ก่อนหน้านี้ครับ”

เผยเชียนไปดูห้องตัวอย่างของเจ้าของโครงการที่ชั้นสามก่อน จากนั้นก็ขึ้นไปดูห้องตัวอย่างของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 2.0 ที่ชั้นสี่

ทั้งสองห้องแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด 

จะบอกว่าห้องตัวอย่างของเจ้าของโครงการไม่สวยก็ไม่ได้ วอลล์เปเปอร์ พรม ภาพติดผนังขนาดใหญ่บนผนังทีวี เฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานีสีเข้ม และอื่นๆ ล้วนเป็นสไตล์ที่นิยมในปัจจุบัน 

แต่ก็มีปัญหาอย่างที่เคยบอกไป ตอนนี้กลุ่มลูกค้าหลักยังเป็นวัยกลางคน ซึ่งห้องตัวอย่างก็ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มนี้ บางครั้งแม้แต่นักออกแบบภายในก็ต้องลดมาตรฐานความศิลป์ของตัวเองลงให้ตอบรับกับความต้องการของลูกค้า 

แต่พื้นที่ทั้งหมดในห้องตัวอย่างของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 2.0 ที่ชั้นสี่ให้ความรู้สึกแตกต่างออกไป!

เทียบอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 1.0 แล้ว สไตล์โดยรวมของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 2.0 ยังเหมือนเดิม แตกต่างตรงที่มีพื้นที่จัดเก็บในห้องมากกว่า ทำให้เหมาะกับการพักอาศัยยิ่งขึ้น

เผยเชียนสำรวจดูอยู่พักหนึ่งแล้วตระหนักว่าเหลียงชิงฟานยังยั้งมืออยู่แม้จะผ่อนปรนข้อจำกัดเรื่องพื้นที่จัดเก็บในเวอร์ชัน 2.0 เขาไม่ได้อัดตู้เข้ามาทุกที่ โดยเฉพาะในบริเวณห้องนั่งเล่น ยังคงยึดสไตล์พื้นที่ว่างอย่างเต็มที่ 

แต่ก็มีการเพิ่มตู้เข้ามาในห้องอ่านหนังสือ ห้องนอน ข้างประตู และห้องนั่งเล่นใกล้ระเบียง โดยเลือกให้สไตล์เข้ากันเพื่อไม่ให้เด่นสะดุดตา 

เมื่อเทียบกับห้องตัวอย่างของเจ้าของโครงการแล้ว ชัดเจนว่าสไตล์ของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยเหมาะกับรสนิยมวัยรุ่นมากกว่า ทั้งการดึงประโยชน์ใช้สอยจากพื้นที่ การใช้งานจริง ไลฟ์สไตล์ความเป็นอยู่ บรรยากาศทางวัฒนธรรม และจุดอื่นๆ ล้วนพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เหลียงชิงฟานถาม “บอสเผยคิดว่ายังไงครับ”

เผยเชียนพยักหน้า “อืม ไม่เลวเลย”

ห้องชุดแบบอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 2.0 น่าจะมีคนกรูมาแย่งกันทันทีหลังเปิดให้เช่า 

อันที่จริง เผยเชียนตัดสินใจว่าจะทำอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 2.0 เพื่อช่วยคนหนุ่มสาวที่มีปัญหาเรื่องการเช่าอพาร์ตเมนต์ ตอนแรกปัญหาเดียวของอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยคือมีพื้นที่จัดเก็บน้อยเกินไป ตอนนี้จัดการกับข้อเสียนี้ได้แล้ว กลายเป็นห้องชุดสำหรับเช่าที่ตรงกับความต้องการของคนหนุ่มสาวสุดๆ 

ถ้าทำโมเดลนี้ออกมามากขึ้น อพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย 1.0 ก็จะปล่อยเช่าได้ยากขึ้น 

แต่เผยเชียนก็ไม่ได้สนใจ โมเดลไหนเป็นที่นิยมก็ทำโมเดลนั้นเพิ่ม เพราะไม่ว่าจะโมเดลไหน ยังไงเขาก็ได้ผลาญเงินอยู่ดี 

เผยเชียนเดินชมรอบห้องและลองจับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโซฟา โต๊ะกาแฟ ชั้นวางทีวี และอื่นๆ ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างจากเดิมเล็กน้อย 

เขาไม่ทันสังเกตตอนที่เข้ามาในห้องเพราะเป็นอพาร์ตเมนต์คนละที่ 

“เฟอร์นิเจอร์พวกนี้ดูไม่เหมือนที่ก่อนเลยนะ” เผยเชียนทัก

เหลียงชิงฟานพยักหน้า “ใช่ครับ ตอนนี้เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ในห้องเปลี่ยนใหม่หมด ที่ดูแตกต่างจากเดิมเยอะหน่อยก็เพราะว่าส่วนใหญ่สั่งทำพิเศษกับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่เราร่วมงานด้วยครับ”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset