อูจื้อเฉิงผงะไป “บอสเผย? บอสเผยไหนเหรอครับ ทำไมผมต้องขอบคุณเขาด้วย”
ชิวหงตะลึงงัน ใจตกไปอยู่ตาตุ่ม
แย่แล้ว!
ทำไมถึงหลุดปากพูดออกไปแบบนั้นล่ะ!
บอสเผยเตือนหลายครั้งแล้วว่าห้ามโยงโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานกับเถิงต๋า ต้องเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ
ชิวหงดูโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานและให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับผู้พัฒนาเกมอินดี้ด้วยชื่อตัวเอง ไม่ได้ระบุชื่อบอสเผยหรือเถิงต๋า
แต่ครั้งนี้ชิวหงคุมความรู้สึกตัวเองไม่ได้
ในความคิดของชิวหง โปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานคือโปรเจ็กต์ที่ช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมเกมอินดี้ได้มาก บอสเผยช่วยเหลือวงการนี้เยอะจริงๆ
แน่นอนว่า ‘การช่วยเหลือ’ นี้ก็ไม่ได้หมายความว่าบอสไม่ต้องการรายได้และต้องการทำดีเฉยๆ
บางครั้งเราก็หาเงินเพิ่มได้มากกว่านี้ แต่การเลือกที่จะหาเงินได้น้อยลง และให้สิทธิประโยชน์กับคนที่ด้อยโอกาสในอุตสาหกรรมหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นการช่วยเหลือรูปแบบหนึ่ง
สิ่งที่บอสเผยกำลังทำคือแจกจ่ายกำไรออกไปให้มากที่สุด ถึงโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลานจะเป็นโปรเจ็กต์ธุรกิจที่มีโอกาสทำเงิน แต่นอกจากบอสเผยก็ไม่มีใครทำแบบนี้
เพราะงั้นชิวหงเลยซึ้งใจมาก ตัวเขาเอง ผู้พัฒนาเกมอินดี้ทุกคน และทั้งอุตสาหกรรมเกมจีนควรขอบคุณบอสเผย
เพราะบอสเผยกำลังช่วยเหลืออุตสาหกรรมจริงๆ
แต่เขาก็เผลอหลุดปาก ลืมว่าบอสเผยบอกให้เก็บเป็นความลับ
ชิวหงรีบกระแอมกระไอ “ผมจะบอกว่าผมตัดสินใจทำแบบนี้เพราะได้แรงบันดาลใจจากเกมอินดี้ที่บอสเผยทำ
“มองจากมุมนี้ บอสเผยถือว่าเป็นที่ปรึกษาและเสาหลักทางจิตวิญญาณของโปรเจ็กต์ล้มลุกคลุกคลาน
“ถึงบอสเผยจะไม่ได้มีส่วนช่วยกับโปรเจ็กต์นี้โดยตรง แต่เขาก็ให้การสนับสนุนทางจิตวิญญาณกับผม ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
“แน่นอนว่าผมแค่หลุดพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป อย่าไปใส่ใจอะไรมากเลยครับ”
อูจื้อเฉิงพยักหน้า “อ๋อ เข้าใจแล้วครับ จริงๆ ผมก็นับถือบอสเผยเป็นไอดอลของผมเหมือนกัน”
ชิวหงปาดเหงื่อออกจากหน้าผากเมื่อเห็นว่าอูจื้อเฉิงไม่ได้สงสัยอะไร
เกือบไปแล้ว!
แต่ชิวหงก็รู้ดีว่าเรื่องที่บอสเผยเป็นผู้อยู่เบื้องหลังโปรเจ็กต์นี้จะถูกเปิดเผยแน่นอนไม่ช้าก็เร็ว
ที่ชิวหงยังปิดบังได้อยู่ในตอนนี้เพราะให้ความช่วยเหลือผู้พัฒนาเกมอินดี้ไปไม่กี่เจ้า ยังไม่ได้สร้างผลกระทบใหญ่ขนาดนั้น
ในอนาคต พอธุรกิจเติบโต มีเงินทุน ตั้งศูนย์พัฒนาเสร็จ ก็จะมีเรื่องทางธุรกิจให้จัดการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคนอื่นๆ ก็จะรู้ความจริงไม่ช้าก็เร็ว
เขาทำได้แค่ทำตามที่บอสเผยสั่งไว้และปิดบังไปให้ได้นานที่สุด
ชิวหงลุกยืน “เชิญทำงานต่อเลยครับ ผมขอกลับไปเตรียมตัวก่อน ถ้าจัดการเรื่องศูนย์พัฒนาเสร็จเมื่อไหร่ จะติดต่อมาอีกทีครับ
“ตอนนี้ตั้งใจพัฒนาเกมให้เต็มที่ เรื่องยิบย่อยต่างๆ เดี๋ยวผมหาทางจัดการให้!”
อูจื้อเฉิงรีบพยักหน้า “ได้ครับ บอสชิว!”
…
ช่วงบ่าย
หลังกินข้าวเสร็จ เผยเชียนก็คุยกับบรรดาบอสต่ออีกพักใหญ่ ก่อนจะส่งพวกเขาส่วนใหญ่กลับ
ตอนนี้ ลีก GPL สรุปรายละเอียดเรียบร้อย จางหยวนกับแผนกอีสปอร์ตต้องเริ่มเตรียมการขั้นต้น
บรรดาบอสที่เพิ่งมาใหม่ต้องเริ่มเปิดสโมสรจากศูนย์และจ้างพนักงาน ไม่ว่าจะเป็น ผู้จัดการ โค้ช ผู้ช่วย นักวิเคราะห์ และอื่นๆ จากนั้นก็ต้องรับสมาชิก จัดการฝึกซ้อม และรอให้ลีก GPL เปิดอย่างเป็นทางการ
ฝั่งจางหยวน เขารับผิดชอบดูแลการฝึกซ้อมประจำวันของสโมสร DGE และจัดการให้พนักงานแผนกอีสปอร์ตเตรียมการสำหรับ GPL GDL และงานแข่งขันในร้านอินเทอร์เน็ต
ถือเป็นงานที่ยาวนานและยุ่งยากมาก โดยเฉพาะงานแข่งขันในร้านอินเทอร์เน็ต
เพื่อให้มั่นใจถึงความยุติธรรมของงานแข่งขันในร้านอินเทอร์เน็ต พวกเขาต้องจัดงานในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 3.0
แต่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 3.0 ยังขยายกิจการไม่ครอบคลุมทั้งประเทศ
จางหยวนต้องแจ้งเสี่ยวเผิงและขอให้อีกฝ่ายเร่งเปิดร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 3.0 ให้ได้มากที่สุด ถ้ายังเปิดให้มีสาขาละเมืองไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องเปิดให้มีสาขาละมณฑล
ตัวอย่างเช่น พวกเขาต้องเปิดสาขาเพิ่มในพื้นที่ที่มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและมีนักกีฬาอีสปอร์ตฝีมือดีจำนวนมาก
ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู 3.0 เป็นโมเดลที่ทำกำไรได้แล้ว แต่การเปิดสาขาร้านอินเทอร์เน็ตต้องใช้เงินก้อนโตและต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะทำเงินคืนทุนได้
ดังนั้นเผยเชียนจึงยินดีต้อนรับเรื่องนี้ ถือเป็นเรื่องดีเสมอถ้าได้ผลาญเงินตอนนี้ ในอนาคตจะทำเงินได้ก็ให้เป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ยังไม่จำเป็นต้องคิดไปไกลขนาดนั้น
เขาเลยไม่ได้ถามรายละเอียดอะไรมากมาย เพราะยังไงจะถามหรือไม่ถาม ผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิมอยู่ดี ถ้าถามอะไรออกไปอาจจะทำให้ได้เงินเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ เพราะงั้นก็ปล่อยไป ไม่มัวเครียดกับเรื่องนี้น่าจะดีกว่า
ระหว่างที่กำลังจะกลับออกไป เผยเชียนก็เห็นหลี่สือกับเซวียเจ๋อปินเดินเข้ามาหลังจากไปส่งบอสสามคน
หลี่สือกับเซวียเจ๋อปินเป็นคนเลี้ยงข้าวพวกเขาวันนี้ เผยเชียนอยากจ่ายให้ใจจะขาด แต่ก็ต้องห้ามตัวเองไว้หลังคิดดูอีกที
หลี่สือกับเซวียเจ๋อปินเดินเข้ามาหาเผยเชียนและคุยกันอยู่พักหนึ่ง
หลี่สือเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนาและถามขึ้น “บอสเผยครับ ผมได้ยินว่าบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งกำลังลงทุนกับโปรเจ็กต์ใหม่อยู่เหรอครับ”
เผยเชียนระแวงขึ้นมาทันที
หา?
หมายความว่าไง
บอสหลี่กับนักลงทุนคนอื่นๆ อยากลงทุนกับบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งด้วยเหรอ
เลิกยุ่งวุ่นวายกันได้แล้ว!
เผยเชียนตอบกลับอย่างจริงจัง “บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งกำลังลงทุนในโปรเจ็กต์ใหม่อยู่จริงๆ ครับ แต่ผมไม่ได้มีส่วนร่วมด้วยเลย ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งลงทุนในบริษัทไหนบ้าง
“คุณต้องคิดดูให้ดีนะครับถ้าอยากลงทุนด้วย!”
ทุกอย่างที่เขาพูดคือเรื่องจริงทั้งหมด
เพราะเผยเชียนบอกเฮ่อเต๋อเซิ่งเอาไว้แล้วว่าไม่ว่าใครจะมาขอการลงทุน กระบวนการจะเหมือนเดิม เริ่มจากตรวจสอบขั้นพื้นฐาน ลงทุนตามขนาดของบริษัท และส่งคนจากแผนกการเงินไปกำกับดูแลบริษัท
เผยเชียนไม่รู้ว่าบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งลงทุนไปกี่บริษัทแล้ว แล้วก็ไม่ได้สนใจด้วย
เผยเชียนสลัดพวกบอสหลี่ไม่พ้น จนไม่รู้จะทำยังไงดี
เผยเชียนเคยคิดว่าถ้าขอให้พวกบอสหลี่ลงทุนด้วย แล้วการลงทุนดันล้มเหลวขึ้นมาและสูญเสียทุกอย่างไปหมด พวกเขาก็น่าจะถอนตัวกันไปเอง แต่ปัญหาคือพวกนี้มาลงทุนด้วยทีไร ก็ไม่เคยจะสูญเสียอะไรสักที!
พวกบอสหลี่พาโปรเจ็กต์ที่ไม่น่าเชื่อถือฟื้นกลับมามีชีวิตใหม่กี่โปรเจ็กต์แล้ว
เผยเชียนจึงบอกออกไปอย่างจริงใจสุดๆ เพราะกลัวว่าบอสหลี่จะเข้าใจผิดและยืนกรานขอร่วมลงทุนกับบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง แล้วไปทำให้โปรเจ็กต์ไม่ทำกำไรพลิกกลับมาทำกำไรได้โuเวลกูดoทคอม
ตอนแรกเขาคิดว่าบอสหลี่จะดื้อดึง ไม่คิดเลยว่าหลี่สือจะพยักหน้าเบาๆ แล้วตอบกลับอย่างไม่ได้ติดใจอะไร “โอเคครับ”
เผยเชียนอดถอนหายใจออกมาไม่ได้
โชคดีที่บอสหลี่ไม่ดื้อดึง
หลังจากคุยกับหลี่สือและเซวียเจ๋อปินต่ออีกเล็กน้อย เผยเชียนก็ขึ้นรถเตรียมกลับไปพักผ่อน
หลี่สือหันไปหาเซวียเจ๋อปินหลังรถของบอสเผยแล่นออกไป “บอสเผยน่าจะไม่รู้เรื่องโปรเจ็กต์สาวหน้านิ่งจริงๆ
“เจ้าคนที่ชื่อเมิ่งชั่งโฆษณาตัวเองภายใต้ ‘การลงทุนของบอสเผย’ หมอนั่นน่าจะพยายามเอาเรื่องนี้มาขายฝันเรียกกระแส
“ถ้าเป็นโปรเจ็กต์ที่บอสเผยประเมินด้วยตัวเอง เราก็น่าจะลงทุนด้วยได้เลย แต่กับโปรเจ็กต์แบบสาวหน้านิ่ง… ช่างเถอะ จับตาดูไปก่อนแล้วกัน”
เซวียเจ๋อปินขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะถามขึ้น “บอสหลี่จะบอกว่าเมิ่งชั่งเป็นพวกต้มตุ๋นเหรอครับ หรือว่าโปรเจ็กต์นี้เป็นโปรเจ็กต์หลอกลวง”
หลี่สือส่ายหน้า “เรายังด่วนตัดสินใจไม่ได้ เพราะยังไงผมก็ไม่ได้อ่านใจคนได้ เป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะรู้ว่าเมิ่งชั่งคิดอะไรอยู่
“ผู้ประกอบการที่โดดเด่นหลายคนในประวัติศาสตร์ก็เป็นแบบนี้ พวกเขามักจะมีความคิดที่ทะเยอทะยานและเพ้อฝันมากเกินไป จนบางครั้งก็ทำตัวเหมือนเป็นพวกโกหกพกลม
“ส่วนพฤติกรรมของเมิ่งชั่ง…
“เขาใช้ ‘การลงทุนของบอสเผย’ ระดมทรัพยากรเพิ่ม ซึ่งก็ไม่ถือเป็นการโกหก เพราะได้รับการลงทุนจากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งจริงๆ แต่เขาบอกความจริงแค่ส่วนเดียวและจงใจชักจูงให้นักลงทุนคนอื่นหลงเชื่อไปผิดๆ
“แต่จะตัดสินพฤติกรรมแบบนี้ได้ก็ต้องรอดูผลลัพธ์สุดท้ายของโปรเจ็กต์
“ถ้าล้มเหลวก็ถือว่าเป็นพวกต้มตุ๋นใจทรามขี้โกหก ถ้าประสบความสำเร็จก็ถือว่าเป็นผู้ประกอบการที่ฉลาดล้ำและไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ
“ส่วนใหญ่ สังคมในโลกธุรกิจนั้นขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ ถึงจะดูเป็นเรื่องน่าขัน แต่ก็เป็นความจริง
“ผมว่าเราควรจับตาดูเมิ่งชั่งต่อไป
“เราไม่ต้องรีบลงทุน เพราะยังตัดสินไม่ได้ว่าเขาเป็นพวกต้มตุ๋นรึเปล่า”
สองวันที่ผ่านมา หลี่สือได้รับข้อมูลมากมายเกี่ยวกับโปรเจ็กต์สาวหน้านิ่ง
เมิ่งชั่งเริ่มกระจายข่าวหลังได้รับการลงทุนจากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง เขาบอกว่าสาวหน้านิ่งเป็นแผนธุรกิจที่โตเต็มที่แล้วและได้รับเงินลงทุนจากบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง ซึ่งเขานำจุดนี้มาใช้เรียกเงินลงทุนเพิ่ม
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าหลี่สือสนใจมาก ถ้าเป็นโปรเจ็กต์ที่บอสเผยลงทุนจริงๆ เขาเองก็อยากลงทุนด้วย
แต่วันนี้พอลองถามๆ ดู เขาก็พบว่าไม่ใช่โปรเจ็กต์ที่บอสเผยลงทุน แต่เป็นการลงทุนทั่วไปของบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง
จุดนี้แตกต่างกันมาก
เซวียเจ๋อปินคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามออกไป “แล้วที่เมิ่งชั่งบอกล่ะครับ ที่ว่ามะรืนจะมีงานโชว์เคสแบรนด์สาวหน้านิ่งที่ปักกิ่ง เราจะยังไปอยู่มั้ย เห็นว่างานครั้งนี้ค่อนข้างใหญ่ มีอธิบายโมเดลธุรกิจแบรนด์สาวหน้านิ่งด้วย แถมยังเปิดให้นักลงทุนเข้าร่วมแค่ไม่กี่คน”
หลี่สือคิดอยู่ครู่หนึ่ง “แค่แวะไปคงไม่เป็นไร แต่ที่ผมเป็นห่วงคือ… บอสเผยจะไปรึเปล่า”
เซวียเจ๋อปินพยักหน้า “โอเคครับ งั้นเดี๋ยวเราไปด้วยกัน จะได้ดูกันว่าเมิ่งชั่งเก่งจริงหรือแค่มาหลอกเอาเงิน”
…
เผยเชียนกำลังนั่งเหม่ออยู่บนรถ
ตอนเกือบจะถึงอพาร์ตเมนต์ มือถือของเขาก็ดังขึ้น
เผยเชียนหยิบมือถือออกมาดูแล้วพบว่าเป็นสายจากเฮ่อเต๋อเซิ่ง
“บอสเผยครับ คือ… ผมมีเรื่องจะรบกวนบอสเล็กน้อย พอดีเราลงทุนกับบริษัทชื่อสาวหน้านิ่งไป แล้วมะรืนนี้ พวกเขาจะจัดงานโชว์เคสแบรนด์ที่ปักกิ่ง หลักๆ เพื่อแนะนำโมเดลธุรกิจเพื่อดึงนักลงทุนมาเพิ่ม เราได้รับเชิญให้ไปด้วยครับ บอสคิดว่าเราจำเป็นต้องไปไหมครับ”
เฮ่อเต๋อเซิ่งถามด้วยความไม่แน่ใจ
เอาเข้าจริง เขาไม่แน่ใจว่าจำเป็นต้องรายงานเรื่องนี้กับบอสเผยรึเปล่า แต่การนำเสนอของเมิ่งชั่งนั้นดีมาก และโมเดลธุรกิจเองก็ชัดเจนสุดๆ เพราะงั้นเขาจึงรายงานเรื่องนี้กับบอสเผยเพื่อให้อีกฝ่ายตัดสินใจว่าจะไปดีไหม
เผยเชียนหาว
พอได้ยินว่าจัดที่ปักกิ่ง เขาก็รู้สึกไม่อยากเดินทางไปกลับขึ้นมา
“เรา… ลงทุนในบริษัทนี้เหรอ” เผยเชียนถาม
เฮ่อเต๋อเซิ่งตอบ “ใช่ครับบอสเผย อันที่จริงบริษัทนี้ได้เงินลงทุนจากเราแล้วสองล้านหยวน ทางเจ้าของบริษัทเลยส่งคำเชิญมาให้เราอย่างจริงใจ อยากให้บอสไปร่วมงานและฟังการนำเสนอ”
เผยเชียนก็ยังไม่สนใจอยู่ดี หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ตอบออกไป “งั้นเอางี้ บอกบอสหม่าให้ไปร่วมงานแทนผม”
เฮ่อเต๋อเซิ่งผงะไป “หา? บอสหม่าเหรอครับ อ๋อ โอเคครับ เข้าใจแล้วครับบอสเผย”
เขาสงสัยว่าทำไมบอสเผยถึงส่งบอสหม่าไปแทน
แต่พอคิดดูอีกที บอสหม่าก็น่าจะจัดการแทนได้ เพราะในแง่ของผลลัพธ์การลงทุน ก็พอจะเรียกบอสหม่าว่าเป็นอัจฉริยะด้านการลงทุนได้อยู่
อีกอย่างบอสหม่ากับบอสเผยก็เป็นพี่น้องและสหายร่วมรบ แถมบอสหม่ายังเป็นมือขวาที่บอสเผยเชื่อมั่นและเป็นพนักงานดีเด่นของเถิงต๋า ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติเหมาะสมสุดๆ ที่จะเป็นตัวแทนบอสเผย
ถ้างั้นก็ส่งจดหมายเชิญให้บอสหม่าแทนแล้วกัน