เมิ่งชั่งกดรีโมตในมือให้รูปปรากฏขึ้นบนสไลด์ รูปที่ปรากฏขึ้นนั้นเป็นชุดจานชามแบบพิเศษ
จานลายครามและตะเกียบไม้มะเกลือดูดีมีระดับสุดๆ
“ต่อมาเราต้องยกระดับเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารและบรรยากาศการกินอาหาร
“ตอนนี้เราใช้ถ้วยกระดาษกับตะเกียบไม้ไผ่ในการกินบะหมี่เย็น ซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะเอามากๆ และดูไม่มีระดับมากพอ เราต้องทำเซตจานชามพิเศษสำหรับการกินบะหมี่เย็นขึ้นมา เหมือนของที่ใช้กินซูชิ!
“จานลายครามสีขาวน้ำเงินแบ่งออกเป็นช่องเล็กๆ ใช้ใส่บะหมี่เย็นที่ย่างอย่างประณีตและตัดให้มีขนาดเท่ากัน ตะเกียบแต่ละคู่ทำจากไม้มะเกลือสีดำสลักโลโก้แบรนด์สาวหน้านิ่ง ลูกค้าทุกคนจะได้ตะเกียบชุดใหม่ หลังกินเสร็จสามารถเลือกได้ว่าจะทิ้งหรือเก็บกลับไป
“ส่วนเรื่องบรรยากาศการกิน แน่นอนว่าต้องกว้าง สว่าง และสะดวกสบาย ในเมื่อแบรนด์ชื่อสาวหน้านิ่ง พนักงานเสิร์ฟก็ต้องเป็นสาวสวย ซึ่งจะทำหน้าที่มอบประสบการณ์การกินอาหารที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้า
“เป้าหมายที่สองคือเริ่มทำการตลาด เราจะรัวปล่อยกิจกรรมทางการตลาดอย่างรถสปอร์ตเดลิเวอรี่บะหมี่เย็น ดาราสาวสวยเสิร์ฟบะหมี่เย็น ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารชิมบะหมี่เย็น การแข่งขันบะหมี่เย็นย่างระดับชาติ และอื่นๆ เพื่อโปรโมตให้แบรนด์สาวหน้านิ่งโด่งดังทั่วประเทศ!
“สรุปแล้วการโปรโมตเหล่านี้เป็นการเน้นย้ำมรดกทางวัฒนธรรมและคุณค่าของแบรนด์สาวหน้านิ่ง ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกสงสัยว่าบะหมี่เย็นนี้จะอร่อยขนาดไหน
“ใช้การตลาดจุดกระแส เรียกความนิยม และระดมทุนเพิ่ม จากจุดนี้เราสามารถเปิดสาขาสาวหน้านิ่งทั่วประเทศและสร้างแฟรนไชส์ระดับประเทศได้!
“ขณะเดียวกัน โมเดลการตลาดของเราจะใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตเต็มที่ เราจะเลิกสนใจ Public Domain Traffic และพุ่งเป้าไปที่ Private Domain Traffic แทน เราจะให้ลูกค้าทุกคนเป็นโหนดทางการตลาดให้เรา และสร้างเครือข่ายทางการตลาดที่น่าเชื่อถือในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“เป้าหมายที่สามคือ เปิดรับระบบนิเวศทางอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มที่และใช้ ‘การผนวกรวมหลายมิติ’ เปิดกำแพงระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ ธุรกิจอาหารและอินเทอร์เน็ต รวมถึงผู้ใช้และแพลตฟอร์ม!
“เถิงต๋าคอร์เปอเรชันมีโมหยูเดลิเวอรี่ ภัตตาคารไร้ชื่อ และกิจการอาหารอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีร้านอินเทอร์เน็ต บริษัทขนส่ง อพาร์ตเมนต์ และกิจการหน้าร้านมากมาย แถมยังมีแอปชีวิตเถิงต๋าซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่มีศักยภาพในการพัฒนาสูงมาก
“พอสาวหน้านิ่งประสบความสำเร็จและเชื่อมโยงกับกิจการอื่นๆ ของเถิงต๋า ก็จะช่วยส่งเสริมกันและกันและเกิดเป็นวงจรต่อไป!
“เมื่อเชื่อมโยงระบบนิเวศอาหาร บริการอินเทอร์เน็ต การส่งผ่านทางวัฒนธรรม การเงิน มือถือ และอื่นๆ เข้าไว้โดยพึ่งพากิจการที่มีอยู่ของเถิงต๋าเพื่อระดมทุนจากโลกภายนอก และใช้อินเทอร์เน็ตในการสร้างจิตวิญญาณผู้ผลิต เราก็จะมุ่งตามฝันไปด้วยกันได้!
“สรุปแล้ว แบรนด์สาวหน้านิ่งเป็นแค่เป้าแรกของแผนการทั้งหมด แต่ก็เป็นเป้าที่สำคัญมาก
“เราไม่ต้องการทุนจำนวนมากในช่วงต้น เราต้องการแค่ห้าล้านหยวนสำหรับการค้นคว้าและพัฒนาสูตร และใช้เป็นค่าดำเนินการสำหรับร้านสาขาหลักที่จะเปิดแถวย่านธุรกิจที่คนพลุกพล่านในปักกิ่ง ถ้าสาวหน้านิ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีและทำเงินคืนให้เถิงต๋าได้ ก็ยังไม่สายไปที่จะลงทุนเพิ่มครับ!”
เมิ่งชั่งมองเฮ่อเต๋อเซิ่งอย่างมั่นใจหลังจากอธิบายจบ
ถ้าสำเร็จก็สำเร็จ ถ้าไม่สำเร็จก็ทำอะไรไม่ได้อีก
เมิ่งชั่งมั่นใจในวาทศิลป์ของตัวเองและเนื้อหาในสไลด์มาก ถ้าอีกฝ่ายเชื่อ ก็จะให้เงินมาห้าล้านหยวนโดยไม่ลังเล ถ้าไม่เชื่อ จะอธิบายอะไรเพิ่มก็ไร้ความหมาย
เฮ่อเต๋อเซิ่งจิบชาจนเกือบหมดแก้ว เขาเงียบไปครู่ใหญ่ ไม่ได้ตอบอะไรออกไปทันที
ฟังดูเป็นโปรเจ็กต์ที่ดีมาก
โมเดลธุรกิจนี้จะประสบความสำเร็จแน่นอนหรือเปล่านั้นยืนยันไม่ได้ ขายบะหมี่เย็นจนกลายเป็นแฟรนไชส์ระดับประเทศ เพื่อที่ชาวจีนจะได้กินบะหมี่เย็นแพงๆ แต่อัดแน่นไปด้วยความฝันตอนไหนก็ได้เนี่ยนะ
ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้เลย แค่โอกาสไม่ได้สูง
จริงๆ ก็ฟังดูไร้สาระ
ตรรกะง่ายๆ คือให้กินบะหมี่เย็นบ้างเป็นอาหารว่างย่อมไม่มีปัญหาอะไร แต่คงไม่มีใครกินเป็นมื้อใหญ่ทุกมื้อ
แต่เฮ่อเต๋อเซิ่งเป็นนักลงทุน เขารู้ดีว่าโมเดลธุรกิจอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ไม่ได้มุ่งหมายสร้างรายได้ที่มั่นคง
บางครั้งก็หาเงินจากลูกค้า บางครั้งก็หาเงินจากนักลงทุน ซึ่งไม่ได้มีความแตกต่างกันเลย
บริษัทอินเทอร์เน็ตบางแห่งหาโมเดลทำกำไรไม่ได้และเอาแต่ผลาญเงิน แต่ตราบใดที่ผู้คนเชื่อมั่นและมีเงินทุน ยังไงก็หาคนมารับช่วงต่อได้
จะทำกำไรได้ไหมไม่สำคัญ ขอแค่ขายให้กับคนที่อยากซื้อได้ ยังไงก็ได้กำไร!
ถ้าไม่ใช่คนที่รับช่วงต่อไม้สุดท้าย ยังไงก็คือว่าประสบความสำเร็จ
แน่นอนว่าเฮ่อเต๋อเซิ่งรู้ดีว่าเมิ่งชั่งพูดเรื่องนี้ออกมาชัดเจนไม่ได้ ถึงจะอยู่ในที่ที่มีแค่พวกเขาสองคนก็พูดไม่ได้อยู่ดี
แต่ทุกคนมีความคิดเดียวกัน
จากมุมมองของนักลงทุนล้วนๆ เฮ่อเต๋อเซิ่งมีตัวเลือกอยู่สองทางในการลงทุนโปรเจ็กต์นี้
ทางแรกคือแบรนด์สาวหน้านิ่งเป็นอย่างที่เมิ่งชั่งพูดจริงๆ คือทุกร้านในประเทศขายบะหมี่เย็นได้วันละหมื่นๆ จานหรืออาจจะหลักแสน ทำกำไรได้มากมาย
ทางที่สองคือ สาวหน้านิ่งทำเป้าแรกได้ไม่สำเร็จ แต่ยังขายให้บริษัทใหญ่รับช่วงต่อได้ ถึงจะทำกำไรไม่ได้มาก แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ
ตัดทุกอย่างออก สไลด์ วาทศิลป์ ไอเดียทางการตลาด และความมั่นใจในโมเดลธุรกิจของเมิ่งชั่ง…
เฮ่อเต๋อเซิ่งรู้สึกว่าคุ้มกับการลงทุนห้าล้านหยวน
แต่…
หลังจากเงียบไปครู่ใหญ่ เฮ่อเต๋อเซิ่งก็พูดขึ้น “โปรเจ็กต์ดูดีมากครับ แต่… เราลงทุนได้แค่สองล้าน”
เมิ่งชั่งผงะไป “หา?”
เขาไม่คิดว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้
เมิ่งชั่งคิดว่าบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งจะตกลงให้ห้าล้านหยวน หรือไม่ก็ไม่ลงทุนเลย
ถ้าตอบตกลงแสดงว่าต้องพอใจกับเงื่อนไข แต่ถ้าปฏิเสธแสดงว่าไม่
แล้วให้เงินแค่ครึ่งเดียวแปลว่าอะไร
ไม่มีทางที่บริษัทลงทุนหยวนเมิ่งกับบอสเผยจะขาดแคลนเงินอีกสามล้าน
แถมบอสเฮ่อยังไม่ได้ยืนยันกับบอสเผยก่อนตัดสินใจด้วยซ้ำ
เมิ่งชั่งรู้ดีว่าคนที่คุมบริษัทหยวนเมิ่งจริงๆ คือบอสเผย ตู้โทรศัพท์ให้เช่า เครื่องทะเลาะอัตโนมัติ แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ และอื่นๆ เป็นการลงทุนของบอสเผยทั้งหมด
เกินไปรึเปล่า เขาอุตส่าห์อธิบายยืดยาว แถมยังพูดดีมากด้วย แต่นายไม่คิดจะรายงานบอสเผยเลยเหรอ
เมิ่งชั่งรีบพูดขึ้น “บอสเฮ่อครับ สองล้านหยวน… อาจจะไม่พอครับ รบกวนคุณรายงานให้บอสเผยรู้และสู้ให้ผมอีกหน่อยได้มั้ยครับ”
เฮ่อเต๋อเซิ่งยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า “ผมบอกตามตรงเลยนะครับ นี่คือกฎที่บอสเผยวางไว้
“ถ้าคุณมาเร็วกว่านี้ครึ่งปี ผมคงรายงานแผนของคุณให้บอสเผยรู้ทันที
“แต่บอสเผยเพิ่งวางกฎใหม่ให้กับบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง บอสไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการลงทุนแล้ว ยอดเงินลงทุนสูงสุดของแต่ละโปรเจ็กต์จะคำนวณจากขนาดบริษัทของคุณ
“แนวคิดของคุณดีมาก แต่พิจารณาจากบริษัทของคุณแล้ว ผมลงทุนได้แค่สองล้านหยวน”
เมิ่งชั่งอึ้ง เขาไม่รู้จะพูดอะไรไปครู่หนึ่ง ɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm
พูดมาขนาดนี้ ดูจากสีหน้าและสายตาของบอสเฮ่อแล้วเห็นได้ชัดว่าฉันโน้มน้าวสำเร็จ แถมยังคาดหวังในตัวฉันมากด้วย แต่ดันให้เงินฉันแค่สองล้าน แถมไม่เพิ่มให้สักหยวนเนี่ยนะ
ตัวเลขครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้รับไม่ได้เลย
แถมบอสเฮ่อยังไม่ได้ติติงหรือต่อรองอะไรอีกต่างหาก
ถ้ายอมให้ทุนสองล้านหยวน คนทั่วไปย่อมต้องพึงพอใจกับโมเดลนี้ แต่ยังไงก็ต้องมีจุดติอยู่ดี
ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเขาก็ต่อรองกันได้ ถ้าไม่พอใจกับโมเดลธุรกิจก็เปลี่ยนจนกว่าจะพอใจแล้วเรียกเงินทุนมาห้าล้านหยวน
แต่บอสเฮ่อไม่เป็นแบบนั้น เขาไม่คิดจะคุยลึกไปกว่านี้หรือคิดจะเพิ่มเงิน ทัศนคติของเขาเหมือนจะบอกว่า ‘สองล้านหยวนพอ รับแล้วกลับไปซะ’
เมิ่งชั่งรู้สึกอึดอัดใจมาก
แต่เขาก็พูดอะไรมากไม่ได้ ถ้าคะยั้นคะยอมากเกินไปอาจจะหลุดเผยธาตุแท้ออกไปได้
สองล้านหยวนอาจจะน้อยไปหน่อย แต่อย่างน้อยเขาก็ได้ออร่า ‘การลงทุนจากบอสเผย’ มา ซึ่งจะช่วยให้เขาคิดหาวิธีต้มคนอื่นต่อได้
หลังจากคิดอยู่ครู่ใหญ่ เมิ่งชั่งก็พยักหน้า “ได้ครับ ขอบคุณครับบอสเฮ่อ! แต่ผมอยากถามบอสเฮ่อว่าถ้าใช้เงินไปจนหมดแล้ว คุณยังจะลงทุนกับบริษัทผมต่อมั้ยครับ”
เงินลงทุนก้อนแรกแค่สองล้านหยวน ซึ่งถือว่าค่อนข้างจำกัด แต่ก็ยังยอมรับได้
ประเด็นอยู่ที่ว่าอีกฝ่ายจะลงทุนต่อรึเปล่า
เฮ่อเต๋อเซิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบไปตามตรง “เราจะลงทุนต่อหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับการดำเนินงานจริง ส่วนยอดเงินลงทุนก้อนที่สองจะมากน้อยเท่าไหร่ ผมต้องรายงานกับบอสเผยก่อน ตามหลักแล้วก็ไม่น่าจะจำกัด”
‘การดำเนินงานจริง’ ที่ว่านั้นขึ้นอยู่กับว่าได้กำไรหรือขาดทุน ซึ่งเป็นเกณฑ์วัดเพียงเกณฑ์เดียว
ตามข้อกำหนดของบอสเผย ถ้าทำเงินได้ก็จะขายหุ้นและถอนตัวทันที แต่ถ้าขาดทุนก็จะลงทุนต่อ ส่วนยอดเงินลงทุนนั้น บอสเผยจะเป็นคนตัดสินใจ
แต่เขาบอกเรื่องนี้กับคนนอกไม่ได้
ใครจะไปรู้ว่าคนพวกนี้จะทำยังไง ถ้าเขาบอกออกไปอย่างชัดเจนว่าถ้าขาดทุนถึงจะลงทุนต่อ!
เพราะงั้นก็ต้องพูดไปอย่างมีชั้นเชิงว่า ‘จะลงทุนต่อหรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับการดำเนินงานจริง’
แต่เมิ่งชั่งรู้สึกว่าประโยคนี้มีความหมายอีกอย่าง
เขาขมวดคิ้วคิดหนัก
ขึ้นอยู่กับการดำเนินการจริง…
งั้นก็น่าจะดูที่ผลกำไรกับตัวเลขต่างๆ สินะ
ไม่บอกให้เร็วกว่านี้ล่ะ เรื่องจะได้ง่ายขึ้น!
ก่อนอื่นฉันต้องหาวิธีระดมทุนและเปิดร้านโดยใช้ออร่า ‘การลงทุนของบอสเผย’ ต้องผลาญเงินปั้นตัวเลขและสร้างกระแสในขั้นแรก ถึงจะต้องผลาญเงินจำนวนมากและทำกำไรไม่ได้ ขอแค่ตัวเลขดูดี เถิงต๋าก็จะลงทุนก้อนใหญ่ต่อ
หลังจากนั้นฉันจะระดมทุนเพิ่มผ่านการลงทุนของบอสเผย ในขั้นที่สอง ฉันจะพยายามเต็มที่ในการเพิ่มรายได้และสร้างภาพลวงว่าทำกำไรได้ ซึ่งก็จะช่วยให้มูลค่าของบริษัทพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
พอมีทั้งตัวเลขและกำไรให้เห็น บอสเผยกับบริษัทอื่นก็ต้องลงทุนต่อแน่นอน ถึงตอนนั้นมูลค่าของสาวหน้านิ่งก็จะขยายถึงขีดสุดและเรียกเงินลงทุนได้มากมาย จากนั้นก็ค่อยหาทางให้บริษัทใหญ่เข้ามารับช่วงต่อ หรือไม่ก็…
ยิ่งคิดเมิ่งชั่งก็ยิ่งรู้สึกสุขใจมากขึ้น
จะดีมากถ้าบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งลงทุนต่อไปเรื่อยๆ ในอนาคต!
ยังทำตามแผนเดิมได้อย่างราบรื่น
คิดได้แบบนั้น เมิ่งชั่งก็จับมือกับเฮ่อเต๋อเซิ่งแน่น “โอเคครับ บอสเฮ่อ ผมหวังว่าเราจะร่วมงานกันได้เป็นอย่างดีนะครับ!
“มามุ่งตามฝันไปด้วยกันเถอะครับ!”