อู๋ปินนึกว่าตัวเองตาฝาด
คู่มือพวกนี้ไม่ได้ใหญ่หรือหนา แต่มีคำว่า ‘การสอบคัดเลือกพนักงานเถิงต๋า’ โชว์หราอยู่บนปก!
ที่จริงผู้สมัครสอบก็พกคู่มือมาสอบกันนานแล้ว ถึงจะลอกคำตอบไม่ได้ แต่ก็เอามาทบทวนความรู้ช่วงพักเที่ยงและเสริมความมั่นใจในนาทีสุดท้ายได้
แต่คู่มือที่ผู้สมัครสอบเคยพกติดตัวมาเป็นคู่มือสำหรับการสอบคัดเลือกพนักงานราชการ เพราะเนื้อหาด้านความถนัดในการจัดการบริหารนั้นปรับใช้ได้กับทุกที่
ตอนนี้มีคู่มือสำหรับการสอบคัดเลือกพนักงานเถิงต๋าแล้วเหรอ
อู๋ปินรู้สึกแปลกใจ
เขาถามผู้สมัครสอบที่กำลังอ่านทวนความรู้อยู่ “ผมขอยืมเล่มนี้ดูหน่อยได้มั้ยครับ”
พูดจบ อู๋ปินก็ชี้ไปทาง ‘ข้อสอบคัดเลือกพนักงานเถิงต๋าและคำตอบโดยละเอียด’
พอเห็นป้ายพนักงาน ผู้สมัครสอบก็รู้ว่าอู๋ปินเป็นพนักงานของเถิงต๋า อดนึกกังวลขึ้นมาไม่ได้ขณะพยักหน้าแล้วยื่นคู่มือให้
อู๋ปินรับมาแล้วเปิดดูคำถามบางส่วนคร่าวๆ
ข้อสอบจริงนี่
อู๋ปินขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว มีคนในบริษัทปล่อยข้อสอบเหรอ
การสอบคัดเลือกพนักงานเถิงต๋าเข้มงวดเหมือนการสอบพนักงานราชการ พอจบการสอบ นอกจากจะเก็บกระดานคำถามแล้ว กระดาษทดทั้งหมดก็ถูกเก็บไปด้วย และไม่มีการเผยแพร่ข้อสอบในช่องทางไหนทั้งสิ้น
ว่ากันตามหลักการแล้ว โลกภายนอกไม่มีทางได้ข้อสอบพวกนี้
อู๋ปินนึกระแวงขึ้นมาทันที เขาจะเลินเล่อเรื่องนี้ไม่ได้
เขาพลิกไปดูส่วนคำตอบและอ่านคำตอบมาตรฐานของคำถามต่างๆ
คราวนี้อู๋ปินถอนหายใจด้วยความโล่งอก
คำตอบมาตรฐานในคู่มือต่างจากคำตอบมาตรฐานที่เถิงต๋าวางไว้
พอพลิกกลับไปดูคำถามด้านหน้าให้ละเอียดอีกที เขาก็พบว่าคำอธิบายคำถามบางข้อไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะคำถามยาวๆ ที่ดูจะมีความคลาดเคลื่อนอยู่บ้าง
ถึงจะไม่กระทบกับเนื้อหาและคำตอบ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าข้อมูลไม่ได้หลุดจากภายในเถิงต๋า
“ไม่เป็นไร ฉันว่าไม่น่าจะใช่คนใน”
ดูเหมือนว่าคำถามพวกนี้รวบรวมโดยสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพ
ก็เหมือนกับข้อสอบคัดเลือกพนักงานราชการซึ่งจริงๆ แล้วเข้มงวดกว่าเถิงต๋ามาก คำถามบางข้อมีข้อมูลลับของประเทศ แต่ข้อสอบจริงก็พบเห็นได้ตามช่องทางออนไลน์ทุกปี
เพราะสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพใช้วิธีงี่เง่าอย่างการมอบหมายให้ผู้เข้าอบรมไปเข้าสอบ บางส่วนจำข้อสอบออกมา บางส่วนลอกคำถามลงบัตรเข้าห้องสอบ แม้แต่ชาวเน็ตยังจำข้อสอบออกมาเผยแพร่ออนไลน์เลย
สรุปคือมีวิธีมากมายที่จะทำข้อสอบขึ้นมาใหม่ และวิธีเหล่านั้นก็ไม่ผิดกฎหมายด้วย
พอได้คำถามมา สถาบันฝึกวิชาชีพจะให้ผู้เชี่ยวชาญเก็งคำตอบให้ จากนั้นก็นำข้อสอบมาวิเคราะห์ประเด็นสำหรับการเรียนรู้แล้วย่อยออกมาให้ผู้เรียน
คำตอบอาจจะไม่ถูกต้องและตรงกับคำตอบมาตรฐานของเถิงต๋า แต่ถ้าเป็นคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ ก็ย่อมดีกว่าคำตอบของผู้เข้าสอบทั่วไป ดังนั้นคู่มือนี้ก็ยังถือว่าให้แนวทางได้บ้าง
อู๋ปินถอนหายใจยาวอีกรอบ
เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเก็บข้อสอบจริงเป็นความลับ
แค่ยืนยันได้ว่าข้อมูลไม่ได้หลุดจากทางบริษัทและไม่มีหนอนบ่อนไส้ก็ดีมากพอแล้ว
สถานการณ์ปัจจุบันตอนนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการสอบคัดเลือกพนักงานใหม่เถิงต๋านั้นเป็นที่นิยมขนาดไหน
อู๋ปินบอกขอบคุณผู้เข้าสอบพร้อมกับคืนคู่มือให้ และทดเรื่องนี้ไว้ในใจ
สถาบันฝึกอบรมวิชาชีพทำคู่มือสำหรับการสอบคัดเลือกพนักงานเถิงต๋าแล้ว แถมยังทำข้อสอบจริงขึ้นมาได้ด้วย
เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าต้องมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แค่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้
เรื่องนี้ทำให้อู๋ปินรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
เพราะเถิงต๋าทำระบบสอบคัดเลือกพนักงานขึ้นมาเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ยุติธรรมสำหรับผู้สมัครทุกคน
จะโทษผู้สมัครที่หาทางเตรียมความรู้ด้านความถนัดในการจัดการบริหาร และความรู้เฉพาะวิชาชีพเพื่อเพิ่มโอกาสสอบผ่านก็ไม่ได้
แต่สถาบันฝึกอบรมวิชาชีพต้องการหาเงิน การปล่อยข้อสอบจริงของการสอบคัดเลือกพนักงานเถิงต๋าออกมาขายเรียกความสนใจจากผู้สมัครสอบและทำกำไรได้
อย่างที่รู้กันว่า มีคนสมัครสอบคัดเลือกพนักงานเถิงต๋าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พอมีคนเข้าสอบเยอะขึ้น สถาบันฝึกอบรมวิชาชีพก็ทำกำไรได้มากขึ้น
ถ้าผู้เข้าสอบไม่ยอมซื้อข้อสอบจริงจากสถาบันเหล่านี้ พวกเขาก็จะเสียเปรียบในการสอบ กลายเป็นวงจรอุบาทว์
อู๋ปินไม่พอใจเรื่องนี้เท่าไหร่
แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้
เพราะสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพครอบคลุมข้อสอบส่วนใหญ่แทบทั้งหมด แถมยังไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย อู๋ปินจะไปห้ามไม่ให้พวกเขาทำข้อสอบของเถิงต๋าและเก็งคำตอบได้ยังไง
เป็นไปไม่ได้เลย
เพราะงั้นอู๋ปินจึงได้แค่ทดเรื่องนี้ไว้ในใจ และเตรียมรายงานห่าวหยุนหลังกลับออฟฟิศ แล้วให้ห่าวหยุนรายงานเรื่องต่อให้บอสเผยทราบเพื่อให้บอสตัดสินใจว่าจะทำยังไงดี
…
ช่วงบ่าย ใกล้เวลาเลิกงาน
หลังจากจัดการงานวันนี้เสร็จ อู๋ปินก็หันมองเวลา ตอนนี้ใกล้ได้เวลากลับบ้านไปพักผ่อนแล้ว
ตอนนั้นเองมือถือของเขาก็ดัง เป็นสายที่ไม่รู้จัก
“ฮัลโหล?” อู๋ปินรับสาย
เสียงสุภาพมากๆ ดังขึ้นจากปลายสาย
“สวัสดีครับ คุณอู๋จากเถิงต๋าใช่มั้ยครับ ไม่ทราบว่าตอนนี้สะดวกคุยรึเปล่าครับ”
อู๋ปินขมวดคิ้วเล็กน้อยและไม่ได้ตอบคำถามตรงๆ “มีอะไรเหรอครับ”
อีกฝ่ายยิ้ม “อ้อ ผมโทรจากสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพครับคุณอู๋ อยากติดต่อมาขอความร่วมมือครับ”
อู๋ปินผงะไป “ความร่วมมือ?”
คนที่ปลายสายตอบกลับ “ใช่ครับคุณอู๋ คือว่าอย่างนี้ครับ เราได้ยินมาว่าการสอบคัดเลือกของเถิงต๋ามีส่วนที่สำคัญมากๆ ชื่อการสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋า ไม่ทราบว่าจริงรึเปล่าครับ
“เราคิดว่าจะทำคู่มือเกี่ยวกับการสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋า
“เอาจริงๆ นะครับ คู่มือนี้เป็นที่ต้องการมาก นักเรียนของเราอยากซื้อกันหลายคน แต่เราหาช่องทางในการหาข้อมูลไม่ได้เลย
“ผมเลยติดต่อคุณมา ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ
“ถ้าคุณให้ช่องทางในการรวบรวมข้อมูลและร่วมมือกับเราในการทำคู่มือสำหรับการสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋า เราสามารถตกลงกันได้ว่าจะแบ่งผลกำไรกันยังไง
“ถ้าได้ข้อสอบจริงก็จะยิ่งดีเลยครับ! ถึงจะให้ข้อสอบจริงไม่ได้ แต่ถ้าข้อมูลส่วนใหญ่ไม่คลาดเคลื่อนจากข้อสอบจริงมากเกินไป และไม่โดนคนอื่นจับได้ก็โอเคแล้วครับ…
“คุณเข้าใจที่ผมสื่อใช่มั้ยครับ”
อู๋ปินขมวดคิ้ว หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็ถามขึ้น “คุณไปเอาช่องทางการติดต่อผมมาจากไหน”
อีกฝ่ายเหมือนจะสัมผัสได้ว่าอู๋ปินเริ่มโมโห จึงรีบอธิบาย “คุณอู๋อย่าคิดมากเกินไปครับ เราไม่ได้มีเจตนารุกล้ำความเป็นส่วนตัวของคุณ เราแค่อยากสร้างคอนเนกชัน เพื่อที่จะได้รวยไปด้วยกัน ไม่สิ ควรบอกว่าเป็นการสร้างธุรกิจร่วมกันมากกว่า”
อู๋ปินพูดเสียงต่ำ “มีผู้เข้าสอบแค่ไม่กี่คนที่มีสิทธิ์ได้สอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋า ส่วนใหญ่ตกรอบข้อเขียน เพราะงั้นทุกคนก็ไม่จำเป็นต้องใช้คู่มือนี้ถูกมั้ยล่ะครับ”
อีกฝ่ายตอบกลับ “คุณอู๋น่าจะไม่รู้ แต่เราขายเป็นชุดได้นะครับ
“คู่มือสำหรับการสอบข้อเขียน การสอบสัมภาษณ์ และสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋าจับมัดขายรวมกันได้ ขายเล่มละยี่สิบหยวน รวมแล้วเป็นเงินหกสิบหยวน คนส่วนใหญ่น่าจะไม่คิดอะไรมากกับการจ่ายเงินเพิ่มอีกยี่สิบหยวนแลกกับการประหยัดแรงและเวลา
“ก็จริงที่มีแค่ไม่กี่คนที่จะได้ใช้ประโยชน์จากคู่มือนี้ แต่ก็ไม่สำคัญอะไรถ้าอีกฝ่ายเต็มใจจ่าย”
อู๋ปินเข้าใจในที่สุด
สถาบันฝึกอบรมวิชาชีพที่โทรมารู้ดีว่าคู่มือสำหรับการสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋านั้นไร้ประโยชน์สำหรับคน 99% ที่วางแผนจะสอบเข้าทำงานในเถิงต๋า
ถ้าอ่านเนื้อหาการสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋าทั้งๆ ที่ยังสอบข้อเขียนไม่ผ่าน ก็เท่ากับพยายามบินก่อนที่จะหัดเดิน
แถมคนที่สอบผ่านและได้รับการจ้างงานก็จะได้รับอิทธิพลจากแผนกที่เข้าทำงาน ดังนั้นส่วนใหญ่จึงสอบการวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋าผ่าน เพราะงั้นก็ไม่จำเป็นต้องใช้คู่มือ
สถาบันฝึกอบรมวิชาชีพจึงไม่ได้ยืนกรานขอข้อสอบจริงของข้อสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋า
ขอแค่หลอกลูกค้าโดยไม่โดนจับได้ พวกเขาก็พอใจแล้ว
ว่าง่ายๆ คือพวกเขาตั้งใจเก็บค่าโง่ให้ได้มากที่สุด
ถ้าขายคู่มือการสอบข้อเขียน การสอบสัมภาษณ์ และการสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋าเป็นชุด คนที่ผ่านมาเจอก็จะคิดว่าทั้งสามเล่มมีประโยชน์เท่ากันหมด และยอมเหมาหมดเลย
ยี่สิบหยวนที่เพิ่มมาคือค่าโง่ล้วนๆ แต่คนส่วนใหญ่ไม่รู้
อู๋ปินเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะพูดขึ้น “การสอบที่ว่าเป็นความลับสุดยอดของเถิงต๋า ผมแนะนำให้คุณเลิกคิดเรื่องนี้ไปดีกว่า ไม่งั้นคงจบไม่สวยแน่!”
เขาวางสายไปทั้งอย่างนั้น
บ้าเกินไปแล้ว
การสอบวัดความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณเถิงต๋าเป็นความลับสุดยอดของเถิงต๋า เป็นความมั่งคั่งทางจิตวิญญาณที่พนักงานเถิงต๋าทุกคนมี คู่มือที่เขาลำบากลำบนทำขึ้นก็มาจากการวิเคราะห์คำพูดและการกระทำของบอสเผย
จะเอามาทำเป็นธุรกิจหาเงินได้ยังไง
เขาทนให้สถาบันฝึกอบรมวิชาชีพเอาไปใช้เก็บค่าโง่นักเรียนไม่ได้!
อู๋ปินรู้สึกว่าต้องจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง
ในเมื่อสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพหาข้อมูลการติดต่อเขาได้ พวกเขาก็ต้องหาช่องทางการติดต่อพนักงานคนอื่นๆ ได้เหมือนกัน
อู๋ปินอยู่ฝ่าย HR เขาเข้าใจจิตวิญญาณเถิงต๋าลึกซึ้งที่สุด และเป็นคนที่แน่วแน่ในเรื่องนี้มากที่สุด เพราะงั้นเขาจึงทนต่อแรงยั่วยุในเรื่องนี้ได้
แต่ถ้าเป็นพนักงานคนอื่นๆ ล่ะ
พวกเขาอาจจะไม่เข้าใจความจริงจังของเรื่องนี้ หรืออาจโดนเงินซื้อตัวไปก็ได้
ถ้าสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพทำคู่มือสำหรับการสอบวัดจิตวิญญาณเถิงต๋าออกมาได้จริงๆ ก็จะเกิดเป็นห่วงโซ่ธุรกิจ ถึงตอนนี้อาจจะทำเงินไม่ได้มาก แต่พอเถิงต๋าเติบโตต่อไป ก็จะยิ่งมีคนเข้าสอบมากขึ้นเรื่อยๆ และสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพก็จะได้ผลประโยชน์มากขึ้น
เห็นได้ชัดว่าขัดต่อจิตวิญญาณเถิงต๋า
เขาต้องรายงานให้บอสเผยรู้เร็วที่สุดเพื่อจัดการกับภัยแอบแฝงนี้!
อู๋ปินหันมองเวลา ได้เวลาเลิกงานแล้ว
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจว่าจะสรุปเรื่องราวทั้งหมดและรายงานห่าวหยุนพรุ่งนี้เช้า แล้วขอให้ห่าวหยุนรายงานต่อให้บอสเผยทราบ เพื่อที่จะได้ตัดสินใจว่าจะเอายังไงดี