📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 692

บทที่ 692 - ทดสอบฝีมือการแสดง
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ฉินอี้เงียบไปครู่หนึ่ง “ฉันเป็นแค่ทหารธรรมดา ไม่ได้มีทักษะในการทำทัพ คงรับภารกิจนี้ไว้ไม่ได้

“เกิดอะไรขึ้นกับผู้บัญชาการคนก่อน”

เสียงของ AEEIS ไม่มีอารมณ์ใด ๆ ราวกับว่าเป็นเพียงการระบุข้อเท็จจริงที่เป็นกลาง “ระหว่างปฏิบัติการล่าตัดหัวราชินีเซิร์ก กองยานเซิร์กจำนวนมากก็ปฏิบัติการล่าตัดหัวผู้บัญชาการด้วย

“ผู้บัญชาการเสียชีวิตไปพร้อมกองยานเซิร์ก”

ฉินอี้มองภาพนามธรรมของ AEEIS อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง “ผู้บัญชาการ…สละชีพตัวเองเหรอ”

AEEIS “นี่คือข้อมูลลับสุดยอด

“เทคโนโลยีแอนซิเบิลที่เราใช้งานมีหลักการคล้ายคลึงกับจิตใต้สำนึกของเซิร์ก การสื่อสารของเราสามารถท่องผ่านอวกาศได้แบบเรียลไทม์ แต่ก็โดนแทรกแซงได้และยังถูกจำกัดด้วยระยะทาง เราต้องมั่นใจว่าผู้บัญชาการอยู่ในระยะที่กำหนดภายในสนามรบ

“เราประเมินตำแหน่งของราชินีเซิร์กได้คร่าวๆ จากเทคโนโลยีสื่อสารแอนซิเบิล และเซิร์กก็สามารถประเมินตำแหน่งคร่าวๆ ของผู้บัญชาการได้เหมือนกัน

“ผู้บัญชาการคนก่อนปฏิบัติภารกิจสำเร็จแล้ว จึงพลีชีพตัวเองเพื่อสร้างความเสียหายรุนแรงให้กับกองทัพเซิร์ก

“กัปตันฉิน สมาชิกทีม AS-371-45 ไม่ใช่กลุ่มเดียวที่ต้องสละชีวิตตัวเอง”

ฉินอี้เงียบไปอีกครั้ง “แล้วทำไมถึงเลือกฉันเป็นผู้บัญชาการคนใหม่

“ฉันว่าเราไม่ได้ขาดแคลนคนที่อยากพลีชีพตัวเองเลย”

AEEIS “มีเกณฑ์หลักอยู่สองข้อในการคัดเลือกตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังพันธมิตร

“หนึ่ง ต้องมีเจตจำนงที่แน่วแน่และพร้อมสละชีพตัวเองได้ทุกเมื่อ สามารถตัดสินใจอย่างมีเหตุผล และนิ่งสงบภายใต้แรงกดดันทางจิตใจอันมหาศาลจากการที่ต้องพร้อมพลีชีพตัวเอง

“ถือเป็นเรื่องยากมากสำหรับผู้ที่มีความรู้ทางทฤษฎีแต่ไม่เคยต่อสู้กับเซิร์กในแนวหน้าที่จะมีคุณสมบัติด้านจิตวิทยาแบบนี้

“สอง ต้องมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับวิธีคิดของเซิร์กและความน่ากลัวของพวกมัน

“เราต้องการผู้บัญชาการที่สามารถตัดสินใจในประเด็นสำคัญได้เป็นอย่างดี ไม่ใช่คนที่สั่งการรบแบบเฉพาะเจาะจง การตัดสินใจได้อย่างถูกต้องนั้นสำคัญกว่าการปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างถูกต้อง

“มนุษย์ถูกจำกัดด้วยรูปแบบชีวิต โครงสร้างคำสั่งเดิมไม่มีประสิทธิภาพพอจะเอาชนะกองทัพเซิร์​กได้ ทำได้แค่ให้เรายืนหยัดฝ่าฟันหายนะได้นานขึ้น

“ดังนั้นตอนนี้ผู้บัญชาการมีหน้าที่เพียงรับข้อมูลสนามรบและตัดสินใจเท่านั้น

“การรวบรวมข้อมูล คัดกรองข้อมูล บูรณาการข้อมูล ออกคำสั่งเฉพาะ และตอบคำถามทหารแต่ละนาย…จะจัดการโดย AEEIS

“AEEIS ดำเนินการสงครามตลอดเวลาและจัดเก็บแบบจำลองสงครามนับล้าน ก่อนที่ผู้บัญชาการแต่ละรุ่นจะเสียชีวิต AEEIS จะเรียนรู้และเก็บข้อมูลกลยุทธ์การบังคับบัญชาและแนวคิดของพวกเขา จากนั้นจะนำไปประมวลผลผ่านการคำนวณข้อมูลที่แม่นยำเพื่อแสวงหากลยุทธ์ทางยุทธวิธีด้วยอัตราความสำเร็จสูงสุด

“ดังนั้นผู้บัญชาการไม่จำเป็นต้องสั่งการทีมย่อยเพื่อปฏิบัติงานเฉพาะด้วยตัวเอง AEEIS จะรับผิดชอบสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ผู้บัญชาการจำเป็นต้องสังเกตการณ์สนามรบและตัดสินใจเท่านั้น

“กัปตันฉิน คณะกรรมการบริหารสูงสุดแห่งกองกำลังสมาพันธ์บลูสตาร์และ AEEIS เห็นพ้องว่าคุณคือบุคคลที่เหมาะสมที่สุดที่จะขึ้นเป็นผู้บัญชาการคนต่อไป

“แน่นอนว่า เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะยอมให้ผู้บัญชาการคนใหม่กุมชะตากรรมของกองกำลังพันธมิตรทั้งหมดทันที ดังนั้น AEEIS จะช่วยฝึกฝนคุณให้พร้อมสำหรับตำแหน่งนี้

“คุณอาจเสียเวลามากมายไปกับสิ่งพัวพันที่ไร้ความหมาย แต่ทุกๆ วินาทีที่คุณเสียไปจะลดโอกาสที่มนุษย์จะได้รับชัยชนะลงไปเรื่อยๆ”

ฉินอี้ไม่ได้ถามอะไรต่อ เขานิ่งเงียบไปหลายนาที ก่อนจะลุกยืนเดินไปตรงส่วนควบคุมตรงกลางแล้วนั่งลง

AEEIS “กัปตันฉิน คุณคือทหารที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่บลูสตาร์เคยมีมา

“หวังว่าคุณจะเป็นผู้บัญชาการที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่บลูสตาร์เคยมีมา”

ทันทีที่ฉินอี้นั่งลง พื้นที่โดยรอบก็เปลี่ยนไป

ตอนนี้เขาเหมือนนั่งอยู่กลางท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาวพร่างพราว ภาพโฮโลกราฟิกฉายทับบนผนัง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นภาพโฮโลกราฟิกปรากฏตรงหน้าเสมอ

AEEIS “วัตถุทรงกลมด้านขวาของคุณคือ ‘ลูกบอลสังเกตการณ์’ สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ซูมเข้าซูมออกขอบเขตการมองเห็น และสั่งการด้วยท่าทางต่างๆ บนลูกบอล เช่น แตะและลากด้วยนิ้วเดียวหรือหลายนิ้ว ซึ่งจะให้ผลการปฏิบัติการที่แตกต่างกันไป

“หน้าจอสัมผัสตรงกลางใช้จัดการกับข้อมูลและการตัดสินใจที่มีความสำคัญ การตัดสินใจบางอย่างจำเป็นต้องได้รับการยืนยันด้วยการเพิ่มแรงกด

“หน้าจอขนาดใหญ่ตรงหน้าแสดงภาพจำลองสนามรบแบบพาโนรามา ช่วยให้คุณเข้าใจภาพรวมของสงครามได้ดีขึ้น

“หน้าจอสองด้านที่ขนาบข้างหน้าจอขนาดใหญ่แสดงข้อมูลและการตัดสินใจที่สำคัญน้อยลงมา คุณสามารถเลือกและประมวลผลเนื้อหาที่คุณคิดว่าจำเป็น และสั่งงานผ่านท่าทางการสัมผัสบนอากาศได้

“ชุดปุ่มควบคุมทางด้านซ้ายมือใช้จัดการคำสั่งลัดบางคำสั่ง เมื่อใช้งานรวมกับ ‘ลูกบอลสังเกตการณ์’ จะสามารถสังเกตและสั่งการได้ละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น

“แน่นอนว่า คุณยังสามารถออกคำสั่งไปยัง AEEIS ด้วยวิธีส่งเสียงแบบดั้งเดิม ซึ่งเป็นวิธีเสริมที่ดีในการช่วยเรื่องการสั่งการ แต่ไม่ควรพึ่งวิธีนี้มากเกินไป เพราะภาษามนุษย์สื่อสารข้อมูลได้มากเกินไป ในสนามรบที่สถานการณ์พลิกผันชั่วพริบตา ถึง AEEIS จะช่วยจัดการกับข้อมูลและการตัดสินใจส่วนใหญ่ได้ แต่คุณก็มีโอกาสพลาดอยู่ดี

“ภาพจำลองพาโนรามาจะแสดงมุมมองทุกจุดในสนามรบผ่านมุมมองบุคคลที่หนึ่ง

“ต่อไปเป็นภาพจำลองของการเผชิญหน้าครั้งแรกของกองกำลังพันธมิตรกับเซิร์ก คุณสามารถใช้ส่วนควบคุมสังเกตทั่วทั้งสนามรบ เพื่อทำความคุ้นเคยกับลูกบอลสังเกตการณ์และการสั่งการต่างๆ”

เนื้อหาหลังจากนั้นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับลู่จือเหยา ส่วนใหญ่เป็นฉากในอวกาศ สรุปง่ายๆ คือกองกำลังพันธมิตรได้เผชิญหน้ากับเซิร์กเป็นครั้งแรก เนื่องจากแต่ละทีมย่อยเข้ารบตามแบบแผนของตัวเอง พวกเขาจึงโดนกองทัพเซิร์กถล่มอย่างรวดเร็วและพ่ายแพ้ยับเยิน

ลู่จือเหยาพลิกบทเพื่ออ่านต่อ แต่ก็ไม่มีอะไรให้อ่านแล้ว 

นี่คือบทส่วนที่จูเสี่ยวเช่อให้มา จริงๆ แล้วลู่จือเหยาก็ไม่รู้ว่าบทนี้อยู่ส่วนไหนของเรื่อง เป็นตอนต้นหรือตรงกลางก็ไม่รู้ 

ถึงเนื้อหาส่วนนี้จะดูโดดๆ แต่ลู่จือเหยาก็เข้าใจบทของตัวเองค่อนข้างชัดเจน 

ฉินอี้ที่เป็นตัวเอกคือทหารที่ปลดประจำการจากแนวหน้า ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาได้รับความไว้วางใจให้ทำภารกิจสำคัญ จึงต้องผ่านการฝึกด้วยความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์และรับตำแหน่งผู้บัญชาการในศึกระหว่างมนุษยชาติกับเซิร์ก

โครงเรื่องในภาพรวมไม่มีอะไรผิดปกติเป็นพิเศษ หนังหลายๆ เรื่องก็ใช้พล็อตคล้ายๆ กัน 

อีกอย่างลู่จือเหยาก็รู้ว่าการถ่ายทำครั้งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับเกม RTS ใหม่ของบอสเผย เนื่องจากเรื่องราวที่ถ่ายทำจะเอาไปใช้เป็น CG คัตซีนของเกม จึงไม่แปลกที่ตัวเอกจะมีความเชื่อมโยงกับระบบการเล่นของเกมด้วย 

ที่ลู่จือเหยารู้สึกติดขัดคือบทที่ต้องเล่น 

ดูจากซีนนี้แล้ว บทน่าจะยากสุดๆ!

แค่ซีนเดียวแต่อารมณ์ของฉินอี้นั้นซับซ้อนมาก

ความดีใจเมื่อรู้ว่ารอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด

ความเจ็บปวดเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเพื่อนร่วมทีมตาย

ความสับสนเมื่อได้รู้ว่าปฏิบัติภารกิจสำเร็จ แต่สงครามยังไม่จบ 

ความโกรธเมื่อได้รู้ว่าผู้บัญชาการปิดบังข้อมูลพวกเขา

ความผิดหวังเมื่อได้รู้ว่าผู้บัญชาการคนก่อนสละชีพตัวเอง 

การต่อต้านเมื่อได้รู้ว่าตัวเองได้เป็นผู้บัญชาการคนใหม่ แต่หลังจากนั้นก็ยอมรับหน้าที่นี้

สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือ ลู่จือเหยาแสดงอารมณ์เหล่านี้ออกมามากเกินไปไม่ได้ nᴏᴠᴇʟɢu.cᴏm

เพราะฉินอี้เป็นทหารที่พบเจอกับความตายตลอดการปฏิบัติภารกิจ เขาย่อมมีสภาพจิตใจที่แข็งแกร่งเป็นธรรมดา 

ในบทยังระบุไว้ด้วยว่าอารมณ์ของฉินอี้ไม่ค่อยแปรปรวนและไม่ใช่คนตีโพยตีพาย ส่วนใหญ่จะฟังคำอธิบายจาก AEEIS เงียบๆ 

พูดอีกอย่างคือ ฉินอี้ต้องแสดงอารมณ์ทางสีหน้าให้น้อยที่สุด แต่ก็ต้องสื่อสารอารมณ์อันซับซ้อนออกไปให้ได้ 

แถมเขายังต้องเจอกับฉากเขียวเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งจะใส่เอฟเฟกต์พิเศษเข้ามาทีหลัง แต่ลู่จือเหยายังไม่ได้เห็นในตอนนี้ ต้องใช้พลังจินตนาการเอาล้วนๆ

เขาต้องแสดงคู่กับเสียงอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งปราศจากอารมณ์ ไม่มีนักแสดงสมทบแม้แต่คนเดียว 

การแต่งหน้า เสื้อผ้า และพร็อบก็ดูค่อนข้างเรียบง่าย ตามบทแล้ว ฉินอี้เพิ่งฟื้นและตื่นขึ้นมาในเคบิน จึงไม่แปลกที่จะยังทำอะไรมากมายไม่ได้ 

สรุปแล้วเรื่องราวจะออกมายังไงก็ขึ้นอยู่กับฝีมือการแสดงของลู่จือเหยาล้วนๆ  

สายตาผู้ชมทุกคนจะจับจ้องอยู่ที่ตัวเอก เสียงปัญญาประดิษฐ์และฉากเขียวที่ตัดต่อเพิ่มฉากเท่ๆ เข้าไปเป็นแค่ส่วนเสริม 

ถ้าลู่จือเหยาแสดงออกมาได้ไม่ดี เอฟเฟ็กต์พิเศษต่างๆ ไม่ว่าจะทำออกมาดีขนาดไหนก็ไร้ความหมาย 

เขาปาดเหงื่อออกจากหน้าผากเงียบๆ 

ก่อนหน้านี้ลู่จือเหยาเคยพูดไว้จริงๆ ว่าอยากเล่นบทที่ท้าทายขึ้น 

แต่บทนี้ดูจะท้าทายเกินไปหน่อย 

พอจูเสี่ยวเช่อจัดการเรื่องต่างๆ เสร็จก็กลับเข้ามาในห้อง “เป็นไงบ้างครับ เข้าใจตัวละครดีรึยัง”

ลู่จือเหยารู้สึกถึงภาระอันหนักอึ้งบนบ่า “ผู้กำกับจู บทนี้ท้าทายเกินไปครับ ผมไม่เคยแสดงบทบาทแบบนี้เลย 

“พูดตรงๆ ผมไม่ค่อยมั่นใจว่าจะเล่นบทนี้ออกมาได้ดี ถ้ามันออกมาเจ๊งเพราะฝีมือการแสดงของผมก็คง…

“ผู้กำกับจูครับ ถ้ามีคนที่เหมาะกับบทนี้มากกว่าผม…”

จูเสี่ยวเช่อผงะไป หมายความว่าไง ลู่จือเหยาจะถอยหนีงั้นเรอะ 

ไม่ได้นะ ถ้านายไม่เล่น ฉันก็หาคนอื่นที่เหมาะกับบทนี้ไม่ได้แล้ว!

จูเสี่ยวเช่อรีบตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ไม่ครับ บทนี้บอสเผยสร้างขึ้นมาให้คุณโดยเฉพาะ! เป็นบทของคุณแค่คนเดียว!

“บอสเผยบอกว่าคุณเหมาะกับบทนี้มาก คุณห้ามสูญเสียความมั่นใจในตัวเอง ทั้งบอสเผยและผมต่างก็คิดว่าคุณฝีมือเยี่ยม!

“ถ้าเล่นบทนี้ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม ทักษะการแสดงของคุณจะพุ่งขึ้นไปอีกขั้น!”

ลู่จือเหยาดูคลางแคลงใจ “จริงเหรอครับ บอสเผยพูดแบบนั้นจริงๆ เหรอ”

จูเสี่ยวเช่อพยักหน้ารัว “ใช่ครับ บอสเผยเจาะจงเลยว่าต้องให้คุณรับบทนี้”

เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากสร้างความมั่นใจให้ลู่จือเหยาโดยใช้ชื่อบอสเผย

การแสดงคือทักษะอย่างหนึ่ง แต่ทัศนคติก็มีส่วนด้วยเหมือนกัน

ถ้านักแสดงขาดความมั่นใจในตัวเองจะแสดงออกมาให้ดีได้ยังไง

แต่ถ้าบอสเผยเพิ่มบัฟให้ลู่จือเหยาก็หมดปัญหา!

ลู่จือเหยาตกสู่ภวังค์ความคิด “บอสเผยมั่นใจในตัวผมขนาดนั้นเลยเหรอ

“หรือว่า…

“ก่อนหน้านี้ที่ไม่ยอมให้บทผมเพราะกลัวว่าผมได้อ่านบทแล้วจะไม่ยอมมา?”

จูเสี่ยวเช่อเงียบไปสองวินาที ก่อนจะพูดขึ้น “ใช่ครับ ใช่เลย”

ลู่จือเหยาคิดทบทวนอีกครั้งแล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง “โอเคครับ ถ้าผู้กำกับจูกับบอสเผยเชื่อมั่นในตัวผมขนาดนี้ ผมก็จะลองท้าทายตัวเองดู!

“ผมจะไม่ทำให้บอสเผยผิดหวัง!

“ลุย!”

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset