วันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม ทำงานชดเชยวันหยุด
หวงซื่อปั๋วกำลังนั่งงงอยู่ในเฟยหวงสตูดิโอ
หูเสี่ยนปินเองก็อยู่ด้วย ซึ่งก็กำลังงงงวยไม่ต่างกัน
พวกเขาหาเหตุผลไม่ได้เลย!
พอมอบหมายเกมใหม่ให้เสร็จ บอสเผยก็กลับออกไปเลย ทั้งสองคิดกันมาตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็คิดอะไรไม่ออก
พวกเขาพอจะนึกไอเดียออกบ้าง แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะใช่ที่บอสเผยต้องการรึเปล่า
ต้องบอกเลยว่าภารกิจของบอสเผยรอบนี้มีความยากอยู่ในระดับสูงเกินไป สูงกว่าภารกิจทั้งหมดที่เคยมีมา ยากเกินกว่าที่จะพึ่งพาความแข็งแกร่งของคนแค่หนึ่งหรือสองคน
ที่หูเสี่ยนปินอยู่ที่สตูดิโอด้วยก็เพราะเกมต้องพัฒนาไปพร้อมกับพล็อตเรื่อง ถึงแม้ทั้งสองอย่างจะแยกการทำงานกัน
ถ้าขาดการสื่อสารที่ดีและทำงานแยกใครแยกมันก็ไม่มีทางทำภารกิจได้สำเร็จลุล่วงแน่นอน
หวงซื่อปั๋วหันมองนาฬิกาข้อมือ “น่าจะใกล้มากันแล้วล่ะ”
ทันทีที่จบประโยค เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะของใครหลายคนจากด้านนอกเฟยหวงสตูดิโอ
หวงซื่อปั๋วตาเป็นประกาย ทีมกู้ภัยมาแล้ว!
สมาชิกทีมรอบนี้มีแต่ยอดฝีมือ
นอกจากสมาชิกทีมตั้งต้นอย่างหูเสี่ยนปิน หวงซื่อปั๋ว และจูเสี่ยวเช่อแล้ว เปาซวี่ ลู่หมิงเหลียง หลี่หย่าต๋า หลินหวาน และหม่าอี้ฉวินก็มาด้วย!
รอบนี้เป็นการรวมพลที่สุดยอดที่สุดเป็นประวัติการณ์ของฝ่ายเกมเถิงต๋า
นอกจากหัวหน้าฝ่ายวางแผนทั้งสี่คนของฝ่ายเกมเถิงต๋าแล้ว ยังมีจูเสี่ยวเช่อ เปาซวี่ หลินหวาน และหม่าอี้ฉวิน ผู้เชี่ยวชาญจากแวดวงหนัง เกม และนิยาย!
แปดคนนี้ถือได้ว่าเป็นยอดสุดวัฒนธรรมจิตวิญญาณของเถิงต๋า ทุกคนตอบรับจิตวิญญาณของบอสเผยได้ดีมากๆ
ถ้าคนเดียวสู้ไม่ไหว ก็ต้องเรียกกำลังเสริม!
หวงซื่อปั๋วเตรียมห้องประชุมไว้รอแล้ว เขาเชิญทุกคนเข้ามา แล้วเรียกคนมาเสิร์ฟน้ำ
“เชิญนั่งก่อนครับทุกคน เวลามีจำกัด งานรอบนี้หนักหน่อย เราต้องสรุปแผนภาพรวมสำหรับเกมใหม่และ CG เนื้อเรื่องภายในหนึ่งวัน! มาพยายามสานต่อจิตวิญญาณเถิงต๋าด้วยการไม่ทำงานล่วงเวลากันเถอะครับ”
หวงซื่อปั๋วผายมือเชิญทุกคนนั่ง ก่อนตัวเองจะนั่งลง
เขาเป็นผู้จัดการเฟยหวงสตูดิโอและอดีตหัวหน้าฝ่ายวางแผนของฝ่ายเกมเถิงต๋า ถือเป็นพี่ใหญ่สุดในทีมนี้และทำงานทั้งในอุตสาหกรรมเกมและอุตสาหกรรมหนัง จึงเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นหัวหน้าโปรเจ็กต์นี้
ทุกคนในทีมสนิทกันดี ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองอะไร แต่ละคนที่นั่งอยู่บนโต๊ะประชุมยกชาขึ้นจิบด้วยสีหน้าต่างกันออกไป
สีหน้าของลู่หมิงเหลียงดูงุนงงที่สุดในกลุ่ม เขาหันไปมองแต่ละคนที่โดนเรียกตัวมาวันนี้ด้วยความสับสน “พี่หวง เรื่องวันนี้ไม่เกี่ยวกับนี่เฟิงโลจิสติกส์นี่ครับ ทำไมถึงให้ผมมาประชุมด้วยล่ะ”
หวงซื่อปั๋วตอบ “นายเคยเป็นหัวหน้าฝ่ายเกมเถิงต๋าเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ก็ต้องเรียกมาด้วยอยู่แล้วสิ!
“เกมที่บอสเผยอยากทำรอบนี้ เราได้ข้อมูลมาน้อยมาก แล้วผมก็ไม่เข้าใจเลยว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของบอสคืออะไร ก็เลยเรียกทุกคนมาปรึกษา
“แต่ละคนอาจจะเคยได้ดูแลโปรเจ็กต์ของบอสเผยแค่บางส่วน ไม่ว่าจะเป็นเกมหรือหนัง เราเข้าใจจิตวิญญาณของบอสเผยแค่บางส่วนเท่านั้น ความรู้ของแต่ละคนจึงเป็นส่วนเสริมเติมให้แก่กันและกันได้
“เพราะงั้น เกมนี้เราต้องร่วมมือกัน!
“ผมเรียบเรียงแนวทางของบอสเผยไว้แล้ว ทุกคนลองอ่านดูให้ละเอียด แล้วเดี๋ยวอีกสิบนาทีเรามาระดมความคิดกัน”
ทุกคนอ่านแนวทางที่บอสเผยให้ไว้อย่างจริงจัง ก่อนจะขมวดคิ้ว
เข้าใจได้ยากมาก!
ทุกคนในที่ประชุมเคยแก้ปริศนาบอสเผยมาก่อน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าปริศนารอบนี้ยากที่สุด
นอกจากบอสเผยจะวางแนวทางการออกแบบเกมที่ดูจะไร้เหตุผลไว้ให้แล้ว เนื้อหาเหล่านี้ยังเชื่อมโยงกันหมดด้วย
ถ้ามีแนวทางที่ไร้เหตุผลสักหนึ่งหรือสองจุดก็ยังพอหาคำตอบได้ง่ายๆ
แต่ถ้ามีแนวทางที่ไร้เหตุผลสักเจ็ดหรือแปดจุด พวกเขาก็ต้องหาทางออกที่จะตอบโจทย์แนวทางทั้งหมดให้ได้
ถ้ามีจุดไหนทำได้ไม่ดี ทุกอย่างอาจจะสูญเปล่าทั้งหมด
สิบนาทีต่อมา หวงซื่อปั๋วก็เงยหน้าขึ้น “โอเค หมดเวลาแล้ว มาระดมความคิดเห็นกันสักหนึ่งชั่วโมง โยนไอเดียมากองไว้ แล้วเราค่อยคิดกันต่อ
“ผมขอเสนอความคิดเห็นของผมก่อน
“จากการวิเคราะห์ตามมาตรฐาน ขั้นแรกต้องหาจุดที่ไร้เหตุผลในแนวทางที่ได้มา แล้ววิเคราะห์ดูว่าเบื้องลึกมีแนวทางการออกแบบพื้นฐานยังไง
“จุดที่ไม่สมเหตุสมผลแต่ละจุดอาจจะมีทางออกหลายทาง เราต้องเอาข้อมูลมาเชื่อมโยงกันเพื่อหาคำตอบที่ถูกต้องเพียงหนึ่งเดียว
“อันดับแรก ผมคิดว่าเกมนี้ต้องเอาพล็อตเป็นตัวชูโรง ไม่น่าจะมีใครค้านเรื่องนี้ใช่มั้ย การลงทุนกับ CG เนื้อเรื่องมากกว่าลงทุนกับตัวเกม แถมต้องมีความยาวหนึ่งชั่วโมงครึ่ง แสดงว่าความสำคัญของพล็อตเรื่องอย่างน้อยๆ ก็ต้องเทียบเท่ากับเกม
“เพราะงั้นผมเลยคิดว่าจะยกระดับพล็อตเรื่องไปอีกขั้นได้ยังไงบ้าง
“ในแง่พล็อตเรื่อง พวกคุณมีไอเดียอะไรดีๆ มั้ยครับ” หวงซื่อปั๋วหันไปมองจูเสี่ยวเช่อกับหม่าอี้ฉวิน
หม่าอี้ฉวินเองก็มาจากวงการเกม เขารู้ทั้งเรื่องเกมและการวางพล็อต จึงได้เข้ามามีส่วนร่วมกับการประชุมในครั้งนี้
เขาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “พล็อตเรื่องมีน้ำหนักมากจริงๆ แต่ก็ต้องไปด้วยกันกับตัวเกมด้วย
“ถ้าพล็อตเรื่องมีแค่ ‘ต่อต้านการรุกล้ำของเซิร์กและปกป้องดาวบ้านเกิด’ ก็จะดูกว้างเกินไป ความเป็นไปได้ที่จะเดาจุดประสงค์ที่แท้จริงของบอสเผยได้ก็จะเป็นศูนย์
“เราต้องหาแนวทางการยกระดับจากระบบการเล่น
“อย่างที่เราเห็นจากเกมดิ้นรน ถึงบอสเผยจะทุ่มเต็มที่กับพล็อตเรื่อง แต่บอสก็ไม่ได้มุ่งไปที่พล็อตเรื่องอย่างเดียว แต่เป็นความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของเนื้อเรื่องและระบบการเล่น ซึ่งวิธีการที่ใช้ก็คือ ‘การทำลายกำแพงที่สี่’ ดังนั้นเนื้อเรื่องจึงไม่ใช่แค่ส่วนขยายจากระบบการเล่น แต่เป็นการผนวกรวมให้เหนือขึ้นไปอีกขั้น”
หวงซื่อปั๋วคิดตาม “อืม จริงด้วย”
หลี่หย่าต๋าพูดขึ้น “ถ้ามองในมุมของผู้เล่น ฉันคิดว่าแนวทางสองข้อนี้ของบอสเผยน่าสนใจมาก เกมไม่ต้องมีความสมดุลและยูนิตบางตัวจะไม่เชื่อฟังคำสั่ง ตรงนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นในการวางระบบการเล่น
“พี่เปาเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องเกม RTS นี่คะ พี่คิดเห็นว่ายังไง”
เปาซวี่ลูบคางพลางครุ่นคิด “เห็นได้ชัดว่าสองจุดนี้เป็นข้อบกพร่องร้ายแรงสำหรับเกม RTS ตามตำราทั่วไป ความไม่สมดุลและปัจจัยไม่แน่นอนที่เยอะเกินไปจะทำลายธรรมชาติการแข่งขันของเกม ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ
“ทำลายธรรมชาติการแข่งขันไปเพื่ออะไร…”
หลินหวาน “เพื่อความสนุก…? ดูไม่น่าจะใช่ เพราะสำหรับเกมเมอร์สาย RTS ส่วนใหญ่ ธรรมชาติการแข่งขันของเกมแนว RTS นี่แหละคือความสนุก”
เปาซวี่คิดอย่างจริงจังก่อนจะพูดขึ้น “ผมคิดว่าน่าจะเพื่อความสมจริง
“เอาเข้าจริง มนุษย์กับเซิร์กก็ไม่สมดุลกันอยู่แล้ว ในหนังกับซีรีส์ส่วนใหญ่ เซิร์กจะได้เปรียบกว่ามากๆ เมื่อเผชิญหน้ากับมนุษย์
“เซิร์กขยายพันธุ์เร็วมากและเชื่อฟังคำสั่งอย่างเคร่งครัด ถ้าไม่ระวังก็สามารถฟื้นคืนชีพได้ ถือเป็นฝันร้ายของมนุษย์อย่างเห็นได้ชัด
“พอเอาไปรวมกับแนวทาง ‘ให้ยูนิตมีความคิดของตัวเอง’ ชัดเจนว่าบอสเผยอยากให้เผ่าพันธุ์มนุษย์อ่อนแอกว่าและเซิร์กแข็งแกร่งกว่า เพื่อที่จะได้เน้นย้ำความสมจริง
“ผู้เล่นที่ใช้มนุษย์สู้กับเซิร์กจะรู้สึกไม่ยุติธรรม ซึ่งมีความสมจริงมากกว่าเกม RTS ที่มีความสมดุลกันระหว่างเผ่าพันธุ์สุดๆ
“เพื่อความสมจริง บอสเผยน่าจะยอมทิ้งธรรมชาติการแข่งขันและความสมดุลของเกม RTS ซึ่งควรจะเป็นจุดสำคัญมากๆ”
หลินหวานแทรกขึ้น “เข้าใจแล้วค่ะ! พูดอีกอย่างคือระบบการเล่นจะแสดงช่องว่างระหว่างเผ่ามนุษย์กับเผ่าเซิร์กให้เห็นชัดขึ้น ตรงนี้น่าจะเป็นจุดเชื่อมกับเนื้อเรื่องนะคะ!”
หวงซื่อปั๋วพยักหน้า “ใช่เลย ตรงนี้แหละจุดสำคัญ บอสเผยบอกด้วยว่าต้องทำให้เกมเล่นง่าย ตรงนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกันมั้ย”
เปาซวี่ขมวดคิ้ว “ดูจะ…ไม่เกี่ยว เกมจะง่ายหรือยากก็ไม่สำคัญ ยังไงก็ทำให้สองเผ่าพันธุ์ไม่สมดุลกันเหมือนเดิม”
ทุกคนเงียบกันไปชั่วขณะ
เพราะ ‘ดูจะไม่เกี่ยว’ ไม่ได้แปลว่า ‘ไม่เกี่ยวเลย’ แต่มักจะเป็น ‘เกี่ยว แค่ไม่รู้ว่าเกี่ยวตรงไหน’
ลู่หมิงเหลียงคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้น “ผมว่าน่าจะเกี่ยวกับแนวคิด ‘สมาธิ’ ของบอสเผย
“ตอนที่ผมทำเกมนักออกแบบเกมก็รู้สึกแบบนี้
“บอสเผยยอมทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อสื่อสารสิ่งที่ต้องการแบบสุดโต่ง ก็เหมือนเกมนักออกแบบที่ทำเป็นเกมรูปแบบนิยายเชิงโต้ตอบก็ได้ แต่บอสเผยเลือกทำฉากสามมิติขึ้นมา เกมดิ้นรนก็ทำเป็นเกมรูปแบบภาพยนตร์เชิงโต้ตอบ
“ถ้าทำสองเกมนี้เป็นเกมรูปแบบนิยายเชิงโต้ตอบก็จะลดทุนไปได้สิบเท่า แต่บอสเผยทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อให้เนื้อหาหลักที่อยากสื่อออกมาโดดเด่นมากพอ
“ส่วนเนื้อหาที่สำคัญรองลงมา บอสเผยจะตัดทิ้งหรือลดทอนความซับซ้อนให้ได้มากที่สุดเพื่อเลี่ยงไม่ให้ปัจจัยนี้รบกวนผู้เล่น
“ในเมื่อ Mission & Choice เคาะแล้วว่าไม่ใช่เกมเน้นการแข่งขัน แต่จะสะท้อนความสมจริงและเน้นเนื้อเรื่อง ระบบการเล่นจะยังสำคัญอีกรึเปล่าล่ะ ก็ไม่แล้ว
“ระบบการเล่นมีไว้เพื่อการแข่งขัน
“ความสำคัญของการทำให้ระบบการเล่นมีความเรียบง่ายและลดการวางกลยุทธ์ระหว่างการรบ ก็เพื่อให้ผู้เล่นมีเวลาได้คิดและเตรียมกลยุทธ์ก่อนการรบ
“จุดนี้น่าจะเป็นประเด็นหลักที่บอสเผยต้องการสื่อสาร”
หวงซื่อปั๋วรีบรัวมือจด “มีเหตุผลสุดๆ!
“มีแค่เกม RTS ที่สมดุลเท่านั้นที่ต้องเน้นเรื่องระบบการเล่น แล้วเกม RTS ที่ไม่สมดุลจะเน้นระบบการเล่นไปทำไม ผู้เล่นจะได้มีเวลาค่อยๆ เตรียมกลยุทธ์
“แต่…
“ในรูปแบบการเล่นแบบ ‘เก็บ-สร้าง-รบ’ ของเกมแนว RTS ทั่วไป ความสนุกของเกมมาจากการรบไปแล้วอย่างน้อย 60% ถ้าตัดประสบการณ์การรบออก ผมกลัวว่าจะทำให้ประสบการณ์การเล่นแย่ลงมากเนี่ยสิ”
เปาซวี่คิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดขึ้นบ้าง “งั้นก็ต้องทำให้ระบบเก็บทรัพยากรกับการสร้างสิ่งปลูกสร้างซับซ้อนมากขึ้น เพื่อให้ผู้เล่นไปลงแรงลงเวลาในสองจุดนี้แทน
“โดยเฉพาะการวางกลยุทธ์ก่อนเริ่มสงคราม ผู้เล่นทุกคนต้องคิดให้ดีในทุกการตัดสินใจ”
หลี่หย่าต๋าเห็นด้วยสุดๆ “ใช่เลย ก็เหมือนเกมเรียงเพชร เกมเรียงเพชรแรกๆ จะเน้นกันที่ความเร็วและแข่งกับเวลา แต่หลังๆ จะให้เวลาไม่จำกัด แต่จำกัดจำนวนการเลื่อนเพชรแทน
“แบบหลังต้องใช้ความคิดมากกว่า ซึ่งสนุกกว่าและตรงกับนิสัยของผู้เล่นในปัจจุบัน
“ชัดเจนว่าบอสเผยไม่อยากลอกความสำเร็จของ Starcraft แต่อยากค้นหาระบบใหม่ให้กับเกมแนว RTS!
“ยังไงก็ยังเป็นเกมที่ต้องวางแผนแบบเรียลไทม์อยู่ แต่ผู้เล่นที่ยังเล่นไม่เก่งก็สัมผัสความสนุกของเกมได้”