วันอังคารที่ 13 กันยายน
จางลี่เสียนพาช่างกล้องจากรายการกระแสเงินสดไปที่ตึกรูปทรงประหลาดในคอมมูนิตี้สู่กวง
หลี่สือรอพวกเขาอยู่ชั้นสิบเอ็ด
“สวัสดีค่ะบอสหลี่!”
จางลี่เสียนจับมือกับหลี่สืออย่างกระตือรือร้น ก่อนหลี่สือจะพาเธอกับตากล้องเข้าไปในห้อง
พอก้าวเท้าเข้าไปในห้องนั่งเล่นอันว่างเปล่า จางลี่เสียนก็ตะลึงงันไป
นี่คือ… อพาร์ตเมนต์ใหม่ที่บอสหลี่เพิ่งย้ายมาอยู่เหรอ
กำแพงทั้งสี่ด้านว่างเปล่า สภาพเหมือนเพิ่งโดนยกเค้า อยู่กันได้ยังไงเนี่ย
จางลี่เสียนงงสุดๆ
ก่อนหน้านี้ พอได้ยินว่าบอสหลี่อยากให้สัมภาษณ์ที่คอมมูนิตี้สู่กวง เธอก็คิดว่าพวกเขาน่าจะได้ไปเยี่ยมอพาร์ตเมนต์ของบอสหลี่ เพราะละแวกนี้เป็นคอมมูนิตี้สำหรับพักอาศัย ไม่น่าจะเป็นออฟฟิศ
แต่พอได้มาเห็นอพาร์ตเมนต์ จางลี่เสียนก็ยิ่งงงหนักกว่าเดิม
นี่คืออพาร์ตเมนต์สำหรับพักอาศัยจริงๆ เหรอ
ดูแล้วไม่น่าจะอาศัยอยู่ได้เลย
เท่าที่รู้มาบอสหลี่แต่งงานแล้ว ลูกชายเพิ่งขึ้นชั้นมัธยมต้น แต่อพาร์ตเมนต์นี้ไม่มีจุดไหนบ่งบอกว่าเขาอาศัยอยู่ที่นี่กับภรรยาและลูกชาย
พูดอีกอย่างคือบอสหลี่ไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่เป็นหลัก แต่แค่เช่าห้องชุดในอพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อยไว้
ทำไมล่ะ
ที่นี่มีอะไรพิเศษ
ก่อนจางลี่เสียนจะทันได้เริ่มสัมภาษณ์ ในหัวเธอก็เต็มไปด้วยคำถามมากมาย
พอเห็นสีหน้างุนงงของอีกฝ่าย หลี่สือก็ผุดยิ้ม “ผมรู้ว่าคุณอยากถามอะไร ไม่ต้องห่วงครับ เราค่อยๆ คุยกันก็ได้ ไม่ต้องรีบ”
ใกล้กับระเบียงมีโต๊ะหนึ่งตัวกับเก้าอี้สองตัวไว้สำหรับนั่งจิบชา เหมาะเป็นจุดสัมภาษณ์ แสงที่ส่องผ่านหน้าต่างเต็มบานทำให้กล้องถ่ายออกมาย้อนแสง แต่หลี่สือก็ปรับกระจกอัจฉริยะเพื่อแก้ปัญหาให้
นี่ไม่ใช่การสัมภาษณ์รายการข่าวแบบเป็นทางการ เป็นคล้ายๆ การพูดคุยกันหน้ากล้องมากกว่า ใช้เวลาสัมภาษณ์นานกว่า และบทสนทนาจะค่อนข้างเป็นกันเองกว่า
จางลี่เสียนไล่เรียงคำถามในหัว แต่ก็หยุดมองกล่องสี่เหลี่ยมสีดำบนโต๊ะ
อะไรเนี่ย
ไม่มีทางที่จะไม่สนใจกล่องนี้ เพราะในห้องชุดสุดกว้างนี้แทบไม่มีข้าวของอะไรเลย จึงไม่แปลกที่กล่องดำบนโต๊ะจะเด่นสะดุดตา
หลี่สือยิ้ม “เดี๋ยวผมอธิบายให้ฟังทีหลัง”
จางลี่เสียนพยักหน้าและตัดสินใจเริ่มสัมภาษณ์ตามที่วางแผนไว้ ถ้าไม่พอใจกับผลลัพธ์ก็ถ่ายใหม่ได้ตลอด
พอเตรียมการทุกอย่างเสร็จ การสัมภาษณ์ก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
จางลี่เสียนมีคำถามมากมายในหัว เช่น ทำไมบอสหลี่ถึงเลือกให้มาสัมภาษณ์ที่นี่ ทำไมในห้องมีข้าวของน้อยชิ้น กล่องสีดำมีไว้ทำไม และอื่นๆ แต่เธอคิดว่าเริ่มต้นด้วยคำถามที่เตรียมมาน่าจะเหมาะที่สุด
“บอสหลี่คะ คุณถือว่าเป็นรุ่นใหญ่ของแวดวงการลงทุนในจิงโจว หรืออาจจะในฮั่นตงด้วยซ้ำ แถมยังร่วมเป็นสักขีพยานตำนานด้านการลงทุนมามากมาย การก่อตั้งบริษัทลงทุนฟู่หุยช่วยกิจการมากมายในจิงโจวไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม
“เมื่อไม่นานมานี้ คุณตอบรับเสียงเรียกร้องและได้ทุ่มเงินจำนวนมากไปกับโซนอุตสาหกรรมเก่าที่เป็นที่ตั้งของโฮสเทลเขย่าขวัญ
“แต่ผู้ประกอบการและนักลงทุนหลายคนในจิงโจวกลับไม่กล้าเข้ามาลงทุนในทำเลนี้ อะไรทำให้คุณแน่วแน่กับการลงทุนครั้งนี้คะ”
หลี่สือนึกย้อนดู “จริงๆ แล้วผมไม่ได้สนใจทำเลตรงนั้นมากเท่าไหร่ในตอนแรก แต่วันหนึ่งบอสเผยก็ถามผมขึ้นมาว่าทำเลตรงไหนที่นักลงทุนในจิงโจวรู้สึกขยาดไม่อยากไปลงทุนที่สุด
“ผมคิดดูแล้วก็ตอบไปว่าโซนอุตสาหกรรมเก่า
“ตอนนั้นโซนอุตสาหกรรมเก่ายังเป็นพื้นที่รกร้าง มีแค่อาคารโรงงานเก่าซอมซ่อ อยู่ห่างจากใจกลางเมือง ถือเป็นทำเลที่ห่างไกลผู้คนสุดๆ
“ตอนแรกผมคิดว่าบอสเผยถามเล่นๆ แต่กลายเป็นว่าจู่ๆ ก็เข้าไปลงทุนโดยไม่ลังเล!
“ผมเลยตามไปลงทุนด้วย”
จางลี่เสียนผงะไป
ง่ายๆ… แบบนี้เลยเหรอ
ตามไปลงทุนด้วยเพราะบอสเผยเปิดก่อน ถ้าบอสเผยลงทุนแล้วเจ๊งขึ้นมาล่ะ
“แล้ว… ทำไมคุณถึงเชื่อมั่นในตัวบอสเผยขนาดนั้นคะ” จางลี่เสียนถาม
หลี่สือยิ้ม “ถ้าค้นข้อมูลบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งของบอสเผยดูลึกๆ จะสังเกตเห็นว่าวิธีลงทุนของบอสเผยแตกต่างจากคนอื่นลิบลับ!
“เวลาคนอื่นลงทุนจะมองอยู่สองเรื่องคือ กำไรหรือขาดทุน
“แต่บอสเผยลงทุนมองอยู่สองเรื่องคือ กำไรตอนนี้หรือทีหลัง!
“ถ้าถามผมว่าการลงทุนไหนของบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งประสบความสำเร็จที่สุด ผมก็จะตอบว่าการซื้อหุ้นบริษัท Finger Games พวกเขากอบโกยผลประโยชน์ในทุกขั้นตอนและปิดงานด้วยการกอบโกยเงินไปมากกว่ายี่สิบเท่าของเงินที่ลงทุนไป!
“การจะลงทุนให้ประสบความสำเร็จได้ต้องใจกล้าและมีวิสัยทัศน์กว้างไกล
“นักลงทุนที่โดดเด่นต้องหาโอกาสให้เจอก่อน จากนั้นก็ต้องรู้ว่าจะคว้าโอกาสมายังไง และต้องกล้าที่จะเอื้อมมือไปคว้าด้วย!
“บอสเผยทำได้ดีเยี่ยมในทุกขั้นตอนที่บอกไป จึงประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในทุกการลงทุน
“แน่นอนว่าก่อนผมจะร่วมลงทุนด้วย บอสเผยเตือนผมอยู่หลายครั้งว่าโปรเจ็กต์นี้มีความเสี่ยงสูง ผมคิดดูแล้วก็มองว่าความเสี่ยงก็คือความเสี่ยง ยังไงไม่ช้าก็เร็วโซนอุตสาหกรรมก็ต้องมีการแปลงโฉม ถึงจะเสียเงินลงทุนไป ผมก็จะคิดซะว่าเป็นการทำเพื่อเมืองจิงโจว
“ผมเกิดและโตที่จิงโจว ความมั่งคั่งก็สั่งสมมาจากเมืองนี้ ยังไงก็ต้องตอบแทนกลับคืนสู่สังคมครับ”
จางลี่เสียนพยักหน้า “ทัศนคติของบอสหลี่น่าชื่นชมมากค่ะ ดิฉันเห็นว่าคุณเชื่อมั่นในตัวบอสเผยมากทีเดียว ความเชื่อมั่นนี้มาจากผลลัพธ์การลงทุนอันโดดเด่นหรือมาจากจุดอื่นคะ”
หลี่สือเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “จริงๆ แล้วตอนแรกเป็นเพราะผลลัพธ์การลงทุนอันโดดเด่นครับ ตอนนั้นผมไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมบอสเผยกับบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งถึงประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้ขนาดนั้น
“แต่ไม่นานมานี้ ผมก็เริ่มเข้าใจเหตุผลของเรื่องราวทั้งหมด ผมคิดว่าผมควรบอกต่อประสบการณ์นี้กับนักลงทุนคนอื่นๆ รวมถึงคนรุ่นใหม่ที่อยากเริ่มต้นเส้นทางสายอาชีพนี้
“บอสเผยประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ได้เพราะวิธีคิดของเขาครับ!”
จางลี่เสียนตาเป็นประกาย “ช่วยอธิบายเพิ่มเติมได้มั้ยคะ”
หลี่สือยิ้มบาง “ที่นี่คืออพาร์ตเมนต์บ้านจอมเฉื่อย กิจการอพาร์ตเมนต์ให้เช่าล่าสุดของเถิงต๋า แต่หลายคนไม่รู้ว่าบอสเผยเองก็อาศัยอยู่ที่นี่ บอสเผยพักอยู่ที่ชั้นบนสุดของตึกนี้ การตกแต่งในห้องนี้เป็นการตกแต่งแบบเดียวกันเป๊ะกับห้องของบอสเผยครับ!”
จางลี่เสียนอึ้งไป
เธอคาดไม่ถึงว่าจะได้ข้อมูลนี้!
ทุกคนรู้ว่าออฟฟิศของเถิงต๋าซึ่งเป็นออฟฟิศบอสเผยอยู่ที่ไหน แต่มีไม่กี่คนที่รู้ว่าบอสเผยหน้าตาเป็นยังไงและอาศัยอยู่ที่ไหน
“ห้องที่บอสเผยพักอยู่เป็นแบบนี้เหรอคะ เรียบเกินไปรึเปล่าคะ มีใครอาศัยอยู่ที่แบบนี้ได้จริงๆ เหรอคะ” จางลี่เสียนถามด้วยความงุนงง
หลี่สือยิ้ม “ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน
“ตอนที่ผมรู้ว่าบอสเผยพักอยู่ที่นี่ ผมเองก็ตกใจมาก การตกแต่งในห้องเรียบง่ายเกินไปจนกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันประมาณหนึ่ง
“คนที่อาศัยอยู่ที่นี่อาจจะรู้สึกเหมือนอยู่ในวัด เพราะไม่มีกลิ่นอายของชีวิตอยู่เลย
“ผมเลยตะลึงงันไปในตอนแรก
“ดูจากรายได้สุทธิแล้ว บอสเผยน่าจะซื้อวิลล่าหรูได้สบายๆ ทำไมถึงไม่ไปอยู่ในที่แบบนั้นล่ะ
“พอในใจเต็มไปด้วยคำถาม ผมก็ลองอยู่ที่นี่ดูครึ่งเดือน และในที่สุดก็เข้าใจจุดประสงค์ของบอสเผย”
หลี่สือจงใจหยุดครู่หนึ่งเพื่อกระตุ้นให้ลุ้น จากนั้นก็เริ่มพูดต่อ “ที่นี่ทำให้เรามีสมาธิและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ บอสเผยพักอยู่ที่นี่เพราะอยากให้ตัวเองมีสมาธิและความคิดสร้างสรรค์!
“แทนที่จะบอกว่าที่นี่คือบ้านของบอสเผย ผมว่าเรียกที่นี่ว่าเป็นห้องฝึกตนและระดมความคิดของบอสเผยน่าจะเหมาะกว่า!
“ความสำเร็จของบอสเผยไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการครุ่นคิดไตร่ตรองอย่างหนักทุกวันๆ
“บอสเผยลดสิ่งบันเทิงใจลงให้น้อยที่สุดและเก็บไว้แค่ของจำเป็นจริงๆ เขาใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายเพื่อกันไม่ให้สิ่งต่างๆ เข้ามารบกวนกระบวนการคิดของตัวเอง!
“พอไม่มีสิ่งอื่นใดมารบกวนความคิด บอสเผยก็สามารถครุ่นคิดได้อย่างมีสมาธิ การอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนี้เป็นเวลานานช่วยฝึกให้เรามีสมาธิดีขึ้น และคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
“ในโลกนี้ไม่มีอัจฉริยะด้านการลงทุน บอสเผยแค่ทุ่มเวลาทั้งหมดไปกับการคิดไตร่ตรองอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด!
“เพราะงั้นผมจึงพยายามเรียนรู้วิธีคิดเรื่อง ‘การลดความซับซ้อน’
“ผมมักจะมานั่งคิดเงียบๆ ตัวคนเดียวที่นี่ บ่อยครั้งที่ผมพบทางออกของปัญหาที่ดูเหมือนจะไร้ทางแก้เมื่อมาคิดหาทางออกที่นี่ เพราะที่นี่ช่วยกำจัดสิ่งรบกวนใจไปได้หมด อยู่ที่นี่ไม่มีอะไรมากวนใจผมได้”
จางลี่เสียนถึงบางอ้อ
เป็นแบบนี้นี่เอง!
ตอนแรกเธอเองก็งงกับเรื่องนี้เหมือนกัน บอสเผยเป็นเจ้าของเถิงต๋าคอร์เปอเรชันซึ่งทำเงินได้เกือบห้าร้อยล้านหยวนจากการลงทุนเพียงครั้งเดียว มีบ้านแบบไหนที่เขาไม่มีปัญญาซื้อบ้าง
ห้องนี้ไม่ได้เล็ก แต่ก็ไม่สมกับรายได้สุทธิของบอสเผย
แถมบอสเผยยังแต่งบ้านแบบมินิมอลสุดๆ ไม่มีของชิ้นไหนที่ไม่จำเป็น ทำเอาคิดถึงนักพรตกับผู้บำเพ็ญเพียรเลยโนเวลกูดอทคอม
ไม่แปลกเหรอ
มีใครไม่ชอบความสะดวกสบายบ้าง
เถิงต๋าคอร์เปอเรชันของบอสเผยเป็นกิจการขนาดใหญ่ ปกติแล้วก็ควรเลือกใช้ชีวิตให้สุขสมและสะดวกสบายสิ
แต่บอสเผยกลับไม่เลือกแบบนั้น
ชัดเจนว่าเขามีจุดประสงค์พิเศษบางอย่าง
ปริศนาถูกแก้โดยบอสหลี่ซึ่งเป็นนักลงทุนที่ยืนอยู่ในจุดใกล้เคียงกับบอสเผย
เห็นได้ชัดว่าความสำเร็จของบอสเผยไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการครุ่นคิดอย่างหนักทุกวัน
การที่บอสเผยคิดได้ไกลและลึกซึ้งกว่าคนทั่วไปเพราะใช้ชีวิตที่เคร่งครัดและเรียบง่าย เขาสร้างสภาพแวดล้อมที่ตัดสิ่งกวนใจทุกอย่างไปเพื่อให้ตัวเองมีสมาธิ!
ขณะที่คนอื่นอยู่บ้านเถียงกับลูกเมีย บอสเผยนั้นอยู่ที่นี่เพื่อคิดถึงทิศทางในอนาคตของเถิงต๋าคอร์เปอเรชัน ความคิดที่สั่งสมมาเป็นเวลานานจึงแตกต่างกันลิบลับ!
ตอนนั้นเองจางลี่เสียนก็นึกคำถามได้อีกข้อ เธอหันไปมองกล่องดำบนโต๊ะแล้วถามขึ้น “แล้วกล่องดำนี่มีไว้ทำไมเหรอคะ”
หลี่สือไม่ได้พูดอะไร แต่เอื้อมมือไปเล่นให้ดูแทน
เขาสับสวิตช์เหล็กลงสองสามอัน แต่กลไกของกล่องก็ผลักสวิตช์ทั้งหมดกลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม
จางลี่เสียนอึ้งไป “คืออะไรเหรอคะ…”
หลี่สืออธิบาย “คืองานฝีมืออันประณีตครับ
“แต่ก็อัดแน่นไปด้วยปรัชญา ช่วยให้ผมคิดได้ดีขึ้น
“ที่ห้องบอสเผยมีกล่องหน้าตาแบบนี้อยู่ ผมค้นอยู่นานจนไปเจอแพลตฟอร์มทางการที่ขายเจ้านี่ ไม่คิดเลยว่าบริษัทลงทุนหยวนเมิ่งจะลงทุนในเจ้านี่ด้วย
“พูดอีกอย่างคือ บอสเผยน่าจะปรับแต่งเครื่องนี้เอง
“เครื่องนี้ชื่อว่าเครื่องทะเลาะอัตโนมัติ”
จางลี่เสียนยังงงอยู่ “เครื่องทะเลาะอัตโนมัติเหรอคะ มันมีปรัชญาแบบไหนคะ แล้วช่วยให้คิดได้ดีขึ้นยังไงเหรอคะ”
หลี่สือเลื่อนเครื่องทะเลาะอัตโนมัติไปทางจางลี่เสียนเพื่อให้เธอลองเล่น
จางลี่เสียนเล่นอยู่เกือบนาทีก่อนจะถามขึ้น “มัน…มีความหมายยังไงเหรอคะ เหมือนเสียเวลาไปเปล่าๆ เลย”
หลี่สือยิ้ม “ไม่มีความหมายอะไรเลยครับ
“ความที่มันไม่มีความหมายนี่แหละครับทำให้มันมีความหมาย
“เจ้าเครื่องนี้แฝงไว้ด้วยปรัชญาลัทธิเต๋าเรื่อง ประโยชน์ของความไร้ประโยชน์
“มันช่วยให้เราเข้าใจว่าการกระทำที่ไร้ความหมายนั้นมีความหมายในตัวเอง
“ที่เครื่องนี้ใช้ชื่อว่าเครื่องทะเลาะอัตโนมัติก็เพราะจำลองการปะทะคารมกับผู้คนออนไลน์
“ในโลกออนไลน์ตอนนี้มีคนทะเลาะกันเพิ่มขึ้นทุกวัน ทำให้เกิดการโต้เถียงที่ไร้ความหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะบุคคลสาธารณะที่มักเข้าไปมีส่วนในการโต้เถียงอันไร้ความหมายได้ง่ายๆ
“เรามักจะโต้เถียงกับคนอื่น แต่ส่วนใหญ่หลายคนไม่ได้สนว่าใครถูกใครผิด สนแค่ว่าใครตอกกลับได้รุนแรงกว่า
“ไม่มีใครพยายามเข้าใจที่อีกฝ่ายพูด ไม่มีใครสะท้อนคิดว่าตัวเองผิดหรือเปล่า กลับเอาแต่พยายามหาช่องโหว่ในข้อโต้แย้งของอีกฝ่ายเพื่อหักล้าง
“ดังนั้นเราจึงพบว่าการโต้เถียงกับผู้คนบนโลกออนไลน์นั้นไม่มีทางได้ข้อสรุป
“การโต้เถียงกับคนจำพวกนั้นไม่ต่างอะไรกับการเล่นเครื่องทะเลาะอัตโนมัตินี้ ไม่ว่าจะพยายามขนาดไหน กลไกของเครื่องก็จะผลักสวิตช์กลับไปอยู่ในจุดเดิม คุณแค่เสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์เท่านั้น
“นักคิดมักจมเข้าสู่การถกเถียงอันไร้สาระได้ง่าย เพราะยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้รู้สึกโกรธความโง่เขลาของคน ยิ่งคิดก็ยิ่งจมปลักกับความโง่เขลาของตัวเองและการที่ตัวเองไม่รู้อะไรอีกมาก
“ไม่ว่าจะเป็นอย่างแรกหรืออย่างหลังก็ถือว่าอันตรายทั้งนั้น การคิดทำให้เกิดปัญญา แต่ก็ทำให้เกิดความหวาดระแวงหรือความโอหังได้
“เครื่องทะเลาะอัตโนมัติมีไว้เป็นเครื่องย้ำเตือนว่าการโต้เถียงเป็นเรื่องไร้สาระ เราไม่ควรเสียเวลากับการเถียงกับนักเลงคีย์บอร์ด
“แค่คิดให้เยอะและทำเรื่องที่ต้องทำก็เพียงพอแล้ว
“เพราะงั้นทุกครั้งที่ผมรู้สึกหงุดหงิด ผมจะมาเล่นเจ้าเครื่องนี่ มองมันสู้ผมกลับอย่างไม่ลดละและเมินความพยายามของผมครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายผมก็จะเข้าใจว่าตัวเองกำลังเสียเวลาไปกับเรื่องไร้สาระ
“พอได้ปลดปล่อยอารมณ์แง่ลบ ผมก็สงบใจลงและคิดงานต่อได้
“ทำไมบอสเผยถึงไม่มีของประดับตกแต่งอะไรเลยในห้อง แต่มีเจ้าเครื่องนี่
“นั่นก็เพราะมันไม่ใช่แค่ของประดับตกแต่ง แต่เป็นเครื่องสงบอารมณ์และกระตุ้นความคิด ซึ่งเข้ากันได้ดีกับห้องชุดนี้ตรงที่ช่วยให้เราสงบใจและไตร่ตรองได้ดีขึ้น
“สำหรับผมแล้ว เจ้านี่คือจิตวิญญาณของพื้นที่แห่งการครุ่นคิดแห่งนี้เลยครับ!”