ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง
เผยเชียนเลื่อนอ่านโพสต์เว่ยป๋อของเหออันกับคอมเมนต์ใต้โพสต์ของเหล่าเกมเมอร์ ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ลิ้นจุกปาก ตะลึงงันไป
“งี้นี่เอง! เข้าใจแล้วๆ!”
“รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันตอนเกมเพิ่งปล่อย แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงล็อกแล้ว!”
“เกมของบอสเผยมาถึงขั้นนี้แล้วเหรอ ยักษ์ใหญ่ในวงการเกมจีนถึงกับออกมาวิเคราะห์เกมเพื่อให้พวกเราเข้าใจเชียว”
“ผมเชื่อโพสต์เว่ยป๋อของแพลตฟอร์มเว่ยป๋อและคิดว่าเกมดิ้นรนนำชีวิตจริงมาเปลี่ยนเป็นกระจก เพื่อที่แต่ละคนจะได้บทเรียนบางอย่างกลับไป แต่พอได้มาอ่านคำอธิบายของรุ่นใหญ่ในวงการ ในที่สุดผมก็เข้าใจ ผมยังอยู่แค่ขั้นแรก แต่เกมดิ้นรนมีขั้นสอง สาม และสี่!”
“เหอะๆ เขารู้กันดีว่าบอสเผยเป็นคนมีหลายชั้นมาก”
“เกมของเถิงต๋าสุดยอดเกินไปแล้ว กลับใจคือฟากฝั่งก็ทำลายกำแพงที่สี่ แต่ดิ้นรนทำลายหลายรอบเลย กระหน่ำขนาดนี้ กำแพงที่สี่ นายยังอยู่ดีรึเปล่า”
ท่ามกลางคอมเมนต์มากมาย มีคอมเมนต์หนึ่งที่มีคนกดไลก์มากที่สุด
“สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจที่สุดคือจิตวิญญาณที่ฝังอยู่ในเกมดิ้นรน มีการตีความคำว่า ‘ดิ้นรน’ ในหลากหลายความหมาย ดูผิวเผินเหมือนจะพลิกทฤษฎีพื้นฐานทั้งหมด แต่ก็ยังสอดคล้องกันในขั้นที่เหนือกว่า
“จากบทวิเคราะห์ของคุณเหออัน เกมดิ้นรนขัดกับทฤษฎีพื้นฐานทั้งหมดในเบื้องหน้า แต่เมื่อพิจารณาลึกลงไปจะพบว่าเกมนำทฤษฎีพื้นฐานทั้งหมดมาพัฒนาไปสู่จุดสูงสุดใหม่
“ซึ่งก็เหมือนกับแนวคิดเรื่อง ‘การดิ้นรน’ เนื้อหาหลักของเกมคือความคิดรวบยอดของการดิ้นรน โดยคอยนำเสนอให้เราเห็นว่าคนรวยดิ้นรนอยู่บนหมู่เมฆ ส่วนคนจนดิ้นรนอยู่บนโคลนตม
“คนรวยจะโกหกคนจนว่าพวกเขาสามารถไต่ขึ้นมาบนเมฆได้ถ้าดิ้นรนหนักมากพอ คนจนก็จะโกหกลูกด้วยเจตนาที่ดีว่าพวกเขาเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ถ้าดิ้นรนอย่างเต็มที่
“เกมเปิดโปงคำโกหกอย่างไร้ความปรานี เพื่อให้หลายคนที่โดนหลอกตาสว่าง
“ในเบื้องหน้า เกมเหมือนปฏิเสธว่าการดิ้นรนจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ เหมือนบอกว่าคนรวยอยู่บนหมู่เมฆ ส่วนคนจนอยู่ในโคลนตม ไม่ว่าจะดิ้นรนขนาดไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนความแตกต่างอันใหญ่หลวงระหว่างทั้งสองชนชั้นได้
“แต่ส่วน ‘วัฒนธรรมบริโภคนิยม’ ทำให้เราย้อนมาเปรียบเทียบกับชีวิตจริงแล้วพบว่าเรายังสามารถดิ้นรนเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองได้
“การดิ้นรนนี้ไม่ใช่พฤติกรรมเฉพาะ แต่เป็นสภาวะของจิตใจและทางเลือก ก่อนจะจมลึกลงไปในโคลนตมจนกลับขึ้นมาไม่ได้ เราสามารถหาโอกาสมากมายในการมีชีวิตที่ดีขึ้นและสร้างคุณค่าเพิ่มให้กับตัวเอง นี่สิคือการดิ้นรน
“ดังนั้น ถึงจะขึ้นไปบนหมู่เมฆไม่ได้แม้จะดิ้นรนหนักขนาดไหน เราก็ห้ามหมดหวังในชีวิต เพราะทุกคนต้องเลือกเส้นทางในชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งการยอมแพ้ไม่ใช่ทางที่ถูกต้องที่ควรเลือก”
ใต้คอมเมนต์ยาวเหยียดมีคนเข้ามาเล่าประสบการณ์เพียบ
“คอมเมนต์นี้ทำให้นึกถึงคำพูดที่ว่า เราถูกส่งขึ้นไปบนเวทีที่เราไม่ได้เลือก และแสดงบทที่เราไม่ได้เขียน บทนั้นอาจทรมานและเจ็บปวด แต่ตราบใดที่เราพยายามเต็มที่เพื่อแสดงบทนั้นให้ออกมาดี เราก็สามารถสร้างความตื่นเต้นในความเจ็บปวดนั้นได้
“ฉันมาสะท้อนถึงชีวิตของตัวเอง พ่อแม่มอบสภาพความเป็นอยู่อันยอดเยี่ยมให้และบังคับให้ฉันพยายามอย่างหนักเหมือนพวกเขา พอเห็นคนจนหลายคนเดินร่อนไปมา ทำตัวเอื่อยเฉื่อย ฉันก็คิดมาตลอดว่าพวกเขาจนก็เพราะขี้เกียจ
“ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าตัวเองคิดผิด ไม่ใช่ทุกคนจะมีสภาพความเป็นอยู่เหมือนฉัน ฉันซื้อทั้งเวอร์ชันคนรวยและเวอร์ชันคนจน หวังว่าเกมนี้จะย้ำเตือนฉันอยู่เสมอไม่ให้ทำพลาดแบบเดียวกันกับตัวเอกคนรวย
“ก็จริงที่เกมเวอร์ชันคนรวยและคนจนต่างพยายามเต็มที่ในการให้แต่ละกลุ่มเข้าใจซึ่งกันและกัน คนจนถูกกันไม่ให้ชื่นชมคนรวย เพื่อที่จะได้ไม่หลงกลเชื่อคำหลอกลวง คนรวยถูกบังคับให้ลดทิฐิตัวเองที่ชอบดูถูกคนจน
“เกมนี้สร้างสะพานเชื่อมระหว่างคนรวยกับคนจน ทั้งสองฝ่ายอาจจะไม่มีวันเข้าใจกันเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อย สะพานก็ถูกสร้างขึ้นมาและถูกบอกออกไป ยังไงก็ถือว่ามีความหมายแล้ว
“เพราะงั้นฉันเลยคิดว่าทางที่ดีที่สุดไม่ใช่การซื้อแค่เวอร์ชันคนรวยหรือเวอร์ชันคนจน แต่ให้ซื้อทั้งสองเวอร์ชัน! การมองชีวิตตัวเองจะช่วยสะท้อนกับตัวคุณและทำให้ย้อนกลับมาคิด การได้มองชีวิตของคนอื่นจะทำให้คุณตระหนักถึงจุดบอดที่ไม่เคยเห็น ความหมายที่แท้จริงของตัวเกมจะพบได้ก็ต่อเมื่อคุณซื้อทั้งเวอร์ชันคนรวยและเวอร์ชันคนจน!”
“เพราะงั้นการซื้อเหมาสองเวอร์ชันเลยราคาแพงขึ้นเหรอ เข้าใจแล้ว งั้นเดี๋ยวไปซื้อเลย ฉันเต็มใจเสียเงินเพิ่มสามสิบหยวน!”
“เกมเมอร์ยอมเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อเกม แถมยังสบายใจมากๆ ที่ได้จ่ายเพิ่ม นี่สินะที่เรียกว่าสุดยอดโมเดลการวางราคา!”
“เลือกไม่ซื้อแล้วไปดูคลิปคนอื่นเล่นก็ได้นี่”
“ไอ้น้อง ฟังนะ นายดูคนอื่นเล่นได้ แต่นายไม่มีวันได้สัมผัสถึงอารมณ์ที่เกมทำให้รู้สึกได้ ทำไมเกมถึงถูกยกให้เป็นศิลปะชนิดที่เก้าล่ะ ก็เพราะเกมมีปฏิสัมพันธ์ได้ไง! ถ้าดูคนอื่นเล่น นายก็เป็นได้แค่ผู้เสพผลงานอยู่ไกลๆ ไม่สามารถเลือกตัวเลือกต่างๆ เองได้ แบบนั้นจะเข้าถึงการมีปฏิสัมพันธ์ได้ไง”
“ทุกคนเลือกได้ว่าตัวเองอยากทำอะไร จะมองข้าม จะดูคนอื่นเล่น จะซื้อแค่เวอร์ชันคนรวย หรือจะซื้อทั้งสองเวอร์ชัน… ฉันว่าบอสเผยก็ไม่น่าจะใส่ใจอะไร เกมดิ้นรนเป็นกระแสร้อนแรงบนอินเทอร์เน็ตไปแล้ว แถมยังเป็นกระแสออกไปนอกวงการเกมแล้วด้วย ขนาดคนที่ปกติไม่ค่อยเล่นเกมยังให้ความสนใจเลย ในฐานะที่เป็นเกมแนวภาพยนตร์เชิงตอบโต้ เกมนี้บรรลุภารกิจของตัวเองแล้ว”
“แต่ฉันว่าคนที่มีกำลังพอกับคนที่รักเกมสแตนด์อโลนจีนจริงๆ ควรซื้อทั้งสองเวอร์ชันเก็บไว้ เพราะแค่เราสามารถซื้อเกมแบบนี้ได้ก็ถือเป็นเกียรติกับตัวเองแล้ว!”
…
หลังจากอ่านคอมเมนต์ต่างๆ เผยเชียนก็ปิดโน้ตบุ๊กลงเงียบๆ
บ้า โลกนี้มันบ้าไปแล้ว!
ตอนแรก เขาคิดว่าแค่พยายามกันไม่ให้อาจารย์เฉียวโผล่มาวิเคราะห์เกมอย่างเต็มที่ก็จะทำให้เกมดิ้นรนขาดทุนได้แน่นอน
ไม่คิดเลยว่าเหออันจะโผล่มาแบบไม่ให้สุ้มให้เสียงแบบนี้!
โพสต์เว่ยป๋อของออฟฟิเชียลให้แรงบันดาลใจบางอย่างกับเหออัน ทำให้อีกฝ่ายมีพื้นที่ในการแทงหลังเผยเชียนทะลุถึงหัวใจ!
เผยเชียนอึ้งไปหลังได้อ่านบทวิเคราะห์ของเหออัน
เหออันบอกว่าผู้สร้างผลงานทุกคนจะสื่อสารแนวคิดตัวเองลงไปในผลงานเสมอ
แต่เผยเชียนอยากบอกใจจะขาดว่าเขาไม่ได้สื่อสารอะไรเลย!
ส่วนเรื่องพลิกสี่ทฤษฎีการออกแบบเกมพื้นฐานก็บอกได้เลยว่าเผยเชียนตั้งใจให้เป็นแบบนั้น!
หลังจากเหออันเล่าทฤษฎีทั้งหมดให้ฟัง เผยเชียนก็ตั้งใจทำในทางตรงข้ามหมด แต่อาจารย์เหอกลับตลบหลัง อีกฝ่ายเป็นคนสอนบทเรียนนี้มาแท้ๆ แต่ดันมาบอกว่าคำตอบที่ผิดเพี้ยนทั้งหมดของเผยเชียนนั้นถูกต้องหมดเลย นี่มันบ้าไปแล้ว!
ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าต้องทำยังไงถึงจะทำให้เกมเจ๊งได้
ฉันทำทุกอย่างที่จะทำให้เกมเจ๊งแล้ว แต่แกดันมาบอกว่าฉันทำเกินเลยจนวนกลับมาประสบความสำเร็จงั้นเรอะ!
บ้าไปแล้ว!
บ้ามากๆ!
เผยเชียนโกรธจัด ชัดเจนว่าเรื่องนี้ต้องโทษอาจารย์เหอ!
ทฤษฎีที่หมอนั่นสอนมาต้องมีช่องโหว่ขนาดใหญ่อยู่แน่ ไม่งั้นทำไมฉันถึงขาดทุนไม่สำเร็จ ทั้งๆ ที่ทำตรงข้ามกับทุกอย่างที่แกบอก!
ที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือ เหออันโพสต์บทวิเคราะห์ยาวเป็นพืดลงเว่ยป๋อ รับบทอาจารย์เฉียวแทนซะงั้น!
ฉันคิดว่ารุ่นใหญ่ในวงการเกมอย่างแกจะโพสต์แค่ข้อมูลเชิงลึกของวงการลงเว่ยป๋อ ไม่คิดเลยว่าจะมาโพสต์มโนซี้ซั้วแบบนี้!
หดหู่ น่าหดหู่จริงๆ!
เผยเชียนไม่ยอมรับเรื่องนี้ เขาต้องหาทางแก้แค้นแน่นอน!
ใกล้จะวันศุกร์แล้ว เหออันต้องมาจิงโจวเพื่อสอนคลาสต่อไปซึ่งเป็นคลาสสุดท้าย เผยเชียนต้องถามให้ได้ว่าทำไมบทเรียนที่เหออันสอนมาถึงใช้การไม่ได้เลย! ทุกอย่างผิดเพี้ยนไปหมด!
…
…
วันศุกร์ที่ 9 กันยายน
เผยเชียนเดินตึงตังเข้าไปในคาเฟ่แห่งหนึ่งใกล้มหาวิทยาลัยฮั่นตง
ตั้งแต่วันที่ 3 กันยายนที่เกมดิ้นรนออกวางขาย กระแสวิจารณ์เกมก็พลิกกลับตาลปัตรอยู่สองตลบ สุดท้ายคะแนนเกมก็พุ่งขึ้นไปอยู่ที่ 9.5 บนแพลตฟอร์มทางการและ 9.3 บน TPDb
เผยเชียนทนดูตัวเลขนี้ไม่ได้อีกต่อไป!
คะแนนสูงกว่ากลับใจคือฟากฝั่งอีก
ช่วงแรก กลับใจคือฟากฝั่งได้คะแนนต่ำมาก แต่พอเวลาผ่านไปก็ค่อยๆ ไต่ขึ้นมา ปัจจุบันอยู่ที่ 9.2
บอสเผยตั้งความหวังกับเกมดิ้นรนไว้มาก แต่เกมกลับเอาชนะกลับใจคือฟากฝั่งได้ภายในสัปดาห์เดียว ถือว่าบ้ามากๆ สำหรับเขา!
แน่นอนว่า ไม่มีเกมดีเกมไหนที่ชนะใจได้ทุกคน
สิ่งที่คนส่วนใหญ่ตีความจากเกมไม่สามารถสะท้อนถึงใจทุกคนได้ บางคนรู้สึกเหนื่อยกับการดิ้นรนและอยากพัก เพราะรู้สึกว่าการดิ้นรนนั้นไร้ความหมาย แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเบื้องหลังเกมและให้คะแนนเกมแค่หนึ่งดาวพร้อมทิ้งรีวิวเชิงลบไว้
ซึ่งก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่มีอะไรในโลกที่สามารถทำให้ทุกคนรู้สึกพอใจกันหมดได้ ก็เหมือนที่เหออันบอก กุญแจสำคัญของเกมอยู่ที่สิ่งที่เกมส่งเสริมและไม่ส่งเสริม
ถ้าไม่ส่งเสริมเรื่องการกระตือรือร้นพัฒนาตัวเองก็เท่ากับเป็นการส่งเสริมให้ยอมแพ้ ชัดเจนว่าการยอมแพ้ไม่ใช่เรื่องที่ควรจะส่งเสริม ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ไหนก็ตาม
การส่งต่อพลังลบจะทำให้เกินอารมณ์แง่ลบในจิตใจผู้เล่นและทำให้เกมเป็นกระแส แต่ทุกคนย่อมรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องที่ผิด
พลังลบไม่สามารถเปลี่ยนชีวิตใครให้ดีขึ้นได้
ยอดขายเกมดิ้นรนในตอนนี้ไม่ได้พุ่งทะลุเพดาน ถ้าปล่อยไปสักปีก็อาจทำกำไรได้นิดหน่อย ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึงเดือนก็จะถึงวันปิดบัญชี ไม่ว่าจะมองยังไง เขาก็ไม่พบช่องทางที่จะทำเงินคืนทุนทั้งหมดที่ลงกับตัวเกมไปโuเวลกูดoทคoม
ถือว่าในโชคร้ายยังมีโชคดีอยู่
เห็นได้ชัดว่ากลยุทธ์ทุ่มทุนก้อนโตกับเกมตั้งแต่แรกเริ่มนั้นประสบผลสำเร็จมาก ผลงานออกมาดี พัฒนาเกมได้ง่าย
แต่บอสเผยก็ยังรู้สึกผิดแปลกอยู่!
เขาไม่ควรจะได้ทั้งชื่อเสียงและเงินทอง ตอนนี้ถึงจะทำเงินไม่ได้มาก แต่ก็สร้างชื่อเสียงได้กระฉ่อนสุดๆ!
เกมดิ้นรนหลุดจากวงจรได้สำเร็จ นอกจากชาวเกมเมอร์จะให้ความสนใจแล้ว คนทั่วไปที่ไม่ได้เล่นเกมก็หันมาสนใจด้วยเหมือนกัน บนเว็บอ้ายลี่เต่ามีคลิปแนวทางการเล่นเกมดิ้นรนมากมาย กระแสพูดคุยนั้นร้อนแรงจนฉุดไม่อยู่
ทั้งหมดที่เผยเชียนอยากทำตอนนี้คือถามอาจารย์เหอ
ไหนว่าถ้าทำตรงกันข้ามกับทฤษฎีทั้งสี่จะล้มเหลวแน่นอน แล้วดูสิว่ามันออกมาเป็นยังไง
เนื้อหาที่อาจารย์สอนมีอะไรผิดพลาดรึเปล่า
เผยเชียนจิบกาแฟอย่างหงุดหงิดใจ ไม่นานเหออันก็มาถึง
“อาจารย์เหอครับ เรื่องเกมดิ้นรน…”
เผยเชียนอยากถามว่าทำไมเนื้อหาที่สอนถึงไม่เป็นจริงเลยสักอย่าง แต่เหออันกลับระเบิดหัวเราะแล้วพูดขัดขึ้น
“บอสหม่า ผมรู้ว่าคุณอยากพูดเรื่องอะไร!”
เผยเชียน “?”
เหออันนั่งลงตรงข้ามเผยเชียน “คุณบอกบอสเผยเรื่องสี่ทฤษฎีพื้นฐานที่ผมสอนคุณใช่มั้ยครับ”
เครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นเหนือหัวบอสเผย
?
ฉันบอกตัวฉันเองงี้เหรอ
เผยเชียนถามด้วยความงุนงง “ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะครับ”
เหออันยิ้ม “ก็เห็นๆ กันอยู่ไม่ใช่เหรอครับ เกมดิ้นรนบังเอิญทำตรงข้ามกับทฤษฎีทั้งสี่ที่ผมสอนคุณไปหมดเลย หรือเพราะบอสเผยมีโทรจิตกันล่ะครับ ผมว่าไม่ใช่แน่นอน!
“บอสหม่า คุณต้องเผลอบอกบอสเผยไปแน่ บอสเผยเลยตัดสินใจใช้เกมดิ้นรนในการแสดงฝีมือของตัวเอง!
“ทำไมถึงบอกว่าแสดงฝีมือน่ะเหรอ
“เพราะมีแค่ผู้พัฒนาเกมด้วยกันเท่านั้นที่จะบอกได้ เกมเมอร์ทั่วไปไม่มีทางบอกได้แน่นอน!
“บอสเผยทำลายสี่ทฤษฎีพื้นฐานการออกแบบเกมและนำไปผสานรวมให้เหนือไปอีกขั้น ซึ่งเท่ากับเป็นการเขียนแบบเรียนเกี่ยวกับทฤษฎีเหล่านี้
“บอสเผยต้องรู้แน่ว่าคุณกำลังเรียนทฤษฎีพวกนี้อยู่ ก็เลยใช้เกมที่สร้างเป็นจุดอ้างอิงเพื่อสนับสนุนการเรียนของคุณ!
“ก่อนหน้านี้ ผมคิดว่าคุณกับบอสเผยน่าจะเป็นเพื่อนสนิทที่มีอะไรก็บอกกันทุกอย่าง ตอนนี้ผมมั่นใจแล้ว บอสเผยน่าจะไม่ได้ตั้งใจให้เกมออกมาเป็นแบบเรียนเพื่อคุณในตอนแรก แต่รายละเอียดบางอย่างในเกมก็ถูกปรับแก้เพื่อการเรียนรู้ของคุณ!
“ต้องบอกเลยนะครับว่ามิตรภาพของคุณกับบอสเผยนั้นน่าชื่นชมมาก
“บอสหม่าช่วยนัดบอสเผยให้ผมเจอบ้างได้มั้ยครับ ผมอยากรู้จักผู้พัฒนาเกมที่ยอดเยี่ยมแบบบอสเผย!”
เผยเชียนตะลึงงันไปเมื่อได้ยินที่เหออันบอก เขาพูดสิ่งที่ตั้งใจจะพูดในตอนแรกออกไปไม่ได้อีก
เราสองคนไม่เคยคิดตรงกันเลย!
คุยกันคนละเรื่องตลอด!
เหออันวิเคราะห์หนักจนรู้นิสัยและความสัมพันธ์ระหว่างหม่าหยางกับเผยเชียน แต่ยังไม่รู้ว่าหม่าหยางคนนี้แหละคือบอสเผย
เผยเชียนสิ้นหวังสุดๆ!
ยิ่งวิเคราะห์เหออันก็ยิ่งคิดว่าตัวเองเข้าใกล้ความจริงมากขึ้น และยิ่งเชื่อมั่นในความคิดตัวเองขึ้นไปอีก
เผยเชียนพบว่าตั้งแต่เริ่มสวมบทเป็นหม่าหยาง เขาก็เจอความเข้าใจผิดที่ไม่สามารถแก้ให้กระจ่างมากขึ้นเรื่อยๆ!
ตอนนี้เหออันเชื่อเต็มที่ว่าเขาคือหม่าหยาง ถ้าบอกความจริงไปว่าตัวเองคือบอสเผย ชายแก่ตรงหน้าจะไม่เป็นลมไปเลยเหรอ
ดังนั้นแม้จะรู้สึกเดือดพล่าน เผยเชียนก็ได้แต่กลืนความโกรธเกรี้ยวลงคอและไม่พูดอะไร
เขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาเป็นคนเลือกสวมรอยเป็นหม่าหยางเอง ตอนนี้จึงทำอะไรไม่ได้
ไม่เป็นไร เห็นแก่อายุของอีกฝ่าย จะยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแล้วกัน
เผยเชียนกำลังจะบอกให้เหออันเริ่มบทเรียน แต่ก็สังเกตเห็นว่าเหออันไม่ได้เตรียมเอกสารการสอนมาเลย
ตอนนั้นเอง เขาก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา
“เอ่อ… อาจารย์เหอ วันนี้เราไม่ได้จะมาคุยเรื่องเกมดิ้นรนใช่มั้ยครับ”
เหออันยิ้ม “เยี่ยมเลยครับบอสหม่า คุณหัวใสขึ้นเรื่อยๆ เลย! คุณเองก็คิดว่าวันนี้การคุยเรื่องเกมดิ้นรนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดใช่มั้ยครับ
“เกมนี้ยกขึ้นมาเป็นแบบเรียนได้เลย เพราะงั้นก็เลยเหมาะที่สุดที่จะเอามาปิดคลาสสุดท้าย ทบทวนทุกอย่างที่เราเรียนไปก่อนหน้านี้ แล้วเอาทฤษฎีทั้งหมดมาผนวกรวมเข้าด้วยกัน!
“จริงอยู่ครับบอสหม่า ผมโพสต์เรื่องนี้ลงเว่ยป๋อไปแล้ว เพราะงั้นผมเลยตัดสินใจว่าจะไม่เก็บเงินคลาสนี้! ผมจะโอนเงินจำนวนหนึ่งคลาสที่คุณโอนมาให้คืนไป รบกวนขอบัญชีบริษัทด้วยครับ…”
เผยเชียนอึ้งไป
คืนเงินค่าเรียน?
เลิกก่อปัญหาได้แล้ว! เงินค่าเรียนจะไปหักออกจากเงินทุนระบบตอนปิดบัญชี ถ้าโอนคืนมาสองแสนหยวน ก็เท่ากับว่าจะได้สิทธิ์ลดเงินทุนระบบตอนปิดบัญชีน้อยลงแปดเท่าสิ!
แกตั้งใจสร้างเรื่องให้ฉันจริงๆ ใช่มั้ย!
นอกจากจะมโนตีความเกมดิ้นรนแล้วเอาไปโพสต์ออนไลน์ แกยังพยายามแทงหลังฉันอีกเรอะ
ไม่ไหวแล้วนะโว้ย!
เผยเชียนรีบปฏิเสธ “ไม่ได้ครับ! ห้ามโอนคืน! ถ้าโอนคืนผมจะแย่เอา!”
เหออันผงะไป ทำไมบอสหม่าถึงร้อนรนขนาดนั้นล่ะ
อืม เขาน่าจะให้คุณค่ากับความรู้และกระหายอยากเรียนเพิ่ม ไม่เลวเลย
เหออันพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ “อ๋อ ได้ครับ บอสหม่าทำความเข้าใจเรื่องต่างๆ ได้ไม่ค่อยเร็วเท่าไหร่ แต่คุณเป็นคนจริงใจและใฝ่เรียนรู้มาก ทัศนคติของคุณน่ายกย่องมากๆ
“ผมขอเริ่มบทเรียนเลยแล้วกัน!
“อันดับแรก ผมจะพูดเรื่องจุดประสงค์ที่แท้จริงของบอสเผยตอนที่คิดคอนเซ็ปต์ของเกมนี้…”
เผยเชียนจิบกาแฟเงียบๆ ในใจรู้สึกอ้างว้างเกินจะทน
น่าหดหู่จริงๆ!