“ชีวิตไม่มีโอกาสที่สอง ถ้าอยากสัมผัสประสบการณ์ชีวิตทั้งสองแบบ คุณจะไม่ได้รับส่วนลดและต้องซื้อเกมทั้งสองเวอร์ชันในราคาเต็ม ราคารวมที่ต้องจ่ายคือ 29 + 99 = 128 หยวน ยืนยันการซื้อหรือไม่”
เหออันอ่านคำอธิบายอย่างละเอียด ก่อนจะอ้าปากเหวอด้วยความอึ้ง ในหัวมีเครื่องหมายคำถามเต็มไปหมด
หมายความว่าไง
เถิงต๋าทำบ้าอะไรเนี่ย
แม้เหออันจะเป็นนักออกแบบเกมมานานหลายปีและมีความรู้กว้างขวาง แต่เขาก็ไม่เคยเห็นการวางราคาแบบนี้มาก่อน!
เกมอื่นๆ ที่มีระบบตัวเอกสองคนมักจะให้ผู้เล่นเลือกตัวละครที่ต้องการเล่นหลังเข้าเกมไปแล้ว
แต่เกมนี้ขายเวอร์ชันตัวเอกแยกกัน!
นอกจากนั้นสองเวอร์ชันนี้ยังวางราคาต่างกันด้วย เวอร์ชันหนึ่งราคาเจ็ดสิบเก้าหยวน ส่วนอีกเวอร์ชันราคาแค่สิบเก้าหยวน ถูกกว่ากันเกือบสี่เท่า!
คิดว่าเกมเวอร์ชันคนจนมีเนื้อหามากกว่าเวอร์ชันคนรวยสี่เท่าเหรอ แน่นอนว่าไม่!
ที่บ้าที่สุดคือการซื้อสองเวอร์ชันจะทำให้ไม่ได้ส่วนลด กลายเป็นว่าต้องจ่ายหนึ่งร้อยยี่สิบแปดหยวน ซึ่งสูงกว่าซื้อเวอร์ชันคนรวยอย่างเดียวถึงหกเท่า!
สำหรับเหออันแล้ว การวางราคาแบบนี้ถือว่าบ้ามากๆ สิบเก้าหยวนนั้นถูกเกินไป ส่วนหนึ่งร้อยยี่สิบแปดหยวนก็แพงเกินไป ขายสักประมาณเก้าสิบแปดหยวนน่าจะสมเหตุสมผลกว่า
กลยุทธ์การวางราคานี้เหมือนจะพยายามบีบให้ผู้เล่นซื้อแค่เวอร์ชันคนรวย
แถมคำอธิบายเกมก็ดูโหดร้ายมาก
เวอร์ชันคนรวยเหมือนจะใบ้กลายๆ ว่าจบไม่ค่อยดี แนะนำว่าคนรวยไม่ควรซื้อ
นอกจากนั้นเวอร์ชันคนจนยังระบุตรงๆ เลยว่าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้ แสดงว่าจบไม่ดีเหมือนกัน ไม่แนะนำให้ซื้อทั้งคนรวยและคนจน
ก็แปลว่าทุกคนไม่ควรซื้อสิ
จะบ้าเหรอ!
เหออันกดปุ่มซื้อโดยไม่ลังเล
แพงแล้วไง ฉันดูเหมือนคนไม่มีเงินพอซื้อเกมร้อยยี่สิบแปดหยวนเหรอ
ฉันซื้อเกมราคาเต็มก็ได้ เต็มใจด้วย!
ฉันต้องเห็นให้ได้ว่ามีอะไรซ่อนอยู่ในเกมเวอร์ชันคนจน!
เหออันเดาว่า ในเมื่อเกมใช้ระบบตัวเอกคู่และแบ่งเป็นสองเวอร์ชัน ทั้งสองเวอร์ชันต้องมีความเชื่อมโยงกันแน่นอน ไม่แน่อาจจะมีฉากลับหรือตอนจบลับที่จะเจอได้เฉพาะคนที่ซื้อสองเวอร์ชันเท่านั้น
ยิ่งคิดเหออันก็ยิ่งรู้สึกว่าต้องเป็นอย่างนั้นแน่
ถ้าทั้งสองเวอร์ชันไม่มีอะไรเชื่อมโยงกันเลยต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่
เกมเมอร์จะที่ซื้อเกมโดยไม่คิดอะไรมีแค่ส่วนน้อย ส่วนใหญ่จะรอดูรีวิวกับคอมเมนต์บนโลกออนไลน์ก่อน
ถ้าเกมเมอร์ชุดแรกที่ซื้อเกมไปทั้งสองเวอร์ชันพบว่าไม่มีฉากหรือตอนจบลับย่อมต้องด่าเปิงแน่ และคนอื่นๆ ก็คงไม่มีใครอยากพลาดโง่ๆ แบบเดียวกัน
ก่อนจะทันได้กดเข้าเกม เหออันก็พบว่าทฤษฎีสองในสี่ที่สอนบอสหม่าไปถูกเอามาใช้ในทางตรงกันข้าม
เลือกกลยุทธ์การโปรโมตเหมาะกับเนื้อหาเกมมั้ย ไม่
เลือกแนวเกมที่มีส่วนแบ่งใหญ่ในตลาดมั้ย ไม่
ถ้าเป็นผู้พัฒนาเกมรายอื่น เหออันคงสรุปว่าเกมนี้เจ๊งตั้งแต่ยังไม่เข้าเกม เริ่มมาก็ไปผิดที่ผิดทางแล้ว แล้วจะไปถึงปลายทางได้ยังไง
แต่ในเมื่อคนทำเกมนี้คือบอสเผย เหออันจึงรู้สึกว่าตัวเองต้องเล่นเกมดูก่อนถึงจะให้ข้อสรุปได้
ไม่แน่ บอสเผยอาจจะเซอร์ไพรส์ผู้เล่นในแบบที่ไม่มีใครคาดคิดด้วยการพลิกแนวทางเดิมๆ ใหม่หมด
เหออันเลือกเล่นเวอร์ชันคนรวยก่อน
…
หลังจากจอมืดไปครู่หนึ่ง เสียงผู้ชายก็ดังขึ้นเป็นภาษาอังกฤษเบาๆ
เสียงนั้นไม่ใช่การบรรยาย แต่เหมือนชายคนหนึ่งกำลังพึมพำกับตัวเอง
“พ่อของผมชอบเรียนรู้หลักคิดของวัฒนธรรมตะวันออกอันห่างไกล
“ไม่นานหลังผมเริ่มจำความได้ พ่อก็พร่ำสอนหลักคิดสองอย่างจากตะวันออก อย่างแรกคือ คนจนบ่มเล่ห์ คนรวยเจริญสติ อีกอย่างคือ ก่อนจะสอนให้รู้จักจารีตและความอาย ควรให้ได้กินอิ่มนุ่งอุ่นก่อน
“พ่อบอกว่า ในภาษาจีน ทั้งสองหลักคิดนั้นสั้นและเฉียบคม อุดมไปด้วยความคิดและหลักปรัชญา
“แต่พอเอามาแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้วมอบความรู้สึกแบบเดียวกันไม่ได้
“พ่อบอกว่าสังคมเราปกครองด้วยกฎความอยู่รอดในป่า เราสูงส่งและแข็งแกร่ง แต่ก็เพราะจุดนี้แหละที่ทำให้หลายคนคอยจับตามองรอคอยให้เราตกลงมา
“พ่อบอกว่าห้ามเชื่อใจคนจน ห้ามเด็ดขาด
“เหมือนว่าสำหรับพ่อผมแล้ว เราเป็นมนุษย์คนละจำพวกกับพวกคนจนในชนชั้นล่างของสังคม
“ผมไม่เห็นด้วยกับมุมมองนี้
“แน่นอนว่า ผมก็เถียงพ่อไม่ได้เหมือนกัน เพราะผมรู้ว่าผมเกือบพลาดไม่ได้เกิดมาบนโลกใบนี้ และเกือบโดนผลักตกตึกสูงพร้อมแม่ของผมเพราะไอ้คนเสียสติ
“พ่อบอกว่าไอ้คนนั้นเป็นคนจน
“แต่ผมยืนกรานว่าเขาเป็นแค่คนสติไม่ดี”
จอสีดำและบรรทัดตัวหนังสือหายไป แทนที่ด้วยภาพเกม
มุมมองภาพเป็นมุมมองผ่านไหล่เหมือนเกม AAA ส่วนใหญ่ เหออันเห็นตำรวจในเครื่องแบบสไตล์ตะวันตก ซึ่งดูเหมือนจะยศสูงไม่น้อย
ตอนนี้เขาอยู่ในห้าง แต่ทุกอย่างว่างเปล่า ราวกับทุกคนอพยพออกไปหมดแล้ว
เขาเห็นตำรวจหลายคนกำลังโบกมือให้เขาอย่างเป็นกังวล
บรรทัดตัวหนังสือปรากฏขึ้นบนผนังเพื่อแนะนำแนวทางการเล่น ‘ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกัน คุณต้องเจรจากับคนร้ายที่จับตัวประกันไป’
เหออันหาตัวคนร้ายไม่พบสักคน เขาหันไปรอบๆ แล้วพบว่าตัวเองสามารถเดินไปทางหน้าต่างที่เปิดอ้าซึ่งมีตำรวจยืนอยู่ข้างๆ ได้เท่านั้น
ตำรวจกวักมือเรียกอย่างร้อนรน
เหออันจึงรีบควบคุมตัวละครเดินตรงไปหา пᴏveʟɢᴜ.cᴏᴍ
ตำรวจรีบผูกเชือกนิรภัยไว้กับเขา สวมถุงมือและรองเท้าแรงดูดสุญญากาศสำหรับปีนป่าย จากนั้นก็เปิดทางให้เดินผ่านหน้าต่างออกไป
“คนท้องตกอยู่ในอันตราย การปล้นจี้ครั้งนี้ละเอียดอ่อนมาก ถ้ามือสไนเปอร์ของเรายิง คนร้ายอาจจะพาคนท้องตกตึกไปด้วยก็ได้ ช่วยทีครับ สารวัตรเฮนรี่!”
เหออันรีบควบคุมเฮนรี่ปีนออกนอกหน้าต่าง แล้วใช้ถุงมือและรองเท้าสำหรับปีนป่ายไต่ผนังกระจกบนตึกสูง
ระหว่างที่กำลังปีนขึ้นไป เขาก็เห็นคำสั่งภารกิจใหม่ปรากฏขึ้นเรื่อยๆ บนผนังกระจก
‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกันมาถึงจุดเกิดเหตุ’
‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกันเตรียมพร้อม’
‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกันพร้อมเจรจาแล้ว’
ยิ่งปีนสูงขึ้นไปเท่าไหร่ เสียงตะโกนจากดาดฟ้าก็ยิ่งได้ยินชัดเจนขึ้น
“อย่าเข้ามาใกล้นะ ไม่งั้นฉันโดดแน่!”
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย…”
“ใจเย็นๆ พวกเรามาเพื่อเจรจา เรามีเงื่อนไขให้…”
เสียงตะโกนคลุ้มคลั่งของคนร้าย เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากตัวประกัน และเสียงตำรวจพยายามเจรจากับคนร้ายผ่านโทรโข่งผสมปนกันจนทำให้รู้สึกร้อนใจตามอย่างบอกไม่ถูก
หลังจากเหออันได้รับการแจ้งเตือนว่า ‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกันพร้อมเจรจาแล้ว’ ไม่นานเฮนรี่ก็ปีนขึ้นไปถึงชั้นบนสุด เขาเคลื่อนตัวอย่างเงียบเชียบไปอยู่ใต้คนร้าย
คนร้ายถือมีดทำครัวเล่มยาวจี้อยู่ตรงคอคนท้อง ทั้งสองยืนอยู่ขอบตึก
ถึงจะรู้ว่ามีสไนเปอร์เล็งมาที่ตัวเองอยู่ แต่มือขวายังกำมีดแน่น ขณะที่มือซ้ายล็อกคอหญิงท้องเอาไว้ ถ้าเขาโดนยิง ทั้งสองจะตกตึกไปด้วยกัน
พอเฮนรี่ไปอยู่ในตำแหน่งด้านล่างคนร้าย เขาถอดถุงมือสำหรับปีนไว้ที่ผนังแล้วหยิบปืนออกมาโดยไม่เกิดเสียง จากนั้นก็เล็งไปที่ด้านหลังศีรษะคนร้าย
ปัง!
ลูกปืนถูกยิงออกไป ศีรษะคนร้ายระเบิด ตัวประกันกรีดร้องลั่นเมื่อทั้งสองลอยคว้างอยู่กลางอากาศ
‘ผู้เชี่ยวชาญด้านการช่วยเหลือตัวประกัน ‘เจรจา’ เสร็จสิ้น’
เฮนรี่เอื้อมแขนขวาล่ำสันไปคว้าตัวคนท้องไว้ ขณะที่ศพคนร้ายร่วงลงไปด้านล่างตึก
จังหวะที่คนร้ายร่วงลงไปนั้น เฮนรี่สังเกตเห็นใบหน้าของเขา
ความสิ้นหวัง ความตื่นตระหนก และความคลุ้มคลั่งที่รู้สึกก่อนตายฉายชัดอยู่บนใบหน้า อารมณ์ต่างๆ ที่ผสมรวมกันทำให้สีหน้าของเขาดูอำมหิต
ฉากเหตุการณ์ดำเนินไปแบบสโลว์โมชัน และหยุดชั่วครู่เหมือนในหนัง ก่อนที่ศพจะร่วงลงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ…
ชั่ววินาทีก่อนที่ศพจะหล่นกระแทกพื้น ทุกอย่างหยุดนิ่ง แล้วหน้าจอก็มืดดับไปอีกครั้ง
“แม่ผมกลัวมากจนผมต้องลืมตาดูโลกก่อนกำหนดสองสัปดาห์
“เพื่อนบางคนบอกว่าผมคาบช้อนทองมาเกิด
“บางคนบอกว่าผมเกิดมาก็ถึงเส้นชัยแล้ว
“ผมไม่เคยปฏิเสธเลย เพราะคนแบบพวกเรา ถึงจะต้องดิ้นรนและพยายามขนาดไหนก็ไม่สามารถเอามาพูดได้
“มีแค่ไม่กี่คนที่รู้ว่าคนที่เกิดมาก็ถึงเส้นชัยแล้วต้องต่อสู้ดิ้นรนแบบไหน”