ช่วงนี้หยูผิงอันรู้สึกว้าวุ่น สับสน และไร้เป้าหมาย
ทุกคนในโปรเจ็กต์แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ เองก็รู้สึกไม่ต่างกัน พวกเขาเข้างานมาอู้ไปวันๆ อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจนอะไร
ทีมงานบางส่วนแนะนำให้ปรับปรุงแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ให้ดีขึ้น แต่ความคืบหน้าก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า เพราะหยูผิงอันรู้ดีว่าการปรับแก้เล็กน้อยพวกนี้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
เขาบอกไม่ได้ซะทีเดียวว่ามันไม่มีประโยชน์ แต่ก็ไม่ได้ช่วยแก้ต้นตอของปัญหา ถึงพวกเขาจะได้ผู้ใช้งานเพิ่มมาจำนวนหนึ่งในช่วงสั้นๆ แต่ในระยะยาว ความนิยมของแอปก็จะตกลงเรื่อยๆ ซึ่งไม่สามารถแก้ไขอะไรตรงจุดนี้ได้
หยูผิงอันเห็นปัญหานี้แล้วตั้งแต่แรกและรายงานให้บอสเผยรู้แล้วด้วย
แต่คำตอบของบอสเผยก็เหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจ
บอสบอกว่าแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ทำภารกิจตัวเองสำเร็จลุล่วงแล้ว และได้เดินทางมาถึงจุดจบที่สวยงาม
แต่บอสก็ยังให้งบโปรเจ็กต์ต่อโดยไม่เปลี่ยนแปลงเงินเดือนหรือสวัสดิการของพนักงานเลย ไม่มีแม้สัญญาณว่าบอสจะยกเลิกโปรเจ็กต์นี้หรือลดจำนวนพนักงานลง
คนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงอาจมองว่าสถานการณ์ตอนนี้โคตรดีต่อใจ มาอู้งานได้ทุกวันโดยไม่ต้องทำอะไร จะหาเรื่องดีๆ แบบนี้ได้ที่ไหนอีก
แต่พนักงานโปรเจ็กต์แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ไม่ได้คิดแบบนั้น
รายได้ของพวกเขามั่นคง ชีวิตไม่มีความกดดันอะไร
ด้วยสภาพชีวิตแบบนี้ คนที่มีความทะเยอทะยานหน่อยจะมองหาอะไรบางอย่างทำเพื่อไล่ล่าความสำเร็จในหน้าที่การงาน
กิจการอื่นๆ ของเถิงต๋าคอร์เปอเรชันพัฒนาไปอย่างรวดเร็วและสร้างผลงานโดดเด่นมากมาย แต่พวกเขากลับนั่งอู้ไปวันๆ ไม่ได้แก่นสารอะไร
ที่เป็นอยู่แบบนี้มันทรมานเสียยิ่งกว่าตายอีก!
เพราะงั้นทีมงานโปรเจ็กต์แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ จึงรู้สึกว้าวุ่นใจ
ถึงจะคิดเรื่องนี้อยู่นาน หยูผิงอันก็ยังรู้สึกอับจนหนทาง เหมือนกำลังมุ่งหน้าสู่ทางตัน
‘ติ๊ง’
มือถือของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะสว่างวาบเพราะข้อความเข้า
หยูผิงอันหยิบขึ้นมาดูด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
“หืม โฮสเทลเขย่าขวัญอยากให้เราทำแอปให้?”
หยูผิงอันอึ้งไปเพราะโปรเจ็กต์แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ที่เขารับผิดชอบอยู่ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องกับกิจการไหนเลย
แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ เป็นเหมือนเครื่องมือที่ใช้เรียกลูกค้าและโฆษณากิจการต่างๆ ก็เลยแทบไม่มีกิจการไหนติดต่อมาขอร่วมทำงานกับพวกเขาก่อน
หยูผิงอันอ่านความต้องการของแอปพลิเคชันอย่างละเอียด ซึ่งก็ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร
ฟังก์ชันหลักคือให้เลขคิวลูกค้าเหมือนตู้โทรศัพท์ให้เช่า เพื่อที่จะได้ไม่ต้องยืนต่อแถวจนกว่าจะถึงคิวตัวเอง จะได้เอาเวลาที่รอไปเดินเล่นตามร้านรวงต่างๆ ได้
แต่พวกเขาเอาแอปของตู้โทรศัพท์ให้เช่ามาทั้งดุ้นไม่ได้ เพราะโฮสเทลเขย่าขวัญมีความต้องการพิเศษอื่นๆ ตัวอย่างเช่น คิวของทั้งสามโปรเจ็กต์ต้องแยกกัน มีแผนที่แสดงแถวของแต่ละโปรเจ็กต์ซึ่งอัปเดตแบบเรียลไทม์ และคำอธิบายสั้นๆ กับช่องแสดงความคิดเห็นของแต่ละโปรเจ็กต์
แอปนี้จะเป็นเหมือนสมุดรวมข้อมูลอัจฉริยะไว้นำทางนักท่องเที่ยวที่อยากมาหรือแวะมาที่โฮสเทลเขย่าขวัญแล้ว เพื่อให้ทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น
“สรุปคือ เราต้องสร้างแอปขึ้นมาใหม่เลย
“นี่ก็เป็นยุคอินเทอร์เน็ตมือถือจริงๆ ไม่ว่าโปรเจ็กต์ไหนก็ต้องมีแอปเป็นของตัวเอง
“แต่แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ กำลังจะถูกทิ้งร้าง…”
หยูผิงอันอดรู้สึกเศร้าและเสียดายขึ้นมาไม่ได้
“เอ๊ะ เดี๋ยวนะ…
“ตามหลักการแล้ว ยุคอินเทอร์เน็ตมือถือคือช่วงที่เราจะได้เฉิดฉายนี่นา ทำไมบอสเผยถึงบอกว่าโปรเจ็กต์นี้มาถึงจุดจบที่สวยงามล่ะ
“หรือบอสจะไม่รู้ว่ามีโอกาสมากมายอยู่ในยุคอินเทอร์เน็ตมือถือ
“เป็นไปไม่ได้ กิจการเกมพากันทำเวอร์ชันมือถือออกมากันกระจาย บอสเผยถึงขั้นลงทุนทำมือถือ OTTO ซึ่งแสดงให้เห็นว่าบอสตระหนักเรื่องโอกาสในยุคอินเทอร์เน็ตมือถือดี!
“แล้ว… ทำไมการกระทำของบอสถึงขัดแย้งกับสิ่งที่พูดล่ะ”
จู่ๆ หยูผิงอันก็พบประเด็นขัดแย้ง ทุกกิจการในเครือเถิงต๋าคอร์เปอเรชันต่างมุ่งพัฒนาแอปกันหมด แถมกลยุทธ์การดำเนินงานของเถิงต๋าก็ดูจะเน้นเรื่องนี้เหมือนกัน
แต่ทำไมแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ถึงเป็นโปรเจ็กต์เดียวที่ถูกบอกว่าเดินทางมาถึง ‘จุดจบที่สวยงาม’
“บอสเผยไม่น่าจะย้อนแย้งไปมา ต้องมีหลักการอะไรซ่อนอยู่แน่
“หรือว่า ‘จุดจบที่สวยงาม’ ของบอสจะหมายถึงอย่างอื่น”
หยูผิงอันพยายามนึกคำพูดเดิมของบอสเผย ทันใดนั้นหลอดไฟก็สว่างวาบขึ้นบนหัวเขา
“เข้าใจแล้ว!
“บอสเผยพูดถูกที่บอกว่าแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ เดินทางมาถึงจุดจบที่สวยงาม และได้ทำภารกิจของตัวเองสำเร็จแล้ว! ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ใช้ประโยชน์จากความต้องการเทียม ที่เป็นกระแสโด่งดังได้ขนาดนี้ก็เพราะทักษะการบริหารขั้นเทพของบอส แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีขอบเขตที่จำกัด โปรเจ็กต์นี้เลยกลายเป็นไม้ใกล้ฝั่ง
“พูดอีกอย่างคือ แนวคิดดั้งเดิมของแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ได้มาถึงจุดจบที่สวยงามแล้ว
“แต่จุดจบที่สวยงามของแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ อาจจะหมายถึงการถือกำเนิดของโปรเจ็กต์ใหม่!
“ถ้าบอสเผยจะทิ้งโปรเจ็กต์นี้จริงๆ บอสก็คงยกเลิกโปรเจ็กต์ไปแล้ว แต่บอสก็ยังอัดทุนให้ ชัดเจนว่าบอสมีแผนอื่นเตรียมไว้ให้เรา! โฮสเทลเขย่าขวัญคือโอกาสอันดี!
“ทำนองเดียวกันนี้ บอสเผยบอกให้พวกเราพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อที่จะได้ฟื้นพลังและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับความท้าทายใหม่!
“จนถึงตอนนี้เถิงต๋าคอร์เปอเรชันทำแอปออกมาหลายตัว
“ตู้โทรศัพท์ให้เช่า ฟิตเนสฝากประจำ แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ โมหยูเดลิเวอรี่ เว็บจงเตี่ยนจงเหวิน โฮสเทลเขย่าขวัญ TPDb…
“กิจการส่วนใหญ่ที่ไล่มามีความเกี่ยวข้องกับแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ไม่มากก็น้อย หรือเคยโฆษณาบนแอปมาก่อน
“อีกอย่างแอปบางตัวมีฟังก์ชันที่เรียบง่ายเกินไป ตัวอย่างเช่นแอปของตู้โทรศัพท์ให้เช่า หลายคนใช้แอปแค่สแกน QR Code เพื่อเอาเลขคิว แต่ละแอปทำงานด้วยตัวเอง ไม่ได้เชื่อมร่วมกันเป็นระบบ
“ถ้าลูกค้าเถิงต๋าอยากใช้ฟังก์ชันทั้งหมด พวกเขาต้องโหลดแอปหลายตัว ซึ่งไม่เป็นการดีสำหรับการโฆษณา
“ถ้าเราเอาแอปแต่ละตัวมาผสานรวมกับแอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ล่ะ นอกจากทุกกิจการจะมารวมอยู่ที่เดียวแล้ว แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ยังได้เกิดใหม่ด้วย!
“ไม่สิ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ใช้ชื่อ ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ไม่ได้แล้ว
“แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ ทำภารกิจตัวเองสำเร็จลุล่วงแล้ว และได้เดินทางมาถึงจุดจบที่สวยงาม แต่แอปชีวิตเถิงต๋าจะชุบชีวิตมันขึ้นมาใหม่!”
ยิ่งคิดหยูผิงอันก็ยิ่งตื่นเต้น ชัดเจนว่าบอสเผยวางแผนไว้ให้แอป ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ หมดแล้ว!
ไม่งั้นทำไมคนจากโฮสเทลเขย่าขวัญถึงติดต่อมาหลังจากพวกเขาพักงานอยู่นาน
ทุกอย่างลงล็อกกันหมด!
บอสเผยไม่ได้ทิ้งพวกเรา แต่เชื่อมั่นให้เราทำภารกิจที่สำคัญกว่าเดิมและรอให้เรานึกออกด้วยตัวเอง!
โปรเจ็กต์ของเรามีความหวังใหม่แล้ว!
หยูผิงอันรีบติดต่อผู้จัดการตู้โทรศัพท์ให้เช่า ฟิตเนสฝากประจำ โมหยูเดลิเวอรี่ และกิจการต่างๆ เพื่อเสนอข้อสันนิษฐานของตัวเองและออกตัวรับผิดชอบเรื่องผนวกรวมและอัปเดตแอปทั้งหมด
เขามั่นใจว่าผู้จัดการแต่ละกิจการไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน ɴᴏᴠᴇʟɢᴜ.ᴄᴏᴍ
เพราะหลายกิจการน่าจะไม่มีกำลังคนเพียงพอในการอัปเดตแอปพลิเคชัน ถ้ายกแอปตัวเองให้โปรเจ็กต์ ‘มาสิเด็กหัวกะทิ’ จัดการ พวกเขาก็ไปทุ่มเทกับหน้าที่ตัวเองได้อย่างเต็มที่
สรุปแล้วการดึงทรัพยากรที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดด้วยวิธีนี้เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบสุดๆ!
…
…
วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม
ที่อพาร์ตเมนต์ของตัวเอง เผยเชียนหยิบขวดแชมเปญออกมาจากตู้เย็น เปิดฝาขวด แล้วอาบแสงแดดยามบ่ายพร้อมทบทวนการบ้าน
พอเริ่มเข้าสู่ช่วงกลางเดือนกรกฎาคม มหาวิทยาลัยฮั่นตงก็ย่างเข้าสู่สัปดาห์สอบ ถึงการสอบส่วนใหญ่จะจัดวันจันทร์ถึงศุกร์ แต่เผยเชียนก็เลื่อนการประชุมผู้จัดการฝึกหัดออกไปเพื่อให้เหล่าผู้จัดการฝึกหัดได้ทุ่มเทกับการอ่านหนังสือ
ด้วยเหตุนี้ การประชุมผู้จัดการฝึกหัดเมื่อวานจึงยกเลิกไป การประชุมครั้งต่อไปคือวันที่ 13 สิงหาคม
เผยเชียนเชื่อมาตลอดว่าสำหรับนักศึกษาแล้ว งานเป็นเรื่องสำคัญ แต่การเรียนนั้นสำคัญกว่า ถ้าเผยเชียนทำให้เกรดของเหล่าผู้จัดการฝึกหัดตก เขาคงรู้สึกผิดสุดๆ
แต่ไม่รู้ทำไมหลังยกเลิกการประชุมผู้จัดการฝึกหัดไป เขาก็มีข่าวดีเข้ามาไม่หยุด!
ข่าวดีแรกคือ ถึงจะมีคนมาโฮสเทลเขย่าขวัญเพิ่มมากขึ้น แต่ก็ไม่มาก เหมือนว่าคลิปของอาจารย์เฉียวจะไม่ค่อยส่งผลกระทบอะไรเท่าไหร่
แน่นอนว่าก็บอกไม่ได้ว่าไม่ส่งผลกระทบอะไรเลย เพราะยังไงอาจารย์เฉียวก็เป็นอัปโหลดมาสเตอร์ที่มีผู้ติดตามนับล้าน คลิปของเขาถูกนำไปลงเว็บออฟฟิเชียลของ BE QUIET ด้วย ยังไงก็ต้องดึงคนมาโฮสเทลเขย่าขวัญได้เพิ่มอยู่แล้ว
แต่กระแสก็ไม่ได้ล้นหลามและไม่ได้มียอดพุ่งพรวดเหมือนที่คลิปก่อนๆ ในซีรีส์ผลงานเทพสร้างทำได้
ข่าวที่สองคือ คลิปของอาจารย์เฉียวทำให้เฉินคังทั่วให้สิทธิ์พิเศษเข้าโฮสเทลเขย่าขวัญฟรีตลอดชีวิตกับเฉียวเหลียง
เผยเชียนได้ยินว่าเฉียวเหลียงหน้าเจื่อนไปทันทีที่รู้ เขาหัวเราะแต่กลับทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
พอได้ยินแบบนั้น เผยเชียนก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมา
อาจารย์เฉียวหนออาจารย์เฉียว กรรมตามสนองแล้วไหมล่ะ!
เขาเรียกว่าอะไรนะ อ๋อ ขุดหลุมฝังตัวเองไง!
เผยเชียนถึงขั้นคิดจะให้ดอกไม้แดงกับเฉินคังทั่ว
แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเฉินคังทั่วเป็นคนทำให้โปรเจ็กต์โฮสเทลเขย่าขวัญที่ควรจะตายกลับมามีชีวิตใหม่ แถมยังเพิ่มความเสี่ยงให้อีก ถือเป็นความผิดครั้งใหญ่ เพราะงั้นก็เรียกได้ว่าเจ๊ากัน ไม่ได้รางวัล ไม่โดนลงโทษ
ข่าวที่สามคือ สือเหอยังคงเงียบเชียบและปราศจากลูกค้าแม้จะผ่านการโปรโมตแล้ว ชื่อเสียงนั้นดีทีเดียว แต่ยอดขายต่ำเตี้ยเรี่ยดิน สภาพดูน่าเวทนาสุดๆ
เอาเข้าจริง แบรนด์นี้ขาดทุนยิ่งกว่าโมหยูเดลิเวอรี่อีก
รุ่ยยู่เฉินน่าจะรายงานสถานการณ์ให้ฟังวันจันทร์
ก็เหมือนคำพูดที่ว่า พอเจอสิ่งดีๆ จิตใจก็แช่มชื่น เผยเชียนรู้สึกว่าเวลาแบบนี้เหมาะแก่การเปิดแชมเปญฉลอง
เขาเหลือบมองวัน วันนี้บังเอิญเป็นวันที่จองห้องส่วนตัวห้องใหญ่สุดที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนไว้พอดี
จู่ๆ เผยเชียนก็รู้สึกว่าน่าจะชวนอาจารย์เฉียวมากินข้าวด้วยกัน
เหตุผลก็ไม่มีอะไรมาก เขาแค่อยากเห็นสภาพพ่ายแพ้ของอีกฝ่าย!
เฉียวเหลียงแทงหลังเผยเชียนอย่างมั่นใจโดยที่เขาไม่ทันมีเวลาได้หลบ จึงโดนแทงเข้าอย่างจัง แต่พอเอื้อมไปแตะที่หลังก็พบว่าไม่มีเลือดไหลออกมา
กลายเป็นอาจารย์เฉียวโดนโจรขึ้นบ้านยกเค้า แถมเฉินคังทั่วยังกระหน่ำแทงหลังจนแผลเต็มหลัง
เผยเชียนลิงโลดใจสุดๆ!
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งสุขใจ เผยเชียนนัดเฉียวเหลียงไปกินข้าวด้วยกันที่ครัวส่วนตัวหมิงหยุนทันที
เป็นผู้รับอย่างเดียวโดยไม่ให้กลับถือว่าไร้มารยาท ที่ผ่านมานายเล่นงานฉันมาตลอด วันนี้ถึงตาของฉันสักที ฉันกระทืบซ้ำตอนที่แกล้มแล้วเอาเกลือขยี้แผลแก!