วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม
ผ่านมาแล้วสี่วันหลังโฮสเทลเขย่าขวัญเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ วันเสาร์อาทิตย์ที่คนหนาแน่นสุดๆ ก็จบลงแล้วเหมือนกัน
แต่เผยเชียนก็ยังไม่มีความกล้าพอที่จะไปตรวจดู เขาพอจะเข้าใจสถานการณ์คร่าวๆ ได้จากรายงานของผู้ปัดงานฝึกผลาญ
ข่าวร้ายที่ใหญ่ที่สุดระหว่างช่วงเปิดให้บริการคือเฉียวเหลียงผ่านสุดขีดสยองได้แม้เขาจะพยายามโน้มน้าวแล้ว ดังนั้นตอนนี้เผยเชียนจึงทำอะไรไม่ได้อีก
เพราะการจ้างวานฆ่าไม่ได้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ทำได้
รอบนี้เขาได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าเฉียวเหลียงเป็นอัปโหลดมาสเตอร์สายเกม ไม่น่าจะมีคนดูวิดีโอแนะนำโฮสเทลเขย่าขวัญของอีกฝ่ายเยอะแยะขนาดนั้น…มั้ง
เผยเชียนจิบกาแฟอยู่ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูพลางเช็กรายงานข้อมูลนักท่องเที่ยวที่แวะมาโฮสเทลเขย่าขวัญ
ถึงจะเป็นข้อมูลของสามวัน แต่ก็สามารถมองเห็นอะไรได้หลายๆ อย่าง
สรุปแล้วก็ดู…น่าจะโอเค
จำนวนนักท่องเที่ยวเยอะกว่าที่เผยเชียนคาดการณ์ไว้เล็กน้อย แต่ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่รับได้เพราะรายได้จริงๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่คาดไว้
สั้นๆ คือ เขายังขาดทุนอยู่
รายได้ส่วนใหญ่ไปกองกันอยู่ที่หนีสยองซึ่งรับผู้เล่นต่อวันได้จำกัด ที่เหลือก็ได้แต่ต่อคิวรอ
จนถึงตอนนี้ จำนวนคนเข้าเล่นบ้านฝันสยองกับสุดขีดสยองไม่ได้มากมายเท่าหนีสยอง
เหตุผลก็แสนเรียบง่าย สองโปรเจ็กต์หลังนั้นน่ากลัวเกินไป!
บ้านฝันสยองกีดกันผู้เล่นไปได้กว่า 90% เพราะส่วนใหญ่ยอมแพ้ตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าไปลอง ทำให้ไม่ได้สิทธิ์เข้าเล่นสุดขีดสยอง
ตามการออกแบบดั้งเดิมของเผยเชียน หนีสยองวางราคาไว้สำหรับตลาดกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก ถึงจะมีคนเข้าใช้งานเต็มตลอดก็ทำเงินได้ไม่มาก
บ้านฝันสยองวางราคาไว้กลางๆ แต่พวกขวัญอ่อนจะกลัวจัดตั้งแต่ลองครั้งแรกแล้วไม่เข้าไปอีก พวกจิตแข็งเองก็ไม่เข้าไปเล่นอีกหลังจากเคลียร์ไปแล้วรอบหนึ่ง
สุดขีดสยองยิ่งไม่ต้องพูดถึง พวกขวัญอ่อนไม่มีทางได้สิทธิ์เข้าเล่น ส่วนพวกจิตแข็งที่เล่นผ่านก็จะได้เงินคืนจำนวนหนึ่งตามสถิติที่ทำได้
พูดอีกอย่างคือ โฮสเทลเขย่าขวัญสามารถทำกำไรได้ในทางทฤษฎีเหมือนที่ระบบกำหนดไว้ แต่บ้านฝันสยองกับสุดขีดสยองก็ต้องมีจำนวนคนเข้าเล่นที่มากพอ
ถ้าสองโปรเจ็กต์นี้มีคนเล่นเต็มจำนวน บวกรายได้ 50% จากวงกตทองคำ โฮสเทลเขย่าขวัญก็จะทำกำไรได้สูงมาก แต่ดูจากข้อมูลปัจจุบันแล้วสถานการณ์แบบนั้นดูจะเกินจริงไปมาก
วงกตทองคำนั้นค่อนข้างแปลก ตัวเขาวงกตไม่ได้ทำให้ลูกค้ารู้สึกท้ออย่างที่คิดไว้ แต่ของก็ขายได้ไม่มาก โดยเฉพาะพวกพร็อบในโซนสีทอง เพราะมีคนเข้าไปลองเล่นสุดขีดสยองยังไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะงั้นสำหรับลูกค้าส่วนใหญ่ พวกมันก็เลยไม่ได้มีคุณค่าอะไรเพิ่มเติม ทำให้ขายไม่ค่อยออก
ตอนนี้แค่คืนทุนยังถือว่ายาก เรื่องกำไรนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย
สรุปแล้วสถานการณ์ตอนนี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้!
เผยเชียนรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
โปรเจ็กต์นี้เกือบจะพลิกผันเพราะการโปรโมตด้วยหลายๆ เหตุผล แต่ก็ยังพัฒนาไปในทิศทางที่ดีอยู่
อืม น่าจะเป็นเพราะการตัดสินใจจากการมองการณ์ไกลของฉัน!
เผยเชียนอดรู้สึกภูมิใจขึ้นมาไม่ได้
ระหว่างที่กำลังอ่านรายงานอยู่ มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะก็สั่นสองครั้งแจ้งเตือนการได้รับข้อความใหม่
เผยเชียนหยิบมือถือขึ้นมาดู ข้อความมาจากรุ่ยยู่เฉิน
“บอสเผยครับ ‘สือเหอ’ แบรนด์ไฮเอนด์ของโมหยูเดลิเวอรี่พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้วครับ ช่วงบ่ายนี้รบกวนบอสช่วยลองชิมอาหารเพื่อให้คำแนะนำกับเราได้ไหมครับ”
หืม
เร็วเกิ๊น!
เผยเชียนคอยจับตาดูทุกความคืบหน้าของแบรนด์ไฮเอนด์โมหยูเดลิเวอรี่ เขารู้การเคลื่อนไหวตั้งแต่เริ่มแรกตอนที่ รุ่ยยู่เฉินกับหลินชั่นหรงแอบค้นคว้าและพัฒนาร่วมกัน
แถมผลลัพธ์จากการสังเกตการณ์ก็…เหมือนว่าวิธีนี้จะมีอัตราความสำเร็จที่ต่ำมาก
ดังนั้นเผยเชียนจึงไม่ไปจุ้นจ้านอะไรมาก ทำแค่คอยจับตาดูอยู่เงียบๆ รอให้แบรนด์ไฮเอนด์เปิดให้บริการ
เผยเชียนตอบ “ได้ ส่งไปที่ร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูสาขามหาวิทยาลัยฮั่นตง”
เนื่องจากเพิ่งเปิดตัว แบรนด์ไฮเอนด์สือเหอจึงมีให้บริการแค่ที่โมหยูเดลิเวอรี่หมายเลขหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องวิจัยอาหารเลิศรสด้วย
ต้องลองตลาดดูผลตอบรับของลูกค้าส่วนใหญ่ก่อน ถึงจะตัดสินใจได้ว่าจะขยายแบรนด์ต่อไปที่โมหยูเดลิเวอรี่สาขาอื่นๆ ด้วยหรือเปล่า
เนื่องจากเมนูของสือเหอนั้นแตกต่างจากเมนูทั่วไปในโมหยูเดลิเวอรี่ วิธีการจัดส่งจึงไม่เหมือนกัน ถ้าจะขยายแบรนด์ออกไป เชฟที่ประจำโมหยูเดลิเวอรี่ทุกคนจะต้องผ่านการอบรมอีกครั้ง ต้องเตรียมวัตถุดิบเพิ่มเติม อุปกรณ์สำหรับการส่งอาหารอื่นๆ อย่างบรรจุภัณฑ์ก็ต้องซื้อเพิ่มเป็นจำนวนมาก
สรุปแล้วคือจำเป็นต้องใช้เงินเยอะมาก รุ่ยยู่เฉินจึงไม่กล้ารีบร้อนขยายแบรนด์ในวงกว้าง
แต่เผยเชียนคิดกลับกัน วันนี้เขาจะลองชิมอาหารดู ถ้าคิดว่าแทบไม่มีโอกาสทำกำไรเลยก็จะขยายแบรนด์ให้ครอบคลุมโมหยูเดลิเวอรี่ทุกสาขา!
พนักงานส่งอาหารมาถึงตอนเกือบเที่ยง
เขาสวมเครื่องแบบเดียวกันกับพนักงานส่งอาหารของโมหยูเดลิเวอรี่ แต่แทนที่จะแบกกล่องเก็บอุณหภูมิมา เขากลับถือมาแค่กล่องข้าวหน้าตาไม่โดดเด่น
“กินให้อร่อยนะครับบอสเผย”
พนักงานส่งของวางกล่องข้าวไว้หน้าบอสเผยแล้วกลับออกไป
เผยเชียนรู้สึกแปลกหน่อยๆ ที่กินอาหารของโมหยูเดลิเวอรี่ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู เพราะร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูก็มีเมนูเดียวกันกับที่โมหยูเดลิเวอรี่ขาย
แต่เผยเชียนก็ไม่ได้สนใจอะไร หลังจากสำรวจดูอย่างละเอียด เขาก็เปิดกล่องอาหารออกมาอย่างราบรื่นแล้วมองอาหารด้านใน
ชัดเจนว่ากล่องข้าวนี้สั่งทำมาเป็นพิเศษ เป็นกล่องข้าวแบบเก็บความร้อน รูปลักษณ์ไม่ได้เป็นสเตนเลสแวววาว แต่เคลือบด้วยวัสดุพิเศษที่เป็นมิตรกับผิวหนัง
ด้านนอกกล่องมองแวบแรกดูคล้ายกล่องข้าวไม้แกะลวดลายยุคโบราณ แต่เมื่อจับดูแล้วกลับไม่รู้สึกแบบนั้น เพราะให้สัมผัสที่ละมุนมือสุดๆ
เห็นได้ชัดว่ากล่องข้าวสั่งทำพิเศษนี้ทำขึ้นมาอย่างใส่ใจมากๆ
สเตนเลสเป็นวัสดุที่รักษาความร้อนได้ดี แต่รูปลักษณ์ก็ทำให้คนมองว่าเป็นของถูก ซึ่งไม่ตรงกับคอนเซ็ปต์แบรนด์สือเหอ แต่ถ้าใช้กล่องข้าวไม้แบบย้อนยุคก็จะไม่สามารถรักษาความร้อนและการันตีประสบการณ์การกินอาหารที่ดีได้
ดังนั้นโมหยูเดลิเวอรี่จึงพิจารณาเรื่องนี้เป็นพิเศษ บรรจุภัณฑ์ต้องทนความร้อนได้ รูปลักษณ์ต้องแตกต่าง และราคาต้องอยู่ในเกณฑ์
ค่าใช้จ่ายในการผลิตกล่องข้าวทีละมากๆ นั้นลดลงไปอยู่ที่ประมาณยี่สิบถึงสามสิบหยวน แต่ราคาก็สูงกว่าถ้วยลายครามเดิมๆ ของร้านอินเทอร์เน็ตโมหยูถึงสิบเท่า
ซึ่งก็หมายความว่าถ้าถ้วยลายครามหาย โมหยูเดลิเวอรี่ยังพอรับผิดชอบเองได้ไหว แต่ถ้ากล่องข้าวนี้หาย ลูกค้าต้องเป็นคนรับผิดชอบ
คล้ายกับกรณีของจักรยานให้เช่า ถ้าไม่มีคนรับผิดชอบในกรณีสูญหาย หลายคนอาจซ่อนไว้เพื่อใช้งานส่วนตัว
เผยเชียนไม่ได้ใส่ใจอะไรถ้ากล่องข้าวจะหายบ้าง แต่ระบบต้องไม่ยอมแน่นอน
ดังนั้นวิธีการดำเนินงานของสือเหอจึงต้องแตกต่างจากโมหยูเดลิเวอรี่
เผยเชียนเปิดกล่องอาหาร ด้านในมีหลายชั้น ซึ่งสามารถดึงออกมาวางบนโต๊ะได้
อาหารในกล่องดูดีมาก มองออกเลยว่าไม่ได้ผ่านการสั่นสะเทือนรุนแรง เห็นได้ชัดว่าพนักงานส่งอาหารของสือเหอโดนเน้นย้ำให้เข้มงวดเรื่องนี้
แบรนด์ไฮเอนด์ยังไงก็ต้องมีบริการและมูลค่าเสริมที่สูงกว่า пᴏveʟɢᴜ.cᴏᴍ
อาหารด้านในมีอาหารเรียกน้ำย่อยกับผลไม้แช่อิ่ม กุ้งผัดชามังกร ซุปสองผัก ข้าวผัดรวมมังสวิรัติ และซุปทะเลมัตสึทาเกะ
กล่องข้าวแต่ละชั้นมีรูปร่างและหน้าที่การใช้งานแตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ชั้นอาหารเรียกน้ำย่อยแบ่งเป็นช่องทรงพัด ส่วนชั้นซุปมีฝาปิดกันหกเลอะเทอะ
ปริมาณอาหารไม่ได้เยอะ ทุกอย่างเป็นปริมาณของหนึ่งคนกิน แต่ก็มีหลายอย่างเพื่อให้ได้สารอาหารครบถ้วน
อาหารพวกนี้มาจากเมนูของครัวส่วนตัวหมิงหยุน แต่ขั้นตอนการทำย่อมต่างกันแน่นอน
เป็นไปไม่ได้ที่สือเหอจะทำตามเมนูของครัวส่วนตัวหมิงหยุนได้หมด ไม่ว่าจะเป็นในแง่เวลา การลงทุน หรือราคา ยังไงก็ทำได้แค่เลือกขั้นตอนที่กินเวลาออกและปรับขั้นตอนเพิ่มเติม แต่ก็ต้องมั่นใจว่ารสชาติจะเหนือกว่าอาหารทั่วไป โดยเรื่องราคาและประสบการณ์ที่ได้รับต้องอยู่ในเกณฑ์ที่สมดุลกัน
เผยเชียนหยิบภาชนะสำหรับกินข้าวที่เข้าคู่กับกล่องข้าวออกมาแล้วลงมือกินโดยไม่มัวรีรอ
หลังจากได้ลิ้มรสแล้ว ก็บอกได้ว่ารสชาติไม่แย่
ถึงจะเทียบกับเมนูต้นแบบจากครัวส่วนตัวหมิงหยุนไม่ได้ แต่รสชาติกับประสบการณ์เมื่อเทียบกับโมหยูเดลิเวอรี่แล้วก็ถือว่ายกระดับไปอีกขั้น
เผยเชียนมาคิดๆ ดูแล้วและรู้สึกได้ว่ากิจการนี้ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสขาดทุนเลย จุดสำคัญอยู่ที่ราคาและการวางกลยุทธ์การตลาด
คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็โทรหารุ่ยยู่เฉิน
“บอสเผยลองแล้วเหรอครับ รสชาติเป็นยังไงบ้างครับ” น้ำเสียงของรุ่ยยู่เฉินดูมีความกังวลเจืออยู่เล็กน้อย แต่ก็แฝงไปด้วยความคาดหวัง
เพราะยังไง นี่ก็เป็นแบรนด์ใหม่และโมเดลใหม่ที่เขากับ หลินชั่นหรงพัฒนาขึ้น ดังนั้น การยอมรับจากบอสเผยจึงสำคัญมาก
เผยเชียนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “เซตนึงราคาเท่าไหร่”
รุ่ยยู่เฉินตอบ “ตอนนี้เซตนี้…ห้าสิบแปดหยวนครับ ราคากำหนดไว้แตกต่างกันตามเมนูที่จัดไปครับ”
เสียงของเขาเบาลงโดยไม่รู้ตัว ชัดเจนว่าไม่มั่นใจในราคาเลย เทียบกับโมหยูเดลิเวอรี่แล้ว ราคาเพิ่มขึ้นมาเกือบสามเท่า
เผยเชียนดีใจมาก แต่ก็แสดงออกไปชัดเจนไม่ได้ เลยยิงคำถามต่อ “ถ้ากล่องข้าวหายล่ะ
“แล้วก็อาหารพวกนี้มีปริมาณแค่ประมาณหนึ่งในสามจากปริมาณปกติ แสดงว่าหนึ่งจานจะแบ่งขายเป็นสามเซตใช่มั้ย ถ้าเป็นแบบนั้นเราจะมั่นใจเรื่องเวลากับรสชาติได้ยังไง”
เพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนสมดุล อาหารเซตหนึ่งประกอบไปด้วยหลายเมนู แต่ละเมนูมีปริมาณไม่เยอะ เป็นไปไม่ได้เลยที่เชฟจะทำอาหารออกมาทีละน้อยๆ ต้องทำทีละจานแล้วแบ่งออกเป็นสามเซต
แต่เวลาที่ลูกค้าสั่งอาหารเข้ามาแตกต่างกัน ถึงจะอุ่นไว้ตลอด แต่ถ้าเก็บไว้ในหม้อเก็บความร้อนนานเกินไป รสชาติต้องลดทอนลงแน่นอน
รุ่ยยู่เฉินตอบ “เรื่องกล่องข้าว เราต้องให้ลูกค้าจ่ายมัดจำไว้ก่อนเพื่อกันกล่องสูญหายหรือเก็บไว้ใช้ส่วนตัว แน่นอนว่าเราสามารถคืนเงินมัดจำได้ทุกเมื่อ
“ส่วนปัญหาด้านเวลา วิธีการตอนนี้ของเราคือปรับเวลาส่งให้ตรงกัน แต่ก็ติดปัญหาตรงที่ลูกค้าบางส่วนต้องรอนานหน่อยครับ…”
เผยเชียน “เราจะให้ลูกค้ารอได้ไง ทำแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด!
“เอางี้เป็นไง ทำเหมือนครัวส่วนตัวหมิงหยุน ให้ลูกค้าจองเข้ามาก่อน เราเปิดรับจองล่วงหน้าแค่สองชั่วโมง จากนั้นก็ค่อยทำส่งตามออเดอร์ที่เข้ามา”
รุ่ยยู่เฉินผงะไปชั่วครู่ “ต้องจองอย่างเดียวเลยเหรอครับ ทำแบบนั้นจะไม่เป็นมิตรกับลูกค้าใหม่เกินไปรึเปล่าครับ นอกจากต้องจ่ายค่ามัดจำแล้ว ยังต้องจองล่วงหน้าสองชั่วโมงอีก”
เผยเชียนยิ้ม “ที่เราต้องการคือลูกค้าประจำ ถ้ารับเรื่องแค่นี้ไม่ได้ก็คงไม่มีชะตาต้องกันกับแบรนด์เรา
“อีกอย่างการให้จ่ายมัดจำก่อนก็ดูไม่เหมาะ เราจะให้ลูกค้าเก่าของโมหยูเดลิเวอรี่กับลูกค้าเถิงต๋าที่เครดิตดีสั่งเท่านั้น ถ้ากล่องหายก็ค่อยตัดเงินไม่ก็ตัดแต้มความน่าเชื่อถือ
“ในเมื่อเป็นแบรนด์ไฮเอนด์ ก็ต้องทำให้มีความพิเศษหน่อย”
รุ่ยยู่เฉินที่ปลายสายเงียบไป
ดูเหมือนว่าบอสเผยจะเสนอสิ่งที่สุดโต่งยิ่งกว่าที่เขาคิดไว้อีก
มีแค่ลูกค้าเก่าเครดิตดีเท่านั้นที่สั่งอาหารจากแบรนด์สือเหอได้ แถมยังต้องจองล่วงหน้าก่อนสองชั่วโมง ราคาก็แพงกว่าเมนูทั่วไปของโมหยูเดลิเวอรี่สองถึงสามเท่า…
ถึงเป้าหมายตั้งต้นของรุ่ยยู่เฉินคือการทำแบรนด์เดลิเวอรี่แบบไฮเอนด์ แต่เขาก็คิดว่าก้าวนี้ดูจะใหญ่เกินไปหน่อย
ถ้าไม่ระวังอาจจะร่วงลงมาเจ็บหนักได้
แต่ในเมื่อบอสเผยเป็นคนแนะนำ ถ้าไม่ทำตามก็ดูจะไม่เหมาะ
รุ่ยยู่เฉินตอบ “โอเคครับบอสเผย เราจะทำตามที่บอสแนะนำ ผมจะลองทดสอบกับสาขาหลักๆ ของโมหยูเดลิเวอรี่ก่อนแล้วรายงานสถานการณ์ให้ทราบอีกครั้งในหนึ่งสัปดาห์ครับ”
เผยเชียนยิ้มพลางพยักหน้า “โอเค จัดการได้เลย สัปดาห์หน้าค่อยมาตัดสินใจว่าจะขยายโมเดลสือเหอไปตามสาขาที่เหลือดีมั้ย”