พอได้ยินคำว่า ‘บอสเผย’ ทุกคนก็ดีดตัวนั่งหลังตรงทันที
เฉินคังทั่วดำดิ่งสู่ความทรงจำ “วันนั้นบอสเผยให้ภารกิจที่ดูไม่สมเหตุสมผลสุดๆ กับผม บอสบอกให้ผมเล่นโปรเจ็กต์ต่างๆ ในโฮสเทลเขย่าขวัญจนกว่าจะคุ้นชินกับรายละเอียดทุกอย่างข้างใน
“ผมใช้เวลาในสุดขีดสยองเจ็ดถึงแปดชั่วโมงหลายวันติด พยายามตรวจดูทุกรายละเอียดแล้วเอามาคิดดูว่าผู้เล่นจะรู้สึกยังไงกับรายละเอียดพวกนี้
“นอกจากนั้นบอสเผยยังจัดพร็อบพิเศษขึ้นมาขายในวงกตทองคำเพื่อแบ่งแยกระดับความยากด้วย ผู้เล่นจะได้ประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปตามพร็อบที่เอาเข้าไป…”
ทุกคนฟังอย่างตั้งใจด้วยสีหน้าที่แสดงถึงความเคารพยกย่อง
ส่วนหนึ่งมาจากการที่พวกเขาเคารพบูชาบอสเผยสุดๆ
พวกเขาไม่คิดว่าบอสเผยจะเอาแนวคิดในเกมตัวเองมาทำเป็นบ้านผีสิง เพื่อมอบประสบการณ์อันแปลกใหม่ให้ผู้คนที่แวะมาเที่ยว
อีกส่วนมาจากความชื่นชมที่มีให้เฉินคังทั่ว
เล่นสุดขีดสยองไม่หยุดเป็นเวลาเกือบสัปดาห์? ช่างเป็นคนที่ร้ายกาจจริงๆ!
เฉียวเหลียงหูตั้งขึ้นมา คอยฟังอย่างตั้งใจเพื่อไม่ให้พลาดรายละเอียดอะไรสักอย่าง
ชัดเจนมากว่าข้อมูลพวกนี้สำคัญสุดๆ!
ทำไมประสบการณ์ที่ได้จากโฮสเทลเขย่าขวัญถึงได้พิเศษขนาดนี้ ก็เพราะบอสเผยเอาแนวคิดจากเกมของตัวเองใส่เข้าไปในบ้านผีสิง!
พอมาคิดๆ ดู ก็มีเรื่องให้พูดเยอะเลย
แต่…ถ้าจะเอาเรื่องนี้มาพูด ก็ต้องไปลองสัมผัสด้วยตัวเองก่อน
เพราะงั้นพวกเขาจึงวกกลับมาคำถามเดิมคือ ต้องเข้าไปเล่นสุดขีดสยองจริงๆ ใช่มั้ย
เฉียวเหลียงปฏิเสธความคิดนั้นโดยสัญชาตญาณ แต่การตัดสินใจของเขาก็ถูกสั่นคลอนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะตรงหน้าเขามีบุคคลต้นแบบเยอะเกินไป!
ก่อนหน้านี้ เขาเข้าไปเล่นกับเหล่าแฟนคลับ ซึ่งก็ไม่ได้จิตใจแข็งแกร่งไปมากกว่ากันเท่าไหร่ เพราะงั้นก็เลยค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง
แต่ตอนนี้เขาได้รู้ว่าพนักงานของเถิงต๋าเล่นผ่านกันหมด แม้แต่หญิงสาวบอบบางอย่างผู้อำนวยการหลินก็ยังเข้าไปเล่นในโรงพยาบาลจิตเวช ‘เขาหมอก’ ซ้ำไปมาเพื่อเก็บข้อมูล เฉินคังทั่วเองก็แทบใช้ชีวิตอยู่ในสุดขีดสยองเพื่อมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้แขกผู้มาเยือน
กลับกัน เฉียวเหลียงที่เรียกตัวเองว่าเป็นเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์กลับไม่กล้าเข้าไปเล่น เอาเข้าจริงเขาไม่มีสิทธิ์เข้าไปเล่นด้วยซ้ำ
ถ้าเรื่องนี้หลุดออกไป เขาคงอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน!
เฉียวเหลียงทำอะไรไม่ได้นอกจากยก ‘น้ำเลือด’ ขึ้นจิบโดยไม่พูดอะไร ในหัวตีกันวุ่นวายไปหมด
เฉินคังทั่วเหลือบมองหลินหวานที่หันไปมองหร่วนกวางเจี่ยน
ทั้งสามรู้สึกว่าทุกคนน่าจะคิดเหมือนกันเมื่อเห็นสายตาของกันและกัน
ทำไมเฉียวเหลียงยังไม่ตกหลุมพรางอีก
ชัดเจนว่าทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน พวกเขาอยากให้อาจารย์เฉียวเอาชนะความสับสนในใจตัวเองด้วยการเข้าไปเล่นสุดขีดสยองและทำคลิปโปรโมตให้โฮสเทลเขย่าขวัญ
ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะแน่วแน่ขนาดนี้ หรือพูดให้ถูกคือ ‘จะกลัวจนหัวหด’ ขนาดนี้ พวกเขาพูดทุกอย่างที่พูดได้ไปหมดแล้ว แต่เฉียวเหลียงก็ยังไม่ยอมโต้ตอบอะไร
ระหว่างที่เฉียวเหลียงกำลังพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เขาก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากนอกกรง “อ้าว น้องเฉิน แล้วนี่…”
เฉินคังทั่วเงยหน้ามองก่อนจะยกยิ้ม
บอสหลี่นี่นา
ร้านอาหารนี้เป็นของบอสหลี่ จึงไม่แปลกที่อีกฝ่ายจะมาเดินตรวจดูว่าเปิดร้านวันแรกเป็นยังไงบ้าง แล้วดันบังเอิญมาเจอกับคนคุ้นหน้าคุ้นตา
เฉินคังทั่วแนะนำทุกคนคร่าวๆ
หลี่สือดีใจมาก “ทุกคนเป็นเพื่อนบอสเผยเหรอครับ งั้นไม่ต้องพูดอะไรแล้ว มื้อนี้ผมเลี้ยงเอง กินกันให้เต็มที่เลยนะครับ!
“ในเมื่อทุกคนเป็นเพื่อนบอสเผยก็ควรได้กินได้เล่นกันอย่างจุใจ ยินดีต้อนรับสู่จิงโจวนะครับ!”
บอสหลี่พูดอะไรกับทุกคนต่ออีกเล็กน้อย ก่อนจะบอกให้พยาบาลสาวยกอาหารมาเสิร์ฟเพิ่ม ต้อนรับขับสู้ทุกคนอย่างเต็มที่
ทุกคนกินไปคุยกันไป ไม่มีใครพูดถึงสุดขีดสยองอีก
ห้านาทีต่อมา เฉียวเหลียงที่ก้มหน้าก้มตากินมาตลอดก็ตบโต๊ะเสียงดัง
“โอเค ผมตัดสินใจแล้ว! ผมจะลองท้าทายสุดขีดสยอง!”
หร่วนกวางเจี่ยน หลินหวาน และเฉินคังทั่วดูตกใจมาก
หืม
อะไรทำให้เฉียวเหลียงเปลี่ยนใจกัน
ก่อนหน้านี้ยังรักตัวกลัวตายสุดๆ อยู่เลย
เฉียวเหลียงทำหน้าเหมือนพร้อมเผชิญความตาย “ทุกคนช่วยปลุกใจและกระตุ้นผมมากๆ เลยครับ ผมคิดว่าการหาข้อมูลเพิ่มเป็นเรื่องสำคัญมาก
“แต่ที่ทุกคนพูดมาไม่ได้ทำให้ผมตัดสินใจได้
“แต่ประโยคเดียวจากบอสหลี่ทำให้ผมนึกเรื่องหนึ่งขึ้นได้ ผมก็เป็นเพื่อนของบอสเผย!
“ทุกอย่างที่บอสเผยอยากบอกผมนั้นอยู่ในสุดขีดสยองของโฮสเทลเขย่าขวัญ ผมจะกล้าเรียกตัวเองว่าเพื่อนของบอสเผยได้ยังไงถ้าผมปฏิเสธไม่เข้าไปรับสารนั้น
“เพราะงั้นผมต้องเข้าไป!”
พอเห็นสีหน้าแน่วแน่ของเฉียวเหลียง ทุกคนก็อดทึ่งขึ้นมาไม่ได้
สุดท้ายแล้ว อะไรที่ทำให้อาจารย์เฉียวเปลี่ยนใจ
ในจังหวะสำคัญแบบนี้ก็มักจะเป็นบอสเผยเสมอ!
ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างหนักขนาดไหนก็ไม่สำเร็จ แต่แค่มนต์เสน่ห์จากบอสเผยอย่างเดียวกลับโน้มน้าวใจอีกฝ่ายได้
…
ช่วงบ่าย
เผยเชียนกำลังจิบกาแฟดื่มด่ำแสงแดดอยู่ในร้านอินเทอร์เน็ตโมหยู
ข้อความมากมายเด้งเข้ามือถือของเขาระรัว ส่วนใหญ่เป็นข้อความแสดงความยินดี
โฮสเทลเขย่าขวัญเพิ่งเปิดให้บริการเป็นวันแรก บอสเผยเองมีคนรู้จักมากมาย จึงไม่แปลกที่จะมีคนส่งข้อความแสดงความยินดีเข้ามาจำนวนมาก
เอาเข้าจริง เขาได้รับข้อความนับไม่ถ้วนมาตั้งแต่เช้า ด้วยความที่ไม่อยากเสียสมาธิ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตั้งมือถือเป็นโหมดเงียบแล้วคอยเช็กเป็นระยะ
พอดื่มกาแฟจนหมดแก้ว เขาจึงหยิบมือถือขึ้นมาเช็กข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน
หลังจากกดปิดข้อความแสดงความยินดีไร้สาระทิ้งไปหมด เผยเชียนก็ดีดตัวนั่งหลังตรง รู้สึกระแวงขึ้นมาทันที
เขาได้รับข้อความมากมายจากผู้จัดการฝึกหัดประจำโฮสเทลเขย่าขวัญ แถมยังส่งเข้ามาถี่ๆ ด้วย!
นี่เป็นวันเปิดให้บริการวันแรกของโฮสเทลเขย่าขวัญ จึงไม่แปลกที่จะมีคนแห่มาเยอะ
แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ผู้จัดการฝึกหัดส่งข้อความมารายงานสถานการณ์บอสเผยเยอะแยะขนาดนี้
เผยเชียนรีบเปิดแชตเข้าไปอ่านข้อความ
“หลินหวาน เยว่จือโจว และผู้บริหารระดับสูงคนอื่นๆ จากฉางหยางเกมส์แวะมาโฮสเทลเขย่าขวัญและลองเล่นทั้งสามโปรเจ็กต์ครับ
“คุณหลินหวาน คุณเฉินคังทั่ว และคนอื่นๆ แวะไปร้านอาหารตีมโรงพยาบาลจิตเวชแล้วบังเอิญเจอคุณหร่วนกวางเจี่ยนกับคุณเฉียวเหลียงครับ
“คุณหร่วนกวางเจี่ยนกระซิบคุยอะไรสักอย่างกับคุณหลินหวานและคุณเฉินคังทั่ว
“คุณเฉียวเหลียงกับกลุ่มแฟนคลับเข้าไปนั่งกินโต๊ะเดียวกันกับพวกคุณหลินหวานครับ
“คุณเฉียวเหลียงเหมือนจะกลัวบ้านฝันสยองมาก ยังไม่ได้ไปเล่นสุดขีดสยองครับ
“คุณหร่วนกวางเจี่ยน คุณหลินหวาน กับคนอื่นๆ กำลังหาทางล่อให้คุณเฉียวเหลียงไปลองเล่นสุดขีดสยองเพราะอยากให้คุณเฉียวเหลียงทำคลิปโปรโมตโฮสเทลเขย่าขวัญให้
“คุณหลี่สือเสนอเลี้ยงข้าวทุกคนและเขาดูเหมือนจะเป็นฟางเส้นที่ทำให้ลาหลังหัก
“คุณเฉียวเหลียงซาบซึ้งกับมิตรภาพของพี่มาก เลยตัดสินใจไปซื้อพร็อบในวงกตทองคำแล้วจะไปท้าทายตัวเองที่สุดขีดสยองครับ
“เรามาถึงโซนสีทองในวงกตทองคำแล้วครับ”
ชัดเจนว่าผู้จัดการฝึกหัดอยู่ในกลุ่มกินข้าวเมื่อครู่และคอยจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ข้อความสุดท้ายส่งมาตอนเผยเชียนกำลังเช็กข้อความอยู่
เครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นบนหัวเผยเชียนทันที пᴏᴠᴇʟɢu.ᴄoᴍ
?
อาจารย์เฉียว?
หร่วนกวางเจี่ยน?
ไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไรที่สองคนนี้จะโผล่มาโฮสเทลเขย่าขวัญ แต่ที่แปลกคือสองคนนี้โผล่มาคู่กันแถมยังมากินข้าวด้วยกันอีก!
เผยเชียนไม่คิดจะถามรายละเอียดว่าสองคนนี้บังเอิญมาเจอกันหรือนัดกันมา ตอนนี้มีปัญหาเร่งด่วนกว่าปัญหาตรงหน้าเขาที่เกิดขึ้นแล้ว
เฉียวเหลียงจะไปลองเล่นสุดขีดสยอง!
เจ้าหมอนี่มีชื่ออยู่อันดับสองในบัญชีหนังหมา เผยเชียนรู้ความสามารถในการทำลายล้างของเฉียวเหลียงดี
ถ้าเป็นคนอื่นเข้าไปเล่นโปรเจ็กต์ในโฮสเทลเขย่าขวัญ เผยเชียนคงไม่ได้ว่าอะไร เพราะคนอื่นๆ ไม่ได้มีอิทธิพลขนาดนั้น
แต่เฉียวเหลียงเป็นอัปโหลดมาสเตอร์ที่มีผู้ติดตามในเว็บอ้ายลี่เต่าเป็นล้าน ถ้าเขาทำคลิปชมโฮสเทลเขย่าขวัญออกมา เผยเชียนได้จบเห่แน่!
ที่เผยเชียนไม่ยอมบอกวันเปิดให้บริการโฮสเทลเขย่าขวัญที่เฉพาะเจาะจงกับอีกฝ่ายก็เพราะเหตุนี้
ถึงการได้เห็นศัตรูกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อจะทำให้เขาได้รับความสะใจจากการได้แก้แค้น แต่เขาก็ต้องนึกย้อนไปถึงประสบการณ์ที่ผิดพลาดกับเกมกลับใจคือฟากฝั่งด้วย เผยเชียนรู้สึกว่าทุกครั้งที่พยายามวางแผนจัดการเฉียวเหลียง เขามักจะโดนเล่นงานจนเจ็บแสบกลับมายิ่งกว่า
เพราะงั้นเผยเชียนเลยคิดจะปล่อยอีกฝ่ายไป ฉันไม่บอกแกเรื่องโฮสเทลเขย่าขวัญ แกจะได้ไม่มาทำร้ายฉันอีก คนหนึ่งอยู่จิงโจว อีกคนอยู่ปักกิ่ง ก็ใช้ชีวิตของตัวเองไป ไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกัน
เขาไม่คิดเลยว่าอัปโหลดมาสเตอร์สายเกมอย่างเฉียวเหลียงจะมาเยือนโฮสเทลเขย่าขวัญด้วยตัวเอง!
“ไม่ได้ ต้องรีบหาทางหยุดหมอนั่น!”
เผยเชียนรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาสุดๆ
ทั้งหมดทั้งมวลที่เขาเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้อ้างอิงจากเงื่อนไขที่ว่ากระแสช่วงแรกของโฮสเทลเขย่าขวัญจะอยู่ไม่นาน ผ่านไปสักพักก็เริ่มซาลง
แต่ถ้าโฮสเทลเขย่าขวัญได้รับการโปรโมตอีกระลอกหรือหลายระลอกระหว่างนี้ ผลลัพธ์ที่ตามมาก็จะหลุดไปจากที่เผยเชียนคาดการณ์ไว้!
เขาลุกยืนเตรียมตัวบอกให้เสี่ยวซุนคนรถขับไปส่งที่โฮสเทลเขย่าขวัญเพื่อหยุดอาจารย์เฉียว
แต่หลังจากลุกยืนได้ห้าวินาที เขาก็นั่งลงอีกครั้ง
เขาตระหนักว่าตัวเองไปเสนอหน้าไม่ได้!
ที่โฮสเทลเขย่าขวัญมีคนรู้จักเขาเยอะเกินไป!
ถ้าทุกคนเรียกเขาว่าบอสเผย แฟนคลับเถิงต๋าก็จะเข้ามาขอถ่ายรูปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
แบบนั้นตัวตนก็โดนเปิดเผยกันพอดี
พอมาคิดดูอีกที เขาก็ตัดสินใจไม่ทำแบบนั้น ตอนนี้เป็นยุคโทรคมนาคมที่ผู้คนจัดการปัญหาผ่านการส่งข้อความหรือโทรคุยกัน ทำไมเขาต้องลงทุนถ่อไปถึงที่นั่นด้วยตัวเองด้วย
คิดได้แบบนั้น เผยเชียนก็โทรหาเฉียวเหลียง
…
ขณะเดียวกัน ในโซนสีทองของวงกตทองคำ
หลินหวาน เฉินคังทั่ว และคนอื่นๆ รวมตัวกันอยู่ในโซนนี้ แม้แต่หลี่สือเองก็ตามมาด้วย เพราะอยากเห็นว่ายอดขายที่โซนสีทองเป็นยังไง
ทุกคนเดินวนไปมาอยู่นานในวงกตทองคำกว่าจะไปถึงโซนสีทอง เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เข้ามาที่นี่ ทุกคนต่างอึ้งกันยกใหญ่และนึกสงสัยว่าบอสเผยคิดแผนสุดล้ำแล้วทำขึ้นมาจริงๆ ได้ยังไง
ห้างผสมเขาวงกตมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งอันสดใหม่ให้ทุกคน พวกเขาต้องใช้เวลาพยายามในการหาสินค้า ดังนั้นถ้าไม่ซื้ออะไรกลับไปก็คงน่าเสียดายแย่
หร่วนกวางเจี่ยนถือที่คาดผมเขาปีศาจไว้ไม่ปล่อย
ส่วนเฉียวเหลียงนั้นลังเลอยู่นานก่อนตัดสินใจหยิบตะเกียงสีทองมาอย่างอายๆ
เขาไม่มีทางเลือกอื่น ถึงจะต้องเข้าไปสุดขีดสยองเพราะเห็นแก่มิตรภาพที่มีกับบอสเผย แต่เขาก็ยังอยากมีชีวิตรอดกลับมาอยู่ดี
ตะเกียงสีทองสามารถไล่ภูตผีปีศาจส่วนใหญ่ในสุดขีดสยองได้ เรียกได้ว่าเป็นโหมดที่ง่ายที่สุด เพราะเมื่อดูจากประสบการณ์ที่บ้านฝันสยอง เขาก็คงต้องเข้าไปเล่นด้วยความยากระดับนี้
ตอนนี้เฉียวเหลียงมองเฉินคังทั่วเปลี่ยนไปอีกครั้ง
ตอนเฉียวเหลียงแวะไปบ้านฝันสยองแล้วกลัวจนแทบฉี่ราด เขาก่นด่าสาปแช่งคนออกแบบในใจเป็นพันครั้ง
แต่พอมาเจอเฉินคังทั่วซึ่งๆ หน้า และได้รู้ว่าอีกฝ่ายเสียสละตัวเองเพื่อโฮสเทลเขย่าขวัญขนาดไหน เขาก็รู้สึกเคารพยกย่องขึ้นมา
ตอนนี้พอเห็นพร็อบทั้งสี่อย่าง และรู้ว่าตะเกียงสีทองทำให้เข้าไปเล่นในโหมดง่ายที่สุดได้ เฉียวเหลียงก็รู้สึกขอบคุณเฉินคังทั่วสุดๆ
คนที่ช่วยทุเลาความทรมานให้ฉันถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน!
ตะเกียงสีทองขายอยู่ในโซนของทำมือซึ่งทำออกมาอย่างละเอียดและสวยงามมาก จึงมีราคาแพงที่สุดในหมู่พร็อบทั้งสี่
แต่สำหรับเฉียวเหลียงแล้วถือเป็นราคาที่ยอมรับได้สุดๆ เพราะสิ่งที่เขาซื้อไม่ใช่แค่ของเล่นโง่ๆ แต่เป็นการซื้อประสบการณ์การเล่น!
ก็เหมือนกับปืนกิเลนเพลิงในเกมฐานทัพกลางทะเลที่ขายในราคาแพงหูฉี่ เพราะมันช่วยเพิ่มประสบการณ์การเล่นให้กับผู้เล่น
เฉียวเหลียงถือตะเกียงสีทองเตรียมเดินไปจ่ายเงิน
แต่จังหวะนั้นเอง มือถือเขาก็ดังขึ้น
“เอ๊ะ บอสเผย?”