📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 532

บทที่ 532 - สามประสบการณ์ความล้มเหลว
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม

ถึงเวลาคลาสเรียนความผิดพลาดประจำเดือน

เอาเข้าจริงเผยเชียนคาดหวังกับคลาสของชิวหงมากกว่าคลาสของเหออัน

คลาสของเหออันต้องเอามาพลิกแพลง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าพลิกแล้วจะได้ผลรึเปล่า แต่ประสบการณ์ความล้มเหลวของชิวหงสามารถทำตามได้เลย

แต่คลาสที่แล้วเผยเชียนไม่ได้อะไรเลย นอกจากตำแหน่งเพื่อนคู่คิดจากชิวหง

ซึ่งน่าปวดใจมาก

ชิวหงสาธยายความล้มเหลวที่เกิดจากการบริหารจัดการโปรเจ็กต์มายืดยาว ซึ่งก็ดี แต่ไม่เป็นประโยชน์กับตัวเขาเลย!

เขาได้แต่คาดหวังว่าประสบการณ์ความล้มเหลววันนี้จะมีอะไรให้หยิบไปใช้ได้บ้าง

ชิวหงมาถึงคาเฟ่ตามเวลานัดแล้วจับมือทักทายกับ ‘หม่าหยาง’ อย่างอบอุ่น

“บอสหม่า! เป็นไงบ้างครับเดือนที่ผ่านมา การบริหารจัดการโปรเจ็กต์ในบริษัทดีขึ้นมั้ยครับ”

เผยเชียน “…”

ดีขึ้นมั้ยเหรอ

ถ้าดีขึ้นกว่านี้อีกก็ให้ฉันลงโลงเถอะ!

เผยเชียนกระแอมกระไอ “คลาสที่แล้วเป็นประโยชน์กับผมมากเลยครับ แต่เวลามีจำกัด เราเข้าเนื้อหากันเลยดีกว่า”

ชิวหงพยักหน้า “ครับๆๆ ได้เลยครับ”

ทั้งสองนั่งลงที่โต๊ะก่อนพนักงานจะยกกาแฟมาเสิร์ฟ

ชิวหงยกกาแฟขึ้นจิบแล้วพูดขึ้น “บอสหม่าครับ วันนี้เราจะมาคุยเรื่องปัจจัยสู่ความล้มเหลวที่อันตรายที่สุด ปัจจัยนี้ทำบริษัทเกมสตาร์ตอัปเจ๊งมาแล้วหลายรายแล้ว!”

เผยเชียนตื่นเต้นขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินแบบนั้น

ประสบการณ์ล้มเหลวที่เจอกันหลายคนเหรอ

ต้องตั้งใจฟังแล้ว!

ชิวหงจงใจเว้นช่วงก่อนจะพูดต่อ “ปัจจัยความล้มเหลวที่ว่าคือ… การแทรกแซงจากคนเป็นเจ้านายและอิทธิพลภายนอก!”

เผยเชียน “?”

ชิวหงไม่ทันสังเกตเห็นสีหน้าว่างเปล่าของ ‘หม่าหยาง’ เขาเข้าสู่ห้วงการปลดปล่อยสิ่งที่อัดอั้นตันใจเหมือนรอบที่แล้ว “พูดแล้วก็น้ำตาจะไหล

“ก่อนก้าวเข้าสู่วงการ ผู้คนในวงการเกมต่างมีฝันแสนเรียบง่าย นั่นคือสร้างอะไรสนุกๆ ให้ผู้เล่นได้เล่น ถึงเป็นเกมที่เน้นให้ผู้เล่นเติมเงิน ขอแค่ผู้เล่นมีความสุข งานของเราก็ไม่สูญเปล่า

“แต่สังคมไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น เพราะเกมไม่ใช่สิ่งที่สร้างได้ด้วยตัวคนเดียว คุณต้องเข้าออฟฟิศ เจอกฎเกี่ยวกับการทำงานมากมาย ต้องเลือกฝั่ง รักษาความสัมพันธ์กับคนอื่น ไม่งั้นถึงโปรเจ็กต์จะไปได้สวยขนาดไหน แต่ถ้าหาทรัพยากรไม่ได้ก็จบ

“ตอนทำแผนการจัดการก็ต้องทำตามแผนหน้าที่ พอทำแผนหน้าที่ก็ต้องฟังหัวหน้าฝ่ายวางแผน พอได้เป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผนก็ต้องฟังโปรดิวเซอร์ แม้กระทั่งตอนเป็นโปรดิวเซอร์แล้วก็ยังต้องฟังนักลงทุนอยู่ดี

“พอมารับบทนักลงทุนก็ต้องฟังตลาดและเงิน เพราะคุณจะเอาเงินตัวไปจมไม่ได้!

“เห็นมั้ยครับ คุณอาจจะมีแนวคิดของตัวเอง แต่ก็การันตีไม่ได้ว่าคนอื่นๆ ที่มีสิทธิ์มีเสียงมากกว่าจะคิดเหมือนกันรึเปล่า!

“นี่คือการแทรกแซงจากอิทธิพลภายนอก ลองคิดดูนะครับ ไอเดียดีๆ โดนโปรดิวเซอร์เปลี่ยน เจ้านายมาเปลี่ยนต่อ แล้วไปโดนนักลงทุนเปลี่ยนอีก พอจะปล่อยเกม ทางแพลตฟอร์มที่จะเอาเกมไปลงก็ขอให้เปลี่ยนอีก… เดี๋ยวเปลี่ยนนั่น เดี๋ยวเปลี่ยนนี่ เปลี่ยนไปมาจนตัวเองก็จำไม่ได้แล้ว”

เผยเชียนฟังอยู่เงียบๆ ด้วยสีหน้าว่างเปล่า

ฟังดูดีจัง

อยากให้มีคนมาช่วยป่วนโปรเจ็กต์จนพังบ้าง…

แต่บอสเผยไม่มีใครมาช่วยทำแบบนั้น เขาเป็นคนเคาะทุกอย่างเอง

บอสเผยถึงกับพยายามป่วนลูกน้องด้วยตัวเอง

ปัญหาคือถึงจะเข้าไปป่วนอยู่บ่อยๆ แต่โปรเจ็กต์ก็ยังไม่ล่ม!

ยิ่งเข้าไปยุ่งเท่าไหร่ โปรเจ็กต์ก็ยิ่งประสบความสำเร็จ ไหนช่วยอธิบายเรื่องนี้ให้ฟังหน่อยซิ

หรือฉันเข้าไปป่วนไม่ถูกวิธี

เผยเชียนกระแอมกระไอ “เอ่อ ผมมีคำถาม ทำไมบอสชิวถึงบอกว่า ‘การที่เจ้านายเข้ามายุ่งทำให้โปรเจ็กต์ล่ม’ ล่ะครับ”

ชิวหงแปลกใจ “ต้องอธิบายด้วยเหรอครับบอสหม่า คุณน่าจะจินตนาการออกอยู่แล้ว!

“ตัวอย่างเช่น คุณรู้ชัดเจนอยู่แล้วว่าเกมแบบไหนจะดัง แต่เจ้านายคุณอยากให้ทำอีกแบบ คุณรู้ว่ารสนิยมของผู้เล่นเป็นยังไง แต่เจ้านายอยากให้ทำตรงกันข้าม ในตลาดไม่มีเกมแบบนี้เลย แต่เจ้านายก็อยากให้ทำ…”

เผยเชียนเงียบไปอีกครั้ง

ฉันก็ทำตามนั้นหมดเลยนี่

แผนขาดทุนของฉันก็ดูไม่มีปัญหาอะไร

แล้วทำไมผลลัพธ์ถึงออกมาตรงกันข้ามเลยล่ะ

ไม่ได้เลย คลาสนี้ไร้ประโยชน์สุดๆ ฉันลองแล้ว ไม่ได้ผลเลย ต้องรีบหยุดชิวหงให้เลิกพูดเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

เผยเชียนคิดว่าจะเสียเวลาอันล้ำค่าไปกับหัวข้อนี้ไม่ได้จึงรีบพูดขึ้น “ผมเข้าใจแล้วครับ ทำให้ล้มเหลวได้ง่ายๆ จริงๆ ด้วย! แต่ประสบการณ์นี้ไม่ค่อยเป็นประโยชน์กับผมเท่าไหร่ เราเปลี่ยนไปหัวข้ออื่นได้มั้ยครับ”

ชิวหงผงะไป “ไม่ค่อยเป็นประโยชน์เหรอครับ บอสหม่าจะบอกว่าไม่ค่อยเจอปัญหานี้เหรอ

“ก็คงเป็นแบบนั้น บอสใหญ่สุดของบอสหม่าคือบอสเผย บอสเผยเป็นนักออกแบบเกมชั้นแนวหน้า ไม่มีทางที่บอสเผยจะชี้นำคุณไปสู่ความล้มเหลวได้

“ไม่มีปัญหาครับบอสหม่า ผมเองก็คิดว่าเรื่องนี้เป็นแค่น้ำจิ้ม ก็เลยเตรียมเนื้อหาเพิ่มเติมมาด้วย”

เผยเชียนดีใจมาก

เยี่ยม นึกว่าคลาสนี้เสียเปล่าซะแล้ว!

ชิวหงพูดต่อ “งั้นปัจจัยสู่ความล้มเหลวที่อันตรายปัจจัยต่อมาคือ ไม่สามารถหาคนมีพรสวรรค์แบบที่ต้องการได้ บอสหม่าน่าจะเอาเรื่องนี้ไปใช้ได้นะครับ”

เผยเชียนเห็นด้วยสุดๆ “ใช่ ผมเจอปัญหานี้!”

ชิวหงยิ้มอ่อนแล้วพูดต่อ “เจ้านายไม่สามารถทำทุกอย่างเองได้หมด ถ้าทำเองหมดก็คงจะเหนื่อยจนเป็นลม งานที่ทำก็จะออกมาไม่ดีด้วย จุดนี้ควรหาผู้จัดการมาดูแลกิจการต่างๆ

“จุดนี้กับเรื่องการบริหารจัดการโปรเจ็กต์มีความแตกต่างกันอยู่ การบริหารจัดการโปรเจ็กต์คือการบริหารคน ส่วนสิ่งที่เราพูดถึงอยู่นี้คือการหาคน! ซึ่งเมื่อเทียบกันแล้ว การหาคนจะมีความยากกว่า

“หลายโปรเจ็กต์ล่มเพราะผู้นำไม่มีวิสัยทัศน์ที่ดี อาจจะโดนพวกขี้โม้หลอกจนไว้ใจมอบงานสำคัญให้ทำทั้งๆ ที่ไม่มีความสามารถเลย”

เผยเชียนพยักหน้ารัว “แล้วพวกคนขี้โม้ที่ว่านี่อยู่ไหนกันเหรอครับ”

ชิวหงไม่รู้จะตอบอะไรไปสักพัก “เอ่อ… ก็ซ่อนอยู่ในกลุ่มผู้คนมากมายนั่นแหละครับ”

เผยเชียนถาม “งั้นในทางทฤษฎีก็น่าจะมีพวกขี้โม้ที่ว่าอยู่เยอะเลยสิครับ”

ชิวหงคิดตาม “ไม่รู้สิครับ ไม่มีใครเคยวิเคราะห์ข้อมูลในจุดนี้มาก่อน แต่ก็เป็นเรื่องปกติ ส่วนใหญ่ตอนเริ่มธุรกิจก็น่าจะเจอคนแบบนี้บ้างสักคนสองคน”

เผยเชียนพูดอะไรไม่ออก nᴏᴠᴇʟɢu.cᴏm

งั้นก็หมายความว่าฉันดวงซวยน่ะสิ

งั้นเรื่องนี้ก็ใช้ไม่ได้ ดูไร้ประโยชน์เหมือนกัน เพราะฉันเองก็ไม่มีทักษะการระบุตัวพวกขี้โม้ด้วย ดูอย่างจางวั่งสิ

เผยเชียนกระแอมกระไอเบาๆ “เอ่อ บอสชิวครับ เรื่องนี้ก็ดูไม่น่าจะช่วยเท่าไหร่เหมือนกัน…”

ชิวหงผงะไป “งั้น…ก็ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมเปลี่ยนหัวข้อให้บอสหม่าอีกรอบ ประสบการณ์ความสำเร็จผมมีไม่เยอะเท่าไหร่ แต่ประสบการณ์ล้มเหลวนี่มีเพียบเลยครับ!”

เผยเชียน “…”

อะไรกันครับเนี่ย ทำไมฟังดูน่าเห็นใจแปลกๆ

ชิวหงคิดอยู่ครู่หนึ่ง “งั้นเอาเป็นเรื่อง ‘อคติทางความคิด’ แล้วกันครับ!”

เผยเชียนพยักหน้า คิดว่าทฤษฎีนี้ฟังดูดี น่าจะช่วยอะไรเขาได้!

ชิวหงอธิบาย “ในบริษัทเกม เรามักจะได้ยินคำพูดแบบ ‘บอสไม่รู้เรื่องเลยสักนิด ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง’ หรือ ‘ฝ่ายวางแผนที่เพิ่งรับเข้ามาใหม่โง่มาก เพิ่งจะโดนฉันไล่ออกไปเอง’

“บทสนทนาแบบนี้มีให้เห็นในบริษัทเกมหลายๆ บริษัท น้ำเสียงการพูดก็เหมือนกัน แล้วทำไมคนในวงการเกมถึงมักจะคิดว่าอีกฝ่ายไม่รู้เรื่องอะไรเลยล่ะ

“หัวหน้าฝ่ายวางแผนมากประสบการณ์กับโปรดิวเซอร์ที่ดึงนักลงทุนได้น่าจะถือว่าเป็นผู้มีประสบการณ์ ทั้งสองฝ่ายมีความคิดว่าอีกฝ่าย ‘ไม่ได้เข้าใจอะไรเลย’ แล้วฝ่ายไหนกันล่ะที่ไม่เข้าใจ

“นี่คือ ‘อคติทางความคิด’ ซึ่งหมายความว่าต่างคนต่างมีชุดความคิดของตัวเอง เราต่างคิดถึงเรื่องเดียวกัน แต่ชุดความคิดที่ผมมีกับชุดความคิดที่คุณมีนั้นต่างกันสุดๆ เพราะงั้นเราจึงต่างฝ่ายต่างคิดว่าอีกคนไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย

“ตัวอย่างเช่น พวก ‘เกมก๊อบ’ สำหรับพวกนายทุนกับผู้บริหารแล้วถือเป็นการลงทุนที่ประสบความสำเร็จ งั้นทำไมไม่ทำเพิ่มออกมาอีกล่ะ แต่สำหรับธุรกิจส่วนใหญ่ ถ้าทำสิ่งที่คนอื่นเคยทำออกมาจนเกร่อแล้วจะไปมีอนาคตอะไรอีก

“แน่นอนว่านี่เป็นแค่ตัวอย่างง่ายๆ ในสภาพการทำงานจริง ‘อคติทางความคิด’ เป็นเรื่องที่จริงจังกว่านั้นและส่งผลกระทบต่อทุกด้านระหว่างการพัฒนาเกม ซึ่งจะทำให้โปรเจ็กต์ออกมาแตกต่างจากความตั้งใจเดิมในตอนแรก”

เผยเชียนนั่งนิ่งกะพริบตา

นั่นมันสิ่งที่ฉันเจอเลยนี่นา!

เพื่อนคู่คิดจริงๆ!

เผยเชียนกุมมือชิวหง “ใช่ๆๆๆๆ นั่นแหละสิ่งที่ผมเจอ! ผมเครียดเรื่องนี้มาก!

“แล้วเราจะจัดการปัญหาเรื่อง ‘อคติทางความคิด’ ได้ยังไงเหรอครับ”

ชิวหงยิ้ม “มันก็พูดง่ายแต่ทำยากครับ ก่อนอื่นเลยต้องวางรากฐานการสื่อสารที่ดีระหว่างกันก่อน

“ต้นตอของ ‘อคติทางความคิด’ มาจากการไม่เข้าใจกัน ขอแค่คุณสื่อสารได้ดีพอ ให้อีกฝ่ายเข้าใจความคิดจริงๆ ของคุณ สร้างแรงร่วมทางความคิดไปในทิศทางเดียวกันก็จะแก้ปัญหาเรื่อง ‘อคติทางความคิด’ ได้ในระดับหนึ่ง”

เผยเชียน “…”

ไฟกระตือรือร้นของเขามอดไปอีกครั้ง

ทำไมไม่มีทางออกที่เอาไปใช้ได้เลยล่ะ!

สื่อสารให้ดีเพื่อให้อีกฝ่ายเข้าใจความคิดจริงๆ เหรอ ฉันก็อยากทำแบบนั้นแหละ แต่ระบบไม่อนุญาตไง!

ฉันให้คนอื่นรู้ว่าฉันตั้งใจทำให้ตัวเองขาดทุนไม่ได้!

ที่แย่ไปกว่านั้นคือพนักงานของฉันเหมือนจะคิดไปในทางเดียวกัน แต่ดันเป็นทางตรงกันข้ามกับฉันเนี่ยสิ…

เผยเชียนท้อใจขึ้นมาทันที สามประสบการณ์ความล้มเหลวที่ได้เรียนวันนี้น่าสนใจทีเดียว

แต่… เอามาปรับใช้ไม่ได้สักอัน!

ชิวหงมองนาฬิกา เวลาเรียนของวันนี้หมดลงแล้ว เขาได้แต่ถอนหายใจอยู่ภายใน

เฮ้อ บอสหม่าคาดหวังสูงจริงๆ

ถ้าไม่ได้เตรียมประสบการณ์ความล้มเหลวมาเยอะๆ คลาสวันนี้คงไปต่อไม่ได้แน่

ความรู้สึกเศร้านี่มันอะไรกันนะ…

โชคดีที่สอนจนจบคลาสได้!

บอสหม่าเหมือนก้มหัวคิดอะไรอยู่ น่าจะได้บันดาลใจอะไรสักอย่างแหละมั้ง

เผยเชียนเงยหน้าขึ้น “บอสชิวครับ ผมมีคำถามสุดท้าย จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสมมติ สมมตินะครับ สมมติว่าทั้งสามปัจจัยที่ว่ามาไม่ใช่ปัญหาเลยล่ะครับ”

ชิวหงผงะไปก่อนจะผุดยิ้ม “ถ้างั้นก็ยินดีด้วยครับบอสหม่า คุณเป็นเสือนอนกินได้เลย!

“อยากทำอะไรก็ทำได้ ไม่ต้องหลับหูหลับตาทำตามที่โดนสั่งมา เลือกมาแต่คนเก่งๆ ซึ่งทุกคนทำงานได้ด้วยตัวเอง ไม่มีอคติทางความคิดในหมู่พนักงาน ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันและต่างก็พยายามเต็มที่เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งเดียวกัน…

“ถ้าแบบนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จอีกแล้วใครจะไปทำได้กันครับ”

เผยเชียน “…”

ช่างเป็นคำพูดที่บดขยี้หัวใจจริงๆ

เขามาเรียนเรื่องความล้มเหลว แต่พอได้เรียนกลับยิ่งหดหู่ไปกันใหญ่!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset