📣 ถ้ามองไม่เห็นเนื้อหาหรือลิ้งก์โหลด pdf เราแนะนำให้เปลี่ยน browser ที่ใช้งาน/เปิด javascript ด้วยจ้า
🆕 ลิงก์โหลดนิยาย 4sh กับ gdrive ไม่ใช่ของเรา รีบโหลดกันนะ ถ้าลิงก์ตายไฟล์หายก็คือหาย ไม่มีสำรองจ้า

อ่านนิยายฟรี ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี – ตอนที่ 525

บทที่ 525 - รางวัลแรกในรอบสิบเอ็ดปี!
QR Code Facebook Twitter Telegram Pinterest

ณ เทศกาลหนังเมืองคานส์

หวงซื่อปั๋ว จูเสี่ยวเช่อ จางจู่ถิง ลู่จือเหยา หลินรู่หยี… นักแสดงและทีมงานหลักของวันพรุ่งนี้ที่สดใสนั่งเรียงแถวอยู่ด้านล่างเวที

หวงซื่อปั๋วสวมสูทผูกหูกระต่าย ถึงใบหน้าจะฉาบไปด้วยรอยยิ้มแห่งความมั่นใจ แต่ก็น่าเสียดายที่เขาไม่เข้าใจทั้งภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสที่ใช้ดำเนินรายการ

เขาพบว่าภาษาอังกฤษระดับ CET-4 ของเขาใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เลยในงานนี้

“น้องหลิน ตอนประกาศรางวัล ถ้าเขาประกาศเป็นภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศส เราจะไม่พลาดใช่มั้ย” หวงซื่อปั๋วกระซิบถาม

หลินรู่หยีหันมอง “พี่หวงคิดอะไรของพี่อยู่ละนั่น แค่เราได้มาเดินอวดโฉมบนพรมแดงก็ดีแค่ไหนแล้ว นี่หวังว่าเราจะได้รางวัลเลยเหรอ”

หวงซื่อปั๋วดูไม่พอใจ “ทำไมล่ะ น้องคิดว่าบทของบอสเผยไม่ดีพอเหรอ หรือคิดว่าทักษะการแสดงของราชาหนังลู่ต่ำกว่ามาตรฐาน

อีกอย่างตอนฉายรอบปฐมทัศน์ กระแสตอบรับของอคนดูก็ดีมาก ปรบมือกันเกรียวกราวเลย เห็นมีคนลุกออกแค่ยี่สิบสามสิบคนเอง ที่เหลืออยู่ดูต่อจนจบ ทำไมเราจะไม่ชนะรางวัลล่ะ”

หลินรู่หยีส่ายหน้า เธอคิดจะเบาเสียงตัวเอง แต่ก็ไม่ทำเพราะคิดว่ายังไงก็ไม่มีใครเข้าใจภาษาจีนอยู่ดี

“พี่หวงไม่ค่อยคุ้นกับงานนี้ก็ไม่แปลกที่จะคิดแบบนั้น เพราะยังไงที่ได้มาร่วมงานก็เพราะบริษัทของบอสหลิน”

“เทศกาลหนังเมืองคานส์มีเกณฑ์หลายอย่าง หนังต้องเสร็จสมบูรณ์สิบสองเดือนก่อนถึงวันเทศกาลและต้องไม่เคยฉายในเทศกาลหนังนานาชาติอื่นมาก่อน สามารถใช้หากำไรในประเทศตัวเองได้ แต่ตามหลักแล้วห้ามใช้หากำไรในต่างประเทศ”

หวงซื่อปั๋วผงะไป “แล้วมีอะไรที่พี่ต้องรู้อีกมั้ย แสดงว่าหนังของเราก็ไม่เข้าเกณฑ์สิ”

หลินรู่หยีพยักหน้า “ใช่ค่ะ แต่เทศกาลหนังเป็นงานที่คนมาพบปะหาคอนเนกชันกัน กฎเกณฑ์ก็วางไว้งั้นๆ ถึงวันพรุ่งนี้ที่สดใสจะเพิ่งปล่อย แต่ความนิยมก็ไม่ได้สูงมาก ไม่ได้เป็นกระแสร้อนแรง และไม่เคยเข้าร่วมงานเทศกาลไหนมาก่อน

“ที่งานเทศกาลต่างๆ ตั้งกฎเกณฑ์ขึ้นมาก็เพื่อคัดหนังคุณภาพสูงๆ และเพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพและความนิยมของงานเทศกาลหนัง

“เอาจริงๆ หนังบางเรื่องที่ชนะรางวัลในเบอร์ลิน เวนิส และที่อื่นๆ ก็ได้เข้าร่วมเทศกาลหนังเมืองคานส์ แต่ก็ยากที่จะได้รางวัล เว้นแต่ว่าจะเป็นหนังดีคุณภาพสูงจริงๆ

“นอกจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างคานส์กับบริษัทผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์ก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ที่หนังแย่ๆ บางเรื่องสามารถเข้าชิงรางวัลหลักได้ เห็นว่ามีเรื่องการให้ใต้โต๊ะอะไรแบบนี้ด้วย

“แน่นอนว่าเรื่องแบบนั้นไม่ค่อยมีให้เห็นหรอก ส่วนใหญ่มักจะเสนอชื่อเข้าชิงเฉยๆ จะได้รางวัลหรือเปล่าขึ้นอยู่กับคุณภาพของหนัง ซึ่งคานส์ให้ความสำคัญมากที่สุด

“พอจะเข้าใจมั้ยคะ วันพรุ่งนี้ที่สดใสไม่ได้ดังในต่างประเทศ คุณภาพก็ไม่ได้เยี่ยมยอด แถมยังมีเหตุผลอื่นๆ ที่เราไม่รู้อีก กรรมการอาจจะยกเว้นให้เราเข้าร่วมงาน แต่เรื่องชนะรางวัลนี่อย่าไปหวังเลยค่ะ แค่ได้มาเปิดหูเปิดตากับเดินพรมแดงก็ถือว่าเป็นกำไรแล้ว”

หวงซื่อปั๋วรู้สึกเสียดายเล็กน้อย ถึงจะเป็นผู้จัดการเฟยหวงสตูดิโอ แต่เขาก็เป็นมือสมัครเล่นที่สุดในกอง แม้จะเพิ่งโดน ‘ช็อกบำบัด’ มาและไปศึกษาเพิ่มเติมแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจเรื่องนี้เท่าไหร่

ถ้าไม่ได้รับผิดชอบเรื่องส่งหนังเข้าชิงรางวัลก็ย่อมไม่รู้เรื่องเป็นธรรมดา

“งั้นก็น่าเสียดาย ถ้ารู้เรื่องนี้ก่อนจะได้รีบส่งหนังเข้าร่วมก่อนออกฉาย” หวงซื่อปั๋วพูดอย่างเคืองใจ

หลินรู่หยีส่ายหน้า “พี่คิดมากเกินไป หนังจีนดีๆ หลายเรื่องได้มาร่วมงานที่คานส์แต่ก็ไม่ได้รางวัลอะไรกลับไป วันพรุ่งนี้ที่สดใสเองก็น่าจะยังดีไม่พอเหมือนกัน แถมใครจะไปคิดวางแผนล่วงหน้าได้ไกลขนาดนั้น

“อีกอย่างผู้กำกับหลายคนก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากการไปร่วมเทศกาลหนังต่างๆ มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง พวกเขามีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ส่วนบริษัทของพี่ขนาดในจีนก็ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักดีขนาดนั้น…

“เพราะงั้นก็ไม่ต้องคิดอะไรเยอะ แค่แวะมาเสนอหน้าแล้วก็กลับ เราได้มาที่นี่เพราะบารมีบอสเผย แถมยังชนะหนังในประเทศตั้งหลายเรื่อง”

หวงซื่อปั๋วคิดตามแล้วก็พอจะเข้าใจเหตุผล

ตอนนั้นเองจูเสี่ยวเช่อที่นั่งฟังบทสนทนาอยู่ก็พูดขัดขึ้น “น้องหลิน คานส์ไม่เหมือนออสการ์นะ ทีมจัดงานจะไม่เชิญให้เรามาร่วมพิธีประกาศรางวัลถ้าเราไม่ได้รางวัลอะไรเลย แสดงว่าอย่างน้อยเราต้องได้สักรางวัลกลับไป”

หลินรู่หยีตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “จริงเหรอคะ”

จูเสี่ยวเช่อดูลังเล “เอ่อ…ส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้น แต่ก็มีบ้างบางสถานการณ์ที่เรียกผู้ได้เข้าชิงมาร่วมงานด้วย ว่าง่ายๆ ก็คือพี่ว่าเรามีโอกาสได้รางวัลหนังเรื่องใหม่ยอดเยี่ยม

“เพราะยังไงหนังเราก็มีคุณภาพ เชื่อมั่นในหนังของเราหน่อย”

ระหว่างที่พวกเขาคุยกันอยู่ การประกาศรางวัลก็เริ่มขึ้น

Short Film Palme d’Or, Camera d’Or, Special Mention…

ผู้โชคดีได้รับรางวัลก้าวขึ้นไปบนพรมแดงเพื่อรับรางวัล ผู้ชมปรบมือกันอย่างอบอุ่นไม่ขาดสาย

ในงานแบบนี้ คนทำหนังฝีมือเยี่ยมจะได้รับความเคารพบูชาเหมือนดังพระเจ้า

พวกจูเสี่ยวเช่อปรบมือเคล้าไปด้วย แต่ยิ่งรอก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ

งานประกาศรางวัลใช้เวลาทั้งหมดประมาณหนึ่งชั่วโมงตั้งแต่เปิดงานจนถึงปิดงาน แต่เมื่อดูเวลา ตอนนี้ผ่านมาสี่สิบกว่านาทีแล้ว

รางวัล Best Actor ก็ประกาศไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ยินชื่อวันพรุ่งนี้ที่สดใส

จูเสี่ยวเช่อคิดว่าถ้าหนังเรื่องนี้ได้รางวัลจริงๆ ก็น่าจะได้รางวัล Camera d’Or ไม่ก็ Best Screenplay แต่ก็กลายเป็นว่าชวดทั้งสอง

รางวัล Best Actor ก็ยังพอมีหวังเล็กๆ ถึงลู่จือเหยาจะแสดงทักษะการแสดงอันยอดเยี่ยมในหนังเรื่องนี้ แต่ก็ยังมีดาราดังๆ เข้าชิงอีกเพียบ

ปัญหาคือยิ่งเวลาผ่านไปก็ยิ่งดูเป็นไปไม่ได้

รางวัล Best Director ก็ไม่ได้เป็นของพวกเขา

หวงซื่อปั๋วรู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ผุดเต็มฝ่ามือ หัวใจของเขาเต้นระรัว

หมายความว่าไงกัน อย่าบอกนะว่าได้ Palme d’Or เป็นไปไม่ได้น่า

หรือจะผิดพลาดรที่ทีมงาน จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้รางวัลอะไรเลย

พิธีกรบนเวทีเปลี่ยนคน ดารามืออาชีพซึ่งเป็นที่เคารพคนหนึ่งเดินขึ้นเวทีก่อนจะเอื้อมไปจับไมโครโฟนพร้อมโปรยยิ้ม

“ขอบคุณครับ

“ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้เป็นคนประกาศรางวัล Jury Prize ผมเชื่อว่าวันนี้จะเป็นวันที่ทุกคนในนี้จดจำได้ไม่ลืม แต่เราก็เชื่อว่าวันพรุ่งนี้ย่อมดีกว่าเสมอ ท่านประธานครับ ช่วยประกาศผู้ชนะรางวัลอันทรงเกียรตินี้ได้ไหมครับ”

ทางด้านขวาของเวที ประธานคณะกรรมการที่ยืนอยู่ซ้ายสุดทุกขึ้นยืน “รางวัล Jury Prize…

“It’s for ‘Tomorrow is beautiful’, for Zhu Xiaoce!”

ผู้ชมส่งเสียงเชียร์และปรบมือทันทีที่ชื่อภาพยนตร์ถูกประกาศ จูเสี่ยวเช่อนั่งตัวแข็งด้วยความงุนงงสับสน

หวงซื่อปั๋วลุกเฮพลางดึงจูเสี่ยวเช่อขึ้น “เฮ้ย! เราได้รางวัลจริงๆ ด้วย!!!”

ถึงภาษาอังกฤษจะย่ำแย่ขนาดไหน ยังไงก็ต้องจับชื่อภาษาอังกฤษของวันพรุ่งนี้ที่สดใสกับการออกเสียงชื่อ ‘จูเสี่ยวเช่อ’ แบบกระท่อนกระแท่นได้

จูเสี่ยวเช่อเดินขึ้นเวทีไปอย่างงงๆ ท่ามกลางเสียงปรบมือและเสียงเฮ เขาจับมือกับคนมอบรางวัลและเดินไปที่แท่น

“ขอโทษด้วยครับ ผมไม่ได้เตรียมบทพูดเป็นภาษาฝรั่งเศสหรืออังกฤษเพราะไม่คิดว่าจะได้รับรางวัล

“ผม…ไม่รู้จะอธิบายความตื่นเต้นในใจออกมายังไงดี

“ในฐานะผู้กำกับหน้าใหม่ หนังเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผมคนเดียว ผมขอเชิญทุกคนในทีมที่อยู่ที่นี่ขึ้นมาบนเวทีเพื่อรับเกียรตินี้ด้วยกันครับ…”

จูเสี่ยวเช่อหยุดพักทุกประโยคเพื่อให้ล่ามมีเวลาแปล

หวงซื่อปั๋ว ลู่จือเหยา และคนอื่นๆ ทยอยเดินขึ้นเวทีไปยืนด้านหลังจูเสี่ยวเช่อแล้วแสดงความขอบคุณต่อผู้ชมและคณะกรรมการโนiวลกูดอทคอม

จูเสี่ยวเช่อน้ำตารื้น เสียงของเขาสั่นเครือเล็กน้อย “ผมขอแสดงความขอบคุณรุ่นพี่ทุกคนในวงการภาพยนตร์ ขอบคุณทีมงานและนักแสดงทุกคน ขอบคุณครับ…”

หลังจากกล่าวขอบคุณหลายต่อหลายคน จูเสี่ยวเช่อก็เปลี่ยนคำพูด

“นอกจากทุกคนในทีมแล้ว ผมอยากขอบคุณอีกคนที่ไม่ได้มาวันนี้ เขาเป็นคนใส่จิตวิญญาณเข้าไปในหนัง ดึงขีดความสามารถของนักแสดงออกมา และให้ทุนที่เพียงพอต่อรายจ่ายทุกอย่างโดยที่เราไม่ต้องกังวลอะไรเลย

“บอสเผย ขอบคุณที่มอบแรงบันดาลใจและจิตวิญญาณให้หนังเรื่องนี้ นักแสดงและทีมงานทุกคนรวมถึงผมทำหนังเรื่องนี้ขึ้นมาได้ก็เพราะได้แรงบันดาลใจจากคุณ

“ขอบคุณทุกคนครับ!”

เสียงปรบมือดังสนั่นอีกครั้ง!

วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม

เผยเชียนตื่นขึ้นตามปกติ เขาเช็กโทรศัพท์แล้วพบว่านาฬิกาปลุกยังไม่ดัง

แผนนอนเร็วตื่นเช้าประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ

เขาแตะแผงควบคุมตรงหัวเตียงให้แสงอาทิตย์ส่องผ่านหน้าต่างอัจฉริยะ

พอเห็นแสงสุกสว่างของดวงอาทิตย์ เผยเชียนก็นึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรไปบางอย่าง

เขาเครียดขึ้นมาทันที

เทศกาลหนังเมืองคานส์!

หลังจากแชตคุยกับหร่วนกวางเจี่ยนเมื่อวาน เผยเชียนก็กลัวว่าจะมีข่าวเข้ามาไม่หยุดเลยเปิดโหมดเครื่องบิน เปิดแจ้งเตือนแค่นาฬิกาปลุก

การประกาศรางวัลเทศกาลหนังเมืองคานส์น่าจะจบไปแล้วช่วงเช้าตรู่

เผยเชียนค่อยๆ ปิดโหมดเครื่องบินด้วยความรู้สึกสับสนวุ่นวาย

หน้าต่างแจ้งเตือนมากมายเด้งขึ้นไม่หยุด จุดแดงตรงแอปพลิเคชันแชตขึ้น 99+!

เผยเชียน “…”

เวรแล้วไง ได้รางวัลจริงๆ เหรอ

ใจเย็นๆ อาจจะเป็นข้อความปลอบใจที่ไม่ชนะรางวัลก็ได้

เผยเชียนสงบใจลง ตอนที่กำลังจะกดเปิดแอปแชตด้วยนิ้วมืออันสั่นเทา พาดหัวข่าวในฟีดข่าวก็เผยความจริงให้รู้ก่อน

“หนังจีนคว้า Jury Prize ในเทศกาลหนังเมืองคานส์หลังรอมาสิบเอ็ดปีเต็ม!”

เผยเชียน “…”

เขาไม่รู้ว่าไอ้ Jury Prize ที่ว่าคืออะไร

แต่ที่รู้ชัดเจนคือไม่น่าใช่เรื่องดีแน่นอน!

เผยเชียนได้แต่ยกมือก่ายหน้าผาก

ไม่นะ เกิดเรื่องฉิบหายอีกแล้ว!

Facebook Twitter Telegram Pinterest
ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

ขาดทุนไม่อั้น ขอแค่ฉันได้เป็นเศรษฐี

Losing Money to Be a Tycoon, 亏成首富从游戏开始, Kui Cheng Shoufu Cong Youxi Kaishi(donghua), Losing Money to Become the Richest Person Starts From the Game, システムで出世してしまった
Score 9.4
สถานะนิยาย: Ongoing ประเภท: , ผู้แต่ง: , ต้นฉบับ: 1673 Chapters (จบแล้ว)
เผยเชียนย้อนเวลากลับไปเมื่อ 10 ปีก่อน โดยมีระบบสั่งให้เขาตั้งบริษัทอะไรก็ได้เพื่อหาเงินทำกำไรโดยจะมีการประเมินกำไรขาดทุนเป็นรอบๆ แต่เผยเชียนเป็นคนหัวหมอ เขาดูแล้วว่าถ้าเขาทำธุรกิจได้กำไร เขาจะได้ส่วนแบ่งเข้ากระเป๋าตัวเองแค่ 1:100 แต่ถ้าเขาขาดทุน เขาจะได้ส่วนแบ่ง 1:1 เขาจึงคิดจะตั้งบริษัทเกม และหาทางทำให้บริษัทขาดทุน.. (อ่านเพิ่มเติม »)

Comment

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Options (ตั้งค่าการอ่านนิยาย)

not work with dark mode
Reset