หลี่หย่าหลิงไม่ได้อยากเป็นผู้จัดการสาขาอยู่แล้ว เธอชอบเป็นเทรนเนอร์มากกว่า
เธอชอบทุกอย่างในงานนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเสริมสร้างกล้ามเนื้อตัวเอง สอนคนอื่น สานความสัมพันธ์กับลูกค้า และช่วยเทรนให้ลูกค้าออกกำลังกายได้ดีขึ้น
ข้อเสนอของบอสเผยตอนนี้จึงดูน่าสนใจมาก!
เธอจะได้เป็นเทรนเนอร์ฟูลไทม์ดูแลนักกีฬาสิบคน แถมยังเป็นงานที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญและความเป็นมืออาชีพที่สูงมาก ซึ่งตรงกับคุณสมบัติของเธอเป๊ะ!
นอกจากนั้นบอสเผยยังสัญญาว่าจะขึ้นเงินเดือนให้และตอบสนองความต้องการทุกอย่างของเธอระหว่างช่วงการเทรน
นี่คือความฝันสูงสุดของเทรนเนอร์ทุกคน!
หลี่หย่าหลิงพยักหน้าทันที “ไม่มีปัญหาค่ะบอสเผย ดิฉันทำหน้าที่นี้ได้แน่นอน!”
เผยเชียนยิ้ม “เยี่ยมเลย ผมให้เวลาคุณสองวันจัดการเรื่องในฟิตเนสให้เสร็จ วันเสาร์ผมจะมารับคุณไปสถานที่ฝึก”
หลี่หย่าหลิงดีใจมาก “โอเคค่ะบอสเผย ดิฉันจะจัดการทุกอย่างให้เสร็จก่อนวันเสาร์ค่ะ!”
ถึงฟิตเนสฝากประจำจะไม่ได้เปิดเทรนแบบตัวต่อตัว แต่ลูกค้าหลายคนก็มาใช้บริการเพราะหลี่หย่าหลิง จึงเป็นธรรมดาที่เธอต้องบอกทุกคนก่อนว่าเธอจะไม่อยู่แล้ว
นอกจากนั้นตารางงานของเทรนเนอร์ในฟิตเนสฝากประจำก็จัดไว้แล้ว ถ้าหลี่หย่าหลิงออก ก็ต้องปรับตารางใหม่ ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวันในการส่งต่อตารางงาน
เผยเชียนลุกขึ้นแล้วกลับออกไปด้วยใจที่เบิกบาน
เรียบร้อย!
เขาจัดการสิ่งคุกคามด้านความปลอดภัยในฟิตเนสฝากประจำและหาโค้ชให้ทีม DGE ได้สำเร็จ
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!
แน่นอนเผยเชียนรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นตอนที่เขาพาหลี่หย่าหลิงไปสถานที่ฝึกซ้อมของสโมสรอีสปอร์ต DGE ในวันเสาร์ ทุกคนต้องงงเป็นไก่ตาแตกแน่
หลี่หย่าหลิงที่คิดว่าจะได้เจอนักกีฬามืออาชีพหุ่นล่ำต้องมาเจอเด็กติดเกมผอมแห้งแรงไม่มีแทน
ส่วนแก๊งเด็กติดเกมที่คิดว่าจะได้เจอโค้ชอีสปอร์ตมืออาชีพ ก็ต้องมาพบเทรนเนอร์สาวที่ดูน่าจะล้มกระทิงได้ในหมัดเดียว
ไม่เห็นจะเข้าท่าเลยสักนิด
แต่สำหรับเผยเชียนแล้ว โค้ชทุกคนเหมือนกันหมด จะเทรนร่างกายหรือเทรนความเร็วการรัวแป้นก็เหมือนกันแหละ
อีกอย่างดูจากมาตรฐานโค้ชในประเทศตอนนี้ หลี่หย่าหลิงน่าจะถือว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่ได้แย่ไปกว่ากันนัก
ก็เหมือนตลาดหุ้น บางทีการไม่ซื้อหุ้นสักตัวอาจได้กำไรดีกว่าคนมากกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ที่เล่นหุ้น
สรุปคือแผนนี้สมบูรณ์แบบมาก เขาใช้ทรัพยากรทั้งหมดได้อย่างดีเยี่ยม
เผยเชียนอดปลื้มใจขึ้นมาไม่ได้ ฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆ!
…
…
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม
เผยเชียนกำลังนอนอยู่บนเตียงตอนที่มือถือดังขึ้น
เขาสะลึมสะลือเอื้อมไปหยิบมือถือมาดู ในใจสงสัยว่าใครกันโทรมาตั้งแต่เช้าตรู่ เพิ่งจะสิบเอ็ดโมงเช้าเอง…
พอมองจอมือถือแล้วเห็นว่าเป็นหม่าหยาง เขาก็รีบดีดตัวผึงตื่นเต็มตา
ไอ้หม่าสร้างเรื่องให้ฉันตามล้างตามเช็ดอีกแล้วเหรอ
ตอนนี้หม่าหยางคือคนเดียวที่เผยเชียนต้องคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิด เพราะงั้นเขาจึงไม่ปล่อยผ่านสายจากไอ้เจ้านี่
“ฮัลโหล พี่เชียน! ตอนนี้ผมจัดการงานอยู่บริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง เราคืบหน้าไปมากเลยพี่!” เสียงหม่าหยางที่ดังผ่านสายโทรศัพท์ดูตื่นเต้นมาก
เผยเชียนรู้สึกเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูสุดแกร่งขึ้นมาทันที
ก่อนหน้านี้เผยเชียนวางกับดักไว้ให้หม่าหยางที่สโมสรอีสปอร์ต DGE ตั้งใจจะให้อีกฝ่ายเล่นเกมจนติดงอมแงมและสิงอยู่ที่นั่นทุกวันจะได้ลืมเรื่องธุรกิจลงทุนไป
แต่เจ้าพวกหน้าโง่ที่ DGE กลับไม่ออมฝีมือตอนเล่นกับหม่าหยาง จัดตาแรกก็ถล่มอีกฝ่ายยับด้วยสกอร์ 0-28 ทำเอาหม่าหยางเลิกติดเกมไปเลย
ด้วยเหตุนี้หม่าหยางก็เลยกลับมาดูแลกิจการบริษัทลงทุนของตัวเอง
เผยเชียนลุกขึ้นนั่งบนเตียง “ไหนเล่ามา”
หม่าหยางเล่าอย่างตื่นเต้น “พี่เชียนบอกให้ผมหาโปรเจ็กต์ที่มีฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใช่มั้ย ผมตามหาอยู่นาน ในที่สุดก็หาเจอ!”
เผยเชียนรู้สึกสนใจขึ้นมา “หืม ฝันใหญ่ขนาดไหนล่ะ”
หม่าหยางตอบ “ใหญ่กว่าที่พี่จะจินตนาการได้! ฝันใหญ่คับฟ้าเลยแหละ!”
เผยเชียนตาเป็นประกาย หรือหม่าหยางจะสร้างผลงานดีๆ ให้เผยเชียนอีกครั้ง
แต่พอหม่าหยางพูดต่อ ภาพฝันของเผยเชียนก็แตกสลายทันที
“พี่เชียนรู้มั้ยว่าฝันสุดยิ่งใหญ่นี่เป็นของใคร จางวั่ง เพื่อนเก่าเราเอง!
“โปรเจ็กต์นี้ดูน่าเชื่อถือขึ้นมาเลยใช่มั้ยล่ะ เป็นโปรเจ็กต์ที่มีฝันสุดยิ่งใหญ่ แถมยังเป็นของเพื่อนเก่าที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อนอีก เพอร์เฟ็กต์สุดๆ! พี่เชียนรีบแวะมาดูแผนที่ออฟฟิศเลย!”
เผยเชียน “…”
จางวั่ง… ไอ้คนที่ทำตู้โทรศัพท์ให้เช่าน่ะนะ
ยังไม่ทันจะสะสางหนี้แค้นเก่าเลย นี่จะสร้างหนี้ใหม่อีกเรอะ
ตอนสร้างตู้โทรศัพท์ให้เช่า จางวั่งเคยใช้แผนตบตาหลอกให้บอสเผยเชื่อใจ หลังจากนั้นก็แอบเปลี่ยนโฉมตู้โทรศัพท์ให้เช่าใหม่หมดจนไม่เหลือคราบเดิมแบบในแผน
ตอนนี้ตู้โทรศัพท์ให้เช่าไปโผล่อยู่ตามห้างใหญ่ๆ ทั่วประเทศ ยิ่งที่จิงโจว หร่วนกวางเจี่ยนเป็นคนวาดรูปฮีโร่เกม GOG แต่งตู้โทรศัพท์ให้เช่าด้วยตัวเอง ทำให้ตู้โทรศัพท์กลายเป็นจุดเช็กอินที่ทุกคนต้องแวะมา
สร้างความแค้นไว้ขนาดนี้ยังมีหน้ามาขอเงินจากฉันเพิ่มอีกเหรอ!
ไปตกนรกอเวจีสามแสนล้านชาติไป!
เผยเชียนอยากจะวางสายขึ้นมาทันที “ไม่”
หม่าหยางอึ้งไป “พี่เชียนยังไม่ทันได้ฟังชื่อโปรเจ็กต์เลย อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธสิพี่ ผมบอกเลยว่าโปรเจ็กต์นี้โคตรน่าสนใจ จางวั่งเอาผลงานต้นแบบมาด้วย ผมเล่นมันมาครึ่งชั่วโมงแล้ว หยุดไม่ได้เลย! คิดว่าน่าจะเล่นไปอีกสักสามวันสามคืน!”
เผยเชียนเริ่มงง
ผลงานต้นแบบ? เล่นมาเป็นครึ่งชั่วโมงแล้ว?
อะไรวะนั่น
“โอเค งั้นบอกชื่อโปรเจ็กต์มา” เผยเชียนยอมถอยในที่สุด
หม่าหยาง “เครื่องทะเลาะอัตโนมัติ”
เผยเชียน “หะ?”
“เครื่องทะเลาะอัตโนมัติ” หม่าหยางทวนคำ
“อะไรวะนั่น”
หม่าหยางผุดยิ้ม “เห็นมั้ย ผมบอกแล้วว่าพี่ต้องสนใจแน่ รีบมาเลยพี่ ความสนุกนี้มันอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆ!”
เผยเชียนลุกขึ้นจากเตียงทันที “โอเค รอฉันก่อน เดี๋ยวแวะเข้าไป”
…
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เผยเชียนก็มาถึงบริษัทลงทุนหยวนเมิ่ง ɴᴏᴠeʟɢu.ᴄᴏm
พวกเฮ่อเต๋อเซิ่งรอกันอยู่ที่บริษัทแล้ว พอเห็นบอสเผยเดินเข้ามา จางวั่งก็รีบลุกไปจับมือทักทายอย่างอบอุ่น
“บอสเผย! ขอบคุณนะครับที่ถึงจะยุ่งก็ยังอุตส่าห์แวะมาดูโปรเจ็กต์ใหม่ของผม!”
เผยเชียนจำตอนที่เจอจางวั่งครั้งแรกในเดือนมกราคมได้ ตอนนั้นอุณหภูมิกำลังติดลบอยู่ จางวั่งสวมเสื้อคลุมสีดำตัวบางกับกางเกงยีน ผมยาวมัดเป็นหางม้าไว้ด้านหลัง มองมุมไหนก็เหมือนพวกศิลปิน
แต่วันนี้จางวั่งแตกต่างจากตอนนั้นโดยสิ้นเชิง
ผมของเขายังยาวสลวยเหมือนเดิม แต่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแบบเดิม เขาใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนแบรนด์เนม ราคาเสื้อผ้าของเขาตอนนี้น่าจะแพงกว่าเสื้อผ้าตอนเจอกันครั้งแรกสิบเท่า
แน่นอนว่ายังมีออร่าของคนปล่อยวางทางโลกแล้วเหมือนเดิม
คิดดูแล้วก็ไม่แปลกอะไร เพราะตอนนี้จางวั่งมีอิสรภาพทางการเงินจากโปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์ให้เช่าแล้ว…
แต่ละคนมองเรื่องอิสรภาพทางการเงินแตกต่างกันไป จางวั่งเป็นพวกไม่สนใจเรื่องความบันเทิงส่วนตัวมากนัก เลยมีมาตรฐานที่ต่ำกว่าคนส่วนใหญ่ แต่ยังไงเงินที่ได้จากโปรเจ็กต์ตู้โทรศัพท์ให้เช่าก็พอที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตได้อย่างหมดห่วง ไม่จำเป็นต้องทำงานหาเงินมาจ่ายค่านั่นค่านี่อีก
เผยเชียนไม่อยากพูดกับอีกฝ่าย เขาแค่จับมือตอบตามมารยาทแล้วถามขึ้น “ไหนล่ะ”
หม่าหยางยกมือ “อยู่บนโต๊ะประชุมพี่!”
เผยเชียนนั่งลงตรงโต๊ะประชุมแล้วเห็นกล่องสี่เหลี่ยมสีดำวางอยู่ ด้านบนกล่องไม่มีอะไรเลยนอกจากแถวสวิตช์แท่งสเตนเลสขนาดเล็กที่ดูเหมือนไม้กระดกในโรงเรียนอนุบาล
หม่าหยางหมุนกล่องให้หันไปทางเผยเชียน
สวิตช์ทั้งหมดเอนมาทางที่เผยเชียนนั่ง ปลายสวิตช์ซึ่งเป็นด้านที่หันมาตั้งใจออกแบบมาให้เรียบเป็นพิเศษ น่าจะเพื่อให้ขยับได้ง่าย
มองจากมุมบนจะเห็นว่าตรงกลางมีเส้นจางๆ เหมือนจะแบ่งด้านบนของกล่องออกเป็นสองฝั่งและแถวสวิตช์ที่ว่าก็กินพื้นที่แค่ฝั่งเดียวเท่านั้น
เผยเชียนงง มันอะไรกันเนี่ย
หม่าหยางพูดขึ้น “พี่เชียน ลองดันสวิตช์ขึ้นสิพี่!”
เผยเชียนยื่นนิ้วไปดันปลายสวิตช์ที่หันมาทางตัวเอง นิ้วของเขาสัมผัสกับฝั่งที่ตั้งใจทำให้เรียบเป็นพิเศษ ผิวแท่งสวิตช์ที่เรียบ เย็น และมนให้ความรู้สึกดีมากเวลาสัมผัส
เผยเชียนเลื่อนนิ้วดันจนได้ยินเสียง ‘กริ๊ก’ ส่งแท่งสวิตช์พลิกหันหัวไปอีกด้าน
ขณะที่กำลังจะถามว่าแล้วไงต่อ ฝากล่องอีกฝั่งหนึ่งก็เปิดออกอัตโนมัติ แท่งเหล็กเรียวสีดำทรงตัว Y โผล่ออกมาจากด้านในกล่องแล้วดันสวิตช์ให้พลิกกลับมาอีกด้าน
เสียงกริ๊กดังขึ้นอีกครั้งก่อนสวิตช์สเตนเลสจะกลับมาอยู่ในตำแหน่งเดิมก่อนเผยเชียนจะดันสวิตช์
จากนั้นแท่งเหล็กดำเรียวทรงตัว Y ก็หดกลับเข้ากล่องแล้วฝากล่องก็ปิดลงอัตโนมัติ
ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิม
เผยเชียน “?”
เขาดันสวิตช์อีกอันไปอีกฝั่ง แต่ผลลัพธ์ก็เป็นเหมือนเดิม ฝากล่องเปิดออกแล้วแท่งเหล็กดำทรงตัว Y ก็โผล่ขึ้นมาดันสวิตช์กลับ
เผยเชียนลองดันสวิตช์หลายๆ อัน แต่แท่งเหล็กดำทรงตัว Y ก็โผล่ออกมาจากกล่องแล้วดันสวิตช์กลับตามลำดับเพื่อให้สวิตช์กลับไปอยู่ในตำแหน่งเดิม จากนั้นก็กลับลงกล่อง ทุกอย่างกลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้ง
จางวั่งอธิบายอย่างภาคภูมิใจ “บอสเผยครับ นี่คือเครื่องทะเลาะอัตโนมัติที่ผมคิดค้นขึ้นมา!
“เครื่องนี้จำลองประสบการณ์การสู้รบตบมือกับคู่อริตัวฉกาจหลายคนพร้อมกัน!
“บอสเริ่ม ‘การทะเลาะ’ ได้ทุกเมื่อ ซึ่งคู่อริในกล่องจะลุกขึ้นมาทะเลาะกับบอสทันทีโดยไม่หยุดพัก!
“เครื่องนี้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องคู่อริยกธงขาวกลางทางระหว่างกำลังประชันความเป็นนักเลงคีย์บอร์ดกันอย่างดุเดือดได้!
“ไม่ว่าบอสจะอยากทะเลาะกับมันนานขนาดไหน เครื่องนี้ก็จะอยู่เคียงข้างพร้อมทะเลาะกับบอสโดยไม่มีวันเหน็ดเหนื่อย!
“ยังมีอีกนะครับ บอสเผยลองดูด้านหน้ากล่อง จะมีตัวนับจำนวนอัตโนมัติจากโครงสร้างกลไก ซึ่งจะนับจำนวนครั้งที่บอสดันสวิตช์ติดต่อกันและแสดงเป็นตัวเลขแบบเรียบง่ายที่สุด พอหยุดปุ๊บ ตัวเลขก็จะหายไปทันที”
หม่าหยางดูตื่นเต้นมาก “พี่เชียนคิดว่าไง น่าสนใจใช่มั้ยล่ะ พี่เล่นกับมันสามวันสามคืนก็ยังได้ ผมเพิ่งทำสถิติทะลุสามร้อยได้เมื่อกี้เอง!”
เผยเชียนมองจางวั่งที่ดูมั่นใจมากกับหม่าหยางที่ดูตั้งความหวังสุดๆ จากนั้นก็หันไปมองเฮ่อเต๋อเซิ่งที่ทำหน้าเหมือนปวดใจอยู่
ชัดเจนมากว่าเฮ่อเต๋อเซิ่งไม่มีความคาดหวังอะไรกับโปรเจ็กต์นี้เลย
หลังจากคิดดูสักพัก เผยเชียนก็ถามขึ้น “ทุนสร้างเครื่องทะเลาะอัตโนมัติอยู่ที่เท่าไหร่ แล้วจะขายเท่าไหร่”
จางวั่งตอบ “ไม่ถึง 200 หยวนครับ ผมตั้งใจจะขายสัก 260 หยวน ต้องการทุนสองล้านหยวนเพื่อผลิตหนึ่งหมื่นเครื่อง”
เผยเชียนส่ายหน้า “แบบนั้นไม่ได้ เพิ่มทุนเป็น 400 หยวน แล้วตั้งขายที่ 488 หยวน
“ผมให้ทุนคุณแปดล้าน เริ่มผลิตได้เลยทันที!”